ทำไมถึงเลือกเสี่ยวหู่ตุ้ยมาแสดงในงานฉลองตรุษจีน?
เสี่ยวหู่ตุ้ยได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์แห่งดาราขวัญใจ
การมาซ้อมการแสดงที่สถานียางซื่อของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นได้รับการสนใจเป็นพิเศษ และเป็นการสร้างกระแสนิยมอีกครั้งสำหรับขวัญใจวัยรุ่นของไต้หวัน แม้ว่าเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยจะเปิดบ่อยถี่ขึ้นตามสถานีต่างๆ แต่สำหรับคนรุ่นหลังแล้ว เสี่ยวหู่ตุ้ยก็ยังเป็นวงที่ไม่รู้จักไม่คุ้ยเคย และทางนักข่าวก็ได้ไปสัมภาษณ์กับคนรุ่นที่เกิดช่วงปี 80 สองคน พวกเขาล้วนได้โตมากับเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ย เมื่อได้ยินเพลง(อ้าย)(ชิงผิงก่อเล่อเหยียน)ก็ล้วนคิดถึงเสี่ยวหู่ตุ้ย เสมือนมีความผูกพันกันอย่างยิ่ง “เสี่ยวหู่ตุ้ยได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์แห่งดาราขวัญใจ”
A มารู้จักกับเสี่ยวหู่ตุ้ยอีกครั้ง
เป็นบรรพบุรุษแห่งขวัญใจชาวจีน
ในคืนงานนั้นเสี่ยวหู่ตุ้ยจะร้อง 3 เพลงได้แก่ (อ้าย) (ชิงผิงก่อเล่อเหยียน) (หูเตี๋ยเฟยอา) เป็นเพลงที่คลากสิกมากๆ พวกเขาได้เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่ปี 1989 และแยกทางกันปี 1997 เสี่ยวหู่ตุ้ยได้ออกอัลบั้มยอดนิยมกว่า 13 อัลบั้ม ในบรรดาอัลบั้มเหล่านั้น(หงชิงถิง:Red Dragonfly )ได้กลายเป็นอัลบั้มแห่งความแหวกแนวPart1 ผลงานของเสี่ยวหู่ตุ้ย
เพลงเดี่ยว
(อ้าย:love) “ร้องตะโกนบอกกับฟ้าว่าผมรักคุณ ร้องตะโกนบอกกับสายเมฆว่าผมคิดถึงคุณ” นี่อาจเป็นเนื้อเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในเนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยความหวานชื่นของความรัก ความฝันที่สดใส และได้กลายเป็นจุดเด่นของผลงานของเสี่ยวหู่ตุ้ย และสิ่งที่ไม่เอ่ยไม่ได้เลยก็คือ (อ้าย:love) ร้องประสานเสียงสามเสียง ทำให้เพลงจีนกลายเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ตอนนั้นหลังจากเพลงรักที่ดังไปทั่วแล้ว ในโรงเรียนมัธยมก็มักจะมีการจัดกิจกรรมแล้วเลือกชายหญิงคู่หนึ่งมาร้องเพลงนี้ เพลงนี้ได้จุดประกายความรักแห่งปี 80
(หู่เตี๋ยเฟยอา:Flying Butterflies) มิวสิคเพลงนี้เป็นการไปถ่ายมิวสิคนอกสถานที่ของทั้งสามคน ได้สื่อถึงช่วงวัยที่ไร้ทุกข์ไร้โศก ทำนองเพลงนี้อาจมีอารมณ์เศร้าบ้าง แต่เมื่อเสี่ยวหู่ตุ้ยได้ร้องแล้วมันกลายเป็นความใฝ่ฝันไป ตอนนั้นทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีนหรือเทศกาลต่างๆจะมีนักเรียนนำเอาเพลงนี้ทำเต้นประกอบท่า
(ชิงผิงก่อเล่อเหยียน:Green Apple Paradise) เป็นเพลงเดียวของเสี่ยวหู่ตุ้ย แต่ตอนที่ดังไปที่จีนนั้น จะช้ากว่าเพลงอ้าย ฉะนั้นเลยกลายเป็นเพลงอีกด้านหนึ่งของเสี่ยวหู่ตุ้ย ในภาพแห่งความทรงจำนั้น (ชิงผิงก่อเล่อเหยียน)นั้นมักจะเปิดถี่มากในช่วงวันเด็กแห่งชาติ และตอนนั้นได้เข้าไปที่จีนด้วยการทำเป็นคาราโอเกะแล้ว การประกวดร้องเพลงนั้นหลายคนได้เลือกร้องเพลงนี้ เพลงจะเลียนแบบเสี่ยวหู่ตุ้ย
(ซินเหนียนไคว่เล่อ:Happy New Year) เป็นเพลงรักซึ้ง ได้พูดถึงคำอวยพรของปีใหม่ ไม่ใช่พูดว่า “ผมรักคุณ”แต่จะขอพูดว่า “สวัสดีปีใหม่” การที่เพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นได้รับความนิยมไม่จำกัดอายุวัย ก็เพราะเนื้อเพลงที่ดี มันไม่เหมือนกับเนื้อเพลงของเพลงรักในสมัยนี้มันยุ่งเหยิงเศร้าระทมอย่างสุดแสน และเป็นการแสดงถึงความรู้สึกที่บริบูรณ์และใสสะอาด ฉะนั้นตอนนั้นอาจารณ์มัธยมก็ไม่ต่อต้านที่เด็กๆจะร้องเพลงของพวกเขา
(หงชิงถิง:Red Dragonfly) เป็นเพลงสุดคลากสิกของเสี่ยวหู่ตุ้ย เพลงนั้นล้วนจะมีท่าเต้นที่น่าตื่นเต้น อีกด้านหนึ่งเพื่อจะกระตุ้นบรรดาแฟนเพลง อีกด้านหนึ่งก็เพื่อจะให้หวนคิดถึงความเดียงสาของวัยรุ่นในสมัยนั้น ในปี 2003 ได้มีการเอาเพลงนี้มาร้องกันอีกครั้ง นี่แสดงให้เห็นว่าเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยไม่มีเวลามาจำกัดความดังของมันอัลบั้ม ดังมาก (เซียวเหยายิ๋ว:Roaming Leisurely) เป็นอัลบั้มที่มีความหมายมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งของเสี่ยวหู่ตุ้ย ตอนนั้นค่ายไคลี่ได้มีการวางแผนจัดงานแจกลายเซ็นให้กับบรรดาแฟนคลับของเสี่ยวหู่ตุ้ย และเพลงนั้นได้เปิดไปทั่วไต้หวัน ทำให้เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้า ค่ายไคลี่ฉวยโอกาสที่ไฟแรงรีบตีเหล็กด้วยการออกอีกสองอัลบั้ม(หนันไหปู้คู: Boys Don't )(ซิงซิงเตอแยฮุ้ย: Dating Stars) แต่ว่าช่วงนี้เพลงที่ยอดฮิตที่สุดของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นน่าจะได้แก่ (บอกกับคุณคำหนึ่งว่า มายเลิฟ:Say To Me-My Love) กับ (ซิงซิงเตอแยฮุ่ย:dating stars)
จุดสุดยอด :: (หงชิงถิง) (อ้าย) (ไจ้เจี้ยน) เป็น 3 อัลบั้มที่ยอดฮิตมากๆ และด้วยเหตุที่ธุรกิจการทำเพลงนั้นไปได้ดีมาก ทำให้การทำอัลบั้มได้อย่างไม่ต้องกังวล จนค่ายได้ทำอัลบั้มสองอัลบั้มต่อหนึ่งปี และมียอดขายทะลุกว่าแสนตลับอย่างสบายๆ
แค่ค่าภาษีก็รวยแล้ว ยอดขายที่ดีนั้นทำให้เสี่ยวหุ่ตุ้ยได้สร้างอัลบั้มเพลง (หงชิงถิง)(อ้าย)(หูเตี๋ยเฟยอา)(ฟ่างซินฉี่เฟย)(ลี่เกอ)เหล่านี้ขายดีมาก และความนิยมในตัวของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นพุ่งกระฉูดไม่อยู่ ได้ข่าวว่าตอนนั้นโรงเรียนมัธยมในไต้หวัน แค่มีใครพูดคำเดียวว่า “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ก็จะมีเสียงกรี๊ดออกมาอย่างแก้วหูจะแตก อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงอัลบั้ม(ไจ้เจี้ยน:Goodbye) ตอนนั้นโหย่วเผิงเตรียมสอบเข้ามหาลัย จื้อเผิงต้องไปเกณฑ์ทหาร เสี่ยวหู่ตุ้ยก็ต้องพบการการแยกทางเป็นครั้งแรก
เกิดการเปลี่ยนแปลง : รอการกลับมาของจื้อเผิง เสี่ยวหู่ตุ้ยได้มีการทำอัลบั้มใหม่(ซิงกวางอีจิ้วชั่นลั่น:Bright Starlight) ชื่อตรงกับสถานการณ์ของเสี่ยวหู่ตุ้ยในตอนนั้นมาก แม้ว่ายอดขายจะสู้ที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ยอดขายก็ไม่เลวเหมือนกัน ทางค่ายก็ได้ฉวยโอกาสในการจัดคอนเสิร์ดทัวร์ทั่วเอเซีย ยังรวมถึงจีนด้วย กระแสยังร้อนแรงอยู่ แต่ว่าเห็นว่าทั้งสามคนก็เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้วทางบริษัทก็อยากจะสร้างพวกเขาให้เดินในเส้นทางของผู้ใหญ่ แต่ว่าก็กลัวจะทำให้ยอดขายต้องตก อีกด้านหนึ่งก็กลัวแฟนเพลงหดหาย สุดท้ายก็ยังคงเหมือนเดิมแต่จะมีท่าเต้นที่เพิ่มให้เด่นขึ้น แต่การทำอัลบั้ม(ไคว่เล่อเตอกั่นแจ๋หยงเหยี่ยนอีย่าง: Same Happy Feeling )(ยงเหยินจื้อยิว: Imaginary Worries )ก็เงียบๆ กระแสนิยมก็เริ่มตกต่ำ นี่ก็เป็นเหตุทำให้พวกเขาจำต้องแยกทางกันอีกครั้ง