ผู้เขียน หัวข้อ: ซูโหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง  (อ่าน 15602 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
เรียบเรียงโดย พี่หมิง...Chomnath

เนื่องใน วันครบรอบ 38 ปี : Alec Su You Peng

และ

วันครบรอบ 1 ขวบปี บ้านซูโหย่วเผิง www.baansuyoupeng.com
11 กันยายน  2011


เนื่องในวันเกิดครบรอบ 38 ปี ซูโหย่วเผิง
ตลอดการเดินทางบนเส้นทางบันเทิง
เราขออวยพรให้โหย่วเผิงประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน
และพวกเราพร้อมที่จะก้าวไปกับคุณ
สนับสนุนคุณ รักคุณ รักคุณ และก็จะรักคุณตลอดไป


From : suyoupeng thaifans
www.baansuyoupeng.com

-------------------------------------------------------

关于苏有朋 三十八 年周岁生日
一直在影视歌圈生涯之路
我们当即庆祝苏有朋到处遍远达成名
连我们跟着你迈步前进
鼓励支持  爱你  也永远爱着你

泰国朋友影迷 向苏有朋致敬

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2011, 04:24:54 PM »
ซูโหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง

ไม่สามารถปฏิเสธการยอมรับ ....โหย่วเผิงในด้านการเป็นนักแสดงที่ว่า   
การเป็นคนบุคลิกดีคนหนึ่งจะเกี่ยวข้องกับเส้นทางบันเทิงชั่วชีวิต
แต่การผลิกบทบาทครั้งสำคัญๆ ก็กระทบกับภาพลักษณ์ที่ดีไป
มันส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะเป็นนักแสดง
(การเปลี่ยนบุคคลิใหม่ๆ อาจจะขัดใจแม่ยกได้...โดยเฉพาะภาพลักษณ์ปัจจุบัน)   

พูดถึงใบหน้าที่เป็นนักแสดงซึ่งเกี่ยวข้องกับเขาทั้งชีวิตบนจอหนังล้วนเกี่ยวข้องความสำคัญ
บุคลิกหล่อสง่างามสดใสคนหนึ่ง   สามารถให้นักแสดงคนหนึ่งมีโอกาสผลิกผลัน การเป็นนักร้องขวัญใจกลายมาเป็นนักแสดงต้นแบบ ณ ปัจจุบัน ดังนั้นถึงได้รับการตอบรับจากแฟนๆที่ชื่นชอบจำนวนมหาศาล

อาศัยฝึกฝน-ฝีมือด้านแสดงของตนเอง 
ต่อมาได้ปรากฎบนจอหนังใหญ่เรื่อง The Massege
อาศัยความขยันจึงมีฝีมือที่ดี และสามารถเป็นฐานที่ดีให้แก่ตนเอง
และเมื่อวาสนาได้โด่งดังขึ้นมา จึงง่ายมากที่จะโชว์กึ๋น ความเป็น นักแสดงได้อย่างเต็มที่


เรื่อง The massege เป็นการผลิกบทบาทเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างเห็นได้ชัด
จากภาพลักษณ์คนดี กลายเป็นอุปสรรคที่จะรับบทบาทฉีกออกไป
แต่โหย่วเผิงสามารถฉีกบทดังกล่าวให้เราเห็น และประจักรแล้ว

ถ้าเราดูจากหนัง The massege   มีฉากนึง ใบหน้าของเขาปะแป้ง
หัวทาน้ำมันชี้นิ้วมือขึ้น ร้องเพลง หมู่ตันถิง(เก๋ง โบตั๋น)
จากนั้นมองตัวเองที่หน้ากระจก ....ดึง(กำจัด) คิ้วขาว พร้อมกับร้องเพลงไปด้วย
น้ำเสียงค่อยๆเอื่อนเอ่ยช้าๆขึ้นๆลงๆไปตามจังหวะ
หรือแม้แต่บนโต๊ะอาหาร...ชี้นิ้ว ด่าคนได้อย่างเป็นฟืนเป็นไฟ


นี้คือการแสดงที่ได้รับคำชมมากมาย จากนักวิจารณ์ต่างๆ
การเดินบนเส้นทางแผ่นฟลิมโหย่วเผิงได้เริ่มต้นแล้ว

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2011, 04:25:42 PM »
ในเรื่อง Re Ai-รักเร้าใจ   เขาเล่นเป็นคนประสาท

ในเรื่อง (กูเต่ามี่มี่จั้น)–สถานีลึกลับบนเกาะเดี่ยว   เขาแสดงเป็นไส้ศึกทหารรุกรานจีน   

โหย่วเผิงได้สลายภาพลักษณ์จากอดีต เข้าสู่ภาพลักษณ์ของตัวมายาซึ่งท้าทายตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ท้าทายต่อสายตาของผู้ชม เขาเพียงอยากบอกพวกเราว่า
"ต่อไปผมจะไม่ใช้หน้าตาในการแสดง แต่ผมอยากให้คุณดูฝีมือการแสดงของผม"


....พูดง่ายๆก็คือนับต่อนี้ไป การแสดงไม่ว่าเรื่องไหนๆ ขอปลีกบทบาทอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่
รับบทแต่ผู้ดี-คนดี-ชายหนุ่มชวนฝัน...แต่ขอเดินบนทางที่สามารถเลือกได้ คือบทคนโหด-เลว-หรือบ้าคลั่ง...


ใช่แล้วนี้คือซูโหย่วเผิงหละ 
พ่อโหย่วเผิงก็เคยพูดว่า ผู้ชายที่พึ่งพาใบหน้าตัวเองทำมาหากิน เป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุด
ประเพณีของผู้ชาย ตั้งแต่ไหนมาเขาล้วนเห็นว่าวงการบันเทิงหญิงชายพวกนั้น
ล้วนอาศัยหน้าตา(ใบหน้า-สวย-หล่อ) เพื่อการยั่งชีพ
อาศัยช่วงวัยหนุ่มสาวเป็นเวทีไตร่เต้า
เมื่อวัยหนุ่มสาวผ่านพ้นไป(ร่วงโรย)
ก็จะเหมือนกับหมอก เมื่อแดดมาก็จะจางหายไป (ไม่ยั่งยืน)

แต่ถ้าอยู่วงการแสดง อาศัยฝีมือ
หากวงการศึกษาอาศัยสมอง
จะอยู่มั่นคงถาวรชั่วนิรันดร์ ....ขุมทรัพย์ที่ดี


โหย่วเผิงเคยบอกว่า บทบาทเดิมๆเบื่อแล้วน้ำเน่าเกินไปแล้ว
อยากค้นหาสิ่งใหม่ๆ และพร้อมที่จะท้าทายความเปลี่ยนแปลง

พูดถึงพ่อโหย่วเผิง โหย่วเผิงเคยบอกว่า "คุณพ่อหล่อมาก"
และคุณพ่อไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้นที่โหย่วเผิงจะเข้าสู่วงการบันเทิง

โหย่วเผิงตอนวัยเด็กได้ติดตามคุณพ่อออกไปนอกบ้าน
คนเห็นคนชม    แล้วมีคนมาเสนอบอกว่า
เด็กคนนี้เมื่อโตขึ้นสามารถไปร้องเพลงถ่ายหนังได้  มีพรสวรรค์เป็นอย่างดาราได้

คนรอบข้างชมเชยเมื่อพ่อซูได้ยินรู้สึกไม่พอใจเป็นพิเศษ
เขาทนไม่ได้ที่จะให้ลูกชายไปเป็น นักร้อง-ดารา
พวกขายหน้าตา พ่อซูไม่หวังให้ลูกชายเข้าวงการบันเทิง

สิ่งที่หวังหรือคาดหวังคือ อยากให้ลูกชายเรียนหนังสือเก่งๆ
สอบเข้ามหาวิทยาลัย จบมหาลัยไปเป็นทนายความหรือเป็นแพทย์
กับเด็กผู้ชายคนนี้เป็นคนมีเกียรติ สามารถมีเงินเดือนสูงๆได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นดารา

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2011, 04:26:57 PM »
พฤษภาคม ปี 1988    ส้งเหวินส้าน อยู่ช่องสถานีหัวซื่อไต้หวัน
ทำการเปิดรายการรวบรวมศิลปนักแสดงรายการหนึ่ง
 (ชิงชุนเจิงป้าจั้น)-การต่อสู้วัยหนุ่มสาว

จำต้องเพิ่มพิธีกรวัยรุ่น 3 ท่าน    จึงประกาศรับสมัครไปทั่ว 
ตั้งแต่เด็กรักการเต้น ร้องเพลงของซูโหย่วเผิงเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่คิดอยากพลาดโอกาสดีๆแบบนี้    แต่ใบรับสมัครมีข้อเงื่อนไขคือ
ผู้มาสมัครจำต้องได้รับความเห็นชมจากผู้ปกครองด้วย

ซูโหย่วเผิงคิดซ้ายแลขวา  ตัดสินใจขอให้คุณแม่ช่วย
แม่ซูรู้สึกว่า    ลูกก็โตแล้ว    จำต้องออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกบ้าง
ฝึกฝนสักพักหนึ่ง    แต่แม่ซูก็ไม่กล้าขัดใจพ่อซู 
จึงมีเงื่อนไขกฎเหล็ก 3 ข้อกับซูโหย่วเผิง

1. หากเข้าไปแล้วต้องตั้งใจเรียน
2. ห้ามมีผลกระทบต่อการเรียน
3. กลับบ้านตรงเวลา

ถ้าทำได้แบบนี้แม่ก็สามารถช่วยลูกปิดบังพ่อของลูกได้


จึงเป็นอย่างนี้    ซูโหย่วเผิงและเสี่ยวหู่อีก 2 ได้มีชื่อว่า ”เสี่ยวหู่ตุ้ย”
ไม่มีใครคาดคิดถึงได้    เสี่ยวหู่ตุ้ยกลับประสบความสำเร็จจึงโด่งดังไปทั่วทั้งเกาะ
หนังสือพิมพ์หน้าแรกคอลัมส์แรกถูกตีพิมพ์
รายการโทรทัศน์แพร่ข่าวอย่างคึกโครม    เหตุการณ์แบบนี้   
คิดอยากปิดบังพ่อซูอีกจึงไม่สามารถปิดบังได้

พ่อซูเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ สิ่งที่ไม่อยากเห็นของเขาได้เกิดขึ้นแล้ว
อาศัยใบหน้าหากินคุณรู้สึกว่ามีเกียรติไหม เขาดุซูโหย่วเผิง
อาชีพนี้คุณสามารถหากินได้นานแค่ไหน
การเผชิญหน้าถูกคุณพ่อดุ    ถึงแม้ในใจ ซูโหย่วเผิงจะกลัวต่อสิ่งที่คุณพ่อดุ
แต่ภายในยังแอบต่อต้าน..ผมไม่ได้พึ่งพิงหน้าตาหากิน...ทุกคนชอบเพลงของผม..นี่ก็คือพลังของผม


ไม้ได้แกะทำเป็นเรือแล้ว  จะให้กลับคืนมาเหมือนเดิมหมดเรี่ยวแรง
พ่อซูมีแต่ยอมถอยหนึ่งก้าว    ร้องเพลงสามารถร้องได้ 
การเรียนการบ้านไม่สามารถเสียได้ ยังมี  ต้องจดจำไว้
ผู้ชายอาศัยหน้าตาหากินน่าละอาย   สักวันหนึ่งคุณไม่โด่งดังแล้ว   
ท่านผู้ชมก็จะลืมคุณแล้ว    นี่ก็คือเป็นสิ่งที่ขายขี้หน้าของคุณที่สุด


วัยรุ่น 16-17 ปี    เลือดยังเร่าร้อน    ใจทระนงสูงส่ง
ซูโหย่วเผิงถูกคุณพ่อดุด่าก็ไม่ถือสา
ทุกคนล้วนต้องหันมาที่ตัวเองเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
เพียงแต่ว่า    ความเชื่อมั่นตัวเองคือสิ่งของอะไร

เมื่อเวลาวัยรุ่น    พวกเราย่อมเห็นว่าตัวเองมีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่มีแรงพลังมหาศาล
เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ง่ายพลิกฝ่ามือต่อมาจึงสะดุดล้มลง
ถึงพบตัวเองว่าแค่เป็นลุกบอลล์เท่านั้น    มีแต่ตัวเองคิดเอาเอง
แท้จริงแล้วไม่ใช่นกโผบินบนกลางอากาศ    กางปีกบินอย่างทระนงเสมือนแบกรับไม่รู้จักพอ

จากลูกบอลล์ถึงนกบิน  สมมุติเป็นม้าได้มาถึงทุ่งหญ้าสีเขียว
ไม่มีใครคาดรู้ถึงจำต้องวิ่งทรายเหลืองสักเท่าไร   
ก็เหมือนคันธนูหนึ่งคัน    ขณะก่อนจะยิงธนูทะลุ
ใครทราบได้ต้องเสียดสีความเจ็บปวดใช้เวลาเท่าไร
ธรรมดามีพลังกล้าหาญเท่าไร    ธรรมดาคนวัยรุ่นก็ไม่ทราบ
จากเสียงร้องไห้ได้ฟันฝ่าออกไป

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 10:46:38 AM »
ปี 1991    สาเหตุมาจากต้นเหตุต่างๆ    เสี่ยวหู่ตุ้ยจึงแถลงการณ์แยกย้ายกันไป

เมื่อทำนองเพลงยังไม่สิ้นสุด    คนจึงได้แยกย้ายกันไป   
เป็นสิ่งที่เสียดายของแฟนๆที่ทั้ง 3 คนต้องมาแยกจากกันไป
ซูโหย่วเผิงก็ได้รับปากกับคุณพ่อซูว่าจะกลับไปตั้งใจเรียนหนังสือ
ทำให้ฝันของคุณพ่อเป็นจริง เพราะตั้งแต่ต้นคุณพ่อก็ไม่อยากให้เข้ามาวงการบันเทิงอยู่แล้ว


PS. เสี่ยวหู่ตุ้ยอดีตเป็นนักร้องวัยรุ่นที่เคยดังที่สุดในไต้หวัน
ได้สร้างสถิติใหม่ของโลกและจีนมาแล้วมากมายหลายรายการ
ช่วงปี 80, 90 นั้นได้ดังระเบิดในแวดวงชาวจีนเป็นอย่างมาก
เหตุด้วยการที่จะต้องไปเกณฑ์ทหารและเรียน

ปลายปี 1991  พวกเขาได้ทำอัลบั้ม(ไจ้เจี้ยนลาก่อน:Goody-Bye)
เพื่อจะประกาศการแยกย้ายกันชั่วคราว
ตอนนั้นผ่านทางบทเพลงพวกเขายังให้คำมั่นสัญญากับแฟนๆว่า
”พรุ่งนี้พวกเรายังจะต้องพบกันใหม่ เสมือนเมฆขาวที่จางหายไปแค่ชั่วครู่”

ขอยกคำพูดพ่อซูมาค่ะ

เสียงต่อว่าของพ่อซูจึงดังขึ้นอีก น้ำครำของวงการบันเทิงเดิมแท้จึงไม่ควรไปเหยียบย่าง
พูดถึงที่สุดแค่ข้าวรับประทานตอนวัยหนุ่มสาวได้แค่ชามเดียวเท่านั้น 
ชื่อเสียงถึงแม้ได้มาเร็วแต่หล่นลงก็เร็ว  าราอะไร ใช้คำพูดโบราณกล่าวก็คือหนังงิ้วนั่นเอง
หนังงิ้ว คือชาวบ้านเด็กคนจนเมื่อไม่มีหนทางไปจำยอมที่จะกระทำอย่างนี้ เกาหัวแสดงท่าทาง
อาศัยใบหน้าหากิน    ได้ถูกผู้คนหัวเราะเยาะ    วงเสี่ยวหู่ตุ้ยได้แยกย้ายทั้งไม่ใช่เป็นเรื่องเสียหาย
คุณสามารถมีเวลามากกว่าไปเล่าเรียนให้ดีๆ


ไม่มีทางอื่น  ซูโหย่วเผิงได้หวนกลับมามหาวิทยาลัยไต้หวันอีก
แต่ว่เกี่ยวกับก่อนหน้านั้นได้เรียนคณะวิศวกรรมจักรกลของเขาไม่มีความชอบเลย
เขาได้แอบย้ายไปเรียนคณะบริหารธุรกิจ สิ่งที่เขาคิดอยากเปลี่ยนจากวิศวะมาเป็นบริหารได้ลือกันไปทั่ว
โดนทางบริษัทต่อต้าน เมื่อถูกสังคมวิจารณ์ชั่วขณะมันเหมือนโดยควันไฟพุ่งขึ้นไปทั่ว
อุปสรรคต่างๆนานาลุมล้อมเข้ามาหลายต่อหลายรอบ   
การเปลี่ยนไปเรียนอีกสาขาหนึ่งในที่สุดไม่ได้สมความปรารถนา
ด้วยแรงกดดัน-แรงเสียดทานหลายๆอย่าง
จึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งในตอนนั้นเรียนไปได้ ปีที่ 3 แล้ว


ps. ที่ย้ายคณะไม่ได้อีกประการหน้าจะเป็นโหย่วเผิงเรียนคณะวิศวะจะจบอยู่แล้ว
แต่ว่าหากย้ายคณะก็ต้องกลับไปเก็บวิชาอื่นๆ ซึ่งจะต้องใช้เวลาเรียนต่ออีกประมาณ 3 ปี

ก็ระหว่างเวลานี้    ในบ้านซูโหย่วเผิงมีเรื่องเหตุการณ์เกิดขึ้น    ซื้อบ้าน   
เงินบ้านก้อนโตต้องชำระคืน    คุณแม่อยู่เขตพื้นที่ห่างไกลจากโรงเรียนเพื่อทำหน้าที่เป็นครู
ทุกวันขับรถมอเตอร์ไซด์เจอทั้งลมทั้งฝน   ซูโหย่วเผิงปวดใจแทนแม่
กัดฟันสู้ทนเพื่อซื้อรถใหม่ให้แม่    ตัวเองเช่าหอพักก็มีค่าใช้จ่าย
เดือนหนึ่งต้องใช้จ่ายเงินไต้หวัน 2 แสนหยวน   หลังจากเสี่ยวหู่ตุ้ยได้แยกย้ายกันแล้ว
รายได้ของเขาจึงลดฮวบลง    บัญชีเงินฝากในธนาคารคงเหลือ 7 หมื่นหยวน
นี่ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะหามาจ่ายชำระได้ ซูโหย่วเผิงตัดสินใจหยุดการเรียน
ได้เข้ามาสู่วงการบันเทิงอีก    เพื่อดิ้นรนหาเงิน

ข่าวร้ายย่อมลือแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว    ซูโหย่วเผิงได้หยุดเรียน
เวลาอันดับแรกได้พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ไต้หวันทุกฉบับ
หนังสือพิมพ์หลายฉบับกล่าวไว้ว่าก่อนหน้านั้นซูโหย่วเผิง ”เป็นคนชอบเที่ยวแล้วชอบเรียนหนังสือ”
ลักษณะของไกวๆหู่ซึ่งถูกหล่อหลมออกมา-เป็นฉากแสดงชนิดหนึ่ง แท้จริงแล้วเขาทำไม่ได้
เขาไม่ใช่คนเก่งจริง เป็นการปั้นแต่งของบริษัทก็เท่านั่น ข่าวโจมตีอย่างสนุกสนาน
เสียงด่าทอถูกพาดหัวข่าว...เป็นเรื่องธรรมดาภาพลักษณ์ของซูโหย่วเผิง
ถูกผู้คนซ้ำเติบจนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน
ซูโหย่วเผิงเหมือนดิ่งลงสู่ก้นเหวลึก

เหตุการณ์นี้  หลังจากเขาได้ออกอัลบั้มเพลงหลายๆอัลบั้ม
ยอดขายไม่ได้รับการตอบรับอย่างที่ควร
ชีวิตปกติครั้งแรกซูโหย่วเผิงได้ชิมรสแล้ว(ไม่เหมือนตอนอยู่เสี่ยวหู้ตุ้ยแล้ว)
ถึ่งแม้ตอนนี้ได้รับเสียงปรบมือ-ปลอบใจดังกึกก้องอย่างมีเกียรติ
แต่ก็ยังสู่เสียงสาปแช่งด่าทออย่างรุนแรง เป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิต
ซึ่งนำพาความปวดร้าวใจมาให้...

(ถึงว่าโหย่วเผิงอยากจะสลัดคราบไกวๆๆหู่ออกไปจากตัวเอง)

ตอนนี้เขาอยากจะใช้เวลาที่มีเป็นช่วงเวลาของตัวเอง ...เวลาของเสี่ยวไกวสิ้นสุดแล้ว
ใช้ช่วงเวลาเงียบสงบพิจารณาทบทวน ไตร่ตรองกับสิ่งที่เกิดขึ้น


Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 04:26:29 PM »
ไปเห็นบทความนี้มาค่ะ
http://blog.eduzones.com/pilot/1815

ซูโหย่วเผิง พระเอกหนุ่มจากไต้หวันที่หลังๆ ไปรับงานที่เมืองจีนเป็นหลัก แต่ในระยะหลังๆ จู่ๆ ข่าวคราวเงียบหายไป จะมีปรากฏบ้างก็ตามงานโชว์ตัวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อเร็วๆ นี้เขาก็ได้ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองเปิดกิจการรองเท้ายี่ห้อหนึ่งในเมืองจีนครบรอบ 10 ปี พร้อมทั้งได้เปิดเผยถึงแผนงานในปีหน้าจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เพราะเขาเบื่อหน่ายกับเนื้อหาละครโทรทัศน์ที่มีแต่รักๆ ใคร่ๆ เต็มที ''ผมพักไปนานเกือบปี ทำให้รู้สึกได้มีเวลาคิดทบทวนอะไรมากมายทำให้เกิดความคิดว่าอยากทำงานอะไรใหม่ๆ กับงานแสดง''

เมื่อถามถึงงานเพลง ซูโหย่วเผิง เผยว่า ''อัลบั้มเพลงกำลังดำเนินงานอยู่ แต่จะออกวางแผงวันไหนตอนนี้ยังไม่สามารถกำหหนดได้'' ถึงแม้กำหนดวางแผงอัลบั้มยังไม่แน่นอน งานละครก็ไม่มีโครงการใหม่ ถึงกระนั้นซูโหย่วเผิง ก็ไม่รู้สึกกังวลว่าเขาอาจจะถูกลืมเลือนไปจากวงการบันเทิง ''ผมอยู่ในวงการนี้มาหลายปี แล้วตอนนี้ก็อายุเกิน 30 แล้วไม่คิดอยากแสดงละครวัยรุ่นอีก แต่ผมสนใจในงานภาพยนตร์มากกว่า''

เขายังบอกอีกว่าอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายสิบปี มีประสบการณ์มากมาย ''เพราะอย่างนี้จึงทำให้ผมตั้งเป้าหมายในการแสดง นับวันยิ่งสูง บอกตามตรง ผมเริ่มเบื่อหน่ายกับการแสดงละครทีวีแล้ว ในปีหน้าผมอยากมีโอกาสได้เดินเส้นทางสายภาพยนตร์บ้าง ผมอยากลองแสดงบทที่มีช่วงวัยที่กว้างเพื่อจะได้แสดงอารมณ์ลึกๆ บ้าง ให้ผู้ชมเห็นว่าผมไม่ได้เป็นเพียง ''หนุ่มน้อย'' คนหนึ่ง แต่ผมยังสามารถเปลี่ยนเป็น ''คนแก่''ได้ด้วย''



Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 05:23:53 PM »
ปี 1995    ซูโหย่วเผิงไปเรียนต่อที่กรุงลอนดอน
อยู่ต่างประเทศ    ไม่มีใครทราบเขาเคยเป็นใคร
ไม่มีล้อมซ้ายล้อมขวาอยู่ต่อหน้าขอลายเซ็นต์ ไม่มีสายตาจับจ้อง

เขาสามารถทบทวนวันเวลาที่ผ่านมาได้อย่างเงียบๆ
สามารถชัดเจนต่ออนาคตของตัวเอง

มีคนบอกว่าซูโหย่วเผิงปล่อยโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตผ่านลอยไป
ไม่เรียนหนังสือ ไม่นึกถึงอนาคตของตัวเอง ไม่คำนึงถึงแฟนๆที่เชียร์เขา
เขาได้ปล่อยโอกาสแบบนี้ไปอย่างหน้าเสียดาย

แต่ซูโหย่วเผิงกลับไม่มีความเสียดาย...ในชีวิตของทุกคน
ล้วนสามารถมีทางเลือกหลายอย่าง
ทางเลือกของเขาอยู่บนเวทีเพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง 
เขาได้ซ้อนความดิบๆเถื่อนๆไว้ (ซึ่งผ่านมาคนอื่นๆยังไม่เคยเห็น)
พร้อมที่จะระเบิดเวลาเหล่านั้นให้ผู้คนตกใจ

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 06:20:59 PM »
เมื่อศึกษาต่อต่างประเทศกลับมา ...เขาได้เล่นละครทีวีบ้าง
ละครที่ทำให้เขามีชื่อเสียงอีกครั้งคือเรื่ององค์หญิงกำมะลอ ปี 1997-1998
ละครเรื่องนี้ทำให้เขาทำลายสถิติเดิม
ก้าวจากนักร้องขวัญใจเข้าไปสู่วงการจอแก้ว-TV-Series อย่างเป็นทางการ

1998 เราสองหัวใจเดียวกัน
1999 เดชเซียวฮื่อยี้
2000 เรื่องมนต์รักในสายฝน
2002 ดาบมังกรหยก
2004 รักข้ามขอบฟ้า

เล่นละครจอทีวีเรื่องแล้วเรื่องเล่า
ซูโหย่วเผิงยังคงได้รับบทบาท-พระเอก แสนดี ขี้ม้าขาว เป็นที่ฝันใฝ่ของสาวๆ
แต่ว่าบทบาทแบบนี้เริ่มเบื่อหน่าย เริ่มเอียนแล้ว บทบาทที่เคยๆเล่นมันช่างสมบูรณ์เหลือเกิน

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่โหย่วเผิงเล่นดาบมังกรหยก มีคนโพสต์ที่เว็บไซด์ว่า
องค์ชายห้า ท่านเดินผิดที่ผิดฉากแล้ว คำพูดนี้ทิ้งไว้ให้ซูโหย่วเผิงมีแรงกระตุ้ง อย่างมาก

ไม่กี่ปีนี้ เขาได้ลิ้มชิมรสชาติของความโด่งดังแต่บทบาทเก่าๆเดิมๆ
แบบนี้ก็ถือว่าเป็นได้เป็นนักแสดงที่ดีแล้วหรือ เขายังต้องการให้คนที่ชอบเขา
มองเขาเป็นนักแสดงที่ไม่ยอมเติบโตแบบนั้นหรือ  เขายินดีให้ท่านผู้ชมเอ่ยปากชม
จดจำภาพลักษณ์แบบเดียวกัน หรือแม้กระทั่งการแสดงอารมณ์ก็เหมือนกัน
โดยที่ไม่ก้าวข้ามผ่านมันไป แบบนี้ยังถือว่าเป็น "นักแสดงที่ดีหรือ"

ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค มีคนวิจารณ์ว่า ซูโหย่วเผิงเป็นไม้ประดับบ้างหละ
ซูโหย่วเผิงเหมือนกับแจกันดอกไม้...  แจกันดอกไม้-มีแต่การโชว์หน้าตา
โหย่วเผิงเห็นแบบนี้มันเหมือนกับเป็นคำด่าอย่างรุนแรงที่สุด

ต่อมาเขาเริ่มทบทวนบทบาทต่างๆที่ตัวเองเล่นผ่านๆมา
ว่ามันเป็นจริงอย่างที่คนวิพากษ์วิจารณ์มั้ย ถ้าเป็นจริงเขาควรที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างองอาจ

ผู้จัดเก่งๆ หรือผู้กำกับต่างๆ ต่างก็ยื่นบทบาทจากบทประพันธ์ดังๆให้โหย่วเผิงพิจารณา
แต่อ่านไดอะล็อกแล้วก็ยังไม่แตกต่างจากที่เคยเล่นผ่านๆมา


โหย่วเผิงถามคุณพ่อว่า

ผมพึ่งพาใบหน้าหากินจริงๆหรือ 
พ่อซูถึงกับอึ้ง...นี่คือซูโหย่วเผิงเป็นผู้ถามเองครั้งแรก
ได้เอ่ยคำพูดนี้ขึ้นว่า “อาศัยใบหน้าหากิน”

พ่อลูกทั้งสองเริ่มสนทนาพูดคุยเป็นเวลาอันยาวนาน
เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผู้ชายอาศัยหน้าตาทำมาหากิน ซึ่งเกี่ยวกับฝึมือการแสดงเป็นเช่นใด

หลังจากที่ซูโหย่วเผิงได้คุยกับคุณพ่อซู
โหย่วเผิงก็ใช้เวลาทบทวนที่ผ่านๆมา และปฏิเสธซีรีย์ต่างๆที่เสนอเข้า
ถ้าหากเป็นบทละครที่แตกต่างจากบทเดิมก็จะพิจารณาตอบกลับไป
แต่ถ้ายังเป็นบทเดิมๆที่เคยเล่นก็จะปฏิเสธทันที

ช่วงปี 2006-2007 เป็นช่วงอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ไม่ได้รับการแสดงอะไรมากนักนอกจากออกงาน ฟีแลนด์ ต่างๆ

เขาอาศัยช่วงเวลานี้อ่านหนังสือ เดินทางท่องเที่ยว ทำงานกุศล
ฝึกฝนตัวเองอย่างสงบ เขาต้องการเพิ่มเติมตัวเองให้สมบูรณ์
เขารู้ว่า นักแสดงที่ดีคนหนึ่ง ถ้าอยากแสดงในส่วนที่ตัวเองมีส่วนร่วมบ้าง
ก่อนอื่นต้องมีส่วนของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นเทน้ำ
ถ้าหากอยากเทน้ำหนึ่งกะบวยน้ำเต้า บ้านตัวเองต้องมีถังน้ำถึงจะดี


ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้เป็นนักแสดงที่แท้จริง


Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 06:40:36 PM »
ปี 2006 ซูโหย่วเผิงเซ็นต์สัญญากับบริษัทหัวอี้
มีทีมงานเป็นของตัวเองแน่นอนความรับผิดชอบก็มากยิ่งขึ้น
ไม่ใช่ทำงานเพียงลำพัง แต่การทำงานเป็นทีมเวิร์ค
หากล้มเหลวหรือสำเร็จ ไม่ได้เสียหายแค่ตัวเขาเอง
แต่มันหมายถึงทุกคนทั้งทีมงาน
กล่าวคือเมื่อรุ่งก็รุ่งทั้งหมด เมื่อเสียหายก็เสียหายทั้งหมด

ดังนั้นการจะตัดสินใจทำงาน หรือรับงานอะไรแต่ละอย่าง
ต้องเป็นไปตามขั้นตอน และพิจารณาอย่างมีสติ

ช่วงอยู่ในปี 2006 เขาแสดงละครเวที (จวี๋ฮัวเซียง)หอมกลิ่นดอกเบญจมาศ
เพื่อชดเชยที่ตัวเองไม่ได้เล่นละครทีวี และเพื่อให้ตัวเองก้าวมารับประสบการณ์ใหม่ๆ
เขาจึงต้องทดสอบหลายๆด้าน ต้องการให้ผู้ชมมองเห็นว่าการแสดงหลายๆด้านของเขา
สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง(พลิกคว่ำตัวเอง) นี่คือสิ่งที่เขาต้องทำ


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2011, 10:41:09 AM »
http://www.baansuyoupeng.com/webboard/index.php?topic=884.0

เสริมจาก
SCOOP & SPECIAL


ละครโทรทัศน์จบสิ้นลง ล้วนได้รับการยอมรับจากมหาชนซึ่งล้วนเอ่ยปากชื่นชมสุดๆ
ทำให้คนติดภาพพจน์ที่ดีมาโดยตลอด แล้วซูโหย่วเผิง
อยู่ในปี 2006 ได้ยกเลิกสัญญาละครหลายสิบเรื่อง เพื่อเดินตามฝัน
โดยการกระโดดมารับเล่นละครเวทีครั้งแรกในชีวิต  “หอมกลิ่นดอกเบญจมาศ”

โลดเล่นกับบทละครเวที 7 วัน 7 คืน (7-14 กรกฏาคม) แสดง 7 รอบ
ทุกรอบเต็มหมด พร้อมกับทำลายสถิติประวัติศาสตร์การแสดงโรงละครใหญ่เหม่ยฉี

ถึงแม้ปี 2005 โหย่วเผิงหยุดพักการแสดงทางจอโทรทัศน์
ทำให้คนนึกว่าซูโหย่วเผิงได้หายไปจากวงการแล้ว แต่การทุ่มเทให้กับ
ละครเวที เป็นอีกประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 01:50:38 PM »
ปี 2009  ภาพยนต์ The Message   ออกฉาย    กลุ่มผู้ชมต่างตกตะลึง อึ่ง ทึ่ง
ไม่มีใครทราบว่าไป๋เสี่ยวเหนียนจะเต็มเปรี่ยมไปด้วยบรรยากาศความชั่วร้าย
แต่ไหนแต่ไรมาการเป็นไกวๆหู่ ทุกคนรู้จักคือน่ารัก เด็กดี เชื่อฟัง หนอนหนังสือ

การแสดงของโหย่วเผิงทำให้ผู้คนยากที่จะลืมได้
ทำให้แฟนๆที่เชียร์เขาตกตะลึงใจมากมาย
ก่อนนั้นเขาแสดงแต่บทบาทดาราขวัญใจ แบบอย่างความอ่อนโยน
แต่ครั้งนี้โหย่วเผิงอยู่ใน ภาพยนตร์เรื่อง The Message  ได้ผลิกโผเกิดความคาดหมาย
เปลี่ยนไปหมดราวฟ้ากับดิน เกินกว่าแฟนๆคาดคิดเอาไว้

ใช่แล้ว......โหย่วเผิงไม่ใช่ไกวๆหู่แล้ว เขาเป็นนักแสดงคนหนึ่ง
แน่นอนเสียงวิจารณ์ด้านไม่ดีก็มีเยอะ บอกว่าเขาดูนิ่มนวลเกินไปเหมือนกระเทย

(อ้าวก็เล่นเป็นกระเทยนี้หว่า)

ดังนั้นซูโหย่วเผิงได้แต่ยิ้มเรียบๆ และกล่าวอย่างนอบน้อมว่า


"ผมเป็นนักแสดง นักแสดงมีหน้าที่รับผิดชอบแสดงบทบาทของตัวเองให้ดี"


Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 02:32:01 PM »
ปีขาล 2010 ในชุนหวั่น—ราตรีฤดูใบไม้ผลิ เสี่ยวหู้ตุ้ยได้รวมตัวกันอีกครั้ง
แน่นอนมันมีทั้งข่าวดีและข่าวไม่ดีออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อพิพาดระหว่าง โจเจี๋ย
ข่าวมั่นไส้ ข่าวทำลาย ต่างๆออกมาพร้อมกับข่าวดี ที่ 3 คนได้กลับมารวมตัวกัน
ทำให้แฟนๆได้หวนระลึกถึง

“เอ่อคาง” โจวเจี๋ย เรื่องนี้ช่วงนั้น ไป๋ตู เดือดเป็นไฟค่ะ

ปี 1988 ถึง ปัจจุบันโหย่วเผิงมักจะมีข่าวดีข่าวร้ายเสมอๆ
นับว่าเป็นเรื่องปกติ ที่จะมีทั้งคนรักและคนเกลียด

"โหย่วเผิงบอกว่าอยู่วงการมานาน ตัวเองทำอะไรย่อมรู้ดี
เขาไม่เกลียดเสียงด่า ตำหนิ พูดได้ว่าเขาเคยชินกับเสียงด่าแล้ว

เขาเชื่อว่าคำตำหนิ ไม่ผิดหลอกที่จะเสียใจ
แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องดี ถ้าเราจะจมลงไปกับความเศร้า
ที่มาจากคำตำหนิของผู้อื่น

ลองพิจารณาดูสักนิด ในบางแง่มุม
คำต่อว่าก็เป็นเหมือนเป็นขุมทรัพย์ เป็นสมบัติล้ำค่ำ
ที่คอยตักเตือนเราว่าเรามีตำหนิหรือข้อเสียตรงไหน
และเราต้องปรับตรงไหน

เสียงด่าทำให้เขาตื่นอย่างมีสติ  เพื่อให้เล็งเป้าไปในทิศทาง
การเติบใหญ่    ยิ่งแข็งแกร่ง   

คำตำหนิ หรือคำต่อว่ามีพลัง ถ้านำมาใช้ให้ถูกวิธี
สามารถปรับเปลี่ยนความเศร้ามาเป็นพลังในการพัฒนาตนเอง"

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 02:46:54 PM »
ค่ะจะทุกข์หรือสุขอยู่ที่เราเป็นผู้กำหนด
ท้อแท้ได้แต่ไม่ท้อถอย...
ไม่มีเรื่องใดที่แก้ไขไม่ได้...
ขอเพียงให้กำลังใจกับดัวเอง...


หลังจากโหย่วเผิงได้โลดโผนโจนทะยาน
เข้าสู่วงการภาพยนตร์ จะใช้ความสามารถ ไม่อาศัยหน้าตาอีก
ทุ่มเทสุดกำลัง สั่งสมวันเวลา และรอโอกาสที่ดีเข้ามา

เขาไม่ใช้ก้าวเดินเส้นทางไกวๆหู่
หรืออาศัยใบหน้าการเป็นพระเอกหากินอย่างนั้นอีก

ถึงแม้จะยังคงเรียกคำว่า "นักแสดงมืออาชีพไม่ได้"
แต่ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
วันเวลาจากหนุ่มน้อย ค่อยๆเติบโตมาเป็นหนุ่มใหญ่
ค่อยๆก้าวเดินไปไกล


และพร้อมที่จะให้คนยอมรับในวงการแผ่นฟิล์ม
ด้วยคำว่า "นักแสดงมืออาชีพ" อย่างภาคภูมิใจ


ขอเป็นกำลังใจให้โหย่วเผิง ยิ่งเดิน ยิ่งราบรื่นค่ะ

"บทเรียนชีวิตที่ดีที่สุด
ล้วนได้มาจากความผิดพลาดล้มเหลวของตนเอง
ความโง่เขลาเบาปัญญาและความผิดพลาดในอดีต
จะกลายเป็นสติปัญญา และความสำเร็จในอนาคต"


the end

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2011, 02:59:17 PM »
ต้องบอกว่า suyoupeng ไม่ใช่ดาราอีกต่อไป
แต่กำลังจะก้าวไปสู่ นักแสดงมืออาชีพ จ้า

1988 เป็นนักร้องชาวไต้หวัน
เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 15-16 ปี....

มาวันนี้

แต่ละเรื่องผมเปลี่ยนคาแรคเตอร์ตลอด
เด๋วไว้ผมยาว  เด๋วตัดผมสั้น  เด๋วก็หน้าดุ
เด๋วก็แบบเป็นผมปกติ  แต่ละเรื่องจะต่างกันมาก

ทุกวันนี้ผมไม่คิดว่าผมเป็นนักแสดงผมคิดว่า
ผมยังเป็นนักเรียนที่เรียนการแสดงอยู่


จ้าเชื่อ เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
เป็นนักแสดงที่ไม่ได้จบมาจากโรงเรียนสอนการแสดง
เราห็นดาราส่วนใหญ่ที่จีน ไม่ว่าจะเจ้าเหว่ย หานเสวี่ย หรือน้องหนูหลี่
ต่างก็จบโรงเรียนสอนการแสดงมาทั้งสิ้น

สำหรับ โหย่วเผิงแล้ว ไปคนละเรื่องเลยค่ะ
นั้นไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคนขยัน มั่นเพียร หรอกจ๊ะ
ของแบบนี้เรียนรู้ได้ และเพิ่มความสนใจเข้าไป
เสาะหาความก้าวหน้าให้กับตัวเอง เท่านี้ก็สุดยอด
กับคำว่า "นักแสดงมืออาชีพ "แล้วค่ะ


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 04, 2011, 04:46:46 AM »
วันนี้ได้อ่านจิงๆจังๆสักที ซาบซึ้งตรึงใจจังค่ะ
พี่หมิงเรียบเรียงได้ประทับใจมากกกกกกกกกก


อ้างถึง

"โหย่วเผิงบอกว่าอยู่วงการมานาน ตัวเองทำอะไรย่อมรู้ดี
เขาไม่เกลียดเสียงด่า ตำหนิ พูดได้ว่าเขาเคยชินกับเสียงด่าแล้ว

เขาเชื่อว่าคำตำหนิ ไม่ผิดหลอกที่จะเสียใจ
แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องดี ถ้าเราจะจมลงไปกับความเศร้า
ที่มาจากคำตำหนิของผู้อื่น"



ประโยคข้างบนคิดถึงคำพูดของ (เอินฉี) 555555 ตอนนี้ (พี่หมิง) พูดอะไร
ป๊อปก็นึกถึงละครที่โหย่วเผิงเล่นทุกเรื่องเลย
ก้อมันเข้ากับบทความที่เขียนนี้น่าเน๊อะ

(เอินฉี) เคยพูดประโยคนึง เกี่ยวกับการโศกเศร้าค่ะ
ตอนนั้น แฟนสาว-กวนเสี่ยวถง ได้รับมรสุม โดนข่าวโจมตีสาระพัด
เพื่อไม่ให้แฟนสาวท้อแท้ สิ้นหวัง เอินฉีกับเสี่ยวถง ต่างจูงมือกันผ่านช่วงวิกฤตในขณะนั้น


ชอบที่เอินฉีพูดว่า

"ความโศกเศร้ากลายเป็นพลัง
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะเสียใจ
ผมจะใช้เวลาอันสั้นสร้างผลงานออกมา
ให้คนที่ผมรักที่สุด มีที่พึ่งพาที่ปลอดภัย
นี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด"


ซาบซึ้งใจค่ะ จากบทความ
โหย่วเผิงก็เคยผ่านช่วงวิกฤตชีวิตมาแล้ว
ชีวิตคนเหมือนละคร มองดูละครเหมือนย้อนดูตัว
คำพูดนี้คงจะไม่ผิด