ผู้เขียน หัวข้อ: 2010 Life Style  (อ่าน 10340 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
2010 Life Style
« เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 05:18:35 AM »
http://tieba.baidu.com/f?kz=752065437

บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จาก นิตยสาร Life Style 19 เมษายน 2010 เล่มที่ 29


โหย่วเผิง : จะไม่เข้าตามตรอกออกตามซอย

อากาศยามเข้าฤดูใบไม้ผลิของปักกิ่งนั้นยังเหน็บหนาวอยู่ สภาพที่หนาวอย่างนี้นั้นทำให้หลายๆคนไม่ค่อยมีชีวิตชีวา แต่นั่นไม่รวมโหย่วเผิงที่กำลังถ่ายแบบอยู่ ทั้งวันนั้นเขาแฮปปี้มากๆ นอกจากการแต่งตัวที่ดูดีของเขาแล้ว เขายังพูดจาหยอกล้อกับบรรดาทีมงาน และยังหาอุปกรณ์เสริมการถ่ายให้กับตัวเอง ได้เก๊กท่าต่างๆนาๆ จนทำให้ช่างภาพกดปุ่มถ่ายภาพอย่างไม่ยั้งมือเลย จริงๆแล้วมือของเขาได้ถือกุหลาบแห้งดอกหนึ่ง ดอกนั้นน่าจะได้มาจากสาวสวยที่มาในงานถ่ายแบบ

โหย่วเผิงนั้น Nice มากๆ ไม่ว่าใครจะแนะนำให้เขาทำท่าแบบไหนก็ไม่เกี่ยง เขาทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แต่ว่ามีอยู่อย่างหนึ่งที่เขาแม้ตายก็จะไม่ยอมทำ นั่นคือการเข้าตามตรอกออกตามซอย หรือเป็นระเบียบเหมือนกับของเก่า เขาได้พูดว่า “ผมไม่ชอบอะไรที่ปกติธรรมดามากๆ”ใช่ คนที่อยู่ต่อหน้าเราเป็นโหย่วเผิง แล้วไกวๆหู่เป็นใคร?

ทำไมผมจะลาออกจากการเรียนไม่ได้

หากดูตามคำพูดของโหย่วเผิงแล้ว เมื่อเขาเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงก็ได้รับเป็นเด็กเทพ เป็นเด็กที่ทั้งเรียนดีร้องดีไปหมด มีฉายาไกวๆหู่ ด้านหนึ่งนั้นเป็นเพราะโหย่วเผิงดังแต่เด็ก และอีกด้านหนึ่งนั้นกลายเป็นฉายาที่ลบไม่ออกตลอดชีวิต

ฉายานี้ได้ติดตรึมอยู่ตรงนั้น โหย่วเผิงได้แต่เลือกว่าจะเดินไปซ้ายหรือขวา ทางขาวก็จะเป็นขวัญใจดาราไปตลอดชีวิต ทางซ้ายนั้นจะเป็นทางที่ไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร อาจเป็นเพราะนิสัยที่ไม่ค่อยจะเชื่อฟัง โหย่วเผิงได้เลือกที่จะเดินในทางดื้อดึงไม่สนใจภาพลักษณ์ดีๆของอดีต


เขาอยากจะเป็นตัวของตัวเอง สุดท้ายเขาตัดสินใจไปอังกฤษ “ตอนนั้นผมเองก็ยังเจ็บปวดใจอยู่ อายุยังน้อย เรื่องการลาออกจากการเรียนนั้นเป็นเรื่องที่ให้ทุกคนต่อว่าด่าผม น่าจะเป็นเพราะว่าคนในสมัยนั้นคิดว่าการทำเรื่องอย่างนี้กับภาพของไกวๆหู่มันขัดแย้งกัน หลายคนรู้สึกว่าคุณไม่ควรที่จะทำอย่างนี้ โหย่วเผิงคุณเป็นคนที่เข้าตามตรอกออกตามซอยมิใช่หรือ แล้วทำเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไง อาจเป็นเพราะว่าทางค่ายได้สร้างภาพลักษณ์ผมให้ดีเกินไป

พูดแล้วผมในทำนองที่ดีไร้ทีติ ว่าโหย่วเผิงนั้นเป็นเด็กที่อัฉริยะ เก่งทั้งเรียนทั้งร้อง คนแบบนี้จะลาออกจากการเรียนได้อย่างไร จริงๆแล้วตอนนั้นผมกดดันมากๆ การที่ผมตัดสินใจไปที่อังกฤษนั้นเหตุผลหนึ่งคือเบื่อกับการที่ทุกคนมาจ้องเพ่งเล็งในชีวิตผม อีกด้านหนึ่งคือการเรียนของผมนั้นเหมือนกับว่าเป็นการแสดงให้สังคมดู มันแปลกมากๆ เพราะในตอนนั้นขนาดผมจะเปลี่ยนคณะ ได้ข่าวว่าอาจารย์ยังต้องให้นักศึกษายกมือโหวดกันเลย ว่าโหย่วเผิงสามารถเปลี่ยนคณะได้ไหม”

การดื้ออย่างนี้นั้นยิ่งนำความสงสัยต่ออนาคตมาสู่โหย่วเผิง “ตอนนั้นผมมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าอนาคตสามารถทำอะไรได้บ้าง หาหนทางไม่เจอจริงๆ ดีที่สุดก็คงจะหาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก เพราะหลายปีแล้วที่ถูกผู้คนจ้องมองตลอด จนทำให้ตัวเองลืมไปว่าแท้จริงแล้วตัวเองต้องการอะไร ในมุมที่ไม่มีใครมาจ้องมองนั้นผมจะมีความคิดอะไรใหม่ๆหรือเปล่า ฉะนั้นเลยอยากจะออกนอกประเทศ หาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักผม”

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Life Style
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 05:25:57 AM »

ผมเป็นคนรักการร้องเพลงที่สุด

หลังจากที่กลับจากอังกฤษ ความใฝ่ฝันของโหย่วเผิงยังเป็นการร้องเพลงอยู่ แต่ว่าเขากลับมาเป็นนักแสดงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เริ่มจากองค์หญิงกำมะลอมาจนถึงไป๋เสี่ยวเหนียนในเรื่องเฟิงเซิง(The Message) เข้าไปทีเดียวก็สิบกว่าปีแล้ว

แม้ว่าระหว่างนั้นจะมีการออกอัลบั้ม และมีการจัดงานคอนเสิร์ด แต่ดูเหมือนว่าตำแหน่งนักร้องนั้นยิ่งนานวันยิ่งห่างเขาไป หากไม่ใช่งานราตรีตรุษจีนที่ออกมาร้องเพลง พวกเราก็คงลืมไปแล้วว่าโหย่วเผิงนั้นเคยเป็นนักร้องมาก่อน แต่สำหรับเขาแล้วความคิดในการร้องเพลงนั้นไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เขากล่าวว่า “เมื่อก่อนนั้นผมรักในการร้องเพลงมากๆ แม้ว่าผมจะเริ่มเข้าสู่การแสดงเต็มตัว ได้แสดงเรื่ององค์หญิงกำมะลอ แต่ลึกๆในใจผมนั้นก็ยังปรารถนาที่จะร้องเพลงเหมือนกัน”

สำหรับแฟนๆนั้นนานวันก็ยิ่งยอมรับฝีมือการแสดงของเขา แล้วเขาเองก็ได้เอาอาชีพการแสดงนั้นเป็นที่หนึ่งในชีวิตเขา “สำหรับเรื่องการร้องเพลงนั้นจะบอกว่าผมทิ้งไปเลยก็ไม่ใช่ ผมยังมีความคิดที่อยากจะร้องอยู่ แต่มันคงจะไม่เหมือนกับสมัยวัยรุ่น ตอนนี้รู้แล้วว่าโลภมากลาภหาย ต้องทำไปทีละเรื่องทีละอย่าง ไม่สามารถที่จะทำหลายๆอย่างให้เสร็จในเวลาเดียวกัน

จริงๆแล้วทางค่ายเพลงก็ยังทาบทามผมได้ร้องเพลงอยู่เหมือนกัน นี่ใช่เป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็อยากจะทำออกมาให้ดีนั้นก็ยากเหมือนกัน สำหรับช่วงนี้ งานผมนั้นจะเน้นไปทางการแสดงภาพยนตร์ เพราะผมรู้สึกว่าการเริ่มต้นแสดงของผมนั้นมันก็ไปได้สวยเหมือนกัน เพราะทุกคนก็เห็นด้วยเหมือนกันว่าโหย่วเผิงสามารถที่จะแสดงภาพยนตร์ได้ดี เส้นทางอนาคตนั้นก็ยังต้องพยายามเดินให้ดีที่สุด”

ไม่มีใครคิดเลยว่าผมสามารถเปลี่ยนมาเป็นนักแสดงได้

หากพูดถึงเรื่องที่ตัวเองหันมารับงานแสดง โหย่วเผิงเองก็ยังรู้สึกว่าคิดไม่ถึง “นิสัยผมไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ชอบแสดงออกแต่กำเนิด นี่น่าจะเป็นเพราะโชคชะตากำหนดไว้ เมื่อเดินมาถึงจุดนี้ นิสัยผมเรียกร้องหาความสมบูรณ์เพอร์เฟค หากจะทำงานอะไร ก็จะตั้งใจและทำให้สำเร็จ”

หากจะพูดเรื่องบทบาทของภาพยนตร์(จอเงิน) เขาก็จะเอ่ยถึงไป๋เสี่ยวเหนียน เพราะอีกมุมหนึ่งนั้นบทของไป๋เสี่ยวเหนียนนั้นยากจะจิตนาการได้ และอีกด้านหนึ่งคือบทไป๋เสี่ยวเหนียนนั้นได้ให้สิ่งใหม่ๆกับการแสดงของโหย่วเผิง “หากยังมีโอกาสที่จะได้รับบทดีๆอย่างนี้อีกสองสามเรื่องที่จะให้ทุกคนได้จำได้คิดถึงผม ผมก็พอใจแล้ว ไป๋เสี่ยวเหนียนนับว่าแค่ครึ่งบทมั้ง ฮ่าๆ เพราะเป็นบทที่พิเศษ”

วันนี้ได้พูดถึงความดื้อในสมัยวัยรุ่น โหย่วเผิงก็ยังร้องประทับใจเหมือนกับสมัยก่อน เมื่อเอ่ยพูดถึงเรื่องที่กินใจก็จะมีท่าทางที่เอามือลูบตักไปมา “ตอนนี้ผมนั้นได้ผ่านวัยนั้นมาแล้ว ตอนนี้ทุกคนก็กำลังจ้องมองว่าตอนนี้โหย่วเผิงจะเปลี่ยนไปในแนวไหนอีก จะไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม ก็จะมีคนว่าไกวๆหู่ทำไมคุณไม่ไกวแล้ว ทำไมถึงทำอย่างนี้ได้ ยังดีที่ตอนนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่เล่นบทไป๋เสี่ยวเหนียนแล้ว ทุกคนก็กำลังรอการเปลี่ยนแปลงของก้าวต่อไป โหย่วเผิงจะมีลูกเล่นอะไรอีก การเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ทำให้ผมแฮปปี้เป็นอย่างมาก”

หากว่าวันหนึ่งผมสามารถที่จะยืนอยู่ที่สูงเหมือนกับสมัยเสี่ยวหู่ตุ้ย ผมก็จะกล้าที่จะเลือกหยุดอยู่ตรงนั้นแล้วถอยกลับ มีเพียงอย่างนี้ถึงจะทำให้สิ่งเหล่านั้นกลายเป็นความคลาสสิกตลอดไป


สนทนา ผมไม่มีทางที่จะทำสิ่งเดียวไปตลอด


นักข่าว. วันนี้ถ่ายแบบเหนื่อยไหม? ดูคุณเหมือนกับว่าชอบมากๆ ?

โหย่วเผิง . ก็โอเคอยู่ เพราะมันสนุก เมื่อได้เล่นแล้วไม่รู้สึกเหนื่อย

นักข่าว. ทำไมต้องการการเปลี่ยนแปลงทำในสิ่งที่แปลกใหม่อยู่ตลอดเวลาเลย?

โหย่วเผิง . ไม่ชอบอะไรที่ธรรมดาปกติ ทุกวันทุกคนก็ถ่ายแบบกัน ผมอยากจะทำผลงานอะไรที่ไม่อยากเป็นกับเมื่อวาน หากเป็นสิ่งที่เป็นระเบียนเป็นของเก่าผมก็จะเบื่อ ผู้ชมก็เหมือนกัน

นักข่าว . คุณคิดอย่างไงกับตอนถ่ายแบบแล้วถือกุหลาบแห้งช่อหนึ่ง

โหย่วเผิง . คุณไม่รู้สึกมันเข้ากันมากหรือ? แต่การที่ผมได้ไอเดียอย่างนั้นใช่ว่าปุ๊ปปั๊ปนะ ผมพูดอยู่บ่อยๆว่าหากผมเป็นนักเขียน แล้วผมก็ส่งงานเขียนผมทุกอาทิตย์ ภายใต้ความกดดันนั้นผมคงจะตายแบบหมดสภาพแน่ หากว่าไม่มีความกดดัน ให้สบายๆ ผมก็อาจจะได้ไอเดียแบบเอากุหลาบมาถ่ายอย่างนี้บ่อยๆแน่

นักข่าว . คุณนั้นได้ตั้งใจจะดื้อมาตลอดหรือเปล่า?

โหย่วเผิง . นิสัยส่วนตัวผมนั้นเป็นคนที่ชอบขัดแย้ง ผมชอบทำอะไรที่ตรงข้าม และผมเองก็ไม่มีความอดทนด้วย เช่นบางครั้ง หากถ่ายทำฉากหนึ่งหรือเรื่องหนึ่งเสร็จ ตอนนั้นอาจรู้สึกว่าไม่เลว แต่เมื่อผ่านไปสองสามวันก็จะมีความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง ฉะนั้นผมสังเกตุเห็นว่าผมเองนั้นจะทำอะไรที่ซ้ำๆเดินๆไปเรื่อยๆไม่ได้...

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Life Style
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 05:29:36 AM »


บทคนไม่ปกติเป็นความใฝฝันของผม

นักข่าว . หลังจากที่กลับจากอังกฤษ แล้วคุณก็ไปรับงานแสดงเร็วมาก หากว่าไม่ไปรับงานแสดง ก็จะเหมือนกับคนอื่นๆที่ไปเป็นพิธีกรหรือพรีเซนเตอร์อย่างนั้นหรือเปล่า?

โหย่วเผิง . สำหรับผมนั้น ผมยอมที่จะถอยออกมา ท่าที่อย่างนั้นกับผมในเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นเหมือนกัน หากว่าวันหนึ่งผมสามารถที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดอย่างสมัยเสี่ยวหู่ตุ้ย ผมก็จะตัดสินใจกล้าที่จะถอยออกมา ทำอย่างนี้ถึงสามารถที่จะรักษาความสุดยอดเอาไว้ได้ ก็เหมือนกับตอนนี้ทุกคนก็หวนคิดถึง จางก๋อหยง(ลิสลี่จาง) หลักการเหมือนกัน เขาได้เอาสิ่งที่ดีที่สุดเก็บไว้ให้กับทุกคน กลายเป็นความคลาสสิกไปตลอดเวลา

นักข่าว . มีบทอะไรบ้างไหมที่คุณแสดงแล้ว รู้สึกเกิดขึ้นมาทันที รู้สึกว่าใช่แล้ว แท้จริงการแสดงถึงจะเป็นอาชีพของผม?

โหย่วเผิง . ไม่มีจริงๆ เพราะทุกเรื่องที่ถ่ายเสร็จแล้วก็จะรู้สึกเหนื่อยจะตาย รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวมั้ง วันนี้หากย้อนมองไปก็มีเพียงเรื่อง (ดาบมังกรหยก:กระบี่ิือิงฟ้า ดาบฆ่ามังกร)เท่านั้นที่ดูโอเค แต่ว่าตอนที่ถ่ายเสร็จใหม่ๆก็รู้สึกไม่มั่นใจเหมือนกัน ไป๋เสี่ยวเหนียนก็ใช่ ขณะที่ถ่ายเสร็จแล้วก็ไม่กล้ารีเพลย์มาดู ล้วนให้ผู้กำกับไปเคลียเอง ผมก็จะอยู่ในโลกของผม หากผู้กำกับบอกผ่าน ผมก็โอแล้ว

นักข่าว . ณ วันนี้ บทของไป๋เสี่ยวเหนียนนั้นเป็นบทที่ท้าทายคุณที่สุดหรือเปล่า?

โหย่วเผิง . ใช่ครับ ผมไม่เคยเจอบทไหนที่ต้องเตรียมการถ่ายทำที่ยาวนานขนาดนี้เลย

นักข่าว . คุณได้ตั้งใจในการเรียนงิ้ว แต่สุดท้ายกลับถูกตัดทิ้งไปหมด รู้สึกอย่างไร?

โหย่วเผิง . ไม่ใช่ตัดทิ้ง แต่คือไม่ถ่ายทำเลย ในเรื่องนั้นจริงๆมีฉากอยู่ เมื่อรับมาแล้วก็ตกใจรีบไปเรียนเลย กลัวจะเสียหน้า กลัวแสดงไปแล้วจะถูกขำ และในเรื่องนั้นฉากยาวมาก และในเรื่องก็มีการตัดบททิ้งเยอะเหมือนกัน ฉากที่สนุกที่สุดก็คือตอนที่อยู่ในโรง ตอนนั้นจะเป็นการเล่าถึงเบื้องหลังของไป๋เสี่ยวเหนียน น่าจะเป็นละครในละคร

นักข่าว . มีบทแบบไหนที่คุณอยากจะไปสร้างเปลี่ยนอีก?

โหย่วเผิง . เป็นคนที่เหนือคนมั้ง เพราะผมรู้สึกว่าคนปกติทุกคนก็เล่นกันแล้ว เมื่อก่อนผมเคยแสดงคนป่วยทางจิต น่าจะเป็นละครโทรทัศน์ แต่ก็ไม่ได้ลงลึก การที่ได้แสดงบทคนป่วยทางจิตผมเองก็คิดว่าไม่เลว ยังมีคนที่แปลกประหลาด

นักข่าว . ตอนนี่ถ่ายภาพยนตร์รู้สึกไหมว่า เรายังมีอะไรในตัวอีกเยอะที่ยังไม่ขุดออกมา?

โหย่วเผิง . ผมเองก็ไม่กล้ามั่นใจอย่างนี้ ผมเองก็เต็มไปด้วยความสงสัย ผมเป็นคนหนึ่งที่อาศัยความรู้สึกมากๆ เช่นการถ่ายแบบ หากไม่มีอารมณ์ก็คือไม่มีอารมณ์ บางครั้งอารมณ์มาแล้วจะหยุดยังไงก็ไม่อยู่

นักข่าว . จะพูดเรื่องความเชื่อส่วนตัวของคุณได้ไหม?

โหย่วเผิง . ผมใฝ่หาพระพุธท และก็มักจะมีความเกี่ยวข้องกับธรรมะด้วย ผมเชื่อหลักคำสอนของพุทธศาสนา พระองค์ท่านได้ตรัสไว้ว่า การปล่อยวางเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จุดสูงสุดของมนุษย์คือการตัดกิเลส ผมก็พยายามตรงนี้อยู่

นักข่าว . วิถีชีวิตแบบไหนที่คุณใฝ่หา?

โหย่วเผิง . วิถีชีวิตในวันนี้นั้นใช่ว่าเป็นสิ่งที่ผมต้องการทั้งหมด ตอนนี้งานมันเยอะมาก ด้านการแสดงภาพยนตร์ก็เพิ่งเริ่ม โอกาสของงานทำให้มีเยอะมากขึ้น พูดตรงๆว่าผมเองก็ยังปรับไม่ค่อยลงตัวจริงๆแล้วชีวิตต้องสมดูลย์ แต่ว่าตอนนี้เวลาของงานมันหนักเกินไป กินพื้นที่เวลาชีวีตไปเยอะมากๆ วิถีชีวิตอย่างนี้นั้นไม่ปกติ ผมว่าถ้าจะให้ดีนั้นปีละเรื่องเดียวก็พอ

นักข่าว . นักแสดงมากมายเขารับปีละเรื่องเอง

โหย่วเผิง . ตอนนี้ผมไม่มีทางอื่น เพราะผมเพิ่มเริ่มเข้ามา ยังไม่ถึงขั้นนั้น หากว่าผมสามารถที่จะก้าวผ่านช่วงนี้ไปได้ จะมีชีวิตที่ว่างเยอะหน่อย ให้เพื่อน ให้ครอบครัว และมีเวลาไปท่องเที่ยว ทุกปีมีการแสดงแค่เรื่องเดียว ออกหนึ่งอัลบั้ม โอ้ ชีวิตอย่างนี้คงจะดีมากๆ


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Life Style
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 05:32:55 AM »

เดือนเมษายน มีสองเรื่องที่จะเข้าโรง

เดือนพฤษภาคม มีภาพยนตร์สองเรื่องที่จะเปิดกล้อง

นักข่าว . ในเรืองสี่กามเทพนั้น คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้แสดงกับเหล่าเด็กน้อยสี่คน?

โหย่วเผิง. ทั้งสี่คนซนมากๆ หากมีคนหนึ่งอาละวาดทุกคนก็จะตาม หากว่าทั้งสี่คนอาละวาดขึ้นมามันไม่ไหวจริงๆ ผมเองก็เป็นคนที่มีความอดทนน้อย ผมชอบเด็กที่เชื่อฟังหน่อย

นักข่าว . แล้วคุณรู้สึกถึงความเป็นพ่อยัง?

โหย่วเผิง . อย่าคลอดลูกเป็นแฝดสี่คนเด็ดขาด

นักข่าว . ได้ข่าวว่าในเรื่องตามหาพี่หลิวซันคุณเล่นเป็น ABC (หนุ่มนักเรียนนอก-ประเทศอังกฤษ)

โหย่วเผิง . ใช่ ในเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมใช้ภาษาอังกฤษพูดสนทนา ในเรื่องผมแสดงเป็นชายคนหนึ่ง ได้เติบโตที่ต่างประเทศ เรียนที่นั่น เหตุที่ปู่เป็นคนกวนซี ฉะนั้นมีความสนใจประเพณีวัฒนธรรมของที่นั่นมาก แล้วก็ได้กลับไปที่บ้านเกิด เนื้อเรื่องนั้นส่วนใหญ่จะพูดถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน สำหรับตัวเองก็เห็นด้วย เพราะในกวนซีนั้นมีชนเผ่าพื้นเมืองหลายๆเผ่า และมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป หากไม่ใช่เพราะการถ่ายทำ ผมเองก็คงไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมเหล่านี้

นักข่าว . จริงหรือไม่มีสาวจากเผ่าเย้ามาโยนลูกปักให้คุณ?

โหย่วเผิง . การถ่ายทำทั้งเรื่องนั้นน่าตื่นเต้น และสนุก ไม่ว่าจะไปหมู่บ้านไหนก็ล้วนมีสาวงามให้เห็น ฮ่าๆๆ ในเรื่องนั้น เพื่อนของคุณปู่ได้วางแผนในการที่จะเล่นจับคู่ในราตรีบันเทิง ผมกับสาวเย้าได้ดื่มจนเมา ตอนนั้นผมเองก็เมาจริงๆนะ มันไม่ใช่การแสดงเลย ดูจากหนังแล้วจะเห็นใบหน้าที่แดงๆนั้นเมาจากเหล้าจริงๆ

นักข่าว . ในเรื่องคุณยังร้องเพลงชาวเขาด้วย?

โหย่วเผิง . ใช่ครับ ยังต้องไปคาราวะอาจายณ์ที่นั่นมาสอนด้วย เสียงร้องครั้งแรกนั้นไม่เหมือน มันสนุกจริงๆ ผมยังได้ร้องเพลงอิตาลีด้วย (ดวงอาทิตย์ของฉัน)

นักข่าว . ต่อจากนี้ยังมีโครงการอะไร?

โหย่วเผิง . เดือน พฤษภาคม มีสองเรื่องกำลังรอเปิดกล้อง จริงๆแล้วตอนนี้ก็มีความกดดันพอสมควร เพราะสองเรื่องนี้รับมาในเวลาที่ยุ่งๆอยู่ วางแผนไว้ว่าถ่ายเสร็จเรื่องหนึ่งก็รีบต่ออีกเรื่อง ตอนนี้ก็ยุ่งมากๆ ไม่ค่อยมีเวลาในการเตรียมบท มันวุ่นๆ หวังว่าสองบทนี้จะแสดงออกมาได้ดี


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Life Style
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 05:33:40 AM »

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Life Style
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 05:34:16 AM »

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Life Style
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2016, 11:35:19 AM »