เจาะลึกเรื่องส่วนตัว...ซูโหย่วเผิง>>ในวงการบันเทิงนี้ แท้ที่จริงจะมีสักกี่คนที่สามารถรักษาความดังให้คงอยู่ตลอดไปไม่เสื่อมถอย แต่ซูโหย่วเผิงถือเป็นหนึ่งในนั้น ครั้งนี้เขาไม่เพียงจะแบ่งปันเรื่องราวในวงการบันเทิง แต่ยังเปิดเผยเรื่องวัยเด็กที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนอีกด้วย>>อยากแสดงบทหนุ่มเจ้าอารมณ์>>นักข่าว:เดี๋ยวนี้มักจะเห็นคุณในแบบผู้ใหญ่เต็มตัวอยู่บ่อยๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเพราะอายุที่มากขึ้นหรือเปล่า?>>ซูโหย่วเผิง:ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอกครับ อาจเพราะถึงวัยแล้ว แต่คงไม่ใช่แค่เรื่องอายุหรอกครับ เพราะบางครั้งความเป็นผู้ใหญ่ก็แสดงออกมาเองตามธรรมชาติครับ>>นักข่าว:ตอนนี้มีบทบาทไหนที่คุณสนใจอยากแสดงเป็นพิเศษเพื่อเป็นการพลิกบทบาทจากเดิมบ้าง?>>ซูโหย่วเผิง:แต่ก่อนผมมักจะได้รับบทที่ค่อนข้างอ่อนโยน นุ่มนวล จะมีก็แต่บทตู้เฟยนี่แหละที่ค่อนข้างเป็นคนเจ้าอารมณ์แต่จิตใจของเขาก็ปกติสมบูรณ์นะครับ เพียงแค่สิ่งที่เขาแสดงออกมาออกจะ"งี่เง่า"ไปหน่อย ตอนนี้ผมอยากเล่นบทนักร้องเพลงร็อคที่ติดยาครับ ฮ่าฮ่า ล้อเล่นน่ะครับ ผมอยากเล่นบทที่แปลกออกไปจากบทเจ้าอารมณ์สักหน่อย ผมว่ามันน่าจะสนุกดีครับ
8/1 สมัยมัธยมเป็นคนหัวรั้นมาก>>นักข่าว:ตอนอยู่ที่โรงเรียนคุณค่อนข้างร่าเริงและซุกซน แล้วเวลาอยู่บ้านคุณว่านอนสอนง่ายขึ้นสักหน่อยหรือเปล่า?>>ซูโหย่วเผิง:สมัยมัธยมผมเป็นคนหัวรั้นมากครับ คนที่บ้านว่าผมไม่กี่คำผมก็เถียงที่หนักที่สุดก็คือผมเคยหนีออกจากบ้าน แล้วไปอยู่บ้านเพื่อนสองวัน แต่คนที่บ้านผมก็ไม่กังวลร้อนใจ หรือระดมกำลังตามหาผมเหมือนอย่างในทีวีเลยครับ จะสนใจสักนิดก็ไม่มี ผมอยู่นอกบ้านสองวันรู้สึกว่าไม่ทำให้เกิดผลอะไรก็เลยต้องยอมกลับเข้าบ้านไปเองครับ>>ถูกหลอกเอาเงินแต๊ะเอีย>>นักข่าว:ดูท่าตอนเด็กๆ คุณคงซนไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วเคยมีเรื่องเศร้าเสียใจบ้างหรือเปล่า?>>ซูโหย่วเผิง:ถ้าอย่างนั้นก็พูดถึงเรื่องเศร้าของผมสักหน่อยก็แล้วกันครับ ตอนเด็กทุกปีพอผมได้เงินแต๊ะเอียมา ที่บ้านก็บอกว่าจะเก็บเงินให้แทน เก็บไปเก็บมาก็เลยหายไปเลยครับ แม่ผมยังบอกอีกว่า"แม่เป็นคนให้แต๊ะเอีย ส่วนลูกเป็นคนรับแต๊ะเอีย อย่างนี้ถือว่าเสมอภาคกัน" ยังมีเรื่องที่ค่อนข้างเศร้าอีกเรื่องคือ ตอนเด็กผมไม่เคยได้ฉลองวันเกิดดีๆ กับเขาสักครั้ง วันเกิดของผมกับแม่วันเดียวกัน ก็คือวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งก็ต้องให้ความสำคัญกับแม่สิครับ แต่แม่ผมคิดว่า"วันเทศกาลก็เหมือนวันธรรมดา" เมื่อแม่ไม่ฉลองวันเกิด ผมก็เลยไม่ได้ฉลองไปด้วย แค่มีเค้กให้กินแต่ไม่ได้มีของขวัญมากมายเท่าไหร่ครับ
7/1 ชอบความรักแบบมั่นคง >>นักข่าว:ปีที่แล้วคุณประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่ากำลังคบสาวนอกวงการ ถ้าอย่างนั้นคุณมีความเห็นเรื่องความรักอย่างไรบ้าง?>>ซูโหย่วเผิง:ตอนวัยรุ่นก็อาจจะชอบความรู้สึกแบบร้อนแรง ตื่นเต้นครับ รู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งที่โรแมนติกมากๆ เช่น ไปซื้อไอศกรีมที่เธอชอบจากที่ห่างไกลมาให้เธอในช่วงฤดูหนาว ทำเรื่องเสี่ยงอันตรายต่างๆ เพื่อเธอ ผมรู้สึกว่าความรักช่วงวัยรุ่นเป็นอะไรที่ร้อนแรงมาก ร้อนแรงเหมือนกับไฟนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้เป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมก็เลยชอบความรักที่ให้ความรู้สึกมั่นคงมากกว่า จริงๆ แล้วก็คือชีวิตที่ธรรมดาเรียบง่ายนั่นเองครับ>>ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ>>นักข่าว:คุณได้ก่อตั้งกองทุนการกุศล"ซูโหย่วเผิง" ทำไมถึงใช้ชื่อของตัวเองล่ะ?>>ซูโหย่วเผิง: ก็เพื่อเรียกร้องให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบผมหันมาให้ความสนใจเรื่องนี้ครับ อันที่จริงเจตนารมณ์ของการก่อตั้งกองทุนนี้ขึ้นมาก็เพราะหวังอยากให้มีคนมาช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น ถ้าหากสามารถใช้กำลังความสามารถของผมเพื่อที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ ใครจะไม่อยากทำล่ะครับ ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมา ผมก็เข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์มาโดยตลอด แต่ตอนนั้นไม่ได้มีเป้าหมายอะไรหรอกครับ
7/2 สมัยประถมถูกตีประจำ>>นักข่าว:สำหรับทุกคนความทรงจำในวัยเด็กเป็นสิ่งที่ยากจะลืมเลือน คุณช่วยเล่าเรื่องสนุกๆ ในวัยเด็กให้ฟังหน่อยได้ไหม?>>ซูโหย่วเผิง:ฮ่าฮ่า เรื่องสนุกที่สุดในวัยเด็กของผมคือ สมัยเรียนผมได้รางวัลชนะเลิศการแข่งขันประกวดสุนทรพจน์ทุกปี ตอนนั้นผมเป็นคนชอบพูดมากๆ ถึงผมจะไม่ค่อยรักษาระเบียบวินัยเท่าไหร่ แต่ผลการเรียนก็ไม่เลวนะครับ นอกจากนี้เวลาเรียนผมยังชอบสัปหงกครับ ตอนเช้าก็มักจะมาสายบ่อยๆ สมัยประถมก็เลยถูกตี พอขึ้นชั้นมัธยมอาจารย์ตีผมไม่ได้ก็เลยเปลี่ยนเป็นปรับเงินแทน ผมจำได้ว่าตอนอยู่ ป.2 มีอยู่ครั้งหนึ่งผมมาสาย อาจารย์ก็ไล่ตีผมไปทั่วสนาม หลังจากนั้นผมก็ทะเลาะกับอาจารย์ในห้องทำงานเสียใหญ่โต จนผู้อำนวยการออกหน้าเองนั่นแหละครับถึงได้หยุด