เปลี่ยนในสิ่งที่เปลี่ยนได้ ยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้
การแยก วงของเสี่ยวหู่ตุ้ย บังคับให้วัยยี่สิบเอ็ดปีนี้เข้าสู่เส้นทางที่โดดเดี่ยว กลับรู้สึกว่าสังคมรอบข้างนั้นมันเปลี่ยนไปแล้ว อึกทั่งในอดีตนั้นก็ค่อยๆกลับเงียบเหงา
ในเว็บไซค์เรื่องหนึ่งที่สกิดใจผมมาก เกี่ยวกับคัมภีร์ชีวิตยี่สิบห้าคำ ในนั้นบอกว่า เปลี่ยนในสิ่งที่เปลี่ยนได้ ยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ ผมอยู่ในสภาพที่การงานตกต่ำสุดๆ ขาดช่อดอกไม้และเสียงปรบมือของนักศิลปินนั้นอ้างว้างไหม ใช่ แต่ถ้าเชื่อมั่นและยืนหยัดมั่นคงตลอดนั้น ก็จะสะสมพลังอย่างเงียบ เหมือนดั่งปีนเขา ก่อนลุยน้ำข้ามเขา แบกความเงียบเหงาตลอดทาง แสวงหาคุณค่าของการกลับคืนมา ทุกคนล้วนแต่มีภูเขาหนึ่งลุกหรือสองสามลูก จะต้องไม่ละที่จะปราบปรามและอยู่เหนือมัน
เขาผู้ได้รับประสบการณ์ที่โด่งดังและตกอับก็รู้จักปรับตัวกับชีวิตเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจจะหยั่งรู้ได้ ตั้งแต่สิบห้าปีก็เริ่มเผชิญเลนส์กล้อง เขายิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกว่า ที่จริงชีวิตก็คือโรงละครที่ใหญ่ ที่คนล้วนเป็นผู้แสดงที่ไม่ได้เตรียมมาก่อน อยู่ในบทของตัวเองพูดคำพูดของตัวเองแสดงออกถึงชีวิตของตัวเอง
แต่ในวัยนี้ สิ่งที่เขาจะแสดงนั้นเป็นตัวตนแท้ๆของตัวเขา มรสุมพายุเงียบลงแล้ว กลับยิ่งสะอาดโปร่งใส
เขาเริ่มใช่เสียงต่ำ ใช้รถที่บรรทุกที่เร่นไปอย่างช้า สำหรับเขาแล้ว ความเป็นผู้ใหญ่ไม่เพียงแต่นำการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นคือมีจิตใจที่รับผิดชอบ ต่อครอบครัว ต่อสังคม ต่อความรัก
ความเป็นผู้ใหญ่ไม่เพียงเป็นการขุดคุ้ยจากด้านใน นอกจากเข้าใจตนเองอย่างเหมาะสมแล้ว และยังสามารถมีวิสัยทัศน์ของสภาพภายนอก โลกกว้างใหญ่ที่คุณอยู่นั้น สามารถใช้มหทรรศน์ของคุณมองธาตุแท้ของสิ่งต่างๆ
ก่อนวัยสามสิบ เขาชอบโค่นล้มตัวเอง ไม่ชอบทำในสิ่งที่ซ้ำซาก อยากจะเปลี่ยนแปลงตลอด อยากจะลองของใหม่ ปัจจุบันพฤติกรรมก็ยังเหมือนเดิมแต่จิตใจนั้นเปลี่ยนไปหมดแล้ว
ปีที่แล้วงานหลักของผมคือร้องเพลงออกเวที เพราะว่าน้อยมากจะมีคนหลักไปทำในสิ่งเหล่านี้ เขาก็ยังเอนไปทางสิ่งเล็กน้อย แต่สำหรับผมแล้ว คือการกระทำใจตัวเองแล้ว ช่วงเวลานี้ จะไม่ทุ่มสุดในการทำงานเพื่อชีวิตและชื่อเสียง สำหรับผมแล้ว เมื่อก่อนคือรับจ้าง ตอนหลังคือทำงาน ตอนนี้คือเล่นเกมส์