ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]  (อ่าน 41992 ครั้ง)

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2012, 04:42:16 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=9wVJxywSVKk" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=9wVJxywSVKk</a>
http://www.youtube.com/watch?v=9wVJxywSVKk


(ต่อ)


พิธีกร :
เป็นตอนหนึ่งของ ฮ่องเต้ฮั่นเซี่ยนตี้ ร้องตอนที่รู้สึกรันทดใจ เป็นตอนหนึ่งในภาพยนตร์ เหมือนได้เข้าไปสัมผัสกับอารมณ์และความรู้สึกของเขาในตอนนั้นได้เลย ทุกคนก็คงจะเคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนใช่ไหมครับ

3 คนนี้คือ มือสังหารของเรื่อง แน่นอนครับ 3 คนนี้ต้องมีความบาดหมางกับโจโฉ ขอถามสนุกๆนะครับว่า ใครกันในที่นี้ที่มีความแค้นฝังลึกกับโจโฉที่สุด


ซู โหย่ว เผิง : น่าจะเป็นผมมั้ง เพราะผมเป็นฮ่องเต้ แค้นนี้ไม่อาจชำระ


พิธีกร :
มันเป็นความเคียดแค้น

แล้วอาจารย์ เหยา หลู่ ล่ะครับ ดูผิวเผินแล้วน่าจะเป็นคนของอีกฝ่าย แต่จริงๆแล้ว เป็นที่ร้ายลึกมากเลยทีเดียว


อาจารย์ เหยา หลู่ : (เหยา หลู่ นักแสดง) :
ผมว่าน่าเรียกอย่างนั้น ตอนที่ถ่ายดูเหมือนมันไม่มีอะไรน่ายาก พอถ่ายเสร็จ มักจะมีคนมาถามผม แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกกดดัน พูดอีกก็ถูกอีกนะครับ ต่อหน้าเหมือนรักกันดี มีความซื่อสัตย์ต่อกัน แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่เป็นอย่างนั้น แต่ถึงยังไงมันก็เป็นแค่บทแสดงนะ



พิธีกร : อ่อครับ.... อี้ เฟยล่ะครับ


หลิว อี้ เฟย : (หลิว อี้ เฟย) :
ฉันกับโจโฉ ก็ไม่ได้มีอะไรบาดหมางกันนะค่ะ เป็นความแค้นที่คนอื่นหยิบยกให้ แต่พอเมื่อได้มาพบกับเขาแล้ว ทำให้ฉันได้เข้าใจอะไรใหม่ มันไม่เหมือนในสิ่งที่คนอื่นเคยพูด



พิธีกร : ความแค้นของคนอื่นมันก็ไม่ใช่ของเรา


หลิว อี้ เฟย :
ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความคิดเป็นของตัวเอง ตัวฉันเองก็มีความคิดเป็นของฉันเช่นกัน มันเป็นอีกความรู้สึกหนึ่งที่ฉันมีต่อเขา


หลิว อี้ เฟย ในภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ รับบทเป็น หลิงจีว์ เป็นตัวละครที่ถูกอบรมเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กเพื่อที่จะเป็นมือสังหาร และคนที่เขาต้องการสังหารนั่น ก็คือ โจโฉ เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับโจโฉนั้น เธอยอมถูกส่งตัวมารับใช้โจโฉ ในฐานะ สหายคนสนิท ในเรื่องนี้บทบาทของ หลิงจีว์ ส่วนใหญ่เน้นไปที่การแสดงอารมณ์ที่ออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ และ หลิว อี้ เฟย ก็สามารถแสดงบทบาทเหล่านี้ได้อย่างสมบทบาท


หลิว อี้ เฟย :
ไม่กี่ปีมานี้ฉันพบแล้วล่ะว่า เสียงตอบรับมันเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากเลย รวมถึงเรื่อง เจี้ยน หยู่ และ หง เหมิน เยี้ยน ด้วย ถึงแม้ใครใครจะคิดว่าตัวละครนี้ พูดตามตรงนะค่ะ อาจจะคิดว่าเป็นบทที่มีคนเคยนำมาเล่นแล้ว ถึงยังไงนะค่ะ ฉันค้นพบแล้วล่ะว่า ในการแสดงบทบาทและการทำงานแต่ละครั้ง มันล้วนแล้วแต่เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับฉัน มันเหมือนกับเราได้ลองอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะความรู้สึก ณ ตอนนั้น อารมณ์ ในตอนนั้น

ดังนั้น หลิงจีว์ อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของเหตุการณ์เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าฉันจะรับบทนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือ 5 ปีที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็จะยังคงเหมือนเดิม และที่ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่ฉันได้แสดงมันออกมา มันก็คือความตั้งใจจริงของฉันที่ใช้เวลาช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ไม่มีใครกำหนดไว้หรอกค่ะว่า ตัวละครแต่ละตัวมีบทจริงๆอย่างไร ถึงแม้ว่าบทจะเขียนไว้อย่างไร แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเราที่จะแสดงมันออกมา



หลิว อี้ เฟย รับบทเป็น หลิง จีว์ ถูกโชคชะตาชักนำเธอมา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง เธอ กับ โจโฉ ในด้านของผู้จัด เธอเป็นอีกตัวละครหนึ่งที่เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินเรื่อง


หลิว อี้ เฟย :
อาจจะเรียกได้ว่า เธอเป็นคนที่เคยมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักแสดงละครโทรทัศน์ หรือ ดาราภาพยนตร์ก็ตามแต่ ควรที่จะ....เอาความรู้สึกทั้งหมดของเราเนี่ย.....ร่วมไปกับบทบาทนั้นด้วย เนี่ยเพียงเท่านี้ก็น่าเพียงพอแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรให้มันซับซ้อนเลย นักแสดงที่ดี ไม่ว่าจะแสดงสด หรือแสดงตอนที่ยังไม่ได้แต่งอะไรเลย ล้วนแล้วแต่เป็นนักแสดงเหมือนกัน ถ้าคุณแสดงมันออกมาอย่างเต็มความสามารถ



พิธีกร :
ผมรู้สึกว่านักแสดงนำ ที่มาเป็นแขกรับเชิญรายการเราในวันนี้นะครับ มีนิสัยซึ่งแตกต่างกับบทที่แต่ละคนแสดงมาก
อี้ เฟย ก็เช่นกัน เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ร่าเริง สดใส คนหนึ่ง แล้วในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูแล้วเหมือนเป็นคนที่เก็บกดเหมือนกันนะ


หลิว อี้ เฟย :
ฉันคิดว่าฉันค่อนข้างเป็นคนที่เย็นชานะ แล้วก็ค่อยๆปรับตัว ขึ้นอยู่กับอารมณ์และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง การแสดงก็เป็นอย่างนี้ เพราะเวลาเราแสดง มันก็ต้องใช้บรรยากาศทั้งในโรงถ่าย เนื้อเรื่อง และ คนแสดงที่ถูกพอร์ตเอาไว้ รวมกับทิศทางในการดำเนินของเรื่อง แล้วมันก็ทำให้เราแสดงบทนั้นออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ



พิธีกร : คุณคิดว่า ตัวละครที่คุณแสดงคนนี้ในภาพยนตร์ เป็นผู้หญิงอย่างไร


หลิว อี้ เฟย :
ฉันยังหาคำจำกัดความไม่ได้เลยนะค่ะ เพราะว่าจิตวิญญาณในการแสดง มันก็คือความเป็นตัวตนของเรา มันไม่มีอะไรมากำหนดตายตัวได้หรอกค่ะ ในบางครั้งก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าแสดงมันออกมาได้เอง ฉันสามารถนำเทคนิดการแสดงเรียนรู้มาใช้ นี่แหละคือความเป็นตัวตนที่เราถ่ายทอด แล้วมันยังทำให้เรารู้สึกว่าต้องแสดงบทให้เต็มที่ และตอนที่อยู่หน้ากล้อง เรายิ่งต้องแสดงมันให้ดูออกมาสมจริงยิ่งกว่านี้ เพราะถึงยังไงคุณก็ไม่สามารถหลอกคนดูได้หรอก คุณต้องเรียนรู้งานจากการแสดงให้มาก



พิธีกร :
ถ้าจะให้คุณตอบว่า คุณเคยได้รับบทมาแล้วก็ตั้งมาก แล้วคุณคิดว่าแต่ะละบทที่คุณได้รับ มีอะไรที่แตกต่างกันออกไปครับ


หลิว อี้ เฟย :
ที่แตกต่างก็คือช่วงสมัยของตัวละครมั้งค่ะ แล้วบทในครั้งนี้ที่แสดงมันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าแตกต่าง แต่ก่อนฉันไม่เคยได้สัมผัสกับงานแสดงที่ต้องใช้ความละเอียดขนาดนี้ แต่ในตอนนี้คุณสามารถที่จะรับรู้ถึงความแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรที่เขียนอยู่ในบท มันดูตื่นตาจริงๆค่ะ


โดยปกติ ผู้หญิงที่สุภาพเรียบร้อย อย่าง หลิว อี้ เฟย จะเป็นคนที่ชอบเล่นกับงู ด้วยบุคลิกเหล่านี้ ทำให้ผู้กำกับเลือกเธอมารับบทเป็น หลิงจีว์ ในวันงานโปรโมทภาพยนตร์ หลิว อี้ เฟย ได้รับความดูแลเอาใจใส่จากผู้กำกับ จ้าว ที่ลงมือทำเค้กวันเกิดด้วยฝีมือของเขาเอง ทำให้ หลิว อี้ เฟย รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2012, 04:43:53 PM »

พิธีกร : คุณคิดว่าใครคือคนที่คุณต้องรับบทด้วยเยอะที่สุดครับ


หลิว อี้ เฟย :
พี่ฟ่ะ เขาเป็นคนที่ร่าเริง สนุกสนาน เขาอาจจะไม่ได้เป็นคนที่เคร่งขรึมขนาดนั้น ตอนที่พี่เขาเข้าฉากแสดง กับตอนอยู่นอกฉากเนี่ย มันดูเป็นธรรมชาติมาก เขาเคยเล่าว่า ตอนนั้นคนมาถามเขาว่า คุณคิดว่า โจโฉ เป็นคนอย่างไร อยู่ในยุคไหน ถามอะไรเต็มไปหมด เขาก็ตอบไปว่า โจโฉ เขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งนั่นแหละ บทที่ผมแสดง เขาก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งเท่านั้น

หลายคนคงคิดว่า ตอบง่ายไปหรือป่าว แต่มันก็จริงอย่างนั้นนิ ไม่ว่าบทที่เล่นจะเด่นดังแค่ไหน เขาก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งเท่านั้น เขาก็เป็นคนที่มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน


พิธีกร :
ครับ ผมขอเอาคำพูดของพี่ฟ่ะมาใช้ คนที่เขารับบทเล่นนั้นก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น โจโฉ

แล้วถ้าสมมติว่า เอาตัวละครในประวัติศาสตร์ อย่างเช่น โจโฉ โจผี ลิปโป้ แล้วก็ยังมี ไท่อี้ พวกเขาเหล่านี้ ผู้ชายทั้งหมดนี้ หลุดออกมาอยู่ในยุคปัจจุบัน มายืนอยู่ข้างกายคุณ อยากทราบว่า คุณคิดว่าผู้ชายแบบไหนที่คุณชอบที่สุด



หลิว อี้ เฟย :
ขอเลือกหมดเลยได้ไหมค่ะ เพราะว่าในแต่ละคนก็จะมีความเป็นตัวตนของแต่ละคนอยู่ มันไม่เหมือนกันจริงๆ มันไม่มีอะไรสามารถเปรียบกันได้หรอก ต้องดูก่อนว่าในตอนนั้น.....อืม ถ้าเป็นแค่เรื่องสมมติมันก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ถ้าเรารักใครสักคนหนึ่ง มันคงไม่ต้องหาเหตุผลใดๆหรอกค่ะ



พิธีกร :
อาจจะเป็นในช่วงสมัยใดสมัยหนึ่ง แล้วถ้าได้พบรักกับใครในสมัยนั้นล่ะก็ มันอาจจะทำให้เรารู้สึกแปลกๆก็ได้ ฮาฮา... อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้

บทที่คุณแสดงมันก็ไม่ใช่แค่บทนี้บทเดียว มันยังมีอีกตัวละครหนึ่ง



หลิว อี้ เฟย :
ถึงแม้บทนั้นมันจะน้อยมากก็ตาม นั่นก็คือบทของแม่หลิงจีว์ (เตียวเสี้ยน)



พิธีกร : แล้วเวลาที่คุณแสดง มันไม่รู้สึกสับสนกับสองบทนี้บ้างเหรอครับ


หลิว อี้ เฟย :
ไม่นะค่ะ เพราะเวลาแสดง ฉันก็ไม่ได้คิดว่าสองคนนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่มีสองคนนี้อยู่ ทั้งหมดมันคือตัวฉัน เพียงแค่ใช้ความรู้สึกเวลาแสดง ว่าสองคนนี้คือคนละคนกัน ตอนที่แสดงเป็นเตียวเสี้ยน มันก็จะเป็นฉากที่มีลิปโป้ ยืนอยู่ที่ลานประหาร แล้วลูกของฉันตอนนั้นก็ยังเล็กอยู่ ฉันต้องรู้ว่าฉากที่แสดงจะต้องออกมาอย่างไร แต่ตัวฉันยังไงมันก็คือตัวของฉันค่ะ ลบชื่อตัวละครเหล่านั้นออกจากสมอง ฉันไม่ใช่ทั้ง อี้ เฟย และฉันก็ไม่ใช่ หลิง จีว์ เราแค่แสดงความรู้สึกออกมาตามบทบาทเท่านั้นเอง



พิธีกร :
พวกเรารอชมกันได้ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ชมความสามารถของเธอ กับบทที่ท้าทายสองบทบาทนี้ได้นะครับ

และในการถ่ายทำของอาจารย์ เหยา หลู่ ล่ะครับ แต่ไหนแต่ไรมันก็เป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยน่าเข้าใกล้สักเท่าไหร่ อะไรอย่างนั้น บทที่คุณได้รับมันออกจะดูเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา เมื่อตะกี้ที่ผมสังเกตเห็น ตอนคุณนั่งอยู่บนโต๊ะของกรรมการภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ หน้าเวทีที่จัดไว้นะครับ รู้สึกว่า เอ๊ะ มันน่าเกรงขามมากเลย แล้วปกติคุณเป็นคนอย่างไรครับ



อาจารย์ เหยา หลู่ :
ปกติผมกับการเลือกการแต่งตัว ผมออกจะเป็นคนสบายๆ ผมจะไม่ค่อยเคร่งครัดอะไรขนาดนั้น สร้างภาพอ่ะนะครับ



พิธีกร : งั้น คุณก็สามารถแสดงบทได้ออกมาดีเลยทีเดียว


เหยา หลู่ กับการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์สามก๊ก เป็นอะไรที่คุ้นเคยมาก ในปี 1996 ภาพยนตร์เรื่องโจโฉ เหยา หลู่ ถือเป็นอีกยุคหนึ่ง คนหนึ่งที่เคยได้รับบทเป็น โจโฉ จอมทรราช ซึ่งในตอนนี้เขาก็ได้มาร่วมงานกับโจโฉ 2 เหยา หลู่ เป็นดารานักแสดงอาวุโส รับบทเป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทกับโจโฉมากที่สุด เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผู้กำกับที่มากความสามารถอย่าง จ้าว หลิน ซาน ได้มาทาบทามกับเหยาหลู่ ให้มารับบทเป็นแพทย์หลวง ในเรื่อง ถง ชูเว้ ไถ

(ระหว่างซ้อมบท) : ประคองหน่อย ประคองหน่อย
เหยา หลู่            : ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมลงเองได้

ได้ทำงานร่วมกับ โจว เวิน ฟ่ะ เหมือนกับเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันไปแล้ว สองคนเริ่มทำงานร่วมกันตั้งแต่ ภาพยนตร์เรื่อง ขงจื้อ จนมาถึงเรื่อง ภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ ในตอนนี้ แล้วอะไรล่ะที่ทำให้รู้สึกประทับใจ


อาจารย์ เหยา หลู่ :
พี่ฟ่ะ เขาเป็นคนที่แสดงได้เก่งมาก ไม่ว่าจะด้านการแสดงออกทางอารมณ์ หรือ สีหน้า เป็นคนที่มีความสามารถมากด้านการแสดงคนหนึ่ง และเขาก็สามารถทำผลงานของเขาออกมาได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ในการถ่ายภาพยนตร์ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับเขา 2 คน เขามาพูดกับผมว่า เนี่ยตีสามกว่าแล้วผมยังนอนไม่หลับเลย ผมก็ถามเขาว่าทำไมเขาตอบว่าผมกำลังนั่งคิดทบทวนถึงคุณอยู่ ผมรู้สึกกังวลมากเลย และผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน เขาเป็นคนที่คาดหวังกับตัวเองสูง กลัวว่ามันจะออกมาได้ไม่ดี


พิธีกร :
อาจารย์ซึ่งมารับบทแพทย์ในราชสำนักนี้อ่ะนะครับ เป็นตัวละครที่พยายามเรียนรู้ จดจำ ทุกอย่างจากโจโฉ ในตอนที่ผมได้กล่าวไว้ว่า ดูผิวเผินแล้วเหมือนเป็นฝ่ายเดียวกับโจโฉ แล้วทำไมอยู่อยู่ถึงได้มีใจคิดคด หรือที่เรียกได้ว่าเป็น ขบถ ได้ไหมครับ ท่านผู้กำกับ เรียกอย่างนั้นก็ได้ไหมครับ



ผู้กำกับ จ้าว หลิน ซาน :
เมื่อกี้หลังไมล์คุยกันเรียบร้อยแล้ว ให้เขาเป็นคนตอบเองจะดีกว่า


อาจารย์ เหยา หลู่ :
ตัวละครที่เล่นเรื่องนี้นะครับชื่อ หลิงจิ้ง เป็นแพทย์หลวง ผมคิดว่าถ้าคุณไปดูภาพยนตร์แล้วดูเรื่องนี้ แน่นอนล่ะครับว่า ทุกคนเมื่อถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จ ก็ต้องคิดว่าผลงานของตัวเองน่ะคือที่สุด แล้วลองคิดกลับกันสิว่า แล้วถ้าเมื่อคนอื่นได้มาดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว คุณสามารถที่จะค่อยๆมองข้ามภาพลักษณ์ที่คุณเคยรู้จัก ไม่ว่าจะ หลิวอี้เฟย, โหย่ว เผิง, ชิว ซิน จื้อ, อาจารย์ อี้ เหนิง จิ้ง ความรู้สึกมันจะดำเนินไปตามตัวละครในเรื่อง

มีคนถามผมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่ะสื่อถึงอะไร ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ มันสะท้อนถึงจิตใจของคนจีนอย่างหนึ่งแหละครับ จริงนะ ผมไม่โกหก นี่คือเรื่องจริง เพราะในปัจจุบันนี้ มีอะไรที่มันวุ่นวายสับสนปนเปกันไปหมด มันรวมถึงใจคนเราด้วยครับ แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ มันก็สะท้อนให้เราได้เห็นถึงจิตใจของคนที่มันสลับซับซ้อนเกินหยั่งถึง เอาตามตรงนะครับ ผมคิดว่าตัวละครที่ผมเล่นนั้นต้องใช้ทั้งความสามารถและจิตวิญญาณของนักแสดงล้วนๆ


My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2012, 04:44:41 PM »

พิธีกร :
28 กันยายนนี้ พวกเราเตรียมรอชมกันได้ อาจารย์เหยา ในภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ จะแสดงได้สมบทบาทขนาดไหนนั้น

แล้วช่วงสุดท้ายของรายการนี้ ผมขอให้ผู้กำกับและองครักษ์ทั้งสองท่าน ขึ้นมาบนเวทีครับ ขอเชิญเลยครับ

ในการร่วมรายการของเราในวันนี้นะครับ เราจะให้โอกาสกับทุกท่านอีกสักเล็กน้อย ทุกท่านคงจะเริ่มหลงใหล ชื่นชอบในเสน่ห์ของภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ นี้แล้วนะครับ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เข้าฉายก็ตาม ตั้งตา นับวันรอวันเข้าฉาย

ผมจะถามคำถามสุดท้ายในวันนี้นะครับ ขอถามนะครับ วันเกิดของ หลิวอี้เฟย ตรงกับวันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร อะไรนะครับ งั้นตอบพร้อมๆกันเลยครับ



ผู้ชมในห้องส่ง : 25 สิงหาคม


พิธีกร :
25 สิงหาคม ครับ, ถูกต้อง
วันนี้ 26 สิงหาคม ถึงแม้อาจจะช้าไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรนะครับ พวกเราได้เตรียมของขวัญเล็กน้อยมาให้เธอในวันนี้ด้วยครับ

ยกเค้กมาได้เลยครับ บนเค้กมีอักษรจีนเขียนไว้ด้วยนะครับ ถง ชูเว้ ไถ กางปีกทะยานสู่ท้องนภา ขอให้ภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ ประสบผลสำเร็จ ว้าว..



หลิว อี้ เฟย :
ขอบคุณค่ะ ปีนี้เป็นปีที่ฉัน ในสามสี่วันที่ผ่านมาได้เค้กวันเกิดรวดเดียว 10 ก้อน ตั้งแต่เกิดมา ปีนี้เป็นปีที่กินเค้กเยอะที่สุดเลย


พิธีกร :
สังเกตเห็นไหมครับว่า ขนาดเค้กเรายังทำมันออกมาเป็นลักษณะคล้ายกับหอวิหคทองแดงเลย สมกับชื่อภาพยนตร์เลยทีเดียว

งั้นขอเชิญทุกท่านจากภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ มายืนข้างๆ อี้ เฟย เลยนะครับ มาเป่าเทียนร่วมกัน ขอให้ภาพยนตร์ ถง ชูเว้ ไถ ใน 28 กันยายนนี้ ประสบความสำเร็จ 1....2.....3 !

ท้ายรายการวันนี้นะครับ อยากจะให้ทุกๆคน กล่าวอะไรสักเล็กน้อยแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ เริ่มจากทางโน้นก่อนเลยครับ


อาจารย์ ชิว ซิน จื้อ :
ก็ไม่ขอพูดอะไรมากอ่ะนะครับ ภาพยนตร์ดีมีคุณภาพขนาดนี้ ต้องรีบมาชมกันนะครับ ขอย้ำ 28 กันยายนนี้ ต้องมาดู ถง ชูเว้ ไถ


ซู โหย่ว เผิง : ถ้าคนเป็นคอสามก๊ก ห้ามพลาดเด็ดขาดนะครับ


อาจารย์ เหยา หลู่ :
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครแต่ละคนมีบุคลิคที่ไม่เหมือนกัน อยากจะให้ทุกคนลองไปศึกษาดูกัน


อาจารย์ อี้ เหนิง จิ้ง :
ฉันว่า 2 ปีมานี้ทุกคนคงได้ดูภาพยนตร์เกี่ยวกับสามก๊กมาบ้างนะค่ะ แต่ฉันขอรับประกันเลยล่ะค่ะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกว่าที่ผ่านมา มันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละตัวละคร ทุกคนในเรื่องมีจุดเด่นเฉพาะตัว


หลิว อี้ เฟย :
ทุกคนจะได้ชมผลงานชิ้นเอกที่ยอดเยี่ยม เอ่อ...ที่แสดงด้วยความตั้งใจ เพลงประกอบที่ไพเราะ เป็นความใฝ่ฝันของผู้กำกับของเรา เป็นภาพยนตร์ที่เราภูมิใจนำเสนอ


พิธีกร : ผู้กำกับจ้าวครับ


ผู้กำกับ จ้าว หลิน ซาน :
โจว เหวิน ฟ่ะ เป็น โจ โฉ ที่หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ถ้าพลาดแล้ว ก็พลาดเลย



พิธีกร :
งั้นพวกเราต้องรอชมกันนะครับ 28 กันยายนนี้ วันที่ ถง ชูเว้ ไถ เข้าฉาย ขอขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งครับ ขอบคุณทุกท่านครับ


ผู้กำกับ และ นักแสดงทั้งหมด : ขอบคุณค่ะ ขอบคุณครับ


พิธีกร :
ขอเชิญแฟนคลับ หลิวอี้เฟย, ซูโหย่วเผิง ขึ้นมาบนเวทีด้วยกันครับ รีบมาเลยครับ



The End

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 03:10:42 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=dkknQ6X__qE" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=dkknQ6X__qE</a>

[6/11/2012]

ผู้สื่อข่าว    : ได้ข่าวมาว่า ซูโหย่วเผิง ในวัย 39 ปี ไม่คิดที่จะกลับหวนคืนวง กลับมาร่วมวง เสี่ยวหู่ตุ้ย


(เพลง) ทุกทุกครั้งที่ฉันพบหน้าคุณ High High ในหัวใจของฉัน High High วันวานที่เคยขื่นขม Bye Bye


ผู้สื่อข่าว    : ว้าว นานแล้วที่ไม่ได้เจอ ไกวไกวหู่ เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายที่เข้มขึ้นเยอะเลย
                 กลับไปเมื่อ 24 ปีก่อน ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 24 ปีก่อน


ซูโหย่วเผิง : คุณนี่ก็ไม่คิดที่จะหยุดรื้อเรื่องเก่าๆของผมเลยเนอะ ฮา ฮา


(เพลง) พวกเรานั้นได้เติบโตเป็นหนุ่ม ความฝันมากมายที่กำลังล่องลอยไป


ผู้สื่อข่าว    : ถึงแม้ว่าผ่านไปกว่า 24 ปีแล้ว ในครั้งแรกที่เข้าวงการ ( วงเสียวหู่ตุ้ย )
                 ในนาม ไกวไกวหู่ ของเค้า แล้วหลังจากนั้นก็มีผลงานด้านงานแสดงละครโทรทัศน์


(เฟิงเซิง)  แกมันเลว อยากรู้นักว่าแกจะทนได้ซักกี่น้ำ อ้าย...อ้าย...อ้าย


ผู้สื่อข่าว    : ไม่กี่ปีมานี้เค้าได้เริ่มเข้าสู่วงการด้านภาพยนตร์ ในปี 2010 ( ภาพยนตร์ เฟิงเซิง )
                 กับบทบาทที่แสนจะอ่อนหวานดุจผู้หญิง ทำให้เค้าได้รับรางวัลดารานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
                 จากงานประกาศรางวัล ป่าย ฮัว ทำให้เค้าเป็นที่ยอมรับด้านการแสดง


ซูโหย่วเผิง : ผมในตอนนี้ก็คงต้องใช้ชีวิตตามที่พรหมลิขิตไว้นะครับ ใช่แล้วล่ะครับ ไม่งั้นผมคงคิดว่า
                 ผมคงต้องคอยเปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างนี้ตลอดชีวิต มันเหนื่อยชะมัด ฮา ฮา
                 ผมคิดว่าก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่ต้องอยู่ในกรอบตลอด แล้วยิ่งกับเรื่องความรัก 2 คำนี้
                 ผมยิ่งต้องตีกรอบกับมันมาก

                 แต่สำหรับกับความหวังที่เคยชอบตั้งไว้สูง บางทีมันก็อาจทำให้โอกาสของเราหลุดลอยไป
                 ดังนั้น ผมไม่ได้แสดงละครโทรทัศน์มาก็เข้าปีที่ 6 แล้ว ตั้งใจทำงานผลงานด้านภาพยนตร์
                 ซะมากกว่า

                 คุณอาจจะถามผมว่าสิ่งที่ผมทำไปเนี่ยเพื่ออะไรกัน จริงๆแล้วทั้งหมดที่ผมทำไป
                 เพื่อที่จะพิสูจน์ความเป็นตัวผม.... โอเค ผมยังสามารถที่จะทำอะไรได้อีกหลายอย่าง
                 ไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณเคยคิดกัน (พูดงี้มีเคือง)


ผู้สื่อข่าว    : สิ่งที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ นั่นก็คือในปีหน้านี้มีหวังที่ วงเสียวหู่ตุ้ย
                 จะกลับมารวมวงทัวร์คอนเสิร์ตกันอีกครั้ง
               : ( ครั้งที่แล้วกับความรู้สึกของคุณที่จะได้คืนวงอีกครั้ง )


ซูโหย่วเผิง : หอบ แฮก แฮก ฮา ฮา ฮา
                 ตอนที่ได้ยืนแสดงอยู่บนเวทีด้วยกันนะครับ มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
                 แต่มันก็กลับทำให้ผมรู้สึกว่าคุ้นเคยกับมันมาก แล้วหลังจากนั้นก็..... ก็.....มันรู้สึกแปลกๆ
                 ก็เพราะผมไม่ได้สัมผัสอะไรอย่างนี้มานานมากแล้ว แล้วมันก็...... ก็......


ผู้สื่อข่าว    : ( ในตอนนั้นคุณเพิ่งจะอายุ 15 เอง )


ซูโหย่วเผิง : ก็ใช่น่ะสิ ได้ร้องเพลงที่ผมเคยร้องทีไร มันทำให้ผมรู้สึกอยากที่จะร้องไห้


ผู้สื่อข่าว    : ( แล้วครั้งนี้ต้องเปลี่ยนตัว เฉินจื้อเผิง ด้วยหรือเปล่า )


ซูโหย่วเผิง : ผมก็ไม่อาจทราบได้นะครับว่าเค้าจะยังไง


ผู้สื่อข่าว    : อาจจะเป็นจริง กับเรื่องที่ไม่อาจจะมีวันเป็นไปได้


ซูโหย่วเผิง : (ก็เพราะเรื่องที่ผมทราบก็พอๆกับที่พวกคุณรู้กันน่ะครับ) ผมไม่รู้จริงๆไม่ต้องมาถามผมนะ
                  ผมก็ไม่ได้มีอะไรคาใจ ผมไม่ได้มีอะไรคาใจผมทั้งนั้น



ผู้สื่อข่าว    : ( คุณกับทาง เฉินจื้อเผิง เนี่ยยังได้ติดต่อกันอยู่บ้างไหม )


ซูโหย่วเผิง : เราก็ยังติดต่อพูดคุยกันอยู่บ้าง


ผู้สื่อข่าว    : ( แล้วคุณกับ อู๋ฉีหลง ล่ะค่อนข้างสนิทกันใช่ไหมค่ะ )
 

ซูโหย่วเผิง : จริงๆแล้วผมก็สนิทกับทุกๆคนเหมือนๆกันนั่นแหละครับ ที่คุณพูดว่าผมกับ อู๋ฉีหลง
                 น่ะสนิทกันมากนั้น นั่นมันก็ยังไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะความเป็นจริงแล้ว เราต้องรู้ว่า
                 คนคนนั้นน่ะกำลังนั่งทำอะไรอยู่ถึงจะถูก



ผู้สื่อข่าว    : พูดกันซะหมดเปลือกขนาดนี้ 3 คนนี้มักจะถูกนำมากล่าวถึงอยู่เสมอๆ


ซูโหย่วเผิง : ผมก็พูดได้แค่ เอาใจผมมาวัดใจกันดีกว่า ผมคิดว่า 3 ครั้ง ที่ผ่านมาถือว่าผมอดทนมามากนะ
                 ผมมีการศึกษาพอที่จะพูดกับเขา ผมรู้ว่าทุกๆคนน่ะดีกับผม เมื่อถูกถามเป็นครั้งที่ 20, 30 ครั้ง
                 จนผมนั้นแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว อย่ามาถามผมอีกแล้วจะได้ไหม



ผู้สื่อข่าว    : เค้ายังให้ความหวังกับพวกเรา ที่อาจจะกลับมาคืนวง เสียวหู่ตุ้ย อีก


ซูโหย่วเผิง : ถ้าสมมุติว่า เอาวงเสียวหู่ตุ้ยกลับมาทำใหม่ ผมก็คิดว่ามันก็เป็นได้เพียงแค่
                 มาตรฐานของ เจิ้งเฟิย คุณไม่อาจที่จะทำมันออกมาสุ่มสี่สุ่มห้าได้หรอก ครั้งนี้ที่ เฟิงหัว
                 พยายามที่จะให้ผมกลับมาทำงานนี้นั้น ผมก็รู้สึกดีใจและซาบซึ้งมากๆ ก็คือเค้าก็สามารถ
                 ที่จะเอาความพิเศษเฉพาะตรงนี้ มาทำการตลาดได้ มันยังต้องทำเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ
                 และการรวบรวมข้อมูลตรงนี้นั้นมันต้อง มันต้องพูดถึงเรื่องราวที่เป็นปัจจุบันในตอนนี้
                 ตัวผมเองก็แอบสนใจ คุณไม่ได้อยากที่จะให้ผม กลับไปแต่งตัวเป็นสมัยหนุ่มอีกเหรอ
                 มันก็ไม่ได้ง่ายนะ ที่ผมจะประสบความสำเร็จได้มาจนทุกวันนี้ ผมเองก็ไม่รู้จะบอกกับตัวเอง
                 ว่าอย่างไรดี ( ทำหล่อ )

                 ผมทำมันไม่ได้หรอก รวมทั้งตอนที่คุณมานั่งหอบ แฮก แฮก ด้วย เหมือนกับตัวอะไรก็ไม่รู้
                 ทุกคนคงไม่มานั่งคอยที่จะจับผิดคุณ แต่ถ้าหากคุณเปลี่ยนมาเป็น ที่จะต้อง ( ตระเวน )
                 กอบโกยเงิน ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แน่นอนล่ะมันต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาแน่
                 พวกคุณ3คนมันก็เป็นแค่คนที่ทำตัวแอ๊ฟเป็นหนุ่มน้อย


ผู้สื่อข่าว    : ยากที่จะเห็น ไกวไกวหู่ พูดหมดเปลือกเสียขนาดเนี้ย แถมยังมาโชว์ของสิ่งนี้ออกมา
                 ให้พวกเราชมเป็นครั้งแรกอีกด้วย


ซูโหย่วเผิง : มันคือลายอักษรคัมภีร์ อักษรคัมภีร์ (รอยสัก)


ผู้สื่อข่าว    : ( ไปสักมาตั้งแต่เมื่อไหร่ )


ซูโหย่วเผิง : เมื่อหน้าหนาวปีที่แล้วครับ


ผู้สื่อข่าว    : ( ทำไมคุณถึงได้คิดที่อยากจะสักมันขึ้นมาล่ะ )


ซูโหย่วเผิง : ผมเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธอยู่แล้ว แล้วผมก็ได้มีโอกาสมาพบกับอาจารย์ท่านหนึ่ง
                 เค้าจึงช่วยสักลายสักนี้ให้กับผม



ผู้สื่อข่าว    : ( โห ..ไกวไกวหู่ สักด้วย )


ซูโหย่วเผิง : อาจารย์ท่านนี้ก็เป็นคนที่เคยสักให้กับ แองเจอรีน่า ด้วย เค้าก็เคยให้อาจารย์ท่านนี้
                 สักให้เหมือนกัน



ผู้สื่อข่าว    : ( ลายสักนี้ใช้เวลาในการสักนานมากมั้ย )


ซูโหย่วเผิง : มันก็เจ็บแต่มันก็ไม่ถึงกับตายหรอก ผมเลยจำมันไม่ได้ ที่ด้านหลังของผมก็ยังมีอีกลายหนึ่ง
                 ที่มันสวยกว่านี้ (ลายสัก) เป็นตัวอักษรที่ชัดเจน และก็ไม่เจือสี ที่แผ่นหลังของผมยังมีอีกลาย
                 ที่มันใหญ่มาก เพราะว่าผมศรัทธาครับ ศรัทธาครับ



The End

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2012, 11:31:21 AM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=RmJiPxCkzys&amp;feature=g-crec-u" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=RmJiPxCkzys&amp;feature=g-crec-u</a>


[20/11/2012]

ซูโหย่วเผิง : สวัสดีครับ ผมซูโหย่วเผิง ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ นิตยสารประจำสัปดาห์ TVBS
                  ของสัปดาห์นี้ครับ บนหน้าหน้าปกนิตยสารประจำสัปดาห์



นิตยสารประจำสัปดาห์ TVBS / พรีเซ็นเตอร์ปกนิตยสาร / ซูโหย่วเผิง


ซูโหย่วเผิง : เพราะผมเดินทางกลับไต้หวันค่อนข้างบ่อย และผมก็จะมีกิจกรรมที่ใครหลายๆคน
                 อาจจะยังไม่รู้ เพียงแค่ทุกคนยังไม่ทราบ แล้วปลายเดือนหน้านี้อาจจะกลับมาที่ไต้หวันอีก
                 มางานประกาศรางวัล ม้าทองคำ แล้วก็....... มาคุยเกี่ยวกับงานภาพยนตร์ที่ไต้หวันด้วย
                 ผมเพิ่งไปพบกับทางผู้กำกับมาเมื่อวานนี้เอง

                 มีความเป็นไปได้นะที่ผมจะกลับมาถ่ายผลงานภาพยนตร์ที่ไต้หวัน อะไรประมาณนั้นครับ
                 ดังนั้นเนี่ย ก่อนวันฉลองตรุษจีนปีนี้ ตารางงานของผมน่าจะแน่นเอี้ยด แน่นไปหมด
                 ผมคิดว่ากับการทำงานที่นี่ 2 วัน มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่สำหรับผมมาก
                 มันนานมากแล้วที่ไม่ได้กลับมาทำงานที่นี่ พอได้กลับมาทำงานแล้วทำให้รู้สึกว่า
                 มีอะไรบางอย่างที่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเก่าๆ นักข่าวที่เคยสนิทกัน แล้วก็ยังมีเพื่อนหน้าใหม่อีก

                 ตอนแรกผมคิดว่าถ้าได้กลับมาแล้ว เราจะมองสภาพแวดล้อมในไต้หวัน
                 มันอาจจะทำให้ผมไม่รู้สึกคุ้นกับมัน แล้วทุกคนก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาจจะดู
                 สะดีดสะดิ้ง เกินไป อะไรประมาณนั้น ดังนั้นเนี่ยก่อนหน้านี้ ผมอาจจะรู้สึกเป็นกังวลมาก
                 แล้วผลที่ออกมาก็ ทุกๆคนให้การต้อนรับผมอย่างอบอุ่นมากเลยทีเดียวครับ ผมจึงคิดว่า
                 ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ชีวิตที่ทันสมัยของผมกับ นิตยสารรายสัปดาห์ นิตยสาร TVBS


ดูกันอย่างจุใจได้ที่ นิตยสารรายสัปดาห์ TVBS No.786
นิตยสาร TVBS นิตยสารกับชีวิตที่ทันสมัย

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2012, 11:45:49 AM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=RuscWi9LdBQ" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=RuscWi9LdBQ</a>


[17/4/2012]

พิธีกร         : ต่อไปเราจะมาพูดถึงการถ่ายทำภาพยนตร์ <3 คุณแม่มือใหม่> กันนะครับ
                  ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงคับคั่งเข้าร่วมด้วย แต่ที่ทราบกันดีนะครับว่านักแสดงทุกคน
                  ต้องแสดงกันอย่างเหน็ดเหนื่อยทุกคน เวลาในการแสดงของพวกเรา ล้วนได้ถูกวางแผน
                  กันมาอย่างดี และเมื่อวานที่ผ่านมาเพิ่งบินลัดฟ้าลงเครื่องมาหมาดๆ จะเป็นใครไปไม่ได้
                  เค้าคนนั้นก็คือ ซูโหย่วเผิง


ซูโหย่วเผิงมาถ่ายทำภาพยนตร์แล้วยังได้เรียนภาษาถิ่นของชาวหนานถง
ผู้รายงานข่าว หวัง อิ่ง หวัง ซุ่ย ( พนักงานฝึกงาน )



พิธีกร         : ใช่แล้วล่ะครับ เค้าคือ ไกวไกวหู่ จากวงเสียวหู่ตุ้ย นั่นเอง ในปีนั้น เหล่าบรรดาคุณแม่
                  ในไต้หวัน ต่างดูแล้วชอบอกชอบใจ อยากที่จะยกลูกสาวให้

                  หลังจากนั้นเค้าก็มีผลงานด้านการแสดง <องค์หญิงกำมะลอ> เป็นตัวละครที่ยึดมั่น
                  ในความรักและคุณธรรม กับบทองค์ชาย 5
 
                  แล้วยังมี <เฟิง เซิง> ตัวละครที่ชื่นชอบในเพลงละคร งิ้วคุนฉวี่-หมู่ตันถิง กับบท
                  ป๋ายเสี่ยวเหนียน ในภาพยนตร์เรื่องนี้เค้าถือได้ว่าเป็นตัวเอกของเรื่อง เลยทีเดียว

                  ตามที่ได้กล่าวกันไว้แล้วนะครับ ว่าดีกรีนักเรียน มหาลัยไต้หวันคนนี้ เค้าถือว่า
                  ทุกสิ่งอย่างนั้นคือการเรียนรู้ การเรียนรู้ภาษาถิ่น หนานทง จากการเข้าฉากของเค้า
                  เราลองมาฟังกันดูนะครับ


ซูโหย่วเผิง : ผมกลัวว่าเค้าจะฟังผมกันไม่รู้เรื่อง
                 สวัสดีครับ ผม ซูโหย่วเผิง


พิธีกร        : เป็นยังไงกันบ้างล่ะครับ พวกเรามาลองให้คะแนนเค้ากันหน่อยซิ

                  เมื่อวานตอนเช้าเป็นฉากแรกที่เค้าได้เข้าฉาก อาจเป็นเพราะเสน่ห์ของเค้า
                  รอบสถานที่การถ่ายทำนั้นเต็มไปด้วยแฟนคลับของเค้า จากทั่วสารทิศ
                  แต่กลับไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเค้า ในการทำงานเลยล่ะครับ แล้วยังสามารถที่จะ
                  แสดงมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เลยทีเดียว

                  หลังจากที่ผู้กำกับได้สั่ง คัต ! แล้ว เค้าก็ยังกลับมานั่งดูผลงานตัวเองที่หน้าจอมอนิเตอร์
                  ถ้าตามที่เราทราบกันดีกับภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ ซูโหย่วเผิง กับทางผู้กำกับ เจียงผิง นั้น
                  เคยร่วมงานกันมาแล้ว 3 ครั้ง แล้วในปี 2010 <งานประกาศรางวัล คังเตี้ยนฉิงเกอ คนใหม่>
                  ในปีนั้นเค้ายังได้รับรางวัลมากมายในด้านสาขาการแสดง เริ่มจากการเป็นนักร้อง
                  แล้วทำไมถึงได้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงได้กันนะ


ซูโหย่วเผิง : เมื่อไม่กี่ปีมานี้ผมได้ทุ่มเทผลงานของผมด้านภาพยนตร์ แล้วเร็วๆนี้น่าจะลองทำ
                  ผลงานกำกับของตัวเองด้วย เพราะยังต้องเตรียมงานอีกเยอะ มันคงไม่เร็วอะไรขนาดนั้น
                  คงน่าจะเป็นปีหน้านี้



พิธีกร        : ครั้งนี้ ซูโหย่วเผิง เดินทางมาทำงานถึงหนานทง มาถ่ายทำภาพยนตร์ประมาณ 1 สัปดาห์
                 แล้วเค้านั้นก็ยังไม่เคยได้มีโอกาสเดินทางมาที่ หนานทง เค้ายังออกปากชมว่าชอบที่นี่มาก


ซูโหย่วเผิง : ที่นี่สวยมาก แล้วการใช้ชีวิตที่นี่มันก็เรียบง่ายดี แล้วยังเป็นที่ที่ทันสมัยด้วย

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 03:51:55 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=FuzXCR83ckY" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=FuzXCR83ckY</a>
http://www.youtube.com/watch?v=FuzXCR83ckY


[29/12/2012]

หลิวหลิน : ถ้าคนคนนึงที่ไม่เคยเผชิญความทุกข์ใดๆเลยในชีวิต เค้าจะไม่รู้สึกเลยว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น
               เป็นอย่างไร


บรรยาย   : ไม่รักก็อย่ามากวนใจ
             : หนุ่มโสด สุดสมาร์ท สุดแสนเย็นชา “ ผู้ชายปากร้าย ”

ลู่ซีนั้ว     : มันก็จะมีแค่เสื้อผ้าที่ผมไม่ชอบและไม่ถูกใจเท่านั้น มีที่ไหนกันเสื้อผ้าจะมีสิทธิ์ไม่ชอบ
               ไม่ถูกใจผม


หลิวหลิน : นี่คุณมันจะไม่ดูหลงตัวเองไปหน่อยหรอกเหรอ

ลู่ซีนั้ว     : ผมว่าคงจะมีแต่คนด้วยกันเท่านั้นที่จะคุยกันรู้เรื่อง

หลิวหลิน : กับคนคนนี้ต้องระวังเนื้อระวังตัวให้มากนะ

บรรยาย   : สาวโสด มาดมั่น เอาแต่ใจ “ ผู้หญิงปากจัด ”

หลิวหลิน : ฉันจะบอกอะไรให้อย่างนะ ฉันน่ะไม่เคยคิดที่จะสนใจอะไรคุณเลยแม้แต่นิดเดียว
             : คุณนี่ยังมีความเป็นคนอยู่บ้างหรือเปล่า !


ลู่ซีนั้ว     : ก็ผมมันเป็นผู้ชายโฉดอยู่แล้วนิ แล้วยังจะต้องแสดงความเป็นคนอีกด้วยเหรอ

หลิวหลิน : พาฉันกลับบ้าน , ฉันให้

บรรยาย   : อีกด้านหนึ่งกับการคิดไม่ซื่อต่อคนรัก

หลิวหลิน : ลู่ซีนั้ว ไอ้ผู้ชายหลายใจ ! คุณนี่มันเลวจริงๆ  เลวที่สุด

บรรยาย   : ในใจลึกๆของผู้ชาย

ชาย        : แย่แน่เรา
             : เรื่องเก่าๆระหว่างเรายังมีอะไรต้องรื้อฟื้นถึงมันอีกเหรอ

ชาย        : นับแต่นี้ไปในหัวของเค้าคง มีแต่สองคำนี้ลอยวนเวียน ไอ้คำว่ารักเนี่ย

ชาย        : คุณรู้หรือเปล่าว่า พอผมได้มาเห็นคุณในสภาพที่ผอมโซขนาดเนี่ยแล้ว
                มันทำให้ผมเจ็บปวดมากขนาดไหน

ติงจวน    : ไปให้พ้นหน้าฉัน ไม่อยากเห็นน้ำหน้าคนอย่างแกอีก ออกไป !

จินกู่       : คนอย่างจินกู่ จะอยู่หรือตายก็ขอไม่อยู่ร่วมโลกกับคนอย่างแก !

หลิวหลิน : น่าจะมีอ้อมกอดของใครสักคนมากอดเรา มันคงจะดีไม่ใช่น้อย

ลู่ซีนั้ว     : แน่นอนล่ะ
             : ต่อให้ผู้หญิงที่แกร่ง และเข้มแข็งสักเท่าไร ถึงอย่างไรมันก็ต้องมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น


หลิวหลิน : ช่างเป็นเจ้านายที่เลือดเย็นเสียนี่กะไร

ลู่ซีนั้ว     : ใครใช้ให้คุณเรียกผมว่าผู้จัดการ

บรรยาย   : อีกด้านกับความประทับใจ

หลิวหลิน : ถ้าหากว่าผู้ชายสามารถเป็นที่พึ่งได้จริงล่ะก็ ฉันคิดว่านะ หมูมันคงปีนต้นไม้ได้ด้วยแหละ

ซู ยูเว้     : เพราะฉะนั้นแล้วเราจำเป็นต้องสู้ อย่ายอมอ่อนแพ้ให้กับโชคชะตา

ลู่ซีนั้ว     : กวางตายทั้งตัว ยังจับมือใครดมไม่ได้

บรรยาย   : ทั้งความป่วนของบรรดาผู้หญิงโสด

ติงจวน    : ฉันกำลังตามหาความสุขของฉันที่ขาดหายไป

ชาย       : เป็นแค่พนักงานบริษัท อายุคุณก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว

หลิวหลิน : ไร้ยางอาย

หญิง      : เพียงแค่พระอาทิตย์ที่ขึ้นตามเวลาส่องแสงไปทั่วท้องฟ้า เพียงเท่านี้มันก็ไม่สามารถ
               ที่จะไม่มาตกอยู่ที่เรื่องความรักของคุณได้

หลิวหลิน : รับไปสิ

ลู่ซีนั้ว     : ขอบคุณนะ ที่ช่วยให้ผมตาสว่างสักที รู้ไหมว่าอะไรคือความสมเพชที่สุดของความเย่อหยิ่ง
               ในศักดิ์ศรี


หลิวหลิน : ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรื่องระหว่างเราเป็นอันจบ

ลู่ซีนั้ว     : ใบหน้าที่แสนโหดเหี้ยม มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลวร้ายเสมอไป

หลิวหลิน : คนอย่างฉันมันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ลู่ซีนั้ว     : เอาคืนไป

บรรยาย   : เมื่อ “ ผู้ชายปากร้าย ” มาพบกับ “ ผู้หญิงปากจัด ”

หลิวหลิน : ตั้งแต่นี้ไปในใจของฉันสำหรับคุณมันก็ไอ้แค่ผู้ชายหลายใจ ไม่ต้องมาใช้วิธีกับฉันเลย

ชาย       : ของฟรีมันไม่มีในโลกหรอก

หญิง      : แกมันนอกจากจะทำตัวต่ำแล้ว แกมันยังหน้าด้านอีกซะด้วย


หลิวหลิน : ช่วยด้วยค่ะ

หญิง      : ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะหาคำอะไรมาเปรียบเทียบกับคนอย่างคุณได้

ซู ยูเว้     : จะบอกอะไรให้นะ ซาตานยังไงมันก็เป็นซาตาน มันจะมาเปลี่ยนเป็นมนุษย์ไม่ได้หรอก

หญิง      : ทำไมคุณต้องทำร้ายจิตใจของฉัน เหยียดหยามน้ำใจของฉันอย่างนี้ด้วย

ลู่ซีนั้ว    : ผมไม่อยากเห็นคุณมานั่งทำหน้าเศร้าอยู่อย่างนี้
            : ดูเหมือนว่าโลกของเราเนี่ย มันช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน กว้างซะจน
              เพียงแค่เราหมุนตัว ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะต้องสูญเสียใครไปบ้าง


หลิวหลิน : ที่ผ่านมาฉันมันไม่ได้มีค่าอะไรในใจคุณเลย

บรรยาย   : กลุ่มคนโสดที่ไม่ยอมแต่งงาน
             : จริงๆแล้วเพียงเสี้ยววินาที มันก็สมารถที่จะเปลี่ยนในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้ เพียงเพื่อ
               พี่หลิน หลิน เท่านั้น
             : หรืออาจเป็นเพราะไม่อยากที่จะแต่งงาน

หลิวหลิน : ถึงอย่างไรฉันก็ต้องสู้ต่อ ใช้ชีวิตให้มีความสุข เดินต่อไปข้างหน้า สู้ๆ

ชาย        : นี่แหละคือสิ่งที่ผมตามหามันมาทั้งชีวิต

ติงจวน    : เฉิน สู้ เฟิง !

หญิง       : แกมันไอ้ผู้ชายหน้าเนื้อใจเสือ ไอ้ผู้ชายเลว

ชาย        : จะเปลี่ยนรถ ย้ายห้อง ยังไม่เท่าเปลี่ยนหัวใจดวงนี้เลย

หญิง       : ใจของผู้หญิงเราน่ะ มันอ่อนไหวเหมือนปุยนุ่น


ลู่ซีนั้ว     : ทั้งชีวิตที่เหลือคุณอย่าหนีผมไปไหนอีกแล้วนะ


ซูโหย่วเผิง  รับบท  ลู่ซีนั้ว
ฉินหลัน  รับบท  หลิวหลิน
ฐานจุ้นเยี่ยน  รับบท  เฉินสู้เฟิง

หญิง      : แก

สงหน๋ายจิ่น  รับบท  หยางหยาง
หลิวหลินหมู่  รับบท หลี่หมิงจู
เซียวกวงอี้  รับบท  จินกู่
อู๋หัวซิน  รับบท  เซียวเฉียง
หวังซวนหยู่  รับบท  ซู ยูเว้
จางเทียนหลิน  รับบท  เฉินเผิง
หยางเฉิงเฉิง  รับบท  ยู้หมิ่น
เยิ่นเจียลุ่ย  รับบท  ติงจวน


ไม่รักก็อย่ามากวนใจ

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มกราคม 27, 2013, 02:53:40 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=omfE1oU2nKw" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=omfE1oU2nKw</a>
http://www.youtube.com/watch?v=omfE1oU2nKw

[29/12/2012]

ผู้สื่อข่าว    : สถานีปักกิ่ง คู่ลิ่วหยู๋
                 เมื่อ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง "ไม่รักก็อย่ามากวนใจ" ได้จัดแถลงข่าวต่อ
                 สื่อมวลชน ซูโหย่วเผิง ผู้จัดมือใหม่  ที่ได้ร่วมงานกับ ฉินหลิน "ร่วมปะทะฝีปาก”
                 เป็นคู่กัดกันในภาพยนตร์เรื่องนี้  โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซูโหย่วเผิง รับบทเป็น
                 หนุ่มโสดเย็นชา ร่วมด้วย ฉินหลัน รับบทเป็น สาวมั่น หลิวหลัน หลากรสหลากอารมณ์
                 จากความไม่เข้าใจกัน กลับสร้างความประทับใจได้อย่างลึกซึ้ง ที่นำตัวละครทั้งสอง
                 ที่มีรูปแบบไลฟ์สไตล์แตกต่างกันเดินทางมาเจอกัน


ซูโหย่วเผิง : ต้องขอยอมรับว่าบทบาทของเราในเรื่องนี้ มันค่อนข้างเหมือนลิ้นกับฟัน มีหลายหลายฉากที่
                 เราต้องใช้คารมเชือดเฉือนกัน ยอมรับตามตรงเลยว่าบทบาทในเรื่องนี้ เราทั้งสองคน
                 ยังไม่เคยได้เล่นที่ไหนมาก่อนเลย ซึ่งมันอาจดูแตกต่างจากชีวิตจริงของเราทั้งสองคน


ฉินหลัน     : ใช่ค่ะ, เรื่องนี้มันทำให้เราได้ฝึกรับฝีปากกัน

ซูโหย่วเผิง : ฮาฮา ใช่ครับ ซึ่งบทบาทในเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะดูดุเดือด ผมคิดว่าถ้าใครได้มาดู
                 เรื่องนี้แล้วเนี่ย ต้องรู้สึกไม่ผิดหวังแน่นอนครับ อะไรนะครับ มีเยอะมากเลยนะครับ / ค่ะ,
                 ที่เราสองคนเนี่ย


ฉินหลัน     : พอถ่ายถ่ายไป เอ๊ะ เราสองคนเหมือนกับคนที่ต้องมานั่งทะเลาะกันอยู่ทุกวี่ทุกวัน
                 มันเหมือนกับคนที่ต้องคอยหาเรื่องทะเลาะกันอยู่เรื่อย


ซูโหย่วเผิง : เราไม่ได้เรียกว่าทะเลาะกัน ต้องเรียกว่ารับฝีปากกันน่าจะดีกว่านะครับ รับฝีปากกัน
                 อย่างดุเดือดเสียด้วย


ผู้สื่อข่าว    : ซูโหย่วเผิง ซึ่งรับหน้าที่เป็นทั้งดารานักแสดงนำ และอีกหน้าที่ที่ต้องเป็นทั้งผู้จัด
                 ในเวลาเดียวกัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากหรือความกดดันใดๆสำหรับเค้าเลย


ซูโหย่วเผิง : อุปสรรคในด้านการทำงานมันก็มีบ้างอ่ะนะครับ แต่อาจเป็นเพราะอะไรอะไรมันก็ใหม่หมด
                 สำหรับเรา มันยังมีอะไรที่ให้เราเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ ที่ผมคิดว่าผมโชคดีก็ตรงที่
                 ผมได้ร่วมงานกับดารานักแสดงมากมาย และเพื่อนๆที่คอยให้การช่วยเหลือ
                 และแก้ไขปัญหาให้ผมเสมอมา แล้วผลที่ออกมามันก็คือความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นทางผู้กำกับ
                 ที่ผมเคยร่วมงานกับเค้ามาจากเรื่อง ดาบมังกรหยก อีกทั้งยังเป็น ครู ของผม
                 ด้านการแสดงอีกด้วย เป็นผู้ที่มากประสบการณ์ แล้วนอกจากนี้ยังมีเพื่อนๆนักแสดง
                 ที่ให้ความร่วมมือ อย่างเช่น.......หลันจึ ไง


ฉินหลัน     : คุณนี่ก็ยังจำชื่อฉันผิดเลยเนอะ

ซูโหย่วเผิง : ผมไม่ได้จำผิดสักหน่อย , ไม่เคยๆ เลย เพราะฉะนั้นแล้วทุกๆคนที่ร่วมงานกัน
                 ล้วนแต่มีความสุข และเต็มที่กันกับการทำงาน


ผู้สื่อข่าว    : คู่ ลิ่ว หยู๋ รายงาน

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มกราคม 27, 2013, 04:22:07 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=_ir8gHfljoA" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=_ir8gHfljoA</a>
http://www.youtube.com/watch?v=_ir8gHfljoA

[29/12/2012]

ผู้สื่อข่าว    : เมื่อ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ซูโหย่วเผิง , ฉินหลัน ได้ออกมาเปิดตัวภาพยนตร์
                 ที่ทั้งสองร่วมกันแสดงภาพยนตร์แนวรักคอมมาดี้เรื่อง "ไม่รักก็อย่ามากวนใจ"
                 ในงานภาพยนตร์ปี 2012 ซึ่งงานนี้ได้เสียงกระแสตอบรับทั้งแฟนคลับและสื่อมวลชน
                 เป็นอย่างมาก ในภาพยนตร์เรื่อง ไม่รักก็อย่ามากวนใจ นี้ ทั้ง ซูโหย่วเผิง และ ฉินหลัน
                 เป็นคู่กัดที่เจอหน้ากันทีไร เป็นต้องมีเรื่องให้ปะทะฝีปากกัน จนทำให้ความสัมพันธ์
                 ของเค้าทั้งสองนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพัน


ลู่ซีนั้ว       : มันก็จะมีแค่เสื้อผ้าที่ผมไม่ชอบและไม่ถูกใจเท่านั้น มีที่ไหนกันที่เสื้อผ้าจะมีสิทธิ์
                 ไม่ชอบและไม่ถูกใจคนอย่างผม


หลิวหลิน   : นี่คุณ มันจะไม่ดูหลงตัวเองไปหน่อยหรอกเหรอ

ลู่ซีนั้ว       : ผมว่าคงจะมีแต่คนด้วยกันเท่านั้นที่จะคุยกันรู้เรื่อง

หลิวหลิน   : ฉันจะบอกอะไรให้อย่างนะ ฉันน่ะไม่เคยคิดที่จะสนใจอะไรคุณเลยแม้แต่นิดเดียว
               : คุณนี่ยังมีความเป็นคนอยู่บ้างหรือเปล่า


ลู่ซีนั้ว       : ก็ผมมันก็เป็นผู้ชายโฉดอยู่แล้วนิ แล้วยังต้องแสดงความเป็นคนอีกด้วยเหรอ

หลิวหลิน   : พาฉันกลับบ้าน , ฉันให้

ผู้สื่อข่าว    : จากละครเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ ภาค 3 , และมนต์รักในสายเมฆในบท ลี่ผิง ฉินหลัน
                 ถือได้ว่าเป็น ตัวแทนของภาพลักษณ์ผู้หญิงที่สุภาพนุ่มนวลคนหนึ่ง จนวันนี้
                 เธอได้มารับบท ผู้หญิงปากจัด จนทำให้ใครหลายๆคน ต้องแปลกใจกับการ
                 พลิกบทบาทของเธอ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทุกบทบาทมันก็จัดได้ว่าเป็นผลงานของเธอ
                 เรามาฟังกันดีกว่าว่า ผู้กำกับมีความรู้สึกกับเธออย่างไรบ้าง


ผู้กำกับ      : บทบาทของเธอในเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ ฉินหลัน
                 เลยทีเดียวครับ


ซูโหย่วเผิง : ฮาฮา...

ผู้กำกับ      : ก่อนหน้านี้ ฉินหลัน ที่พวกเรารู้จักไม่เป็นคนแบบนี้นะ มันเป็นบทบาทที่เค้าแสดงมันออกมา
                  ได้อย่างสมจริงสมจัง ออกมาจากเบื้องลึกของเธอ ถ้าจะให้บอกว่าเล่นได้ดีมากมั้ย


ซูโหย่วเผิง : ผมคงไม่ต้องพูดแล้วล่ะครับ ฮาฮา....

ผู้สื่อข่าว    : ภาพยนตร์เรื่อง ไม่รักก็อย่ามากวนใจ นี้ เป็นเรื่องราวระหว่างชายโสด-หญิงมั่น
                 ที่เดินทางมาพบกัน แล้วหนุ่มโสดนอกจอ อย่างซูโหย่วเผิงล่ะ ที่ยากจะเดาออก
                 ว่าเค้านั้นอายุ 39 แล้ว จะจริงหรือที่เค้าจะไม่ยอมแต่งงาน


ซูโหย่วเผิง : ผมก็ไม่ได้รีบที่จะต้องแต่งงานอ่ะนะครับ ผมก็ไม่ได้ไม่อยากแต่ง

ผู้สื่อข่าว    : ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซูโหย่วเผิง รับบทเป็นทั้งดาราแสดงนำ และยังเป็นทั้งผู้จัดมือใหม่ด้วย
                 ถ้าจะให้เค้าพูด นี่อาจจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการทำงานของเค้าก็ว่าได้
                 ถึงแม้ว่าด้านดารา อู๋ฉินหลง จะมีประสบการณ์ด้านผู้กำกับมาบ้าง แล้วทางนี้
                 ก็ได้ทาบทามบ้างแล้ว แต่ด้วยงานของเค้าที่ท่วมท้น เราไปฟังกันว่าเค้าจะรู้สึก
                 อย่างไรบ้างกับเรื่องนี้

ซูโหย่วเผิง : เรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบก็ค่อนข้างเยอะอ่ะนะครับ เลยทำให้เวลาว่างเหลือน้อยลง
                 แต่มันก็ทำให้ตัวผมเองเกิดความคิดดีๆมากมายเลย ซึ่งมันก็ผลักดันให้ผม
                 สร้างสรรค์สิ่งเหล่านั้นออกมาได้ และนี่คือสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือจุดที่แตกต่าง
                 จากการเป็นแค่นักแสดงครับ


My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มกราคม 27, 2013, 04:52:46 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=MKbgfJsxhM8" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=MKbgfJsxhM8</a>


[3/1/2013]

บรรยาย     : "ไม่รักก็อย่ามากวนใจ”



ลู่ซีนั่ว        : มีผู้หญิงบางคน เพียงเพื่อให้ได้มาเพื่อความสุขสบาย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
                  เธอก็ยอมที่จะทำมันเพื่อให้ได้มันมา



หลิวหลิน   : เธอมีชื่อว่า หลิวหลิน เป็นผู้หญิงที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงาน การแต่งงานเนี่ย
                  เป็นเรื่องอะไรที่ใหญ่โตขนาดนั้น ถ้าหากตัดสินใจสุ่มสี่สุ่มห้าไป แล้วทำไม
                  ไม่รอให้แน่ใจซะก่อนล่ะ



ชาย          : ถ้าหากคุณยังอยู่เป็นโสดอย่างนี้ต่อไป งั้นก็รีบหาแฟนสักคนสิ


หลิวหลิน   : ถ้าจะให้ยึดตามสถิติจากเว็ปไซต์นะ รายได้ของผู้ชายน่ะเป็นสี่เท่าของผู้หญิงเลย
                 ทีเดียวเชียว อย่างนี้ถึงจะเรียกได้ว่ามีความมั่นคงในชีวิต



ชาย          : เงินเดือนผมถ้ารวมสองแรงแล้ว เพิ่งจะแค่หมื่นสองพันกว่าหยวนเท่านั้นเอง


หลิวหลิน   : แล้วถ้าหากว่าสามีเราหน้าตาไม่ดี มันต้องส่งผลกระทบต่อลูกหลานเราแน่ๆเลย


ชาย          : ผมหัวล้านแล้วคุณจะทำไมผมล่ะหา !


เฉินสู้เฟิง   : แล้วเรื่องการตีตลาดที่กับกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานน่ะ ซีนั่ว เค้าร่วมด้วยกันกับ
                 อุดมการณ์ของพวกคุณด้วยหรือเปล่า


ลู่ซีนั่ว        : อยู่ตัวคนเดียวมันก็สบายดีอยู่แล้ว แล้วทำไมผู้ชายอย่างผม ต้องเสียเงินเพื่อไปสู่ขอ
                  ผู้หญิงด้วยเล่า  พอกลับมาถึงบ้านก็จะต้องบ่นเป็นต่อยหอยไม่หยุดเนี่ยนะ
                  เพื่อที่จะก้าวไปสู่นักธุรกิจสมองเปรื่อง ไอ้เรื่องประเภทที่ต้นทุนก็ไม่ได้คืน
                  แล้วยังต้องทำลายชีวิตคนอื่นอีกเนี่ย คุณคิดว่าคนอย่างผมกล้าทำมั๊ยล่ะ ผม ลู่ซีนั่ว



หลิวหลิน   : ตั้งแต่ฉันเกิดมายังไม่เคยเจอคนอะไรหลงตัวเองได้เท่าคุณมาก่อนเลย
               : ฮัลโหลค่ะ ขอโทษนะค่ะ นี่คือคุณลู่ใช่มั้ยค่ะ


ลู่ซีนั่ว        : ทำไมโลกมันชั่งกลมได้เสียนี่กะไร


หลิวหลิน   : ทำไมโลกมันชั่งกลมเสียจริงๆ


ลู่ซีนั่ว        : ครั้งที่แล้วผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลย


หลิวหลิน   : ว้าย ! คุณขับรถยังไงของคุณเนี่ยหา !


ลู่ซีนั่ว        : ผมก็ใช้มือของผมขับไงเล่า เออจริงสิ แล้วก็ยังมีขาของผมด้วย


หลิวหลิน   : คุณมันยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าหา !! มันต้องให้รู้ซะบ้าง  ว่าใครเป็นใคร


ลู่ซีนั่ว        : หลิวหลิน มาพบผมหน่อย


หลิวหลิน   : ฉันไม่รู้จริงๆว่าที่นี่เป็นบริษัทของคุณ


ลู่ซีนั่ว        : ที่ทุกๆเดือนคุณได้เงินเดือนจากผม มันก็เท่ากับว่าผมน่ะออกตังค์มาให้คุณใช้


หลิวหลิน   : คุณอย่าคิดนะว่าคุณน่ะเป็นผู้จัดการ แล้วจะมาบีบบังคับฉัน ให้ก้มหัวเคารพนอบน้อม
                 คนอย่างคุณได้


ลู่ซีนั่ว        : คนอย่างคุณเนี่ยมันไม่รู้จักกาลเทศะ


หลิวหลิน   : คนอย่างฉันฆ่าได้ หยามไม่ได้ ฉันผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งสามสิบกว่าปี


ลู่ซีนั่ว        : สำรวมหน่อยสิคุณ ถึงอย่างไรผมได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการของคุณ


หลิวหลิน   : พูดจาชักแม่น้ำทั้งห้า


ลู่ซีนั่ว        : คุณจะให้ความยำเกรงผมสักหน่อยบ้างจะได้มั้ย
               : ไหนเรามาลองทำตัวเหมือนเพื่อนทำกับเพื่อนหน่อยจะได้มั้ย



หลิวหลิน   : ฉันไม่ได้เป็น โมนาลิซ่า ที่จะต้องมาคอยส่งยิ้มให้กับทุกๆคน ทุกเวลาอย่างนั้นนะ
               : ลู่ซีนั่ว คุณจะหยุดปั่นหัวฉันสักทีจะได้มั้ย
               : เรื่องระหว่างฉันกับเค้า ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก



ซู ยูเว่       : ถ้าจะให้ฉันพูดนะ ผู้ชายอย่าง ลู่ซีนั่ว นะ ยังไงก็ต้องถูกเค้าจับกินแน่เลย


หยางหยาง : ให้ฉันได้พูดบ้างสิ ฉันว่า ซู ยูเว่ ก็ฟังดูเข้าทีอยู่เหมือนกันนะ เย่


หลิวหลิน    : ไม่มีจิตไม่มีใจอะไรทั้งนั้นล่ะ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดเนี้ย เธอยังจะไม่คิดที่ช่วยพูดอะไรบ้าง
                   เลยเหรอ



เฉินสู้เฟิง   : นับแต่นี้ไป เธอคือภรรยาของผม หยาง หยาง ผมรักเค้า แล้วเค้าก็รักผม
                 เราสองคนใจตรงกัน


หลิวหลิน   : ไม่ต้องมาเฉไฉเลย คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ อยู่ตัวคนเดียว บ้านออกจะใหญ่โตอย่างนี้
                 อยู่แบบโดดเดี่ยว เดียวดาย อย่างนี้น่ะเหรอ



เฉินเผิง     : เมื่อผมได้เห็นหน้าคุณ มันเหมือนกับว่ามีภรรยาคู่ใจมาคอยดูแลผมอย่างไงอย่างงั้น
ิ                 หัวใจผมมันพองโต


หลิวหลิน   : พี่ก็เป็นผู้หญิง พี่ก็ต้องรู้สิจ๊ะ ใช่ม๊ะ


ยู้หมิ่น       : พี่ซีนั่ว ในหัวใจของฉัน เปรียบเหมือนดวงจันทร์ที่สุกสกาวอยู่บนท้องฟ้า ที่ฉันเฝ้าปรารถนา
                 แต่ไม่กล้าอาจเอื้อม ไม่ว่าจะสวยหรือว่าอัปลักษณ์เค้าก็จะส่องแสงไปทั่วทุกที่


หยางหยาง : ทำให้คนอื่นพลอยเจ็บใจไปด้วยเลย เจ็บใจ ! ปลอบใจฉันหน่อยสิ


หลิวหลิน   : คุณถามฉันว่าอะไรที่เรียกว่า พี่สาวจิ่งเหรอ หมายความว่าอย่างไรงั้นเหรอ


จินกู่         : อักษร จิ่ง ก็เป็นเส้นขนานสองคู่ที่มาทับซ้อนกันไง


ลู่ซีนั่ว        : นี่กี่นิ้ว


หลิวหลิน   : ก็สองนิ้วไงล่ะ


ลู่ซีนั่ว        : หลิวหลิน ผมอยากถามคุณว่า คุณน่ะเป็นผู้หญิงจริงๆใช่ม่ะ


หลิวหลิน   : คุณน่ะก็เป็นไอ้พวกผู้ชายมักมาก กินข้าวจานนี้ แต่ตามองไปในหม้อใบโน้น


ลู่ซีนั่ว        : ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า คุณน่ะเป็นชามใบนี้ หรืออยากเป็นหม้อใบนั้นกันแน่


ซู ยูเว่       : เธอกับคนคนนั้น มีความหมายอะไรอื่นแอบแฝงมั้ยจ๊ะ


หลิวหลิน   : เอามาให้ฉัน


ลู่ซีนั่ว        : จะเอาอะไรล่ะ


หลิวหลิน   : เอามันมานี่ ! เอาโทรศัพท์ของคุณมานี่
               : ถ้าหากว่าคุณยังทำตัวลามกกับฉันอยู่อย่างนี้ล่ะก็ ฉันจะทำให้คุณ
                 ไม่มีวันได้ตื่นลืมตามาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกต่อไป


ลู่ซีนั่ว        : แล้วคิดว่าคนอย่างคุณมันไว้ใจได้งั้นหรือ ผมยังไม่ได้ยกคุณเป็นผู้หญิงของผมเลยสักหน่อย
               : คุณ คนอย่างคุณเนี่ยใจแข็งไม่น้อยเลยเนอะ


หลิวหลิน   : เกิดเป็นผู้หญิงมันต้องหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะคบใครสักคนหรือว่าจะต้องแต่งงาน
                 คงไม่ใช่เพียงเพราะเป็นแค่ของเล่น อยู่เป็นหญิงโสดที่สูงค่ายังจะดีซะกว่า
                 ไม่ว่าจะพี่สาวคุณ หรือว่าฉันน่าจะเป็นประเภทสุดท้ายถึงจะถูก



จินกู่         : โปรดพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน จริงๆแล้วผมก็ เป็นหนุ่มมาดเท่ห์


ลู่ซีนั่ว        : การจะเป็นพี่ชายสักคนเนี่ย ผมจะไม่ยอมให้ใครคนนั้นได้ ได้คบกันแบบพี่สาวน้องชาย
                 ได้เด็ดขาด



หลิวหลิน   : คุณนี่สบประหม่าฉันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะ จะบอกอะไรให้นะ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
                 ฉันจะไม่ขอเห็นน้ำหน้าคนอย่างคุณอีก นางหน้าด้าน


หยางหยาง : ก็บอกแล้วไง พวกเราก็ได้แต่ทุกข์ใจ แต่สำหรับเธอน่ะมันคือความรัก ใช่ไหมล่ะ


เซียวเฉียง  : หลินหลิน ตกใจหมดเลยใช่มั้ยล่ะ


หลิวหลิน   : ฉันยอมรับนะ ว่าฉันเคยรักคนอย่างคุณ และฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า คนอย่างคุณ
                  จะทำให้ฉันมีความทรงจำที่แสนจะเจ็บปวด แล้วมันยากแค่ไหน กว่าที่ฉัน
                  จะผ่านคืนวันและความทรงจำที่เลวร้ายนั้นมาได้ แล้วอยู่ๆคุณก็ปรากฏตัวออกมา
                  ทำตัวลับๆล่อๆอย่างนี้เนี่ย คุณแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แล้วคุณจะให้ฉัน
                  เป็นเมียเก็บของคุณเหรอไง



ติงจวน      : เฉินสู้ผิง ถ้าหากวันนี้คุณกล้าหนีไปล่ะก็ ฉันก็กล้ากลับบ้านไปกับคุณด้วย


ซู ยูเว่       : ขอแค่คัดจอบเลือกเสียมให้ดี ไม่มีทางหรอกที่จะขุดกำแพงไม่ได้


ติงจวน      : แค่มีฉันอยู่ด้วย คุณก็ไม่ต้องคิดที่จะได้พักแล้วล่ะ


หยางหยาง : แม่นางปีศาจตนนั้น มันมอมเมาด้วยเสน่ห์ เพื่อจะช่วงชิงราชบัลลังค์


หลิวหลิน   : ฉันคงไม่ยอมให้เค้า คอยมานั่งปั่นหัวฉันอย่างนี้ต่อไปหรอก


ลู่ซีนั่ว        : ดื่มสักหน่อยสิ อาจทำให้อะไรๆดีขึ้น


หลิวหลิน   : เคยมีคนบอกคุณไหมว่า คุณนี่ก็เป็นผู้ชายที่ช่างเอาใจเหมือนกัน


ลู่ซีนั่ว        : อย่าบอกนะว่าคุณชอบผม


หลิวหลิน   : คุณน่ะไม่ใช่สเปคฉันเลย


ลู่ซีนั่ว        : คุณมันสาวมั่น ไม่แคร์การแต่งงาน ไม่ใช่เหรอ ยังจะเลือกอีก


หลิวหลิน   : แล้วถ้าอยากจะเลือกบ้างมันผิดนักเหรอ


ยู้หมิ่น       : พี่ซีนั่ว แล้วถ้าหากวันหนึ่ง พี่เกิดอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาล่ะ พี่ต้องบอกฉัน
                 เป็นคนแรกนะ


จินกู่         : คุณจะเชื่อใจผมสักครั้งจะได้มั้ย อย่ามองผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบอย่างนั้นสิ


หยางหยาง : คนอย่างฉันรักได้ก็เกลียดได้ มีอิสระกับชีวิตเต็มที่ ไม่จอมปลอม ไม่เสแสร้ง
                  ความรักมันต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ


หลิวหลิน   : คุณไม่รู้สึกว่ามันน่าขำไปหน่อยเหรอ ฉันน่ะเหรอหึงคุณ แล้วคุณมีอะไรเกี่ยวข้องกันกับฉัน
                 ด้วยงั้นเหรอ คุณคิดไปเองหรือเปล่า



หลี่หมิงจู   : แม่น่ะดูออกนะ ว่าแกสองคนมีใจลึกซึ้งต่อกัน ลูกก็ไม่ต้องทำตัวปากอย่างใจอย่าง
                 อยู่อีกเลยนะ
               : ซีนั่ว วันนี้ลูกจะมาเยี่ยมแม่ยายใช่ไหมจ๊ะ
               : ทดสอบกันหน่อย ว่าลูกน่ะจะสามารถทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของบ้านตระกลูลู่ได้


หลิวหลิน   : นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ อะไรอะไรก็พูดถึงแต่เรื่องเป็นสะไภ้บ้าอะไรนั่น


หลี่หมิงจู    : แม่จะบอกอะไรให้อย่างนะ ถึงยังไงแม่ก็ยังเลือกเค้าอยู่ดี
               : หลิน อ่า  แม่อยากถามอะไรหน่อย หนูอยากจะหาผู้ชายสักคนที่ทื่อทื่อ
                  อยากจะแต่งด้วยกันมั้ย หน้าตาดีไม่เบาเลยนะ


หลิวหลิน   : นั่นมันไม่ใช่ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 หรอก


หลี่หมิงจู    : ก็นั่นไงล่ะ ลู่ซีนั่วไง


หลิวหลิน   : แม่อย่าพยายามพูดจาหว่านล้อมหนูอย่างนี้ได้มั้ย แม่น่ะยังไม่รู้อะไรหรอก


หยางหยาง : คบกันแบบมีอิสระ เลือกที่จะมีอิสระ โอกาสก็คือโอกาส เมื่อมันผ่านไปก็หมดหนทาง


ลู่ซีนั่ว        : เคยมีคนเคยพูดกับคุณไหมว่า ตอนที่คุณมือไม้สั่นเนี่ย มันดูน่ารักไปหมดเลย


หลิวหลิน   : ฉันจะบอกคุณให้นะ ลู่ซีนั่ว คุณจะใช้พูดจาแทะโลมอะไรฉันอีกล่ะก็ ฉันจะไปแจ้งความ


ลู่ซีนั่ว        : ผู้หญิงแค่คนเดียว อย่าดูเพียงแค่รูปโฉมภายนอกที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ ใจเนี่ยแข็งยังกับเหล็ก
                 แต่พอต้องมาเจอหน้ากันจริงๆ มันทำให้จิตใจนั้นฟุ้งซ่านเตลิดเปิดเปิงไปหมด



จินยู้         : คุณจะซื้อห้องเมื่อไหร่ ให้ติดต่อผมโดยตรงเลยนะ


หลิวหลิน   : แน่ใจและแน่นอน


จินยู้         : ผมเป็นถึงลูกชายของท่านรองหุ้นส่วน แล้วเรื่องที่ผมพูดไปเนี่ยสักนิดนึง
                 คุณจะไม่เชื่อถือกันหน่อยเหรอ สองคนอยู่ด้วยกัน ลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์


ลู่ซีนั่ว        : ผมก็สังเกตแต่ยัยนั่นนั่นแหละ เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ยัยนั่นอยู่ใกล้นาย
                  ต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ๆ


หลิวหลิน   : อย่าคิดนะว่าแค่ไอ้ 2 ล้านกว่าเนี่ยจะสยบคนอย่างฉันได้


ลู่ซีนั่ว        : ดี งั้นก็ดี คุณนี่มันหยิ่งใช่ย่อยเลยนะ ฉันขอชมเชย


หลิวหลิน   : หึ ไอ้คนใจดำ อำมหิต


ลู่ซีนั่ว        : ไม่ต้องทำหน้าน่าสงสาร สวรรค์ไม่เห็นใจหรอก


จินยู้         : Stop เรื่องนี้มีฉันเป็นแกนนำ ฉันเป็นคนควักตังค์เอง พวกแกสองคนมัวแต่ยิ่งจ้องอะไรกันอยู่


เพลง        : ไม่ได้เตรียมตัวเลยสักนิด และไม่เคยมีความคิดกังวลใดๆ แล้วคุณก็ก้าวเข้ามา ในโลกของฉัน
                 มันพาเอาความเซอร์ไพร์มาให้ รู้สึกไม่เป็นตัวเอง



หลิวหลิน   : ฉันยอมรับนะว่าฉันชอบคุณ แต่มันก็แค่ได้ชอบ


ลู่ซีนั่ว        : หลิวหลิน คุณอย่าคิดเช่นนั้นสิ ว่าเราสองคนเป็นไปไม่ได้

                : ผมมาเยี่ยม เป็นเพราะว่าคุณยังติดค้างผม ผมไม่ได้ตามมาทวงบุญคุณ
                  ไม่ได้ตามมาทวงหนี้จากคุณ คุณต้องคืนผมให้ดีนะ ผมอยากให้คุณมีสติ
                  มีชีวิตต่อไปให้ได้ หลายปีผ่านไปนี้ ผมถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมผมถึงต้อง
                  เปลี่ยนใจอะไรเพื่อคนอย่างคุณ มันเปลี่ยนไปจริงๆ มันก็เป็นการทำร้ายกันอย่างไม่ปราณี

                  ผมอยากจะฟังคำตอบจากปากคุณมาตลอด ทำให้ได้สบายใจ ได้เดินหน้าต่อไป
                  ทำให้ผมไม่ต้องคิดอยากที่จะตามหาคุณทุกหนแห่งอย่างแทบบ้าคลั่ง คนที่ทุกข์ทรมาน
                  มันไม่ได้มีคุณแค่คนเดียว มันยังมีผมด้วย



หลิวหลิน   : เพื่อคุณ และก็เพื่อตัวฉันเองด้วย คุณลืมฉันไปซะเถอะนะ
               : ลู่ซีนั่ว คนอย่างคุณมันก็หว่านเสน่ห์เค้าไปทั่ว จะหว่านล้อมยังไงมันก็ไม่เป็นผล
                 แต่ขอร้องคุณไม่ต้อง กรุณาอย่าเอาฉันเข้าไปรวมคนประเภทเดียวกันกับคุณ



ซู ยูเว่       : ชวนป๋ายโล่ว ในที่สุดเธอก็ได้แต่งงานกับเค้าสักทีนะ


ติงจวน      : พี่ค่ะ


เฉินสู้เผิง   : ติงจวน


ติงจวน      : อยากให้คุณอย่าขาดกับผู้หญิงคนนั้นซะ แล้วก็มาแต่งงานกับฉัน


เฉินสู้เผิง   : คุณยังจะบังคับจิตใจผมไปอีกนานแค่ไหน ถึงคุณจะพอใจสักที


ติงจวน      : ไม่ว่าคุณจะรักเค้าหรือว่าฉัน คุณยังคงเป็นผู้ชายของฉันตลอดไป ไม่ก็อาจเป็นผู้ชายของฉัน
                 เพียงคนเดียว คุณสามารถเลือกที่จะไม่เอาใครก็ได้ แต่ฉันจะไม่ยอมทิ้ง
                 สิ่งที่ฉันได้เลือกไว้แล้ว


หยางหยาง : ตอนนี้ฉัน จะใช้ความเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้บอกให้เธอ รีบออกจากที่นี่ไปเดี๋ยวนี้


ติงจวน      : วันนี้คุณกล้าที่จะไล่ฉันได้ แล้วฉันก็จะไม่ใช่น้องสาวของแกอีกต่อไป


หยางหยาง : ยังไม่ไปอีก งั้นฉันไปเอง


ติงจวน      : ฉันไม่ยอมให้คุณมีเด็กสองคนนั้นหรอก เรื่องนี้คุณต้องให้ฉันเป็นคนจัดการนะค่ะ
               : คุณยังจะทรมานใจฉันอยู่อย่างนี้ ระวังไว้ฉันจะทำให้คุณบ้านแตกไม่มีชิ้นดีเลย


เฉินสู้เผิง   : ปล่อยสิ   


ติงจวน      : ไม่ให้คุณไป


เฉินสู้เผิง   : นับวันคุณยิ่งจะไม่มีเหตุผลขึ้นทุกวัน


ติงจวน      : เฉินสู้เฟิง


เซียวเฉียง  : หลินหลิน


หลิวหลิน   : ไอ้สารเลว
               : คนอย่างคุณเนี่ยมันบ้าตั้งแต่เกิดจริงจริง คุณไม่ต้องมาคิดว่าดีอะไรขนาดนั้น



หลี่หมิงจู   : ชีวิตคู่น่ะ แท้ที่จริงมันก็เหมือนการท้าพนันอย่างหนึ่ง ลมตะวันออกต้องพัดกลบลมตะวันตก


หลิวหลิน   : บ้านคุณเนี่ยไม่เลวเลยนะ
               : คุณอยากจะจ้องตรงไหนก็เชิญตามสบายเลย



ลู่ซีนั่ว        : ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แน่นอนจะทำอะไรก็ได้ตามสบาย


หลิวหลิน   : ที่พี่ทำน่ะมันไม่ใช่การแก้แค้น พี่ทำมันเป็นการระบายอารมณ์


เฉินสู้เผิง   : คุณจะไปไหน ให้ผมไปส่ง


หยางหยาง : ไม่ต้องหรอก เราเลิกกันแล้ว ไม่ต้องมารบกวนคุณแล้ว ลาก่อน
               : เคยมีผู้ชายบอกกับฉันว่า เมื่อเค้าแบกฉันไว้เหมือนกับเค้าแบกโลกใบนี้ไว้ทั้งใบ
                 เค้าจะพูดจาหวานซึ้งไม่หยุด ทำร้ายโลกของฉันไปหมดสิ้น สุภาษิตเค้าก็ว่าไว้ถูก
                 ชีวิตคนนั้นทำไมมันช่างลำบากเสียนี่กระไร


ลู่ซีนั่ว        : ผมชอบความความประหลาดใจ ผมชอบความสับสนที่จะตัดสินใจ ผมยอมเสียไม่ได้
                  ที่จะให้คุณได้รับความไม่ยุติธรรมใดๆ ผมคงยอมไม่ได้ ที่ผมเห็นคุณอยู่ข้างกายอย่างนี้
                  แต่มันเหมือนมีหมอกหนามากั้นไว้

                : ผมอยากถามคุณว่า คุณจะยอมเป็นแฟนผมได้มั้ย?


                  ซูโหย่วเผิง รับบทเป็น ลู่ซีนั่ว


หลิวหลิน   : คุณบอกว่าดื่มเยอะขนาดนี้ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วคุณจะออกมาดื่มเป็นเพื่อนฉันทำไมกัน

                   ฉินหลัน รับบทเป็น หลิวหลิน


เฉินสู้เผิง   : ทั้งชีวิตผมก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ผมแต่งงานครั้งนี้ครั้งเดียว

                  ฐานจุ้นเยี่ยน รับบท เฉินสู้เผิง


หยางหยาง : แค่คุณเป็นผู้ชาย ฉันก็ยอมที่จะแต่งงานกับคุณ

                  สง หน๋าย จิ่น รับบท หยางหยาง


หลี่หมิงจู   : ลูกไม่รู้เหรอว่าวันนี้แม่มีความสุขมากแค่ไหน

                 หลิวหลินหมู่ รับบท หลี่หมิงจู


จินยู้         : เซียวกวงอี้ รับบท จินยู้


เซียวเฉียง  : เรื่องด่วนก็ด่วนไป ทุกเรื่องมันต้องค่อยเป็นค่อยไป

                 อู๋หัวซิน รับบท เซียวเฉียง


ซู ยูเว่       : ถ้าหากว่าเค้าชอบฉันจริงขึ้นมาล่ะก็ บอกมากับฉันตรงตรงมันก็จบแล้วใช่ไหมล่ะ

                 หวัง ซวน หยู๋ รับบท ซู ยูเว่


เฉินเผิง     : ผมยังไม่กล้าบอก กลัวว่าคุณได้ยินแล้วจะโกธรผม

                จางเทียนหลิน รับบท เฉินเผิง


ยู้หมิ่น       : ฉันอยากให้เค้าคืนคุณให้กับฉัน แต่ว่าฉันไม่

                 หยางเฉิงเฉิง รับบท ยู้หมิ่น


ติงจวน      : มองอะไรล่ะ ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง

                 เหยิ่น เจีย รุ่ย รับบท ติงจวน


หลิวหลิน   : อ่ะนี่ ฉันให้คุณ รองเท้าสี่หลินเหมินหนึ่งคู่





My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2013, 02:56:16 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=W3YuTDM0AEk" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=W3YuTDM0AEk</a>


[15/1/2013]

ผู้สื่อข่าว     : ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดารานักแสดงสบทบ 3 ท่าน อย่าง ซูโหย่วเผิง, เกาหยวนหยวน,
                  เจี่ยจิ้งเหวิน กับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า

(แถบอักษร : เจี่ยจิ้งเหวิน (แปดเทพอสูรมังกรฟ้า) ยินดีต้อนรับเกาหยวนหยวนมาเป็นสะใภ้ไต้หวัน)

                  และในวันนี้กองถ่ายได้ถ่ายทำฉากที่ ซูโหย่วเผิง, เกาหยวนหยวน, เจี่ยจิ้งเหวิน
                  เป็นฉากที่ทั้งสามคนต้องแสดงร่วมกัน ซึ่งเป็นฉากที่ค่อนข้างไม่ง่ายเลย
                  แต่ความกดดันในการทำงานนั้น กับทั้งสามคนก็ไม่ได้เป็นที่น่ากังวลใจแต่อย่างใด
                  ถ้าจะให้พูดถึงประสบการณ์ด้านการแสดงของทั้งสามคน คงเป็นเรื่องที่
                  อาจเล่าให้จบได้ในวันเดียว เราไปดูด้านสองสาวนักแสดงของเรากันดีกว่า



เจี่ยจิ้งเหวิน : คิดดูแล้วกันเดินคุยกันมาตั้งนาน ดูสิว่าฉันน่ะหันหลังกลับไปบ้างยัง


ผู้สื่อข่าว     : เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี ทั้ง 3 ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย ซึ่งทางซูโหย่วเผิงและ
                  เจี่ยจิ้งเหวิน ได้หวนย้อนไปถึงเมื่อก่อนที่ทั้งสองได้เคยร่วมงานกันมาตั้งหลายเรื่อง



เจี่ยจิ้งเหวิน : ก็ตอนนั้นที่โหย่วเผิงถ่ายทำหนังเรื่องนั้นนะค่ะ ที่ทำให้ประทับใจที่สุดเลยก็คือ
                  แล้วเค้าก็ถามฉันว่าตอนไหนเหรอ ฉันก็ตอบเค้าไปว่า ก็ตอนที่เธออยู่ในกองถ่าย
                  แล้วก็ได้ ได้.....ได้ ด่าแมลงวันไง อิอิ.... ฉันพูดกับเค้าว่าในการถ่ายหนังเรื่องนั้น
                  มันเป็นอะไรที่ยากจะลืมเลือนเลยจริงๆ เพราะหน้าร้อนที่นั่นมันร้อนมากๆ
                  และตอนที่เราทานข้าวกันอยู่นั้น รอบๆจะรายล้อมไปด้วยแมลงวันเลยค่ะ
                  ประกอบกับฉันที่เป็นผู้หญิงด้วยมั้ง จึงเกิดอาการรับไม่ได้อ่ะค่ะ ซึ่งแมลงวัน
                  มันก็เยอะมากเลยจริงๆค่ะ เลยคิดว่ามันเป็นอะไรที่พอกลับมาเล่าใหม่แล้ว
                  รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ขำดี



ซูโหย่วเผิง  : ตอนนั้นเค้าก็ถือได้ว่าเป็นดาราหน้าใหม่เลยทีเดียวล่ะครับ ยังใหม่กับการถ่ายละครโทรทัศน์
                  อยู่น่ะครับ แล้วหลังจากนั้น..ก็ได้มาแสดงพวกเรื่องอภินิหารนะครับ แต่เรื่องจาก
                  อภินิหารเทพในตอนนั้น ด้านการแสดงยังออกจะไม่ค่อยชำนาญสักเท่าไหร่

                  ทุกคนคงเข้าใจกันนะครับว่า เพิ่งได้แสดงเป็นเรื่องแรก แล้วใจยังอาจจะยังไม่ได้ชอบ
                  ในด้านนี้ อาจจะคิดว่าเค้าเป็นแค่ดาราสมัครเล่น แล้วไม่ว่าจะเป็นทาง ผู้กำกับ,
                  ทางทีมงาน, และยังรวมถึงดารานักแสดงรุ่นพี่ คิดว่าเอ๊ะ บุคลิกความสามารถ
                  ของน้องเค้าเนี่ย มันยังสามารถที่จะพัฒนาได้อีกไกลเลยนะ แต่น้องเค้าก็ยังเอ๊ะ
                  ยังดูเหมือนไม่ค่อยกระตือรือร้นอะไรสักเท่าไหร่เลย

                  แล้วบางครั้งที่มากองถ่าย จะต้องพกข้าวโพดที่คุณแม่เค้าเป็นคนต้มให้มาจากบ้าน
                  อ่ะ พี่โหย่วเผิงฉันให้พี่ลองชิมข้าวโพดจากปักกิ่งดูค่ะ ผมคิดว่าน้องเค้า ค่อนข้างที่จะ.....
                  ค่อนข้าง..... ดูเป็นผู้ใหญ่เลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่........ถึงกับว่าดูแก่ขนาดนั้นนะครับ
                  แล้วก็กับด้านการแสดงซึ่งน้องเค้า ก็ไม่ได้มีความคิดใดๆเลยเกี่ยวกับตรงนี้
                  เลยคิดว่าเอ๊ะ น้องเค้าออกจะดูเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนต่อโลก



ผู้สื่อข่าว     : ทางด้านเจี่ยจิ้งเหวินที่ได้แต่งงานแล้วมาใช้ชีวิตที่ไต้หวัน กับดาราไต้หวันที่กำลังพลิกตนเอง
                  มาเป็นผู้จัดอย่างซูโหย่วเผิง คิดไม่ถึงเลยนะค่ะว่า ในอนาคต เกาหยวนหยวน
                  อาจจะได้ผลันตัวเองมาเป็นสะใภ้ไต้หวัน

                : รู้หรือไม่ค่ะว่าตอนนี้เนี่ย เกาหยวนหยวน ได้รับฉายาว่าว่าที่สะใภ้ไต้หวัน


ซูโหย่วเผิง  : ก็ยังไม่ได้แต่งนิ ไม่ต้องมาบังคับผมให้ตอบเลย ผมไม่รู้ ฮาฮา.......


เจี่ยจิ้งเหวิน : อ๋อ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยินดีต้อนรับเลยค่ะ แล้วมันก็ดีเสียอีกนะที่ฉันคิดว่า ขอบคุณค่ะขอบคุณ


ผู้สื่อข่าว     : สถานีโทรทัศน์ โซฮู รายงาน


My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2013, 03:37:54 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=lMV-wFFx6kU" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=lMV-wFFx6kU</a>

[15/1/2013]

ผู้สื่อข่าว     : 17 มกราคมที่ผ่านมา ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า เกาหยวนหยวน
                  ซูโหย่วเผิง 10 กว่าปีกับการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

(แถบอักษร : ซูโหย่วเผิงแอบเม้าส์ว่าในตอนนั้น เกาหยวนหยวน “ยังไม่ค่อยเป็นงาน”)

                  ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ 3 ดารานักแสดงสบทบ เมื่อ 10 ปีก่อนในภาพยนตร์
                  เรื่องดาบมังกรหยก ทั้ง เกาหยวนหยวน, ซูโหย่วเผิง, เจี่ยจิ้งเหวิน ที่ทั้งสามกลับมา
                  ร่วมงานกันอีกครั้ง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เกาหยวนหยวน รับบทเป็นเทพธิดาผู้พี่
                  ซูโหย่วเผิง รับบทเป็น อู๋หยาจื่อ และเจี่ยจิ้งเหวิน รับบทเป็น หลี่ชิวสุ่ย

                  ในระหว่างการถ่ายทำที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยของทั้งสามคน แต่สักนิดนึงพวกเค้าก็
                  ไม่ได้แสดงออกเลยว่า พวกเค้านั้นเหน็ดเหนื่อยกันมากแค่ไหน ซึ่งเมื่อห่างหาย
                  จากการร่วมงานกันไปนาน อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเหมือนทั้งเพื่อนและคนใกล้ชิดที่รู้ใจ
                  และเมื่อทั้งสามได้เวียนมาพบกันดูเหมือนว่าจะมีความสุขมากเลยทีเดียว
                  ถึงแม้ว่าจะไม่มีบทมากมายเท่าใด ก็อาจะทำให้ใครหลายหลายคนผิดหวังกันไม่ใช่น้อย
                  ถึงแม้ว่าในฉากนี้จะไม่มีบทที่ต้องแสดงอะไรแล้ว งั้นเรามาพูดคุยกันถึง
                  เมื่อ 10 ปีก่อนกันดีกว่า



ซูโหย่วเผิง : ผมกับความประทับใจต่อ หยวนหยวน ก็มีเยอะนะครับ เพราะว่า หยวนหยวน อืม.......
                 (แถบอักษร : ซูโหย่วเผิง) ตอนนั้นเค้าก็ยังถือได้ว่ายังเป็นดาราใหม่อยู่นะครับ

                 หนังที่ถ่ายก็ ยังถือว่าเป็นเรื่องแรกของเค้าเลยก็ว่าได้ ซึ่งตอนนั้นเค้าก็ยัง
                 ไม่ค่อยชำนาญสักเท่าไหร่น่ะครับ ทุกคนคงจะทราบกันดีนะครับ ว่าเค้าแสดงเป็น
                 เรื่องแรก และใจอาจจะยังไม่ได้ชอบงานแสดงด้านนี้ แล้วอาจจะคิดว่าเป็นแค่
                 ดาราสมัครเล่น แล้วก็ทางด้านผู้กำกับ, ทางทีมงาน, และรวมถึงดารานักแสดงรุ่นพี่
                 ก็คิดว่าเอ๊ะ บุคลิกความสามารถของน้องเค้าเนี่ย ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกลเลยนะเนี่ย
                 แต่น้องเค้าก็ยังเอ๊ะ ยังดูเหมือนว่าไม่ค่อยกระตือรือร้นสักเท่าไหร่

                 แล้วบางครั้งน้องเค้าจะเอาข้าวโพดที่คุณแม่เค้าต้มมาให้จากบ้าน อ่ะ พี่โหย่วเผิง
                 ฉันให้พี่ลองชิมข้าวโพดจากปักกิ่งดูค่ะ ในตอนนั้นน้องเค้า ค่อนข้างที่จะ... ค่อนข้าง...
                 ดูเป็นผู้ใหญ่เลยทีเดียว มันก็ยังไม่... ถึงกับดูแก่ขนาดนั้นนะครับ แล้วก็ด้านการแสดง
                 ซึ่งน้องเค้ายังไม่ได้มีความคิดเห็นใดๆเลยเกี่ยวกับตรงนี้ เลยคิดว่าเอ๊ะ
                 น้องเค้านี่ออกจะเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนต่อโลก



ผู้สื่อข่าว    : ซึ่งทั้งสามคนในตอนนี้ถ้าจะให้เทียบกับเมื่อ10 ปีก่อน แต่ละคนงานก็ค่อนข้างเยอะ
                 ไม่ง่ายเลยที่ทั้งสามคนจะมีตารางงานที่ว่างลงล็อคกันได้ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะ
                 ไม่มีบทพูดด้วยกันในหนังก็ตามที มันคงจะสร้างความเสียใจให้กับท่านผู้ชมไม่ใช่น้อย,
                 ใช่ไหมล่ะค่ะ

สถานนีข่าว โยวคู่ รายงาน


My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2013, 03:57:45 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=s0YDDNMT1LI" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=s0YDDNMT1LI</a>

[17/1/2013]

ผู้สื่อข่าว     : กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ตั้งแต่เปิดกล้องถ่ายทำ
                  กันนะครับ ก็ได้รับเสียงกระแสตอบรับจากประชาชน และสื่อมวลชนไม่น้อยเลยนะครับ
                  ทำให้ทางรายการ ท่านปานซิน ของเราสืบทราบมาว่า ในกองถ่ายกับสามดารานักแสดงนำ
                  ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ



อักษรชมพู
ซูโหย่วเผิง  : ไม่เจอกันตั้งนาน คุณนี่ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย
เจี่ยจิ้งเหวิน : คุณก็เหมือนกัน
ซูโหย่วเผิง  : อีกแป๊ปเราไปกินข้าวด้วยกันนะ
เจี่ยจิ้งเหวิน : ฉันเชื่อคุณค่ะ



ผู้สื่อข่าว     : การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของเจี่ยจิ้งเหวินและซูโหย่วเผิงนั้น ถือเป็นโอกาสดี
                  ที่ทั้งสองนั้นคิวงานว่างตรงกันอย่างพอดิบพอดี ซึ่งการมาร่วมงานกันในครั้งนี้
                  ทั้งสองคนก็ได้เตรียมความพร้อมมาเต็มที่ และไม่ลืมที่จะร่วมกันรื้อฟื้นความทรงจำ
                  ครั้งเมื่อ 10 ปีก่อน


เตี่ยเมี่ยง     : หัวอกของผู้หญิงน่ะ คุณไม่มีวันที่เข้าใจหรอก ให้เค้าได้ระบายมันออกมาบ้างเถอะ

เจี่ยจิ้งเหวิน : ใช่ค่ะ, พวกเราดีใจมากๆเลยค่ะ แล้วความรู้สึกนี้มันก็ยังรู้สึกคุ้นเคยกับมันด้วยค่ะ
                  เพราะมันนานมากแล้วที่ไม่ได้พูดคุยกันเสียงดังๆในห้องแต่งตัว แล้วก็ยังคง
                  คิดถึงมันอยู่ตลอด



ซูโหย่วเผิง  : มันยังต้องใช้ความพยายามมากกว่าจินตนาการ มันก็ใช่นะครับ ที่ทุกๆคนได้กลับมา
                  เจอกันอีกที่ห้องแต่งตัว (แถบอักษร : ซูโหย่วเผิง) แล้วความรู้สึกนั้นมันกลับไม่เหมือนเดิม
                  และผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผมไม่คุ้นเคยกับมัน


ผู้สื่อข่าว     : ปี 2002 ภาพยนตร์เรื่องดาบมังกรหยก นำแสดงโดย ซูโหย่วเผิง, เจี่ยจิงเหวิน และ
                  หยวนหยวน เรื่องที่น่าเสียดายก็คือเป็นเวลากว่า 10 ปี ที่พวกเค้าไม่ได้มาร่วมงานกัน
                  ภาพยนตร์เรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า โฉมใหม่นี้ ได้ดีกรีจากนักแสดงชั้นนำมากมาย
                  ร่วมแสดง ในการถ่ายทำภาพยนตร์นั้น ก็มักที่จะพบกับความลำบากใจในการถ่ายทำ
                  อยู่ไม่ใช่น้อย



อักษรสีชมพู
เกาหยวนหยวน : ถ่ายหน่อย ถ่ายหน่อย เลือกภาพที่สวยที่สุดแล้วก็ส่งให้แฟนเราดูสักหน่อยดีกว่า
เจี่ยจิ้งเหวิน      : คนเยอะแยะกำลังจ้องมองเราอยู่นะ
เกาหยวนหยวน : ไม่ต้องกลัว



ผู้สื่อข่าว     : เธอคนนั้น (เกาหยวนหยวน) มีบ้างไหมที่มาชวนพวกคุณสองคนคุยเล่นกัน


ซูโหย่วเผิง  : พูดคุยเล่นกันก็มีบ้างนะครับ พวกเค้าสองคนจะเป็น “คู่กัดตลอดกาล” กันอยู่แล้ว
                  (อักษรสีชมพู : “คู่กัดตลอดกาล”) ก็คงพูดคุยอะไรกันไม่มากแหละ


ผู้สื่อข่าว     : เป็นเวลานานพอสมควรที่พวกเค้าไม่ได้ร่วมงานด้วยกัน จนถึงวันนี้มันก็ยังคงอยู่ใน
                  ความทรงจำของเราทุกคน เวลากว่า 10 ปีพวกเค้าก็ยังไม่เปลี่ยน ถึงแม้ว่า
                  ในเวลานั้นจะมีเรื่องอันเป็นวีรกรรมก็ตามที



เจี่ยจิ้งเหวิน : ฉันคิดว่าในเวลานั้น (แถบอักษร : เจี่ยจิ้งเหวิน) ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างแซบ
                  พอดูเลย (อักษรสีชมพู : ตัวแซบ) ถ้าพวกคุณได้เห็นภาพทะเล้นๆ ที่ได้โพส์ตลง
                  ทางเว็ปไซต์อ่ะค่ะ
 
                  (แถบอักษร : ภาพ เกาหยวนหยวน “ทำหน้าทะเล้น”) (อักษรชี้ : เกาหยวนหยวน)

                  ซึ่ง เกาหยวนหยวน และฉัน ก็พูดถึงเรื่องนี้มานานพอสมควร นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นภาพแรก
                  เป็นภาพที่ทำหน้าตาหน้าเกลียดที่สุดเลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ
                  ถูกฉันที่เป็นคน “เอาไปแฉ” ด้วยแหละค่ะ




My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มีนาคม 22, 2013, 06:14:32 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=oZ0uTCMzrvY" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=oZ0uTCMzrvY</a>


[2/2/2013]

บรรยาย     : ชายต้นแบบ Men’s Joker
                  นายแบบประจำปี 2013 เดือนกุมภาพันธ์ < ชายต้นแบบ Men’s Joker >
                  ซูโหย่วเผิง ( อักษรสีแดง )


ซูโหย่วเผิง : ผมคิดว่า ผมอยากจะใส่เสื้อที่ใส่แล้วเคลื่อนไหวสบายใส่แล้วสบายตัวได้ทั้งวัน
                 ถ้าหากว่าต้องเป็นทางการในการทำงาน ก็คงต้องเป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างออกจะเป็น
                 ทางการสักนิดนึง แต่ในความเป็นทางการนั้นก็ แต่ความเป็นจริงแล้วผมก็...ยังค่อนข้าง...
                 ค่อนข้างที่จะทำตัวสวนกระแสสักหน่อยและผมยังไม่ชอบทำอะไรตามใครสักเท่าไหร่ด้วยครับ

                 ดังนั้นถ้าจะหาอะไรที่เหมาะกับผมซึ่งมันคงต้องตามหากันต่อไป
                 ที่สิ่งนั้นจะเต็มไปด้วยความน่าสนใจ มันอาจจะมีอะไรที่ดูแปลกและดูขัดขัด
                 หรืออาจจะเป็นสินค้าที่ค่อนข้างก้าวกระโดด หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์
                 ที่มีคุณค่าอยู่ในนั้น มันจะทำให้ผมคิดว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว


               : ผมคิดว่าทุกๆคนคงต้องดูความเป็นตัวเองให้ออกครับ
                 (# อะไรคือความทันสมัย # : อักษรสีฟ้า) แล้วก็ยังต้องดูวัยและอายุของตัวเองด้วย
                 เพราะว่าทุกๆคนล้วนแล้วแต่มีบุคลิกเป็นของตน รวมถึงนิสัยของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
                 เพราะฉะนั้นแล้วของที่เหมาะหรือถูกใจก็ต้องไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้คุณต้องลงทุน
                 เสียเวลาในการที่จะค้นหามัน ต้องกล้าที่จะเสียเงินเพื่อเรียนรู้มัน เมื่อซื้อของที่มันไม่ใช่แล้ว
                 คุณก็จะได้เริ่มมีข้อคิดให้กับตัวเอง


              :  การเป็นต้นแบบ (# อะไรคือชายต้นแบบ # : อักษรสีฟ้า)
                 ผมคิดว่าคุณต้องมีบุคลิกลักษณะเด่นที่เป็นตัวคุณก่อนนะครับ มีลักษณะพิเศษเป็นของตัวเอง
                 มีมุมมองของตัวเองและไม่ใช่ที่จะทำตัวตามกระแส แล้วผมคิดว่านอกจากทั้งหมดนี้แล้ว
                 จะต้องมีร่างกายและใจที่เข้มแข็งด้วยนะ ฮาฮา.....ร่างกายต้องแข็งแรง
                 แล้วก็เป็นคนที่เริ่มที่จะรู้จักพอเพียง ผมคิดว่าเพียงเท่านี้
                 คุณก็จะสามารถแสดงความมีเสน่ห์ในตัวคุณออกมาได้อย่างเต็มที่


บรรยาย     : กุมภาพันธ์นี้ เชิญพบกับ...... ชายต้นแบบ Men’s Joker

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มีนาคม 30, 2013, 06:19:04 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=h85CpO2v2aw" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=h85CpO2v2aw</a>


[28/2/2013]

ผู้สื่อข่าว    : (หลี่เจินเจิน ผู้สื่อข่าว) ไม่กี่ปีมานี้ภาพยนตร์ในประเทศเราได้รับความนิยม ซึ่ง หลินอี้เฉิน
                  ได้ร่วมงานกับ ซูโหย่วเผิง ที่ไม่ได้ทำงานที่บ้านเกิดตัวเองมาสิบกว่าปี
                  ได้มาร่วมงานกันเป็นครั้งแรก

                  (ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ไต้หวัน เป็นครั้งแรกที่หลินอี้เฉินกับซูโหย่วเผิงได้มาร่วมงานกัน)

                  ครั้งแรกกับการร่วมงานแสดงด้วยกัน ซูโหย่วเผิงยังบอกอีกว่าเป็นอะไรที่รอคอยมานานแล้ว
                  แล้วยังบอกอีกนะค่ะว่านี่อาจจะเป็นโอกาสที่จะแสดงผลงานเพื่อเข้าชิงรางวัลก็เป็นได้
                  เค้าคิดว่าการที่ได้ทำงานกับ หลินอี้เฉิน เป็นอะไรที่โชคดีมากๆ หลินอี้เฉิน, ซูโหย่วเผิง,
                  หลางจู๋ย, เหลิ๋ยหง เหล่าบรรดานักแสดงชั้นนำที่ร่วมแสดงกันในภาพยนตร์เรื่อง (เถียนมี้ซาจี)


ซูโหย่วเผิง : เอ่อ...ขอฝากตัวด้วยครับ


ผู้สื่อข่าว    : พระเอก ซูโหย่วเผิง ที่ห่างหายจากวงการหนังในไต้หวันมาสิบปีกว่า ครั้งนี้เค้าได้กลับมา
                  รับงานที่บ้านเกิดของตัวเอง คราวนี้ได้มาร่วมงานกับ หลินอี้เฉิน มารับบทตำรวจคู่หูกัน
                  (10 กว่าปีที่ห่างหายจากวงการ ซูโหย่วเผิง ได้มาร่วมงานกับ หลินอี้เฉิน เป็นครั้งแรก)


ซูโหย่วเผิง : (นักแสดงนำ ซูโหย่วเผิง) ชอบ อี้เฉิน มาก แล้วก็ครบรอบ 50 ปีม้าทองปีนี้ด้วย
                  ผมหวังว่าเราสองคนจะพยายามทำหนังเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แล้วก็ อี้เฉิน
                  เป็นคนที่นำโชคมากเลยนะ ผมเฝ้ารอคอยมานานมาก



หลินอี้เฉิน  : (นักแสดงนำ หลินอี้เฉิน) ไงก็ พวกเราจะพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ค่ะ
                  อาจเป็นเพราะเรายังไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ เพราะเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเอง
                  แต่ฉันเชื่อนะค่ะว่า พอไปถึงที่นั้นแล้วค่อยบอกอีกทีได้มั้ย? ( ได้สิ มันได้อยู่แล้ว )



ผู้สื่อข่าว    : (ภาพยนตร์ใหม่ หลินอี้เฉิน ซูโหย่วเผิง ยังปิดละครไว้เป็นความลับ)
                  วันที่ 2 มีนาคมนี้ จะได้ฤกษ์เปิดกล้องภาพยนตร์ประจำประเทศ หลินอี้เฉิน
                  กับบทบาทที่ท้าทายที่เธอยังไม่เคยได้รับบทมาก่อน นอกจากนั้นด้านพอทของ
                  ภาพยนตร์เรื่องนี้ วันเปิดกล้องทางผู้จัดได้สั่งกำชับให้อุ๊บไว้ก่อน เพราะเกรงว่า
                  ถ้าพูดอะไรไปภาพยนตร์ก็หมดสนุกกันสิค่ะ


เหลิ๋ยหง    : (นักแสดง เหลิ๋ยหง) ตั้งตารอกันนะครับ ( คุณรับบทเป็นผู้จัดการธนาคารคุณก็พูดได้ )
                  ผู้กำกับครับ คุณช่วยพูดหน่อยจะได้มั้ย



ผู้สื่อข่าว    : (ซูโหย่วเผิงถ่ายทำหนังแนวใหม่ที่ไต้หวัน ผู้กำกับป้าวเลือกบทบาทได้อย่างน่าสนใจ)
                  ภาพยนตร์แนวใหม่ ที่ทางผู้กำกับให้เหตุผลที่เลือก ซูโหย่วเผิง ได้อย่างน่าสนใจ


ซูโหย่วเผิง : ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้กลับมาในครั้งนี้ แต่ผลสุดท้ายผู้กำกับ
                  บอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด เพราะสิ่งแรกคือในประเทศเราอ่ะ ยังไม่มี ยังไม่มี
                  นักแสดงรุ่นลุงเลย ฮาฮา... ดีที่ยังมีตำแหน่งนี้ว่างพอดีเลย คุณจะกลับมาช่วยงานได้มั้ย



ผู้สื่อข่าว    : (ถ่ายหนังแนวใหม่ ซูโหย่วเผิงเป็นดารารุ่นลุง)
                  ถูกเรียกว่าลุง ซูโหย่วเผิงไม่เคยคิดที่จะแคร์มันเลยสักนิด เพราะได้กลับมา
                  ถ่ายหนังที่บ้านเกิด ได้กลับมาหาเพื่อนฝูง และได้อยู่กับคนในครอบครัว
                  กลับมาถ่ายหนังคราวนี้ นี่คือสิ่งที่เค้าคิดไว้ว่าอยากจะทำมัน

                  เฉิน ฮุ่ย เหวิน, เย่ เยี่ยน เซิง สถานนีข่าวไต้หวันรายงาน

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 09, 2013, 04:49:38 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=N0mu4ZknoZg" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=N0mu4ZknoZg</a>


[16/1/2013]

ผู้สื่อข่าว    : เสียงเพลงของวงเสี๋ยวหู่ตุ้ยนะครับ เป็นเพลงสำหรับคนที่เกิดช่วงปี 70 หรือปี 80
                 อย่างผมนี่แหละครับ แล้วในวันนี้นะครับ ซูโหย่วเผิงได้เดินทางไปที่ซีอัน
                 มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าตัวหนึ่ง มาถึงวันนี้เป็นที่ถามถึงกันมากเลยนะครับ
                 ของการกลับมารวมวงอีกครั้งของเสี๋ยวหู่ตุ้ย


                 (หยาง หาร รายงาน)  (ซูโหย่วเผิงมาที่ซีอัน)
                 (ข้อถกเถียงกัน “วงเสี๋ยวหู่ตุ้ย” ยากที่จะกลับมารวมวง งานยุ่งและไม่รีบแต่งงาน)



               : สัมภาษณ์ซูปเปอร์สตาร์ที่ในวันนี้มากไปด้วยมาดแมนอย่าง ซูโหย่วเผิง ที่ทำให้ใคร
                 หลายหลายคนได้กรี๊ดกัน หลังจากงานเสร็จสิ้น ซูโหย่วเผิงยังอยากที่จะลองพูดภาษาซ่านซี
                 ถึงแม้ว่าทางผู้สื่อข่าวของเรา จะอยู่ในการควบคุมของทางผู้กำกับ แต่ทางซูโหย่วเผิงเอง
                 อยากที่จะพูดภาษาซ่านซีทักทายแฟนๆ


ซูโหย่วเผิง : ผม ซูโหย่วเผิง (ผมดีใจที่ได้มาที่นี่) ผมดีใจที่ได้มาที่นี่ (มาพบกับทุกๆคน) มาพบกับทุกๆคน

                 ตอนนี้ผมกำลังถ่ายเรื่อง.....ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ซื่อต้าหมิงปู่ ของทางผู้กำกับ
                 เฉิน เจีย ซ่าง ก็ใกล้จะปิดกล้องแล้ว เสร็จจากเรื่องนี้ก็ยังมี.....งานตรุษจีนราตรี
                 ก็จะได้ไปร่วมฉลองงานปีใหม่ที่บ้านด้วย

                 สำหรับปีหน้าที่จะถึงนี้เหรอครับ เพิ่งจะเริ่มทดลองงาน งานด้านผู้จัดละคร มันค่อนข้าง
                 ที่จะน่าสนใจทีเดียว ในปี 2013 นี้ ก็คงต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไว้ด้านนี้

                 ปีนี้คงยังมี โครงการเพลง เมื่อถึงเวลานั้นแล้วถ้าหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี คงจะได้
                 มาหาทุกคนที่ซีอัน มาเจอกันในนามของมิตรรักแฟนเพลง



ผู้สื่อข่าว    : ในตอนนี้มีภาพจากทางอินเตอร์เน็ตได้นำมาโพส์ตใหม่ ของวงเสี๋ยวหู่ตุ้ย ที่ทุกคนหวังจะให้
                 กลับมารวมกันอีกครั้ง โหย่วเผิง บอกกับเราเรื่องของเวลาที่ไม่เคยตรงกัน
                 ปีนี้ที่จะกลับมารวมกันคงจะยาก


ซูโหย่วเผิง : มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ งานแสดงคอนเสิร์ตของวงเสี๋ยวหู่ตุ้ย ตอนนี้ทาง
                 บริษัทค่ายเพลง กำลังอยู่ในช่วงประสานงานกันอยู่ เพราะว่าสิ่งที่ต้องพิจารณากัน
                 มันมีอีกมากมายเลย พวกเราคงต้องขอยืดเวลาตรงนี้ออกไปก่อนนะครับ
                 คิดว่าในปี 2014 คงจะเป็นที่เรียบร้อย


ผู้สื่อข่าว    : แน่นอนค่ะว่าสิ่งที่มวลชนมากมายต่างให้ความสนใจนั่นคือทุกๆอย่างที่เป็น ซูโหย่วเผิง


ซูโหย่วเผิง : คิดไม่ถึงเลยนะครับว่าทุกๆคนจะให้ความสนใจมากมาย กับชีวิตส่วนตัวของผมมากขนาดนี้
                 ฮาฮา.... ผมไม่ใช่กลุ่มคนที่ต่อต้านการแต่งงานครับ ผมค่อนข้าง.....ผมไม่ค่อยรีบนะครับ
                 เรื่องแต่งงาน ผมหวังว่าเค้าคนนั้น ( คู่ชีวิต ) ไม่อยากให้มีงานที่ยุ่งเหมือนผมเลย ฮาฮา....
                 ยังหวังว่ามีอะไร..... ( คนรู้ใจ ) เป็นคนที่คอยให้การสนับสนุน ให้การเกื้อหนุนผมครับ



ผู้สื่อข่าว    : สถานีข่าวรายงาน

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: เมษายน 09, 2013, 05:08:01 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=vEuP_7Tj88Y" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=vEuP_7Tj88Y</a>


[2/2/2013]


ผู้สื่อข่าว    : เว็ป CCTV ตรุษจีนราตรี 2013 ในวันนี้เรามีโอกาสได้มาสัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง
                 ซูโหย่วเผิงค่ะ กล่าวทักทายแฟนรายการกันหน่อยค่ะ


ซูโหย่วเผิง : สวัสดีปีใหม่ทุกคนครับ ผมซูโหย่วเผิง


ผู้สื่อข่าว    : ไม่ทราบว่า วันนี้คุณมาร่วมงานตรุษจีนราตรี 2013 คุณได้เตรียมการแสดงอะไรไว้ค่ะ


ซูโหย่วเผิง : วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองปีใหม่นะครับ ฮาฮา... เป็นเพราะเป็นงานราตรีปีใหม่นะครับ
                 เป็นงานที่ทุกคนได้ร่วมสนุกมีความสุขด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข
                 ผมจะเอาบทเพลงที่ทุกๆคนสามารถร่วมร้องได้ แล้วก็เป็นเพลงเข้ากับบรรยากาศด้วย



ผู้สื่อข่าว    : แล้วอยากทราบว่า คุณจะร้องเพลงแนวคลาสสิคหรือเพลงเก่า ด้วยได้ไหมค่ะ


ซูโหย่วเผิง : ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ เพราะตรุษจีนราตรีนี้เค้าต้องการให้ผมร้องเพลงนี้
                 จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้มีตัวเลือกอะไรหรอกครับ ฮาฮา


ผู้สื่อข่าว    : แล้วในปี 2013 ล่ะค่ะมีงานอะไรบ้าง


ซูโหย่วเผิง : ปี 2013 เหรอครับ ผมคิดว่าเป็นปีที่ค่อนข้างยุ่งมากเลยทีเดียว เพราะในปี 2012
                 ผมได้เริ่มลงมือเป็นผู้กำกับละครเอง เรื่อง ไม่รักก็อย่ามากวนใจ เอ๊ะ ใช่แล้ว
                 ยังเอามาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์จงยางนี้ด้วยล่ะ ใช่ ใช่แล้วล่ะครับ
                 ในปี 2013 จะเริ่มออกอากาศให้ได้ชมกัน ทำงานมาตอนนี้ค่อนข้างสนุกเลยทีเดียวครับ

                 ในปี 2013 นอกจากงานด้านการแสดงแล้ว ถ้ายังมีอะไรผมคงได้มาบอกกันอีกทีหลัง
                 แล้วกันนะครับ



ผู้สื่อข่าว    : พวกเราจะตั้งหน้าตั้งตารอกันนะค่ะ เรามาอวยพรท่านผู้ชมกันสักเล็กน้อยดีกว่าค่ะ


ซูโหย่วเผิง : ครับ ขอให้ท่านผู้ชมทุกท่าน เพื่อนๆทุกคน ทุกๆครอบครัว มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
                 สุขสันต์วันปีใหม่ครับ


My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2013, 01:51:16 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=I1I_xwTVW1I" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=I1I_xwTVW1I</a>



[13/04/2013]


ผู้สื่อข่าว     : (ซูโหย่วเผิงร่วมงานกับหลินอีเฉินเรื่อง “เถียนมี่ซาจี”)
                   ภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนที่มาถ่ายทำกันที่เมืองกาวสง กองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง
                   เถียนมี่ซาจี เมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้เดินทางไปที่เมืองกาวสง ถ่ายทำฉากภาพยนตร์ คราวนี้ได้ทั้ง
                   ซูโหย่วเผิง หลินอีเฉิน รับบทเป็นดารานักแสดงนำ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ทำความรู้จัก
                   คุ้นเคย ก่อนหน้าที่จะมาร่วมงานกัน ซึ่งทาง หลินอีเฉินครั้งนี้เธอได้รับบทเป็นตำรวจหญิง
                   ต่อไปขอเชิญทางด้านผู้สื่อข่าวของเรากันเลยค่ะ

                   (ถ่ายทำ “ เถียนมี่ซาจี ” ซูโหย่วเผิง หลินอีเฉินร่วมงานกัน)
                   กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องเถียนมี่ซาจี เดินทางไปถ่ายทำกันที่โรงพยาบาลที่เมืองกาวสง
                   นอกจากความพยายามด้านนักแสดง นักแสดงที่มากด้วยความสามารถ ทั้งที่เคยมีผลงาน
                   จากแผ่นดินใหญ่อย่างซูโหย่วเผิง และดารานักแสดงจากรางวัลจินจงอย่างหลินอีเฉิน
                   อีกด้วยดารานักแสดงสมทบอย่าง หลางจู่หยุน, อู๋จงเทียน ร่วมแสดงด้วย ทำเอาฉากนี้
                   คึกคักขึ้นมาเลยทีเดียว



ซ้อมละคร   : อีกเทคนะค่ะ เริ่ม 3 2 1 action


ผู้สื่อข่าว     : (ซูโหย่วเผิงรับบทเป็นตำรวจ ชักปืนเรียกเสียงฮา)
                   ซูโหย่วเผิงกับการทำงานที่แผ่นดินใหญ่มานาน จนกลับมาลงดาราจอเงินที่ไต้หวันอีกครั้ง
                   ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้กับบทบาทที่ท้าทาย เป็นบทบาทภาพลักษณ์ของตำรวจทั้งกายและใจ
                   โดยทางบริษัทค่ายหนังในไต้หวัน คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มาทำงานร่วมกันในครั้งนี้
                   เพื่อความสมบูรณ์ของบทบาทตำรวจ ซูโหย่วเผิง ต้องซุ่มซ้อมกับบทการแสดง
                   เป็นอย่างหนัก เพื่อให้ตัวเองเข้าถึงตัวละครในบทนี้ ทว่าในการเข้าฉากบางครั้ง
                   ก็ยังมีภาพหลุดที่ทำเอาขำกันไม่หยุด



ซ้อมละคร   : เริ่ม action


ซูโหย่วเผิง  : ปืนมันลั่น ฮาฮา......


ผู้สื่อข่าว     : นักแสดงคู่หูในเรื่องนี้ หลินอีเฉิน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เค้าทั้งสองได้มาแสดงร่วมกัน
                  กับภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวน และในครั้งนี้เธอมารับบทเป็นตำรวจสาว สาวแกร่ง
                  ถูกขนานนามว่าผู้มากด้วยเสน่ห์ อยากเจออะไรที่แปลกใหม่ท้าทาย ในครั้งนี้เธอก็ได้มา
                  ร่วมแสดงกับดาราในดวงใจของเธอสมัยเด็กอย่างซูโหย่วเผิง หลินอีเฉิน ยอมรับว่าคุ้ม
                  กับการรอคอย


หลินอีเฉิน   : จริงๆแล้ว แต่ก่อนความประทับใจของพี่โหย่วเผิง ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานด้านนักร้อง
                  แล้วความจริง ครั้งนี้มันก็ไม่มีอะไรเลยที่เหมือนกันเลย ในการร่วมงานกันด้านงานแสดง
                  แล้วในฉาก ในส่วนนี้ก็ กับตัวดิฉันเองก็มีความประทับใจมากเลยทีเดียว ดังนั้นในบางครั้งเนี่ย
                  เราก็จะพูดคุยกันเกี่ยวกับความคิดเห็นในเรื่องการแสดง



ผู้สื่อข่าว     : ทุ่มทุน 400 ล้าน “ เถียนมี่ซาจี ” ถ่ายทำที่เมืองกาวสง ที่รวมบรรดาเหล่านักแสดง
                  รวมความแปลกใหม่ และเป็นภาพยนตร์ได้รับความสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่ง
                  จากสื่อและผู้ชมในปีนี้


เหลียน เห๋อ ป้าว , หลิว ซูเว๋ เซิ่ง รายงานจากเมืองกาวสง

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2013, 02:17:36 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=Oz8sdzm1Etk" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=Oz8sdzm1Etk</a>



[8/04/2013]


ผู้สื่อข่าว     : ซูโหย่วเผิงรับบทเป็นตำรวจ ค่าประกันภัย 150 ล้าน ยิงปืนลั่นทำเอา หลินอีเฉิน ตกอกตกใจ


ซ้อมละคร   : เริ่ม action   ปัง !


ผู้สื่อข่าว     : ซูโหย่วเผิงและหลินอีเฉิน กับภาพยนตร์ เถียนมี่ซาจี รับบทเป็นตำรวจ วันนี้ (วันที่8)
                  กับฉากถ่ายทำที่ซูโหย่วเผิงต้องเข้าไปช่วยเหลือหลินอีเฉิน ทีแรกนึกว่าที่ซูโหย่วเผิง
                  รับบทเป็นตำรวจได้คล่องซะขนาดนั้น หารู้ไม่ว่า


ซ้อมละคร   : เริ่ม action !   ปืนมันลั่น !
 

ซูโหย่วเผิง  : ปืนมันลั่น ! ฮาฮา.....


ซ้อมละคร   : คัต !    ฮาฮา...   เริ่ม action   (ปืนล่ะ // ล้วงไม่ถึง)  เริ่ม  ปัง !  โทษทีครับขออีกเทค


ผู้สื่อข่าว     : ฮึม....ลุงซู คุณแสดงได้เหมือนเป็นตำรวจรักษาการณ์ประตูสีตกเลย


ซูโหย่วเผิง  : อันนี้นี่มันเป็นอะไรที่สับเพร่ามากเลย


หลินอีเฉิน   : (คำอธิบายช่วย) เพราะว่าเสื้อผ้าเนี่ย ต้อง ( ปืน ) มันต้องซ่อนได้ ดังนั้นเค้า
                  ความสะดวกเวลาเราชักปืนออกมาเนี่ย มันเลยดูไม่สะดวกเหมือนกับใส่ชุดเครื่องแบบ
                  ตำรวจจริงๆ


ผู้สื่อข่าว     : ( ดังนั้นปืนเค้าถึงลั่นบ่อยงัย ) ( บางครั้งที่กำลังถ่ายทำกันอยู่ )


ซูโหย่วเผิง  : เอ่อ.....เมื่อวานก็มีบ้างนิดหน่อย ก็ตอนที่ผมต้องล้วงมันออกมา ตอนที่กำลังจะชักปืน
                  ออกมา ซองลูกปืนมันดันตก เป็นเรื่องที่สับเพร่าจริงๆ ตอนที่ทำปืนหลุดมือยังยิ้มได้อีก


ผู้สื่อข่าว     : ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องอาศัยทักษะการเคลื่อนไหวในทุกมุมกล้อง บริษัทค่ายภาพยนตร์
                  ประกันภัยให้นักแสดง 150 ล้าน


ซูโหย่วเผิง  : ( ปืนจริง ) กับอันนี้น่าจะพอๆกัน


ผู้สื่อข่าว     : แต่ลุงซูเด็กดื้อคนนี้พอจับปืนได้ก็......


ซูโหย่วเผิง  : ปัง


หลินอีเฉิน   : ฮือฮือ~ ~


ซูโหย่วเผิง  : ใช่ครับมันสนุกดี สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยดีมั้ย สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยดีมั้ย


ผู้สื่อข่าว     : อั้ยย่ะ !  อย่าทำอย่างนี้สิ


ซูโหย่วเผิง  : ก็มันสนุกจริงๆนิ


หลินอีเฉิน   : อ๊า......


ซูโหย่วเผิง  : ให้ความรู้สึกดีเนอะ ฮาฮา.... (ใจร้าย)


ผู้สื่อข่าว     : โอเค แค่ปืนปลอมถึงกล้าเล่นขนาดนี้ได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยน้องน้องกรุณาอย่าได้
                  เลียนแบบเชียวนะ


หลินอีเฉิน   : มันต้องมีควัน คือซองกระสุนมันต้องรู้สึกว่ามันปะทุระเบิดออก ดังนั้นแล้วเนี่ย
                  ข้างในต้องใส่แป้งกันผดเข้าไปด้วยเล็กน้อย ทุกครั้งที่ยิง มันจะได้กลิ่นของแป้งกันผด
                  นี่แหละ หอมมาก ยอดเยี่ยมสุดๆเนอะ



ซูโหย่วเผิง  : พอเรายิงปืนมันจะทำให้เราเหมือนกับกำลังอยู่ในความฝันเลย


ผู้สื่อข่าว     : ดิฉันหวังว่า ไกวไกวหู่ จะเปลี่ยนไปเป็น ห้วยห้วยหู่ รายงาน


สถานีข่าว ต้ง

My Dream_ฝน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 124
    • ดูรายละเอียด
Re: ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2013, 02:36:50 PM »
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=PWbYxMLRCRw" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=PWbYxMLRCRw</a>



[8/04/2013]


ผู้สื่อข่าว     : (ซูโหย่วเผิงถ่ายทำภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนหลังจากที่ห่างหายวงการไต้หวันมานาน ,
                  ทุ่มทุนสร้างโดยชาวกาวสง)


                : จากการทุ่มทุนสร้าง 400 ล้าน โดยคนเมืองกาวสง กับภาพยนตร์แนวคดีสืบสวนสอบสวน
                  เรื่อง เถียนมี่ซาจี และในวันนี้ยังคงปักหลักถ่ายทำกันอยู่ที่เมืองกาวสง ดารานักแสดงนำ
                  ทั้งดารานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมรางวัลจินจงอย่างหลินอีเฉิน และดารานักแสดงนำ
                  ที่ห่างหายจากจอเงินในไต้หวันไปเสียนานอย่าง ซูโหย่วเผิง ร่วมด้วย เหล่ยหง ,
                  หลางจู่หยุน , อูจงเทียน เป็นต้น มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย นับได้ว่าเป็นอีกภาพยนตร์
                  ระดับคุณภาพเรื่องหนึ่งเลย

                  (หลินอีเฉิน, ซูโหย่วเผิง นักแสดง)


หลินอีเฉิน   : โดยส่วนตัวยังไม่เคยรับบทตำรวจแบบนี้มาก่อนนะค่ะ ฉันคิดว่าในอาชีพนี้เนี่ย
                  มันมีอะไรที่แตกต่างกันเยอะเลยค่ะ แล้วยังต้องฝึกฝนเรียนรู้พื้นฐานในอาชีพนี้ด้วยค่ะ
                  อย่างเช่น การใช้ปืน ทักษะการจู่โจม เป็นต้นน่ะค่ะ จริงจริงแล้ว ถ้าจะว่าไปนะค่ะ
                  ฉันเคยได้เห็นภาพยนตร์ในบทนี้มาก็มากนะค่ะมันดูเหมือนไม่น่าจะยากแต่พอมา
                  ได้รับบทเองจริงจริงเนี่ย มันยากเอาการอยู่เหมือนกันอ่ะนะค่ะ


ซูโหย่วเผิง  : ผมอยากให้เห็นอีกภาพลักษณ์แย่ๆหนึ่งของผมอ่ะครับ ฮาฮา....... มีสิ จริงนะ
                  ในการเข้าถ่ายทำวันนั้นผมมันก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะไปคุยกับทางผู้กำกับเรื่อง เอ่อ......
                  ผมน่ะมันแสดงได้ขี้เหร่ขนาดนี้เนี่ย คงจะทำให้ทุกๆคนตกอกตกใจแน่ แล้วผม
                  ยังคิดอีกนะครับว่า คงไม่คิดที่จะกลับไปเล่นบทพวกคุณชายโรแมนติกแบบเดิมอีก



หลินอีเฉิน   : ฮาฮา.....


ซูโหย่วเผิง  : ครับ


ผู้สื่อข่าว     : นี่เพียงแค่ภาพยนตร์เรื่องเถียนมี่ซาจีนั้นยังไม่ได้มีกำหนดเข้าฉายเลยนะครับ
                  ท่านรองกระทรวงวัฒนธรรมของเมืองกาวสง ท่านหลิวซิ่วเหมย ยังได้เตรียมผลิตผล
                  ที่เป็นที่ขึ้นชื่อของเมืองกาวสง มามอบให้กับทางทีมงานอีกด้วย ทำให้ทางทีมงาน
                  รู้สึกถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนที่นี่เลยล่ะครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนด
                  เข้าฉายในปลายปี 2013 นี้ครับ แฟนแฟนภาพยนตร์ที่รักภาพยนตร์ประเทศเราล่ะก็
                  อย่าพลาดเลยทีเดียวครับ


ผู้สื่อข่าว กัวจู้นถิง สถานีข่าวเมืองกาวสง รายงาน