Man's Health 2007 No.3
ยืนยันชายสามสิบของซูโหย่วเผิง ร่างกาย รสนิยมกับหน้าที่และความเป็นผู้ใหญ่
ยืนยันชายสามสิบของซูโหย่วเผิง ร่างกาย รสนิยมกับหน้าที่และความเป็นผู้ใหญ่ปี 1989 ซูโหย่วเผิงได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงมากมาย ปี 2006 ซูโหย่วเผิงได้ผ่านปีแห่งการก่อตั้ง ตัวเขาที่เห็นอยู่ปัจจุบัน นัยตานั้นได้มีภาระหนึ่งที่แฝงอยู่ ภาพลักษณ์ไกวๆในสมัยนั้นก็ได้จางหายไปจากหน้าตาของเขาแล้ว
วันเวลาวัยหนุ่มที่ผ่านไปอย่างยาวนานและดูเหมือนจะพริบตานั้น ในวัยสิบเจ็ดอย่างดังน้ำหน้าฝนที่ไหลผ่านไกลจาก แต่อดีตของซูโหย่วเผิง ตอนนี้กับอนาคตนั้นทำให้คนอื่นรู้จักกันดีกับไม่คุ้น เมื่อเปิดเวปไป๋ตู้ ผมได้เซิร์ทเข้าไปดูในเวปต่างๆของโหย่วเผิง แต่ก็ไม่ได้เป็นเวปของศิลปินคนอื่นที่มีการแนะนำรางวัลต่างๆที่ได้รับ สิ่งที่เตะตาก่อนใครคือ งานสาธารณะประโยชน์ต่างๆเริ่มตั้งแต่ปี 90 สิ่งนี้ทำให้ผมมีความสนใจมาก การพูดคุยของเรานั้นเริ่มจากจุดนี้ การเป็นผู้ใหญ่นั้นมีความรับผิดชอบอยู่ด้วย
สิ่งที่จะขอบคุณนั้นมีมากมาย
สิ่งที่ทำได้นั้นกลับน้อยมาก
ขณะที่พวกเราได้ไปทุ่มเทให้นั้น
ใครว่าพวกเราได้รับมาไม่ได้เยอะกว่า?
ซูโหย่วเผิง
หน้าแรกในเวปของโหย่วเผิงนั้นได้มีคอลัมหนึ่งได้บอกถึงวิธีการบริจาคเงินเข้ามูลนิธิของเขา ชื่อนี้คือรายการ "นิธิซูโหย่วเผิง” เริ่มปี 2005 “เมื่อบริจาคเข้ามาแล้วทำให้เด็กๆได้มีห้องเรียนเรียนหนังสือ ” โหย่วเผิงกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า ชายวัยสามสิบสอง (32) คนนี้นั้นในตลอดเวลาแห่งการสัมภาษณ์นั้นมีเพียงแต่เวลานี้เท่านั้นที่ได้เห็นรอยยิ้มแห่งความสุขที่ยากจะออกมาให้เห็นได้ สิบเจ็ดปี(17) จะว่ายาวก็ไม่ยาว จะว่าสั้นก็ไม่สั้น แต่ก็เพียงพอแก่การทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ในวันที่แตกหนุ่มของโหย่วเผิงนั้นเขากลับกลายเป็นคนเงียบนิ่ง ปากเขานั้นจะเห็นรอยยิ้มตลอดทุกเวลา ก่อนหน้านี้ได้เห็นรูปภาพในเวปไซด์ของเขา รูปในเวปของเขานั้นมีความครึมเข้มไปนิด ผมถามเขาว่าทำไมในรูปถ่ายไม่ยิ้มเลย เขากลับถามผมว่า “หากว่าเวลานี้ผมยังเดียงสาน่ารักเหมือนสมัยก่อนแล้ว นั้นมันใจร้ายเกินไปเปล่า” รูปถ่ายนอกที่ค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างโหย่วเผิง
จากขวัญใจวัยรุ่นได้ค่อยๆกลายเป็นผู้ใหญ่ บนบ่านั้นไม่มีเพียงภาระที่จะต้องแบกรับดูแลครอบครัว ต่อสังคมแล้วเขาก็พร้อมที่จะยอมแบกรับหน้าที่ด้วย เขาได้อุปการะเด็กกำพร้าที่แอฟริกา ได้ทำงานสาธารณะประโยชน์อย่างเงียบๆมาตลอด และได้เข้าร่วมช่วยเหลืองานประสบภัยต่างๆอีกด้วย วันที่ 17 กันยายน 2005 เขาได้ร่วมมือกับมูลนิธิเยาวชนจีน ได้ก่อตั้งมูลนิธิซูโหย่วเผิงที่เมืองปักกิ่ง หลักๆคือเพื่อจะสนับสนุนการศึกษาของเด็กๆ ในเวลาเดียวกันก็ได้ร่วมมือกับทางไปรษณีย์กลางได้ออกจำหน่ายแสตมป์ซูโหย่วเผิงเป็นจำนวน 3000 ชุด รายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดได้มอบให้มูลนิธิซูโหย่วเผิง ได้สร้างโรงเรียนซีว่าง โหย่วเผิงกล่าวว่า "การเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้นไม่เพียงแต่นำความเปลี่ยนแปลงภายนอกเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นคือ มีความรับผิดชอบอยู่ด้วย ต่อครอบครัว ต่อสังคม ต่อเรื่องความรัก" พูดถึงตรงนี้ เขาได้ถามผมว่าสามารถจะเอาหลักการของการบริจาคลงในบทสัมภาษณ์ด้วย บางทีมันอาจจะช่วยให้เด็กมีห้องเรียนเพิ่มขึ้นอีกคนก็ได้