2002 ซูโหย่วเผิง หาแฟนให้ผมทีเถอะ !!!

[prattana]

2002 ซูโหย่วเผิง หาแฟนให้ผมทีเถอะ !!!

[prattana]

ซูโหย่วเผิง หาแฟนให้ผมทีเถอะ...

ทุกคนก็ต้องมีวันเกิดกันในทุกๆ ปีแล้วแต่ว่าใครจะจัดการอะไรในวันเกิดของตัวเอง แต่สำหรับขวัญใจของพวกเรา"ซูโหย่วเผิง"นั้นเขาก็มีของขวัญที่อยากจะให้กับตัวเขาเองในวันเกิดปีนี้ของเขาด้วย เราก็เลยมาเจาะลึกกันถึงเรื่องนี้กับเขาเลย

คุณไปฉลองวันเกิดปีนี้ที่ไหนหรือคะ

ปีนี้ผมมีงานต่อเนื่องเลยแต่ก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ที่ยังไม่ลืมวันเกิดของผมนะ ทุกคนน่ารักมาก ก่อนวันเกิดของผม 1 วัน พวกเขามาหาผมที่ฮ่องกง แล้วก็ร่วมฉลองวันเกิดกับผม จะว่าไปแล้วผมเองก็ไม่คิดว่าทุกคนจะดีกับผมมากขนาดนี้ เราก็เลยเล่นเกมส์ด้วยกันแล้วก็พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกัน

แล้วมากันเยอะไหม

ไม่รู้นะ แต่ผมมองๆ แล้วมากกว่า 500 คนแน่ๆ เพราะงานนี้จัดที่ออฟฟิศของผมเอง เรียกว่าแน่นห้องไปเลย(หัวเราะ)

ของขวัญที่อยากให้กับตัวเองคืออะไร

คงจะเป็นผู้หญิงที่ผมรักสักคนมั้ง(หัวเราะ)...ผมเองก็ห่างจากวงการไปถึง 5 ปี พอกลับมาทีก็มัวแต่ทำงานจนลืมไปเลยว่าเรากำลังลืมอะไรไปหรือเปล่า แต่ไม่ใช่ว่าผมปิดตัวเองนะเพราะจริงๆ แล้วผมเคยรักผู้หญิงอยู่คนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่ใช่เจ้าเหวยหรอกนะ อย่าเข้าใจผิดครับ(ยิ้ม)แต่สุดท้ายมันก็ไปด้วยกันไม่ได้

เมื่อหลายปีก่อนคุณเคยพูดอำลาแฟนเพลงบนเวทีคอนเสิร์ตของวง"เสี่ยวหูตุ้ย"มาแล้ว พอกลับมาทำงานเพลงอีกครั้งรู้สึกอย่างไรบ้าง

ที่ผมกลับมาได้อีกครั้งก็เพราะงานละครเรื่อง"องค์หญิงกำมะลอ"ไม่ใช่จากงานเพลง เพราะหลังจากผมกลับมาทำงานตรงนี้อีกครั้งทางค่ายเพลงถึงค่อยมาติดต่อผมให้มาร้องเพลงอีก ผมรู้ว่ามีแฟนเพลงจำนวนหนึ่งที่รอให้ผมกลับมาร้องเพลงอีก คุณคงไม่คิดว่าผมเข้าข้างตัวเองหรอกนะ แต่เพราะว่าแฟนเพลงกลุ่มนี้เขาจะคอยติดตามข่าวผมเสมอๆ ไปให้กำลังใจผมเรื่อยๆ บางคนก็ส่งจดหมายไปให้ถึงที่บ้าน ที่ทำงานเดิมของผมแล้วที่นั่นก็ช่วยส่งต่อมาให้ผมอีกที ทำให้ผมรู้สึกซึ้งในน้ำใจของแฟนๆ ทุกคนนะครับ ตอนนี้ผมก็มีอัลบั้มใหม่"Not only deep sentiment" ชื่อเดิมก็คือ  "Deep sentiment"  แต่ผมไม่คิดว่านั่นเป็นตัวตนจริงๆ ทั้งหมดของผมที่สื่อออกมานะ

ทำใมชุดนี้จึงมีแนวดนตรีหลากหลายกว่าที่คุณเคยทำมานะ

ในชุดนี้ก็จะมีแนวร็อค บัลลาส และอื่นๆ ปนๆ กันอยู่ เรียกว่ามีความหลากหลายของแนวเพลงให้คนฟังได้ฟังกันเกือบครบเลยและเป็นครั้งแรกที่ผมทำงานกับค่ายเพลงของหลิวเต๋อหัว ตอนนี้ผมเองก็อายุ 28 ปีแล้วเรียกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว งานเพลงที่ทำอยู่ก็เลยจะแตกต่างจากสมัยที่ผมยังอายุ 15 ในตอนที่ยังเป็นวงเสี่ยวหูตุ้ยอยู่นะ

[prattana]

คอนเซ็ปท์ของชุดนี้เป็นอย่างไร

ดนตรีและทำนองจะเน้นที่ความรู้สึกลึกๆ และความคิดลึกๆ ที่ผมมีอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้

งานเพลง งานหนังและงานละครคุณคิดว่าตัวเองเหมาะกับงานไหนที่สุด

ผมทำงานทั้ง 3 อย่างมาโดยตลอดเพียงแต่ขึ้นกับช่วงเวลาว่าจะทำงานไหนก่อนหรือหลัง ผมคิดว่าการแสดงของผมนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึกโดยตรง เพราะเราต้องเล่นด้วยความตั้งใจพร้อม ใส่ความรู้สึกของเราลงไปด้วย งานถึงจะเวิร์ค แต่งานเพลงนั้นก็ไม่เลวนะ ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันระหว่างงานทั้งสองอย่างก็เป็นสิ่งที่พูดยาก

คุณชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้มชุดนี้

ก็ต้องเป็นเพลง Fate of life ครับ จริงๆ แล้วเพลงนี้แอนดี้เขาเป็นคนร้องก่อนนานแล้วเมื่อหลายปีทุกคนคงจำได้ แล้วเขาก็เป็นเจ้านายที่ดีกับผมมากเลย เพราะเขารู้ว่าผมชอบเพลงนี้ เขาก็เลยมอบคำร้องของเพลงนี้ให้ผมนำมาร้องในอัลบั้มชุดนี้ ดีใจครับ ถ้าเราได้ร้องเพลงที่เราชอบเราก็จะรู้สึกว่าอยากจะร้องให้มันสุดชีวิตไปเลย

เมื่อคุณได้มาทำงานกับแอนดี้คุณรู้สึกอย่างไรกับเขาบ้าง

แอนดี้เป็นคนที่ทำงานหนักมากคนหนึ่ง ถ้าคุณได้เห็นเวลาเขาทำงานกับผลการทำงานที่ออกมาคุณจะรู้สึกว่าทำใมเขายังดูไม่แก่(หัวเราะ)เขาทำงานหนักมากจริงๆ เขาเริ่มต้นจากวงการบันเทิงก่อนแล้วก้าวเข้ามาทำงานเพลงด้วยตัวเขาเอง ทำให้เขาเข้าใจถึงระบบการทำงานของทั้งสองอย่างเป็นอย่างดี เรียกว่าผมแทบไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องการทำงานเลย ตรงกันข้ามเขากลับเป็นคนที่แนะนำผมในอีกหลายเรื่องมากกว่า

ทราบว่าเพลงที่คุณร้องได้นำไปประกอบเพลงโฆษณาด้วยใช่มั้ยคะ

ครับ ตอนแรกที่ผมร้องเพลง Fate of life นั้นดูมันขัดๆ กับตัวผมยังไงไม่รู้ ผมก็เลยขอร้องให้ทางโปรดิวเซอร์ ช่วยเปลี่ยนดนตรีและจังหวะใหม่ให้ผม จนในที่สุดก็เปลี่ยนมาเป็นแนวแรพก็เลยรู้สึกดีขึ้น เป็นตัวผมมากขึ้น ทางเอเจนซี่โฆณษณาชาเขียวที่ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์เขามาได้ยินเพลงนี้ก็เลยชอบใจขอนำไปเป็นเพลงประกอบโฆษณานั้นเลย

ว้า...ยังคุยกับคุณไม่เต็มอิ่มเลยเพราะรู้ว่ายังมีเรื่องราวของคุณอีกเยอะที่เราอยากจะถาม ไว้โอกาสหน้าเรามานั่งคุยกันใหม่แล้วกันนะคะ คราวหน้าเราจะมาคุยเรื่องงานแสดงของเขากันบ้าง ไว้เจอกันฉบับหน้านะคะสำหรับแฟนๆ ของซูโหย่วเผิงก็อดใจรอกันอีก 30 วันแล้วไว้พบกับเขาใหม่นะ