ค่ำคืนนี้ ซูโหย่วเผิงปรากฏตัวบนพรมแดงงานประกาศรางวัลม้าทองคำในฐานะผู้กำกับ โจ่วเอ่อ ผลงานการกำกับของเขามีกระแสตอบรับที่ดีมากในประเทศจีนด้วยยอดจำหน่ายตั๋วกว่าสองพันห้าร้อยล้านดอลล่าร์ไต้หวันใหม่ วันนี้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาคอยการปรากฏตัวของเขาที่หน้าโรงละคร เขาได้เข้ารอบชิงรางวัลม้าทองคำสาขาผู้กำกับมือใหม่ยอดเยี่ยมจากผลงานชิ้นนี้ นับว่าเป็นการรับประกันการเปลี่ยนแปลงของเขาว่าได้ทำผลงานที่ดีเยี่ยมออกมา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีบริษัทภาพยนตร์อีก 7 แห่งมาเสนอให้เขาเป็นผู้กำกับ
เขาเผยว่าผลงานชิ้นใหม่จะเป็นบทประพันธ์จากปลายปากกาของ (ฮิงาชิโนะ เคโงะ)นักเขียนนวนิยายชาวญี่ปุ่นเรื่อง เสียนอี๋เหริน x เตอเซี่ยนเซิน (嫌疑人X的献身-ความทุ่มเทของผู้ต้องสงสัย x ) ซึ่งก็เป็นผลงานชิ้นแรกของ(ฮิงาชิโนะ เคโงะ) ที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ในหลายประเทศ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นเขียนบท คาดว่าจะเปิดกล้องก่อนเทศกาลตรุษจีน เขาบอกว่าตอนที่ถ่ายโจ่วเอ่อมีการตกลงกันกับหวงจื้อหมิง (黄志明) ที่เป็นโปรดิวเซอร์ เรื่องใหม่นี้ก็ยังคงร่วมมือกับเขาเช่นเดิม----------------------------------------------------------------
ซูโหย่วเผิงรอผลประกาศรางวัลด้วยความสงบ ปราศจากเครื่องรางใดๆ
ซูโหย่วเผิงนำโจ่วเอ่อผลงานชิ้นแรกเข้ารอบชิงรางวัลม้าทองคำสาขาผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยมครั้งที่ 52 เพื่อเผชิญหน้ากับงานม้าทองคำที่จะจัดขึ้นในวันมะรืนนี้ เขาที่ค่อนข้างไม่สนใจความล้มเหลว เผยว่า "ผมเป็นนักแสดงมานานแล้ว ก็มองทุกอย่างด้วยความราบเรียบแล้ว โดยเฉพาะหลังจากศึกษาคำสอนของพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ยิ่งไม่มีความกลัวความล้มเหลวเลย" ซึ่งก็ไม่ได้เตรียมพกเครื่องรางอะไรเป็นพิเศษในงานวันนั้น จะได้รางวัลหรือไม่นั้นล้วนขึ้นอยู่กับกรรมการ
สำหรับการเข้ารอบชิงม้าทองคำโดยไม่ได้อาศัยฐานะนักแสดงเป็นครั้งแรกนั้น ทำให้ซูโหย่วเผิงรู้สึกค่อนข้างแปลก และการที่โจ่วเอ่อได้รับการตอบรับที่ดียิ่งในแผ่นดินใหญ่ด้วยยอดจำหน่ายตั๋วกว่าสองพันห้าร้อยล้านดอลล่าร์ไต้หวัน เขาบอกอย่างตรงไปตรงมา การพูดถึงและยอดจำหน่ายตั๋วเป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด แต่เขาก็ถอนหายใจเผย "น่าเสียดายมากที่โจ่วเอ่อไม่มีโอกาสได้ฉายที่ไต้หวัน"
ด้วยเป็นครั้งแรกที่ซูโหย่วเผิงเป็นผู้กำกับด้วยตัวเอง ก็เคยรู้สึกเหนื่อยล้า และเคร่งเครียดด้วยเช่นกัน "แต่ผลที่ออกมาก็ทำให้ผู้คนพึงพอใจ" เขาก็บอกอย่างถ่อมตัวว่า "ถ้าดูจากสถานะในตอนนี้ของผมแล้ว ก็ไม่น่าจะออกมาดียิ่งกว่านี้ได้แล้ว"