[2015.09.20] ซูโหย่วเผิงร้อง：อย่าลืมว่าผมก็เป็นคนไต้หวันนะ！

[Alec Love Me]

ที่มา http://www.setn.com/E/News.aspx?NewsID=93245

รากหญ้าจีนมีความหวังชิงรางวัลม้าทองคำ ซูโหย่วเผิงร้อง：อย่าลืมว่าผมก็เป็นคนไต้หวันนะ！

ซูโหย่วเผิงได้ใช้ชีวิตที่จีนมาแล้วหลายปี เรียกได้ว่ากลายเป็นลูกหม้อของประเทศจีนคนหนึ่งเลยทีเดียว ปีที่ผ่านมายังได้กำกับภาพยนตร์เรื่องโจ่วเอ่อ ที่ทำยอดขายตั๋วได้ไม่เลวอีกด้วย แต่อีกด้านหนึ่ง เขาที่ผ่านร้อนหนาวมามากมาย เกิดความกังวลว่าจะถูกลืมในการพิจารณารางวัลม้าทองคำ เขายังฝากบอกว่า “ผมเป็นคนไต้หวันนะ！”

ตั้งแต่ละครเรื่ององค์หญิงกำมะลอที่ซูโหย่วเผิงแสดงในปี 1998 แล้วนั้น ก็โด่งดังไปทั้งประเทศจีนและไต้หวัน กลายเป็นศิลปินไต้หวันรุ่นแรกๆที่ไปบุกเบิกที่แผ่นดินจีน ซึ่งผลงานส่วนใหญ่จะปรากฏอยู่ที่นั่น เพื่อให้เข้าถึงบทบาทมากขึ้น เขาได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนภาษาจีนสำเนียงปักกิ่ง ซูโหย่วเผิงอยู่ที่ประเทศจีนมานานจนผู้คนแทบจะลืมไปแล้วว่าเขาเป็นศิลปินชาวไต้หวัน ซึ่งมีประเด็นฮอตที่ถกเถียงกันในเว็บเทียนหยา (www.tianya.cn) ว่า “ซูโหย่วเผิง อู๋ฉีหลงนับว่าเป็นคนไต้หวันหรือไม่” อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องโจ่วเอ่อที่ซูโหย่วเผิงได้กำกับนั้น ก็ประสบความสำเร็จโดยการกวาดรายได้ไปกว่า 480 ล้านหยวน ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้เข้าฉายที่ไต้หวัน แต่ก็ได้รับการพิจารณาให้ผ่านเข้ารอบแรกในการชิงรางวัลม้าทองคำ ซึ่งมีความหวังว่าได้รับรางวัลม้าทองคำสาขาผผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากรายงานของ Liberty Times นั้น ซูโหย่วเผิงได้หัวเราะแล้วบอกว่า “อย่าลืมว่าผมก็เป็นคนไต้หวันนะ！”

งานเทศกาลภาพยนตร์ที่โตเกียวประจำปี 2010 ตัวแทนของไต้หวันเช่น สวีรั่วเซวียน (徐若瑄) หร่วนจิงเทียน (阮经天) และคนอื่นๆ ได้ถูกกีดกันจากตัวแทนจากฝ่ายจีน จึงไม่ได้ปรากฏตัวบนพรมแดง สวีรั่วเซวียนถึงกับน้ำตาตก และคืนนั้นซูโหย่วเผิงได้เข้าร่วมรายการ ค่ำคืนแห่งแดนมังกร (中国之夜) ได้ถูกตำหนิว่าลืมกำพืดตัวเอง เมื่อซูโหย่วเผิงให้สัมภาษณ์แก่ Apple daily เขาได้แสดงความลำบากใจอย่างยิ่ง เพราะไม่อยากถูกนำมาโยงเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ตอนนั้น เขาก็ไม่ลืมที่จะยืนยันกับผู้สื่อข่าว Apple Daily ว่า “ถึงแม้ว่าผมจะมีผลงานที่ไต้หวันค่อนข้างน้อย แต่โปรดอย่าลืมว่าผมก็เป็นคนไต้หวันนะ”