ผู้เขียน หัวข้อ: 31-10-2009 ซูโหย่วเผิง : จะไม่เล่นบท “กระเทย” อีก  (อ่าน 7404 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
2009-10-31 : http://gzdaily.dayoo.com/html/2009-10/31/content_749254.htm



ซูโหย่วเผิง : จะไม่เล่นบท  “กระเทย” อีก

ภาพยนตร์เฟิงเซิงที่กำลังเข้าโรงนั้น ไป๋เสี่ยวเหนียนที่โหย่วเผิงเล่นนั้นก็เป็นบทหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมฝังใจ ความสำเร็จของบทนี้นั้นทำให้รู้เห็นว่าโหย่วเผิงมีสปิริตทางการแสดงภาพยนตร์ด้วย และทำให้คนอื่นคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านผลงานการแสดงของเขา ดารานักร้องขวัญใจนักแสดงขวัญใจในอดีต พี่สุดหล่อในภาพยนตร์ ได้เปลี่ยนแปลงบทบาทในเรื่องนี้ โหย่วเผิงไม่แฮปปี้ที่จะไปพูดถึงภาพลักษณ์ในอดีต พูดเรื่องเสี่ยวหู่ตุ้ย พูดองค์ชายห้า  เขาปรารถนาที่จะเดินไปข้างหน้า เพื่อบอกกับทุกคนว่า “ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว”  อนาคตนั้นจะรอดูว่าบทที่โหย่วเผิงจะรับนั้นเป็นบทแบบไหนกัน จะเป็นไป๋เสี่ยวเหนียนเหมือนเดิมไหม? หรือว่าจะเปลี่ยนไปเล่นบทอย่างอื่น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โหย่วเผิงพอใจกับผลงานตอนนี้ของเขามาก สามารถที่จะเข้าสู่ภาพยนตร์สากลได้ ได้มีชีวิตใหม่
 
นักข่าว เฉิงเหยียนอัน

(หยิ่งตี้) นั้นผมยังห่างไกลมันเยอะ (หยิ่งตี้ : ไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร เป็นศัพท์เฉพาะ อาจเป็นซูปเปอร์สตาร์ภาพยนตร์:SUPERSTAR )

โหย่วเผิงตั้งแต่อายุ 15 จนถึงปัจจุบันนั้นได้รับรางวัลมากมายจนนับไม่ถ้วน ตอนเป็นนักร้องนั้น เขาได้สร้างยุคทองที่ไม่มีใครสามารถจะเลียบแบบได้ แม้ว่าตอนหลังจะเข้าสู่การแสดง โหย่วเผิงก็ได้สร้างชื่อเสียงมากมายให้กับวงการ เขาได้รับรางวัลดารานักแสดงยอดเยี่ยม ตอนเป็นนักแสดง เขาก็เพิ่งได้รับรางวัลภาพยนตร์ไป มีเว็ปหนึ่งที่ไม่ทราบชื่อบอกว่าเป็นรางวัลนักแสดง แม้ว่ารางวัลนี้จะไม่เทียบเท่ารางวัลอย่าง (จิงจี)  แต่โหย่วเผิงเองก็รู้สึกภูมิใจมาก สำหรับเขาแล้ว เขาได้ปล่อยชื่อเสียงในอดีตมากมาย แล้วมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ในวงการการแสดง

นักข่าว :  ครั้งแรกที่ได้รับรางวัลการแสดง มีความรู้สึกอย่างไร เมื่อเทียบกับรางวัลที่ได้รับจากการเป็นนักร้องกับรางวัลที่ได้รับจากการเป็นนักแสดงโทรทัศน์นั้นมันต่างกันไหม อันไหนมีค่ากว่ากัน?


โหย่วเผิง :  รู้สึกรประทับใจมาก สำหรับทุกคนที่เข้าใจถึงบทของไป๋เสี่ยวเหนียนและยอมรับได้ มันเกินความคาดหมายจริงๆ ทำให้ผมมีกำลังใจมาก ผมคิดว่าอนาคตผมเองก็จะกล้าที่จะตัดสินใจไปรับบทที่ผมรู้สึกว่าท้าทายดี เรื่องความสำคัญกว่านั้น หนึ่งปีเต็มๆนี้ ผมได้ทุ่มเทเวลากำลังให้กับการแสดงของเรื่องเฟิงเซิง แน่นอนรางวัลที่ได้รับจากเรื่องนี้นั้นมันทำให้ผมมีกำลังใจมากๆ และก็สำคัญมีค่ามากๆ

นักข่าว : รางวัลเรื่องเฟิงเซิงที่ได้รับนั้น เป็นเพราะบทไป๋เสี่ยวเหนียนหรือเปล่า?

โหย่วเผิง :  ผมว่าน่าจะเป็นเพราะบทไป๋เสี่ยวเหนียนนะ บทนี้สำหรับชีวิตผมแล้ว มันเป็นอะไรที่ทะลุทะลวง ไปจุดสูงสุดอีกจุดหนึ่ง เพราะนับแต่ตอนเริ่มรับบท ก็ไม่เคยคิดว่าสุดท้ายจะมาถึงจุดนี้ได้ รู้เพียงว่าทำให้ดีที่สุด วันนี้เมื่อย้อนมองแล้ว นอกจากจะเห็นถึงประสบการณ์การแสดงของผมในครั้งนี้ที่มีมากขึ้นแล้ว ผมคิดว่ายังมีคนอีกมากมายทั้งคนอาชีพอื่นและผู้ชมทั้งหลาย พวกเขาจะรู้สึกถึงในจิตใจของพวกเขานั้น ยังมีโหย่วเผิงที่มีอีกมุมหนึ่งของเขาอยู่

นักข่าว :  เคยคิดที่จะมุ่งวิ่งสู่ หยิ่งตี้ (SUPERSTAR) ไหม?

โหย่วเผิง :  เส้นทางอันนี้นั้นสำหรับผมแล้วมันยังไกลเกินไปอยู่ แต่ว่าเอาหยิ่งตี้ (SUPERSTAR)มาเป็นเป้าหมายในการที่จะกระตุ้นผมนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่เลวเหมือนกัน


“ขอเพียงไม่ใช่เป็นบทที่เป็นเด็กๆ ทุกบทก็สามารถที่จะรับได้”

โหย่วเผิงเป็นคนหนึ่งในวงเสี่ยวหู่ตุ้ยในอดีตที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในด้านการร้องเพลงนั้นเป็นช่วงที่เรียกว่ายุคทองของเขา สมาชิกเสี่ยวหู่ตุ้ยทั้งสามคนก็ล้วนเข้าสู่วงการแสดง ตอนนั้น แค่ภาพยนตร์องค์หญิงกำมะลอเรื่องเดียวสามารถทำให้โหย่วเผิงได้รับการยอมรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม ในเวลาเดียวกัน (จ้าวเว่ย) และ (ฝางปิงปิง) นั้นก็ได้มีชื่อเสียงในด้านการแสดงมาก่อนแล้ว เรื่องเฟิงเซิง ของโหย่วเผิงนั้นมาช้าไปหน่อยหรือเปล่า แต่เขาเองก็พูดว่า จริงๆแล้วเขาเบื่อกับการเล่นบทผู้ดีมานานแล้ว และตอนนี้เขาเองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว บวกกับตัวเขาเองตอนนี้ก็ต้องท้าทายตัวเองต่อไป ไม่เพียงแค่ภายนอก แต่ยังหมายถึงภายในด้วย

นักข่าว :  ช่วงนี้เห็นคุณในงานสาธารณะหลายที่นั้น ก็เห็นถึงใบหน้าที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว มันสื่อถึงอนาคตอยากรับแต่บทที่เป็นผู้ใหญ่อย่างเดียวหรือเปล่า?

โหย่วเผิง :  การแต่งกายเป็นผู้ใหญ่นั้น เป็นเพราะผมเป็นคนที่ชอบอย่างนี้ บวกกับตัวเองก็ถึงเวลาที่เป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว และบทที่จะรับในภายหลังนั้น ขอเพียงไม่ใช่เล่นเป็นบทเด็กๆ ผมเองก็น่าจะโอเค

นักข่าว :  เริ่มเปลี่ยนความคิดที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองเมื่อไหร่กัน?

โหย่วเผิง :  ต้องดูว่าความหมายของคุณนั้นหมายถึงด้านไหนกัน หากหมายถึงภาพลักษณ์ของขวัญใจนักแสดงแล้วก็ ผมเองก็สามารถตอบคุณได้ ตั้งแต่ก่อนที่ผมเล่นเรื่อง (องค์หญิงแสนซน) ก็เริ่มเบื่อกับบทผู้ดีอย่างนี้แล้ว จริงๆแล้วบทใน เรื่ององค์หญิงแสนซน นั้นผมเองก็ไม่ค่อยอยากจะรับเหมือนกัน

นักข่าว : หลังจากที่ได้ไปสังกัดค่ายหัวอี้(HY) แล้วทางบริษัทคุณได้วางตำแหน่งอะไรแก่คุณ?

โหย่วเผิง :  แท้จริงแล้วทางบริษัทเองก็ให้ความเคารพกับความคิดการตัดสินใจของนักแสดง กับเรื่องของตำแหน่งนั้น ไม่ได้บังคับอะไรเลย มันอยู่ที่ตัวเองเรียกร้องออกมา มันจะต่างกันออกไปตามอายุ ตามประสบการณ์ทำงาน ไม่งั้นคงไม่มีใครยอมฟังใคร

นักข่าว : สำหรับเงื่อนไขของคุณแล้ว ได้รับการทาบทามเล่นภาพยนตร์จากค่ายหัวอี้เยอะไหม?

โหย่วเผิง :  มีเยอะมาก แต่ใช่ว่าทุกบทที่ทาบทามมานั้นคุณจะสนใจด้วย หรือว่าจะให้คุณรู้สึกอยากร่วมอยากทุ่มเท ฮ่าๆ (หัวเราะ)  หากมีบทและเรื่องอย่างนี้นั้น มันต้องพึ่งโชคพึ่งชะตาด้วย แต่ว่าผมเองก็อยากจะรับเพียงบทอย่างนี้เท่านั้น จะโลภมากนิดหน่อย

นักข่าว :  คุณเคยบอกว่าต่อไปจะไม่รับบทผู้ดีแล้ว นั่นหมายความว่าต่อไปก็คงจะรับบทเฉพาะแบบไป๋เสี่ยวเหนียนอย่างนั้นหรือเปล่า?

โหย่วเผิง :  ต้องดูว่าคุณมองไป๋เสี่ยวเหนียนอย่างไร หากว่าไป๋เสี่ยวเหนียนในใจของพวกคุณนั้น เป็นเพียงกระเทยคนหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นผมสามารถบอกกับคุณได้เลยว่า ผมจะไม่ขอแสดงบทที่เป็นแบบกระเทยอีกต่อไปแล้ว หากว่าจะถามว่าไป๋เสี่ยวเหนียนในใจผมเป็นอย่างไร ผมจะบอกว่ามันเป็นตัวละครหนึ่งที่หาได้ยาก เป็นตัวละครหนึ่งที่ไม่ใช่พระเอก หากว่าวันนั้นผมมี  เฉียงหนี & middot มีพลังที่ดี สามารถประสบความสำเร็จในด้านบทที่หายาก สำหรับผมแล้ว มันเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่มากๆ




“หากจะดังเหมือน ( จางจื่ออี๋ )  สำหรับผมแล้วมันก็เป็นเพียงภาระหนักอย่างหนึ่ง”

เริ่มจากปี 2005  ภาพยนตร์อาณาจักร์แดนคนปลา (Empires of the Deep) ของฮอลลีวูดนั้นข่าวได้แพร่มาถึงเอเซีย เคยมีข่าวว่าโหย่วเผิงเข้าเล่นในเรืองนี้ด้วย เป็นนักรบในเรื่องนี้ แต่เวลาที่โหย่วเผิงให้สัมภาษณ์นั้นกลับปฏิเสธข่าวนี้

นักข่าว :  ได้ข่าวว่าเฟิงเซิงจะมีภาคต่อไป ตอนนี้เริ่มมีการวางตัวละครยัง เพลงละครที่ไม่ได้ถ่ายในภาพแรกภาคต่อไปจะได้ถ่ายไหม?

โหย่วเผิง  :  สำหรับภาพต่อไปของเฟิงเซิงนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจที่เป็นทางการ หากว่าจะถ่ายทำกันจริงๆแล้ว ผมนั้นทั้งดีใจและเสียใจผสมกัน อาจเพราะก่อนหน้านี้ได้ลงทุนไปเรียนอะไรบางอย่าง คือการไปเรียนเพื่อจะเล่นในบทของไป๋เสี่ยวเหนียนที่มันต้องสมจริงขึ้น สำหรับนักแสดงแล้ว จะบอกว่ามันไม่เห็นได้ง่ายนัก สิ่งที่กังวลใจคือ จะต้องไปเรียนละครเพลงที่ปักกิ่งอีก ทุกวันต้องทำตามอาจารย์ ต้องบอกกับตัวเองเสมอว่า “ต้องสวยต้องงาม” ต้องกลับไปบทที่เป็นกระเทยอย่างนั้นอีก โอ้ มันมีความรู้สึกที่อยากจะบ้าตาย

นักข่าว : ในเรื่องมีตัวละครใดที่คุณอย่างจะเล่นเป็นพิเศษ

โหย่วเผิง :  ตอนนี้ยัง หากมีก็ยังต้องคิดจิตนาการอีกที บางครั้งอาจอยากเล่นในบทของ เหลียงเฉาเว่ย  ในบทนั้นมันมีอะไรที่น่าสนใจ หากผมได้เล่นคงจะสนุกน่าดูเลย

นักข่าว : การจะรับบทนั้นมีมาตรฐานไรไหม จะถือในเรื่องของการเบี่ยงเบนทางเพศไหม?

โหย่วเผิง : ไม่ถือเลยสักนิด ขอเพียงเนื้อเรื่องดีบทดี ผู้กำกับดี แค่นี้ก็เล่นได้แล้ว

นักข่าว : จากร้องเพลงมาถึงแสดงละครโทรทัศน์ แล้วมาถึงแสดงภาพยนตร์ สิ่งที่ได้รับมากที่สุดคืออะไร

โหย่วเผิง :  พูดไปแล้วอาจจะดูเหมือนของเก่าหน่อย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ได้รับมากที่สุด ก็คือทุกอย่างก็ต้องทำอย่างสุดๆ นอกจากนั้นก็ให้เป็นไปตามชะตากรรม

นักข่าว :  เรื่อง อาณาจักรแดนคนปลา (Empires of the Deep) นั้นเลิกเล่นแล้วหรือ ยังอยากจะไปเป็นนักรบของฮอลลีวูดอยู่เปล่า?

โหย่วเผิง : เรื่องนี้นั้นการสร้างเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก การสร้างของก่อนหน้านี้ยังไม่จบ และการจะเปิดกล้องของครั้งต่อไปนี้ก็ยังไม่แน่นอน ฉะนั้นอนาคตจะไปร่วมงานด้วยหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจเลย แต่ว่าสำหรับการเป็นนักรบของฮอลลีวูดนั้น ผมสามารถบอกกับคุณอย่างมั่นใจว่า ผมเพียงอยากจะเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่งทำในสิ่งที่ตัวเองสบายใจ ใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย จะดังให้เหมือน " จางจื่ออี๋ " สำหรับผมแล้วมันเป็นสิ่งที่เป็นภาระ ไม่ขอไปคิดให้หนักใจ

นักข่าว : ตั้งแต่ที่เข้าสู่วงการ คุณมีข่าวฉาวน้อยมาก เคยคิดเรื่องของความรักหรือเปล่า?

โหย่วเผิง :  แน่นอน ผมไม่ใช่ (พระถังซัมจั๋ง ) นะ ฮ่าๆ (หังเราะ) แต่ว่าเรื่องความรักส่วนตัวของผมนั้นอาจจะเงียบๆ แต่เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะนั้นมันก็ถือว่าโอเคแล้วนะ หากแต่จะมาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวมากเกินไปผมเองก็ถือนะ นอกจากนี้ ความรักกับการงาน แน่นอนจะต้องได้อย่างเสียอย่าง หากว่าทุ่มเทแรงกำลังให้กับการงาน ด้านความรักก็ต้องมีเวลาให้น้อยหน่อย แต่หากวันไหนคุณสังเกตว่าเวลาในการงานของผมมันน้อยไปหรือไม่ค่อยเห็นแล้ว ก็รู้ได้ว่าผมกำลังจะทุ่มเทให้กับความรัก ฮ่าๆ(หัวเราะ)