ฝนนับถือคุณมาก
สองช่วงเวลาที่ฝนได้ทราบว่าคุณต้องทุกข์ทรมานมากๆ คือ
1. ในช่วงที่จะจบม.6 ที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย และ
2. ช่วงที่ตัดสินใจพักการเรียน ซึ่งเป็นช่วงที่คุณนั้นก็มีปัญหาในด้านครอบครัวด้วย
แต่คุณสามารถก้าวข้ามผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ
คุณเริ่มทำงานหนักในช่วงม. 6 ทำให้ผลการเรียนแย่มากในช่วง 3 เดือนแรกของการเรียน คุณแทบเป็นบ้าไปเลย ในหัวคุณว่างเปล่าแล้วก็ไม่มีสมาธิอีกด้วย ความคาดหวังจากสังคม, ความเอาใจใส่และจดหมายให้กำลังใจจากแฟน ๆ ทุก ๆ อย่างคือแรงกดดันสำหรับคุณ เพราะตอนนั้นสังคมก็ได้สร้างภาพให้กับคุณคือ การเป็น “ไกวๆหู่” คุณได้ผ่านชีวิตในช่วงที่มีแต่คนในสังคมติเตียน และไม่เห็นด้วย
ตอนนั้นคุณมีปัญหามากมายทั้งเรื่องการเรียน การงาน และ ครอบครัว ทำให้คุณต้องทุกข์ทรมารมากๆ บางครั้งคุณเขียนลงในสมุดว่า “ผมอยากตาย” คุณเริ่มร้องไห้ และได้พูดว่า “มันทรมานเหลือเกินฮะแม่ มันทรมานเหลือเกิน ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย” “ทุกข์จังเลย ทุกข์จังเลย อยากตายจัง”
ความกดดันและความทุกข์ทรมานในช่วงเวลานั้น ฝนสามารถรับรู้และเข้าใจคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะด้วยพื้นฐานนิสัยที่คล้ายกัน ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครสามารถช่วยอะไรเราได้ นอกจากตัวเราเองเท่านั้น แล้วคุณก็สามารถก้าวข้ามผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม
อุปสรรคครั้งแรก คุณทำสำเร็จด้วยการสอบผ่านเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง คณะที่เป็นที่นิยม ด้วยคะแนนสอบที่ยอดเยี่ยมมาก คุณสอบได้ที่ 5 ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศใต้หวัน
อุปสรรคครั้งที่2 ช่วงที่คุณตัดสินใจพักการเรียน ครั้งนี้ถ้ามองย้อนกลับไป มันหนักมากกว่าครั้งแรกมากๆ เมื่อครั้งที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นเรายังเด็ก ฝนเชื่อว่ามีหลายคนเลยล่ะค่ะ ที่เลือกสอบเข้าตามค่านิยมโดยไม่ทราบว่าตัวเองชอบอะไรอย่างแท้จริง คุณก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่คิดว่าควรจะเลือกเรียนสายแพทย์หรือไม่ก็ด้านวิศวะ เพราะว่ามันแสดงถึงความเฉลียวฉลาด ฝนเองก็ไม่ต่าง เพียงแต่โชคดีที่สิ่งที่ฝนเลือกเรียนในเวลานั้น เป็นสิ่งที่ฝนชอบในภายหลังพอดี
แต่เมื่อคณะนั้นไม่ใช่คณะที่คุณชอบ ไม่ใช่อาชีพที่คุณอยากเป็น คุณได้เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้อง เหมาะสมกับชีวิตคุณ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นเห็นว่าน่าจะทำ คุณต้องการปลดปล่อยตนเอง ประกอบกับนิสัยดื้อรั้นของคุณ ทำให้คุณตัดสินใจพักการเรียนคณะนี้ ฝนนับถือการตัดสินใจที่เด็ดขาดของคุณ และเคารพการตัดสินใจครั้งนี้ของคุณค่ะ
ในช่วงเวลานั้นที่ทั้งสังคมต่างก็ไม่เห็นด้วย ต่างก็ติเตียนคุณ ทำให้คุณต้องทุกข์ทรมานมาก คุณได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ความกล้าหาญ ไม่ใช่ว่าไม่เคยรู้สึกกลัว แต่ความกล้าหาญคือ การตัดสินใจลงมือทำทั้งๆที่ยังกลัว ทั้งๆที่ยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าทางออกจะเป็นอย่างไรต่างหาก คุณกล้าหาญที่สุดค่ะ และก็แข็งแกร่งมากๆด้วย ที่สามารถผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานเหล่านั้นมาได้
ในช่วงเวลานั้น ฝนรู้ว่าคุณทั้งทุกข์ทั้งทรมาน ทั้งท้อแท้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า คุณไม่เข้มแข็งเช่นกันนะคะ เมื่อคุณลุกขึ้นมาก้าวเดินต่อไปทั้งๆที่ยังท้อแท้ ทั้งๆที่ยังมองไม่เห็นความหวังอะไรเลย ต่างหากค่ะ คือความเข้มแข็ง คือความแข็งแกร่ง และพลังอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงของคุณ ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ได้
พลังชีวิตของคุณ ความแข็งแกร่งของคุณ เป็นพลังที่ยอดเยี่ยมที่ส่งผ่านให้กับชีวิตคนอื่นรวมทั้งตัวฝนเอง คุณจึงเป็นกำลังใจและเป็นพลังให้ฝนในยามที่ฝนท้อแท้ค่ะ ขอบคุณนะคะ โหย่วเผิง
ฝนชื่นชมคุณ ในความกตัญญูต่อพ่อแม่
คุณได้ทุ่มเททั้งกายและใจให้กับหน้าที่การงาน เพื่อหาเงินใช้หนี้ให้พ่อ ส่งน้องเรียน และเพื่อให้คุณแม่มีชีวิตที่ดีขึ้น จากจิตใจที่กตัญญูของคุณ คุณได้พยายามทุกวิถีทาง จนในที่สุดการหย่ากันของทั้งสองที่ผ่านไปหลายปีนั้น ก็ได้ไปจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง จากที่ทั้ง 4 คนต่างต้องแยกกันอยู่ ก็ได้กลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ฝนรู้ว่าคุณรักคุณแม่มากๆ “ผมรักคุณแม่มากๆ”
“ผมโชคดีมากๆ มีคุณแม่ที่ดีอย่างนี้ เข้มเข็งแต่ต้นจนจบ เคียงข้างผมตลอด ให้การโอบกอดที่อบอุ่นแก่ผมตลอดไป”