หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
Alec Su Youpeng fanclub in Thailand
»
Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน
»
SCOOPS & SPECIALS
»
2017 เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ผู้เขียน
หัวข้อ: 2017 เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว (อ่าน 5991 ครั้ง)
Alec Love Me
Administrator
Hero Member
กระทู้: 13954
2017 เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว
«
เมื่อ:
ตุลาคม 05, 2017, 12:43:14 PM »
เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว
เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็กเขาเป็นศิลปินมืออาชีพที่หายากมากในวงการบันเทิง เขาเคยเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาข้างบ้าน และตอนนี้ได้กลายเป็นชายหนุ่มผู้เฉลียวฉลาดและมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล เขาคนนั้นก็คือซูโหย่วเผิงศิลปินผู้มากด้วยความสามารถและคุณธรรมนั่นเอง เขาได้เติบโตและผ่านร้อนผ่านหนาวมากับพวกเราจนนับครั้งไม่ถ้วน ในวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิด 44 ปีของเขา พวกเราขอร่วมส่งคำอวยพรจากใจไปให้เขา: ซูโหย่วเผิง สุขสันต์วันเกิดนะ
ซูโหย่วเผิงเกิดเมื่อวันที่ 11 เดือนกันยายน 1973 ที่เมืองไทเปในไต้หวัน เขาเป็นเด็กที่ฉลาดและขยันหมั่นเพียร มีทักษะความสามารถเยอะมาก เป็นเด็กอัจฉริยะผู้เด็ดเดี่ยว ปี 1988 เขาอายุได้ 15 ปีคะแนนสอบของเขาจัดอยู่ในอันดับหนึ่งของโรงเรียนและได้เอาคะแนนสอบนี้ไปสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งของไต้หวัน และชีวิตแบบธรรมดาๆของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น
1988 เพื่อเป็นการเสริมสร้างกิจกรรมนอกหลักสูตรให้กับเขา พ่อแม่ของเขาได้กระตุ้นให้เขาส่งประวัติย่อของการสมัครเข้าเกณฑ์เป็นผู้ช่วยไปยังรายการ《ชิงชุนต้าตุ้ยคั่ง》 โชคดีก็คือว่า เขากับเฉินจื้อเผิงและอู่ฉีหลงสามคนได้รับคัดเลือกจากทางรายการและได้รวมตัวกันขึ้นเป็น ”ทีมเสียวหู่ตุ้ย” ซูโหย่วเผิงได้อาศัยท่าทางอันชาญฉลาดของเขาจนได้เป็น “ไกวไกวหู่” ทั้งสามคนได้อยู่ในผลงานอัลบั้มเพลงเดี่ยวของรุ่นพี่ “วง Yu HuanPaiTui” เสี่ยวเหมาตุ้ย (กลุ่มแมวน้อย)เพลงชิงผิงกั่วเล่อหยวน Green Apple Paradise ใช้เวลาประมาณ 5 สัปดาห์ก็ปีนขึ้นสู่ชาร์ตผลงานเพลงยอดเยี่ยม ทีมเสียวหู่ตุ้ยก็ได้เปิดตัวในปีเดียวกันนี้ด้วย เนื่องด้วยภาพลักษณ์อันทรงพลังของพวกเขาทำให้ได้รับกระแสความนิยมจากบรรดาวัยรุ่นเป็นอย่างมาก และเป็นที่โด่งดังในที่สุด
1988 ถึงปี 1991 ช่วงวัยมัธยมปลายของซูโหย่วเผิงเป็นช่วงที่ทีมเสียวหู่ตุ้ยโด่งดังที่สุด ตอนกลางวันเขาก็เรียน ส่วนตอนเย็นก็ต้องทำหน้าที่ของสมาชิกทีมเสียวหู่ตุ้ย ช่วงเวลานั้นจัดงานคอนเสิร์ตถึง 30 ครั้ง ปล่อยผลงานออกมถึง 7 อัลบั้มตามลำดับ แต่ในที่สุดเขาก็สามารถสอบได้คะแนนดีที่สุด และนำคะแนนนี้ไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในไต้หวันได้ในภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล และได้รับการขนานนามว่าเป็น “อัจฉริยะด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม”ด้วย
1990 เดือนกุมภาพันธ์ ซูโหย่วเผิง เฉินจื้อเผิงและอู่ฉีหลงได้ร่วมกันแสดงภาพยนตร์เรื่อง《ห่าวเสียวจื่อจือโหยวเซี๋ยร์》(นักดาบพเนจร) Wandering Heroes เป็นการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ในภาพยนตร์เขารับบทเป็น ”เสี่ยวไกว” นักเรียน ม.ปลาย ที่มีอัจฉริยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมีนิสัยแบบเด็กๆ ถึงแม้ว่าครั้งแรกในการแสดงของซูโหย่วเผิงยังคงมีจุดด้อยอยู่บ้าง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังได้เป็นหนึ่งในหนังที่ติด 10 อันดับแรกของไต้หวันในปี 1990 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการการันตีความสนใจจากผู้ชมที่มีต่อพวกเขา
1995 เดือนตุลาคมได้ร่วมมือกับอู่ฉีหลง จินเฉิงอู่และหลินจื้ออิง ร่วมกันแสดงภาพยนตร์เรื่อง《Forever Friends》แสดงเป็น ”หลัวชื่อเจียน” Luo Zhi Jian ทหารที่กำลังรับราชการอยู่ ในหนัง เขาได้บรรยายคำพูดของเนื้อเรื่องหนังทั้งเรื่องด้วยตัวเขาเอง และได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วยตัวเอง เพลง 《เพื่อนที่รักที่สุด》
1996 เดือนเมษายน เขาได้รับบทเป็น ซูเสี่ยวเผย Xiao Pei พนักงานในบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งในภาพยนตร์แนวคอมเมดี้เรื่อง《Flirting Expert》 โดยร่วมมือกับจินเฉิงอู่ จูอิน หลัวป่ายจี๋ และหลินเสี่ยวโหลว เป็นต้น ซูโหย่วเผิงได้สัมผัสกับสไตล์การแสดงที่ไม่ซ้ำกันเลย ในเรื่องเขาย้อมผมสีทองและชอบนั่งไขว้ห้าง ในมือถือบุหรี่หนึ่งมวน ท่าทางนักเลงเถื่อนๆ ทำลายภาพลักษณ์ของการเป็นเด็กดีเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นผลงานฉบับพลิกล็อคของเขา
1996 เดือนมิถุนายน ได้แสดงละครที่นำนวนิยายของเหยียนเกอหลิงนักเขียนนิยายผู้หญิง《อู๋เฟยหนานหนี่ว》มาดัดแปลงใหม่เป็นเรื่อง 《ฉิงเซ่อ》Pale Sun ได้รับบทเป็นพระเอกที่ทนทุกข์ทรมานกับการเป็น ”โรคไตวาย” “ลูกคนที่ห้า ชื่อช่ายอู้” ภาพยนตร์ถ่ายทำออกมาได้สุดยอดมาก ซึ่งแตกต่างจากเรื่องก่อนหน้านี้มาก《Flirting Expert》ซูโหย่วเผิงได้เริ่มเดินกลับไปยังเส้นทางของเด็กน้อยผู้น่ารักอีกครั้ง แต่ศิลปะของหนัง《ฉิงเซ่อ》 Pale Sun เรื่องนี้ดูหนักไปหน่อย ก็เลยได้รับการตอบรับแบบทั่วไปจากทางตลาดภาพยนตร์
1996 เดือนพฤศจิกายน ละครโทรทัศน์เรื่อง 《Ou Xiang Yi Ji Bang》 ที่เขาได้แสดงของทาง China Television ภาพยนตร์เรื่อง “โอ่วเซี่ยงอี้จี๋ปั้ง” ตอนสองชื่อตอน “เหล่าซือฉิงเกอ” แสดงเป็น “ซูจิ้นสง” กับ จิงเชาเฉียน(ผู้แสดงเป็นเปาบุ้นจิ้น) โค้วซื่อจิง (ในปีเหล่านี้แสดงที่จีน (จีจื่อหงเลอ) (เซี่ยงหยี่เซี่ยงอู้อิ้วเซี่ยงเฟิง) เรื่องเหล่านี้เป็นต้น) และปลายปีนั้น เขายังได้รับ “ ตุ๊กตาทอง” นักแสดงชายยอดเยี่ยม Golden Bell Awards” จากช่อง China Television ในปลายปีนั้นอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกเสียงหนึ่งที่ทุกคนการันตีให้กับความสามารถด้านการแสดงของเขา หลังจากนั้น งานด้านการแสดงของซูโหย่วเผิงส่วนใหญ่ก็จะเป็นทางด้านซีรีย์มากกว่า ซีรีย์ทุกเรื่องที่แสดงแทบจะกล่าวได้ว่าเป็นแบบฉบับจริงๆ
1997 เดือนกรกฎาคม เขาได้แสดงซีรีย์แนวยุคโบราณที่กำกับนักประพันธ์ชาวไต้หวัน ฉงเหยา เรื่อง《องค์หญิงกำมะลอ》 โดยรับบทเป็นองค์ชายห้า "หย่งฉี" ในซีรีย์เรื่องนี้เขาได้ทะลายกรอบข้อจำกัดของการเป็นนักร้องไอดอล นำการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่มาให้กับศิลปะการแสดงละครของเขา และยังบุกโจมตีตลาดบันเทิงของจีนและทั่วเอเชียอีกด้วย ระดับความโด่งดังฮอตฮิตนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย หน้าร้อนและหน้าหนาวของทุก ๆ ปี แทบจะยึดครองทุกช่องสัญญาณเลยทีเดียว ถือเป็นความทรงจำวัยเยาว์ของใครหลาย ๆ คน
ช่วงเวลานั้น ใบหน้าของซูโหย่วเผิงได้เผยความสดใสออกมา บทบาทองค์ชายห้าของเขาเป็นผู้จิตใจดีและแฝงความเอาแต่ใจอยู่นิดๆ และ ”เสียวเยี่ยนจื่อ” ที่รับบทโดยเจ้าเวย ที่ได้แสดงเกี่ยวกับความรักอันสะเทือนเลื่อนลั่น ความรักของคู่นี้ไม่ได้ขมขื่นแบบเวยเอ่อร์คัง ความรักอันหวานชื่นของพวกเขาทั้งสองได้กลายเป็นคู่จิ้นของแฟนคลับหลายๆคน สามารถกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนแรกแห่งวงการไอดอลเด็ก และการสะสมสติกเกอร์โปสการ์ดรูปทะเลของเขาก็ได้กลายเป็นที่โปรดปรานของเหล่าแฟนคลับทั้งหลายด้วย
1998 เดือนมิถุนายน ซูโหย่วเผิงและเจ้าเวยได้โคจรมาแสดงเรื่องเดียวกันอีกครั้งในภาพยนตร์ไอดอลเรื่อง 《Old House Has Joy》เราสองหัวใจเดียวกัน ในเรื่องรับบทเป็นหนุ่มหล่อชื่อ “ซูเสี่ยวเผิง” เรื่องนี้เป็นช่วงที่ซูโหย่วเผิงดูหล่อเท่ห์ที่สุด เทคนิคด้านการแสดงก็เป็นมืออาชีพขึ้นทุกวัน ได้เก็บเอาภาพลักษณ์ของเด็กชายข้างบ้านผู้ไร้เดียงสาไว้ในใจของผู้ชมได้สำเร็จ
1999 เดือนพฤษภาคม เขาเปิดตัวจากหนังจีนที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายที่แต่งโดยโกวเล้ง เรื่อง 《เซียวฮื้อยี้》 และในเรื่องรับบทเป็น “ฮวยบ่อข่วย ” ฮวยบ่อข่วยผู้ไร้ความรู้สึกไม่มีความรู้สึกทุกข์สุขใดๆ ใส่ใจทดสอบฝีมือการแสดงเป็นอย่างมาก แต่เขาอยากจะอธิบายถึงนิสัยที่ชอบเก็บกดของฮวยบ่อข่วยให้ออกมาอย่างเฟอร์เฟค ในบทต้องระมัดระวังในด้านการพูด พูดน้อยแต่สื่อด้วยสายตาอันอ่อนโยน,เจ็บปวด,ขมขื่น,ได้อย่างชัดเจน ท่าทางอันสูงสง่าในเรื่องและลักษณะนิสัยภายนอกที่ดูเย็นชาแต่ข้างในอบอุ่นนั้น ทำให้ชนะใจแฟนคลับได้อย่างนับไม่ถ้วน
2000 เดือนเมษายน เขาได้ร่วมงานกับเจ้าเวยและหลินซินหยูอีกครั้งในการแสดงภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายที่เขียนโดยฉงเหยาเรื่อง《มนต์รักในสายฝน》 ในครั้งนี้ซูโหย่วเผิงได้รับบทเป็นหนุ่มทะลึ่งชื่อว่า “ตู้เฟย” ไม่ใช่หนุ่มไอดอลผู้เพอร์เฟคอีกต่อไป ครั้งนี้เขาได้ใช้ความพยายามในการตามจีบหยูผิง ความรักของเขาประทับใจผู้ชม และส่วนหนึ่งมาจากความหลากหลายของวิธีการธรรมดาๆต่างๆที่ทำให้ผู้ชมขำจนท้องแข็ง
2003 เขาได้ร่วมมือกับสองสาวเจี่ยจิ้งเหวินและเกาหยวนหยวนในการแสดงภาพยนตร์เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้เรื่อง 《ดาบมังกรหยก》รับบทเป็นผู้ชายหมายเลขหนึ่งชื่อ "เตียบ่อกี้" ครั้งนี้ฝีมือในการแสดงของเขาดูเป็นผู้ใหญ่ขี้นมาก จึงทำให้ความดีและความลังเลของ "เตียบ่อกี้" ไม่มีช่องโหว่ให้โจมตีได้เลย และได้รับการชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน ละครเรื่องนี้เป็นละครของกิมย้งเรื่องแรกที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และก็เป็นหนึ่งในผลงานของซูโหย่วเผิง จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาได้กลายเป็นนักแสดงชายที่รับบทตัวละครของฉงเหยา กิมย้งและโกวเล้ง มากที่สุดคนหนึ่ง
จากที่มีผลงานอันล้ำเลิศทางด้านละคร เขาได้เริ่มหันเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ปี 2009 ในผลงานภาพยนต์หลักเรื่อง The Message ซูโหย่วเผิงได้รับบทเป็นตัวประกอบชื่อ "ป๋ายเสี่ยวเหนียน" และในขณะนั้นเองก็ได้รับรางวัลช่อดอกไม้ ป๋าย ฮัว ( Hundred Flower Award ) สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม "Best Supporting Actor" ในเรื่อง เขาได้ทำลายภาพลักษณ์ในอดีต ในบทท่าทางตุ้งติ้งนี้ทำให้ผู้ชมได้เห็น รูปร่างหน้าตาของเขาท่วงท่าเยื้องย่างกรีดกรายได้แสดงความหยิ่งทนงดั่ง ”หยกแก้ว” ออกมาให้เห็นทั้งหมด การรับบทบาทในครั้งนี้ซูโหย่วเผิงได้บรรลุการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่
2010 เป็นปีทองของโหย่วเผิง เขาได้เป็นนักแสดงหลักของภาพยนตร์ 5 เรื่อง ได้แก่
The Four Cupids
A Singing Fairy
The Love Song of Kang Ding
Lost in Panic Room
Lost in Panic Cruise
ได้ออกฉายตามลำดับ เรื่อง Lost in Panic Room ได้เปิดตัวช่วงวันเฮโลวีน ในขณะเดียวกันนั้นซูโหย่วเผิงก็ได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจาก Macau International Movie Festival ครั้งที่ 2 จากภาพยนตร์เรื่อง《The Love Song of Kang Ding》อีกด้วย
2011 เดือนเมษายน ได้เข้าร่วมถ่ายทำภาพยนตร์ของผู้กำกับกวนหู่เรื่อง《Design of Death》 กับเริ่นต๋าฮว๋า หวงป๋อ ยวี่หนานนักแสดงมากด้วยฝีมือ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ซูโหย่วเผิงได้รับบทบาทเป็นตัวโกง ในเรื่องซูโหย่วเผิงแสดงเป็นนายแพทย์หนิวผู้มีจิตใจอำมหิตหนิวเจี๋ยชื่อ (แสดงโดยหวงป๋อ) ได้ทำการฆาตกรรมปู่กับย่าของเขา ความคิดในการแก้แค้นนั้นไม่เคยจางหายไป เพื่อการนี้เขาได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อไปศึกษาศาสตร์ทางการแพทย์ หลายปีต่อมาเขาได้สวมเครื่องแบบเต็มยศกลับบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อดำเนินการตามแผนการแก้แค้นที่วางไว้ แต่สุดท้ายเพราะกินเนื้อหมูที่ติดสารพิษจึงเสียชีวิตไป
2012 เขาได้แสดงเรื่อง Three Unmarried Mothers ที่ออกฉายเมื่อวันที่ 26 เดือนตุลาคม ในปีเดียวกันนั้น ซูโหย่วเผิงได้สร้างห้องทำงานของตัวเอง และเริ่มผันตัวไปเป็นผู้สร้าง ผู้บุกเบิกระเบียบใหม่ในงานของเขาเอง
2013 ที่ผ่านมาซูโหย่วเผิงได้ห่างจากบ้านที่ไต้หวันไปทำงานอยู่ที่ประเทศจีนเป็นระยะเวลาหลายปี ครั้งนี้เขาได้กลับไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่ไต้หวันอีกครั้ง โดยร่วมมือกับทางหลินอี้เฉิน เรื่อง Sweet Alibis โดยรับบทเป็นตำรวจที่ดูแล้วมีท่าทางขี้ขลาดแต่ความจริงแล้วเข้มแข็งเกรียงไกรมาก ในเรื่องซูโหย่วเผิงได้แสดงออกถึงกำลังที่ไม่ธรรมดา มีผู้กำกับอีกท่านบอกว่า ซูโหย่วเผิงเป็นตัวแทนของคนประเภทที่มีเสน่ห์ ดังนั้นบทบาทนี้จึงเหมาะสมกับเขามาก
2014 เป็นครั้งแรกที่ซูโหย่วเผิงได้ลองลิ้มรสของการเป็นผู้กำกับ ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของนักเขียนชื่อ ร่าวเสวี่ยม่าน เรื่อง《จั่วเอ่อร์》 "The Left Ear" 左耳 เพื่อที่จะทำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมา เขาได้ปฏิเสธงานแสดงทั้งหมดในปีนั้น ตั้งใจสร้างหนังอย่างเดียว ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน ในที่สุดหนังเรื่องจั่วเอ่อร์ก็ทำรายได้สูงถึงห้าร้อยล้าน จากนวนิยายเรื่องนี้ ทำให้ซูโหย่วเผิงได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ดีเด่นจากงานรางวัลม้าทองคำจากการถ่ายทำเรื่อง "The Left Ear" 左耳 นี้ ซูโหย่วเผิงได้พยายามทุ่มเท ทั้งศึกษาไปด้วย ถ่ายทำไปด้วย ในที่สุดก็ได้ผลงานที่ทำให้ผู้คนประทับใจออกมา
ผลงานปัจจุบันนี้ คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายญี่ปุ่นจากนักเขียนฮิงาชิโนะ เคโงะ เกี่ยวกับแนวสืบสวนสอบสวนผู้ต้องสงสัยเรื่อง The Devotion of Suspect X ซึ่งได้เริ่มเตรียมการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2015 แล้ว โดยทำการตรวจสอบเรื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือน ไปแสดงทั้ง 28 เมือง ใช้เวลาถึง 128 วันจึงสามารถเริ่มถ่ายทำได้ สิ่งเหล่านี้พอจะทำให้เห็นได้แล้วว่าซูโหย่วเผิงได้ทุ่มเทและใส่ใจทุกรายละเอียดในการสร้างหนังแต่ละเรื่องจริงๆ
“ไกวไกวหู่” ในวันนั้น ได้ส่งพลังบวกต่อการเติบโตของผู้คนมากมาย ปัจจุบันเขาได้อยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นระยะเวลา 20-30 ปีแล้ว กาลเวลาไม่เพียงแต่ทำให้เขาเติบโตขึ้น แต่ยังคงจิตใจอันงดงามของเขาไว้ และมีเพื่อนในวงการบันเทิงมากมายที่ชื่นชมยกย่องเขา
ตลอดเส้นทางเดินที่ผ่านมา ความสามารถของซูโหย่วเผิงทำให้ทุกสายตาได้เห็นว่าความเพียรพยายามของเขาควรค่าแก่การยกย่องสรรเสิรญ ผลงานของเขาที่อยู่เคียงข้างพวกเรานั้นยิ่งควรค่าแก่การขอบคุณ ขอให้เขาได้เดินตามเส้นทางงานภาพยนตร์เพื่อทำตามความฝันของตัวเองต่อไป
โหย่วเผิง พูดว่า : “คนจะยิ่งใหญ่ได้เพราะความฝัน ผมคิดว่าผมอยากจะเล่าประสบการณ์จริงในชีวิตให้กับทุกคน อย่าปล่อยมันไปอย่างง่ายๆ ขอเพียงยืนหยัด ยืนหยัด ความฝันจะกลายเป็นความจริงในสักวัน..."
ps. อวยพรให้โหย่วเผิงยิ่งบินยิ่งสูง ไม่หยุดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่แฟนคลับให้กับคุณ
บันทึกการเข้า
Web Site
www.baansuyoupeng.com
FB
www.facebook.com/AlecfanclubinThailand
WB
http://www.weibo.com/AlecSuThaiFC
Alec Love Me
Administrator
Hero Member
กระทู้: 13954
Re: 2017 เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว
«
ตอบกลับ #1 เมื่อ:
ตุลาคม 05, 2017, 12:43:40 PM »
他是偶像小生的鼻祖 如今转型实力派导演
https://xw.qq.com/ent/20160911003233/ENT2016091100323300
บันทึกการเข้า
Web Site
www.baansuyoupeng.com
FB
www.facebook.com/AlecfanclubinThailand
WB
http://www.weibo.com/AlecSuThaiFC
Alec Love Me
Administrator
Hero Member
กระทู้: 13954
Re: 2017 เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว
«
ตอบกลับ #2 เมื่อ:
ตุลาคม 05, 2017, 01:33:02 PM »
http://xw.qq.com/ent/20160911003233/ENT2016091100323300
https://www.facebook.com/baansuyoupeng/posts/953600604750784
他是偶像小生的鼻祖 如今转型实力派导演
2016-09-11 02:48:27
腾讯娱乐专稿(文/刘刘刘编辑/任义)他是偶像小生的鼻祖,他是演艺圈少有的长红艺人,他是曾经的邻家男孩也是如今的睿智熟男,他就是德艺双馨的苏有朋。他与我们共同度过无数个寒暑假陪伴我们长大,今天让我们在他43岁生日之际送上真挚的祝福:苏有朋,生日快乐!
苏有朋于1973年9月11日出生于中国台湾台北市,自小聪颖勤奋,多才多艺,是个不折不扣的学霸。1988年,15岁的他以全校第一的成绩考入排名全台湾第一的高中,并开始了他开挂一般的人生。
1988年,父母为丰富课外活动鼓励他向《青春大对抗》投应征助理的简历,幸运的是,他与陈志朋、吴奇隆三人同时被节目组录取并组成“小虎队”,苏有朋也因自己的阳光乖巧形象成为“乖乖虎”。三人在师姐“忧欢派对”的专辑中凭借单曲《青苹果乐园》用了仅仅5周时间就攀升至各大音乐排行榜冠军,小虎队在同年正式出道,因为充满正能量的形象受到广大青少年的喜爱迅速走红。
1988年至1991年,苏有朋的高中时期也是小虎队最红的时期,他白天上课,晚上要兼顾小虎队的演艺工作,期间举办了30多场演唱会、先后发行了7张专辑,但是他最终仍然以优异的成绩考进全台湾排名第一的大学台湾大学机械工程系,被称为“理工学霸”。
1990年2月,苏有朋和陈志朋、吴奇隆联袂出演了电影《好小子之游侠儿》,拍摄了他的第一部电影。他在影片中扮演了一个富有科技头脑,又带有稚气的高中生“小乖”。虽说苏有朋是初露头角难免稚嫩,但本片获得1990年度台湾“十大最高票房电影”之一仍旧表明了观众对他们的肯定。
1995年10月,与吴奇隆、金城武、林志颖一起出演电影《报告班长》第2部《号角响起》,出演正服役的军人“罗士坚”。片中,他亲自口述全剧的故事内容,并独自演唱了主题曲《最爱的朋友》。
1996年4月,他在喜剧电影《泡妞专家》中出演一家保险公司职员“苏小培”与金城武、朱茵、罗百吉、林小楼等人合作。苏有朋尝试了完全不一样的表演风格,片中染黄了头发爱翘着二郎腿,手里拿根小烟,是一副痞子相,突破一贯乖小孩形象,是他的转型之作。
1996年6月出演根据女作家严歌苓小说《无非男女》改编成的电影《情色》,扮演身患“肾衰竭”的主人公“老五-蔡悟”,电影拍摄的非常唯美,和之前的《泡妞专家》风格上大相径庭,苏有朋重新走回了乖男孩的路线,只是《情色》这部电影文艺气息较重,所以市场反响一般。
1996年11月,出演中视《偶像一级棒》剧场第二单元《老式情歌》进入影视圈,并获得当年年底中视“金钟奖”最佳男演员的提名,这也是大家对他演技的一种肯定。此后一段时间,苏有朋的演艺事业便更多地侧重于电视剧方面,出演的电视剧几乎部部是经典。
1997年7月,他在琼瑶古装剧《还珠格格》中饰五阿哥永琪,这部剧中他突破偶像歌手的局限,为自己的演艺事业带来了全新的转变并且进军大陆甚至整个亚洲娱乐市场。该剧的火热程度自然是不必说的,几乎年年寒暑假占据各大卫视,承载着许多人年少的回忆。
彼时的苏有朋脸庞稚气阳光,他饰演的五阿哥善良专一又有些任性,与赵薇饰演的“小燕子”上演了一场轰轰烈烈的爱情。这一对不似紫薇尔康那般苦情,轻松甜蜜的他们是许多人粉的第一对CP。可以说他是小生偶像的鼻祖,而收集他们的海报明信片贴纸也是开创了最早的全民追星。
1998年6月,苏有朋与赵薇再度携手出演青春偶像剧《老房有喜》,在剧中扮演青春帅气的“苏小鹏”。这部剧是苏有朋颜值顶峰时期,演技也是日趋成熟稳定,成功地将青涩的邻家男孩形象深深印在观众的心目中。
1999年5月,他出演根据古龙同名小说改编的电视剧《绝代双骄》并在剧中扮演“花无缺”。面若冰霜的花无缺没有喜怒哀乐,十分考验演技,但他拿捏地恰到好处将花无缺的压抑矛盾性格完美诠释却丝毫不显的木讷拘谨。剧中他高雅的扮相、外冷内热的性格俘获无数影迷。
2000年4月,他再次与赵薇、林心如等合作出演根据琼瑶小说改编的电视剧《情深深雨蒙蒙》。这次苏有朋在剧中饰演冒失鬼“杜飞”,不再是完美阳光的青春偶像,这次他一面凭借对如萍的穷追不舍、一片痴情打动了观众,一面又因各种马虎倒霉的桥段惹得大家捧腹。
2003年,他与贾静雯、高圆圆两大女神合作出演电视剧武侠大作《倚天屠龙记》,扮演男一号张无忌。此时的他,演技已经十分成熟,将张无忌的善良和优柔寡断刻画得无懈可击,获得一致好评。该戏成为首部深受好评的内地金庸剧,也是有朋的电视代表作之一。至此,他成为了极少数既主演过琼瑶电视剧又领衔过金庸剧、古龙剧的男演员。
在电视剧方面已经成绩卓越的他又开始转向电影方面。2009年在谍战片《风声》中,苏有朋饰演配角白小年,并因此获得大众电影百花奖最佳男配角奖。
在片中,他颠覆以往形象,以一个阴阳怪气、摇曳风骚翘兰花指大搞暧昧同志情的形象示众。
眉眼之间、举手投足无不展现着“玉玻璃”的心高气傲,苏有朋在这个角色上实现了自己的重大突破。
2010年是苏有朋在事业上收获的一年,主演的四部电影《四个丘比特》、《寻找刘三姐》、《新康定情歌》与《密室之不可告人》先后上映。《密室之不可靠岸》开辟了万圣节档期,同时苏有朋也凭借电影《康定情歌》获得第2届澳门国际电影节最佳男主角奖。
2011年4月参与拍摄管虎导演的电影《杀生》,同任达华,黄渤,余男大飙演技。这也是苏有朋首次饰演大反派角色。
片中苏有朋饰演的牛医生腹黑狭隘,因牛结实(黄渤饰)误杀了他的爷爷奶奶,复仇的念头从未消失,他为此卧薪尝胆远走他乡苦学医术,多年之后衣锦还乡实施复仇计划最终却误食有毒猪肉暴毙。
2012年,他主演电影《三个未婚妈妈》于10月26日上映。同年,苏有朋成立自己的工作室,开始转行当制作人开启了他事业的新章程。
2013年,一直在内地发展的苏有朋时隔多年重返台湾影坛与林依晨合作拍摄影片《甜蜜杀机》,饰演一个看起来胆小窝囊实际是隐藏实力寻求自保的警察。片中苏有朋展现了非凡的实力,另外导演也坦言,苏有朋就是魅力大叔类型的代表,因此这一角色非他莫属。
2014年,苏有朋首次尝试导演,拍摄饶雪漫同名小说《左耳》改编的电影。为执导该部电影,他推掉了2014年全年所有的商演,专心电影制作。功夫不负有心人,《左耳》最终获得5亿票房,苏有朋也凭借处女做获得台湾金马奖最佳新导演奖提名。
拍摄这部导演处女作,苏有朋拼尽全力,边学边拍,交出了一份令人满意的答卷。
目前,他正在筹备自己的又一部新片,挑战改编自日本作家东野圭吾《嫌疑人x的献身》的悬疑题材电影。电影从2015年11月开始筹备,勘景3个月,横跨28个城市,历时128天才得以开机,足以见得苏有朋对于电影每一个细节的认真专注。
昔日的“乖乖虎”用阳光积极充满正能量影响了一代人的成长,如今他已在娱乐圈长红二几十余载,岁月不仅带给他成熟睿智也依旧保留了他的善良本真,他在娱乐圈朋友众多有口皆碑。
一路走来,苏有朋的实力有目共睹,他的努力勤奋值得称赞,他的作品带给我们的陪伴更是值得感谢。希望他在电影事业的道路上坚持追寻着自己的梦想,衷心祝愿完美男神:生日快乐!
https://www.facebook.com/notes/alec-su-youpeng-fanclub-in-thailand/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7/1540924185946069/
บันทึกการเข้า
Web Site
www.baansuyoupeng.com
FB
www.facebook.com/AlecfanclubinThailand
WB
http://www.weibo.com/AlecSuThaiFC
Alec Love Me
Administrator
Hero Member
กระทู้: 13954
Re: 2017 เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว
«
ตอบกลับ #3 เมื่อ:
พฤษภาคม 16, 2021, 01:36:14 PM »
https://weibo.com/2654202841/K3a9vbWB4?type=repost
演员苏1990-2016之路
年少之时偶入《还珠》
便拥有了一辈子的偶像@蘇有朋
从阳光少年到深情成熟的魅力男神
从演技小白到炉火纯青的专业演员
1990-2016这一路 演员苏 你辛苦了
由衷的感谢你这些年的努力和坚持不懈
你的每一个样子,我都喜欢💗
而刚好我喜欢的每一个样子你都有💗
บันทึกการเข้า
Web Site
www.baansuyoupeng.com
FB
www.facebook.com/AlecfanclubinThailand
WB
http://www.weibo.com/AlecSuThaiFC
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
Alec Su Youpeng fanclub in Thailand
»
Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน
»
SCOOPS & SPECIALS
»
2017 เขาคือผู้ริเริ่มแห่งวงการไอดอลรุ่นเด็ก ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับแล้ว