พิธีกร : คุณคิดว่าใครคือคนที่คุณต้องรับบทด้วยเยอะที่สุดครับ
หลิว อี้ เฟย :
พี่ฟ่ะ เขาเป็นคนที่ร่าเริง สนุกสนาน เขาอาจจะไม่ได้เป็นคนที่เคร่งขรึมขนาดนั้น ตอนที่พี่เขาเข้าฉากแสดง กับตอนอยู่นอกฉากเนี่ย มันดูเป็นธรรมชาติมาก เขาเคยเล่าว่า ตอนนั้นคนมาถามเขาว่า คุณคิดว่า โจโฉ เป็นคนอย่างไร อยู่ในยุคไหน ถามอะไรเต็มไปหมด เขาก็ตอบไปว่า โจโฉ เขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งนั่นแหละ บทที่ผมแสดง เขาก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งเท่านั้น
หลายคนคงคิดว่า ตอบง่ายไปหรือป่าว แต่มันก็จริงอย่างนั้นนิ ไม่ว่าบทที่เล่นจะเด่นดังแค่ไหน เขาก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งเท่านั้น เขาก็เป็นคนที่มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน
พิธีกร :
ครับ ผมขอเอาคำพูดของพี่ฟ่ะมาใช้ คนที่เขารับบทเล่นนั้นก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น โจโฉ
แล้วถ้าสมมติว่า เอาตัวละครในประวัติศาสตร์ อย่างเช่น โจโฉ โจผี ลิปโป้ แล้วก็ยังมี ไท่อี้ พวกเขาเหล่านี้ ผู้ชายทั้งหมดนี้ หลุดออกมาอยู่ในยุคปัจจุบัน มายืนอยู่ข้างกายคุณ อยากทราบว่า คุณคิดว่าผู้ชายแบบไหนที่คุณชอบที่สุด
หลิว อี้ เฟย :
ขอเลือกหมดเลยได้ไหมค่ะ เพราะว่าในแต่ละคนก็จะมีความเป็นตัวตนของแต่ละคนอยู่ มันไม่เหมือนกันจริงๆ มันไม่มีอะไรสามารถเปรียบกันได้หรอก ต้องดูก่อนว่าในตอนนั้น.....อืม ถ้าเป็นแค่เรื่องสมมติมันก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ถ้าเรารักใครสักคนหนึ่ง มันคงไม่ต้องหาเหตุผลใดๆหรอกค่ะ
พิธีกร :
อาจจะเป็นในช่วงสมัยใดสมัยหนึ่ง แล้วถ้าได้พบรักกับใครในสมัยนั้นล่ะก็ มันอาจจะทำให้เรารู้สึกแปลกๆก็ได้ ฮาฮา... อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้
บทที่คุณแสดงมันก็ไม่ใช่แค่บทนี้บทเดียว มันยังมีอีกตัวละครหนึ่ง
หลิว อี้ เฟย :
ถึงแม้บทนั้นมันจะน้อยมากก็ตาม นั่นก็คือบทของแม่หลิงจีว์ (เตียวเสี้ยน)
พิธีกร : แล้วเวลาที่คุณแสดง มันไม่รู้สึกสับสนกับสองบทนี้บ้างเหรอครับ
หลิว อี้ เฟย :
ไม่นะค่ะ เพราะเวลาแสดง ฉันก็ไม่ได้คิดว่าสองคนนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่มีสองคนนี้อยู่ ทั้งหมดมันคือตัวฉัน เพียงแค่ใช้ความรู้สึกเวลาแสดง ว่าสองคนนี้คือคนละคนกัน ตอนที่แสดงเป็นเตียวเสี้ยน มันก็จะเป็นฉากที่มีลิปโป้ ยืนอยู่ที่ลานประหาร แล้วลูกของฉันตอนนั้นก็ยังเล็กอยู่ ฉันต้องรู้ว่าฉากที่แสดงจะต้องออกมาอย่างไร แต่ตัวฉันยังไงมันก็คือตัวของฉันค่ะ ลบชื่อตัวละครเหล่านั้นออกจากสมอง ฉันไม่ใช่ทั้ง อี้ เฟย และฉันก็ไม่ใช่ หลิง จีว์ เราแค่แสดงความรู้สึกออกมาตามบทบาทเท่านั้นเอง
พิธีกร :
พวกเรารอชมกันได้ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ชมความสามารถของเธอ กับบทที่ท้าทายสองบทบาทนี้ได้นะครับ
และในการถ่ายทำของอาจารย์ เหยา หลู่ ล่ะครับ แต่ไหนแต่ไรมันก็เป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยน่าเข้าใกล้สักเท่าไหร่ อะไรอย่างนั้น บทที่คุณได้รับมันออกจะดูเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา เมื่อตะกี้ที่ผมสังเกตเห็น ตอนคุณนั่งอยู่บนโต๊ะของกรรมการภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ หน้าเวทีที่จัดไว้นะครับ รู้สึกว่า เอ๊ะ มันน่าเกรงขามมากเลย แล้วปกติคุณเป็นคนอย่างไรครับ
อาจารย์ เหยา หลู่ :
ปกติผมกับการเลือกการแต่งตัว ผมออกจะเป็นคนสบายๆ ผมจะไม่ค่อยเคร่งครัดอะไรขนาดนั้น สร้างภาพอ่ะนะครับ
พิธีกร : งั้น คุณก็สามารถแสดงบทได้ออกมาดีเลยทีเดียว
เหยา หลู่ กับการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์สามก๊ก เป็นอะไรที่คุ้นเคยมาก ในปี 1996 ภาพยนตร์เรื่องโจโฉ เหยา หลู่ ถือเป็นอีกยุคหนึ่ง คนหนึ่งที่เคยได้รับบทเป็น โจโฉ จอมทรราช ซึ่งในตอนนี้เขาก็ได้มาร่วมงานกับโจโฉ 2 เหยา หลู่ เป็นดารานักแสดงอาวุโส รับบทเป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทกับโจโฉมากที่สุด เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผู้กำกับที่มากความสามารถอย่าง จ้าว หลิน ซาน ได้มาทาบทามกับเหยาหลู่ ให้มารับบทเป็นแพทย์หลวง ในเรื่อง ถง ชูเว้ ไถ
(ระหว่างซ้อมบท) : ประคองหน่อย ประคองหน่อย
เหยา หลู่ : ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมลงเองได้
ได้ทำงานร่วมกับ โจว เวิน ฟ่ะ เหมือนกับเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันไปแล้ว สองคนเริ่มทำงานร่วมกันตั้งแต่ ภาพยนตร์เรื่อง ขงจื้อ จนมาถึงเรื่อง ภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ ในตอนนี้ แล้วอะไรล่ะที่ทำให้รู้สึกประทับใจ
อาจารย์ เหยา หลู่ :
พี่ฟ่ะ เขาเป็นคนที่แสดงได้เก่งมาก ไม่ว่าจะด้านการแสดงออกทางอารมณ์ หรือ สีหน้า เป็นคนที่มีความสามารถมากด้านการแสดงคนหนึ่ง และเขาก็สามารถทำผลงานของเขาออกมาได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ในการถ่ายภาพยนตร์ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับเขา 2 คน เขามาพูดกับผมว่า เนี่ยตีสามกว่าแล้วผมยังนอนไม่หลับเลย ผมก็ถามเขาว่าทำไมเขาตอบว่าผมกำลังนั่งคิดทบทวนถึงคุณอยู่ ผมรู้สึกกังวลมากเลย และผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน เขาเป็นคนที่คาดหวังกับตัวเองสูง กลัวว่ามันจะออกมาได้ไม่ดี
พิธีกร :
อาจารย์ซึ่งมารับบทแพทย์ในราชสำนักนี้อ่ะนะครับ เป็นตัวละครที่พยายามเรียนรู้ จดจำ ทุกอย่างจากโจโฉ ในตอนที่ผมได้กล่าวไว้ว่า ดูผิวเผินแล้วเหมือนเป็นฝ่ายเดียวกับโจโฉ แล้วทำไมอยู่อยู่ถึงได้มีใจคิดคด หรือที่เรียกได้ว่าเป็น ขบถ ได้ไหมครับ ท่านผู้กำกับ เรียกอย่างนั้นก็ได้ไหมครับ
ผู้กำกับ จ้าว หลิน ซาน :
เมื่อกี้หลังไมล์คุยกันเรียบร้อยแล้ว ให้เขาเป็นคนตอบเองจะดีกว่า
อาจารย์ เหยา หลู่ :
ตัวละครที่เล่นเรื่องนี้นะครับชื่อ หลิงจิ้ง เป็นแพทย์หลวง ผมคิดว่าถ้าคุณไปดูภาพยนตร์แล้วดูเรื่องนี้ แน่นอนล่ะครับว่า ทุกคนเมื่อถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จ ก็ต้องคิดว่าผลงานของตัวเองน่ะคือที่สุด แล้วลองคิดกลับกันสิว่า แล้วถ้าเมื่อคนอื่นได้มาดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว คุณสามารถที่จะค่อยๆมองข้ามภาพลักษณ์ที่คุณเคยรู้จัก ไม่ว่าจะ หลิวอี้เฟย, โหย่ว เผิง, ชิว ซิน จื้อ, อาจารย์ อี้ เหนิง จิ้ง ความรู้สึกมันจะดำเนินไปตามตัวละครในเรื่อง
มีคนถามผมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่ะสื่อถึงอะไร ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ มันสะท้อนถึงจิตใจของคนจีนอย่างหนึ่งแหละครับ จริงนะ ผมไม่โกหก นี่คือเรื่องจริง เพราะในปัจจุบันนี้ มีอะไรที่มันวุ่นวายสับสนปนเปกันไปหมด มันรวมถึงใจคนเราด้วยครับ แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ มันก็สะท้อนให้เราได้เห็นถึงจิตใจของคนที่มันสลับซับซ้อนเกินหยั่งถึง เอาตามตรงนะครับ ผมคิดว่าตัวละครที่ผมเล่นนั้นต้องใช้ทั้งความสามารถและจิตวิญญาณของนักแสดงล้วนๆ