https://www.facebook.com/baansuyoupeng/posts/967742416669936?pnref=story[ThaiSub] 2016.06.05 苏有朋的广场舞 (ลานเต้นรำของซูโหย่วเผิง)
https://www.youtube.com/watch?v=xhxHkwSI9Ho&feature=youtu.be[2016.04.05] 苏有朋的广场舞 (ลานเต้นรำของซูโหย่วเผิง)
โหย่วเผิง : ไอหยา ดาราดังมาแล้ว ไม่ได้แล้ว พันกันแล้ว ผมว่าพวกเขาประหลาดนะ
เสียงเพลง : คุณไปที่ถนนเส้นไหนกับฉัน
โหย่วเผิง : ประเทศจีนมีสภาพสังคมที่เป็นเอกลักษณ์
เสียงเพลง : ฉันมีถั่วแดงเหลืออยู่ คุณเก็บมันไว้สิ อย่าให้ลมพามันไป ไฮ ต้ามา
โหย่วเผิง : ต้ามา ชื่อนี้ได้มายังไง คำนี้ก็เป็นคำเดี่ยวในภาษาอังกฤษ คำว่า Dama มันเป็นสภาพสังคมที่เป็นเอกลักษณ์ของจีน ตอนที่ผมถ่ายโจ่วเอ่ออยู่ มีฉากหนึ่งที่เป็นลานกิจกรรมของชาวบ้านในเมืองเล็กๆ เด็กนักเรียนกำลังเล่นบาส ตอนแรกเรากำหนดให้ลานข้างๆเป็นต้ามาที่กำลังเต้นรำอยู่ แม้ว่าผมจะอยู่ที่จีนค่อนข้างนานแล้ว แต่ว่าก็ยังมีมุมมองแบบคนภายนอกอยู่ ดังนั้นเรื่องเกี่ยวกับต้ามาก่อนหน้านี้ ผมค่อนข้างมีความเข้าใจแบบคนภายนอกอยู่ ไม่ได้มีความเข้าใจลึกซึ้งอะไร ตอนที่ทำภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ ก่อนที่จะเข้าใจพวกเขา ผมคิดว่าพวกเขาประหลาด เต้นท่าแปลกๆ ดนตรีพอฟังแล้วก็รู้สึกว่าเชยไปนิด แต่พวกเขาก็มีความสุขของตัวเอง และก็ไม่สนใจสายตาของคนอื่น ทำในสิ่งที่คนอื่นมองแล้วรู้สึกแปลก เช่นคนเป็นหมื่นเต้นเพลงเสี่ยวผิงกว่อพร้อมกันอะไรแบบนั้น ดังนั้นถ้าคนต่างชาติมองก็อาจคิดว่าโดดเด่นแบบแปลกๆ คิดว่าประหลาดไม่ใช่ว่าผมมีอคติหรือเกลียดพวกเขานะ มันเป็นเพียงความคิดแรกเท่านั้น สำหรับการเป็นโปรดิวเซอร์คนหนึ่งแล้ว ผมคิดว่าทุกคน ไม่ว่าจะมีฐานะอย่างไร เติบโตในสภาพแบบไหน ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่ มีเรื่องที่ไม่มีใครรู้ เรื่องที่ยุ่งยากในชีวิต
เสียงของต้ามา : ปีนี้เป็นปีที่ครบ 14 ปีแล้ว บางครั้งคุณเห็นฉันนั่งอยู่ในบ้าน ไอหยา ใจของฉันก็จะคิดไปว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง
คิดไปเรื่อยเปื่อย
ซูโหย่วเผิง : ช่วงแรกๆของการถ่ายทำก็รู้สึกว่าพวกเราไปทำความรู้จักกับเรื่องราวเบื้องหลังของพวกเขาดีมั๊ยจะได้กำจัดความคิดแบบเดิมๆของพวกเราอคติที่พวกเราใส่ลงไปให้คนบางคนหรือคนบางกลุ่มมีบางคนปฏิเสธคำว่า ต้ามา 2พยางค์นี้หรือไม่ก็มีต้ามาบางคนเองอาจไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นต้ามาคุณเอาคำว่าต้ามาฝังไว้ในหัวของผมให้ความรู้สึกค่อนข้างลำเอียงหน่อยๆพวกเขาก็ไม่ยินดีให้ความร่วมมือคุณน้าพวกนี้เขาจะทำเรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับสถานที่หรืออะไรเทือกนั้นต่อมาก็พบว่าชีวิตของพวกเขามีสีสันและสนุกมากที่จริงแล้วพวกเรามีอิสระและมีแรงเยอะมากไม่ใช่คนแก่แบบที่แบบที่พวกเราคิดกันไว้เลยไม่มีเรื่องแย่ๆที่ควรมีในชีวิตของคนในวัยนั้นเลยนะ ฉากของเราในวันนั้นพวกเขาชอบไปร้านกาแฟ บางทีก็ไปพิซซ่าฮัทบ่อยๆไปแมคโดนัลเคยได้ยินว่าบางทีก็ไม่ได้ซื้ออะไรแล้วนั่งเก้าอี้
ตอนแรกผมคิดว่าก็เหมือนกับการถ่ายภาพยนตร์ทั่วไปไม่มีผู้กำกับไม่ได้ทีมของผมบอกกับผมว่าคุณอยู่ตลอดนะมีหลายฉากมากเช่นตอนที่ทุกคนเต้นพร้อมกันที่ลานพอคุณไปทุกคนก็ไม่ได้ถ่ายละทีมของผมไม่สนใจและดูถูกการดูแลและกำลังของผมผมทะเลาะกับพวกเขาไปหนึ่งยกเมื่อผู้หญิงมาถึงวัยนี้ที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเม้าท์ได้ทุกเรื่องถ้าเม้าท์กันไกลเกินไปแล้วผมก็พยายามดึงเขากลับมาเพราะบางเรื่องที่มันมากไป เขาก็ไม่ได้ใช้มันที่ผมทำได้มากที่สุดก็คือเรื่องนี้แหละแต่ผมไม่ได้ยุ่งกับเนื้อหาที่เขาคุยกันนะ
เสียงต้ามาและเพื่อน : คุณอยู่กับคนที่บ้าน คุณอยากหามั๊ยล่ะ ไม่หา งั้นฉันก็ไม่หา
ซูโหย่วเผิง : พวกเขาผ่านวัยที่ตั้งตารอเรื่องความรักมาแล้ว พวกเขาก็จะคิดว่า ผู้หญิงต้องมีอิสระ ต้องมีอิสระทางการเงิน จะพูดถึงเรื่องประมาณนี้บ่อยมาก วิถีชีวิตของคนในวัยนั้น (มาๆๆ ถ่ายก่อนแล้วค่อยว่ากัน)
หลังจากถ่ายไปแล้ว 20 วันก็พบว่า 20 วันของเขาเหมือนกันทุกวันชีวิตของพวกเขาวนไปวนมาอย่างน่าเบื่อ ผมคิดว่าทุกคนมีความต่างกันไม่มากในแต่ละช่วงของชีวิต เพียงแค่มันมีการวนที่ไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ดังนั้นเรื่องจุกจิกเหล่านี้ในชีวิตของพวกเขา หลังจากที่ตัดแล้ว มันจะแก้ยากนิดหน่อย ยากตรงที่จะเสนอการดำรงชีวิตแบบนี้ออกมาได้อย่างไร
เรื่องราวร้อยพันที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องที่ตั้งใจจะได้รับผลตอบแทนทั้งหมด เรื่องทุกเรื่องจะต้องจบลงด้วยดี พวกเราสามารถเห็นเรื่องแบบนี้ได้มากมายบนอินเตอร์เน็ต ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ดีที่สุดยังไม่มาถึง ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์อาจไม่ได้ดีเสมอไป ต้องดูว่าภาพยนตร์ของคุณเป็นประเภทไหน คุณอยากถ่ายทอดอะไรให้กับผู้ชม ก็มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่เป็นโศกนาฏกรรมแต่มันก็มีความจริงอยู่ในนั้น
ผมคิดว่าการสร้างความหวังท่ามกลางความทุกข์ในชีวิต พวกเขาจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ คิดอย่างไรกับเรื่องเล็กๆ ที่วุ่นวายในชีวิต หรือความยากลำบากในชีวิต หลังจากนั้นก็เบ่งบานอย่างงดงาม ออกผลที่สดสวย ต้องนำเสนอเรื่องแบบนี้ออกมา