ผู้เขียน หัวข้อ: [2015-05-15]ซูโหย่วเผิง มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดช่วงวัยรุ่นตรงๆ  (อ่าน 5384 ครั้ง)

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด

ที่มา http://sztqb.sznews.com/html/2015-05/15/content_3225046.htm

ซูโหย่วเผิง มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดช่วงวัยรุ่นตรงๆ นักข่าวเสิ่นเจิ้น หยิ่นชุนฟาง (尹春芳)
     เขาเคยเป็นไกวไกวหู่ (乖乖虎)แห่งวงเสี่ยวหู่ตุ้ย (小虎队) และก็เป็นองค์ชายห้าจากองค์หญิงกำมะลอ (还珠格格) เป็นตู้เฟย (杜飞) จากเรื่องมนต์รักในสายฝน (情深深雨濛濛) เป็นเตียบ่อกี้ (张无忌)ในเรื่องดาบมังกรหยก (倚天屠龙记) เขาเริ่มจากการเป็นนักร้องยอดนิยม และได้เสี่ยงเป็นนักแสดง ด้วยความโชคดี บวกกับความตั้งใจของเขา ทำให้เป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง ไม่นานมานี้ เขาได้ท้าทายตัวเองโดยการผันตัวเป็นผู้กำกับ นำความเจ็บปวดและความสุขในช่วงวัยรุ่นของเขา ถ่ายทอดแก่พวกเราผ่านภาพยนตร์โจ่วเอ่อ เขาก็คือซูโหย่วเผิง วัยรุ่นของทุกคนนั้นไม่เหมือนกัน ช่วงวัยรุ่นเกือบทั้งหมดของซูโหย่วเผิงนั้น หมดไปกับการแสดง และงานในวงการ ช่วงอายุ 17 ปีของเขา แตกต่างจากพวกเรา เพราะฉะนั้น เรื่องราวในภาพยนตร์โจ่วเอ่อ  ก็มีส่วนหนึ่งเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดของเขาอีกด้วย แต่ว่า ในฐานะที่เขาเป็นผู้กำกับ เขาได้เลือกเรื่องราวจากหนังสือขายดีมาทำเป็นภาพยนตร์ เขาบอกว่าในเรื่องนี้ สามารถเห็นภาพตอนวัยรุ่น และความเจ็บปวดของตัวเขาเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่กี่วันก่อน ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ซูโหย่วเผิงเป็นการส่วนตัว เกี่ยวกับผู้กำกับ วัยรุ่น และการใช้ชีวิต คีย์เวิร์ดสามคำนี้ ซูโหย่วเผิงก็พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของเขา
คีย์เวิร์ด
ผู้กำกับ
ผู้สื่อข่าว: จากนักแสดงมาเป็นผู้กำกับ มีข้อแตกต่างค่อนข้างมาก คุณทำได้อย่างไร?
ซูโหย่วเผิง:ตอนที่บริษัทกวงเซี่ยน (光线) มาทาบทามให้ผมเป็นผู้กำกับ แรกๆเลย ผมปฏิเสธ แต่ว่าทางนั้นเขาให้สัญญากับผมว่าจะให้การสนับสนุนหลายอย่าง พอฟังเสร็จผมก็คิดว่าเป็นผู้กำกับคงไม่ยากมาก ก็เลยตอบรับไป แต่ว่า หลังจากที่ได้เป็นสัมผัสการเป็นผู้กำกับด้วยตัวเองแล้วนั้นพบว่าการเป็นผู้กำกับ ไม่ได้ง่ายอย่างที่ผมคิดเลยซักนิด ต้องควบคุมให้ดีในทุกๆด้าน ต้องคิดถึงจุดเล็กๆทุกจุด ลำบากมาก แต่ก็ให้ความรู้สึกแห่งความสำเร็จเช่นกัน เป็นกำกับเหมือนกับการทำผลงานศิลปะออกมาชิ้นหนึ่ง ทุกครั้งที่ตะโกนว่า “ฉากนี้ผ่านแล้ว” ก็แสดงว่าใกล้ถึงความสำเร็จไปทุกทีแล้ว สามารถพูดได้ว่าความรับผิดชอบกับความสำเร็จจะมาพร้อมๆกัน 
ผู้สื่อข่าว:คุณคิดว่าสำหรับคุณแล้ว การเป็นผู้กำกับมีความยากหรือความท้าทายมั๊ย? หลังจากถ่ายทำผลงานชิ้นแรกเสร็จ มีความรู้สึกอย่างไร?
ซูโหย่วเผิง:สำหรับผมแล้ว การเป็นผู้กำกับก็นับว่าเป็นความท้าทายนะ เพราะว่ายังไง นี่ก็เป็นการกำกับครั้งแรก ตอนนั้นที่ถ่ายทำอยู่ มีแรงกดดันเยอะมาก จิตใจฮึกเหิมทุกวัน ต้องคิดทุกๆด้านอย่างรอบคอบ เพราะว่าถ้าเกิดข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆขึ้นมา ที่พยายามแทบตายนั้น ก็ไม่มีความหมาย ผมต้องคิดบทให้กับบทบาททั้งเจ็ด ต้องอยู่กับเนื้อเรื่องโจ่วเอ่อทุกวัน ผมตั้งใจมากสำหรับการกำกับในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ หยุดกิจกรรมอื่นทุกอย่าง แต่ผมเพลิดเพลินกับการใจจดใจจ่อทำเรื่องๆหนึ่งมาก
ผู้สื่อข่าว:ผู้กำกับใหม่มักจะมีโครงการหลายๆโครงการให้เลือก ทำไมถึงเลือกโจ่วเอ่อมาเป็นผลงานชิ้นแรก? เป็นหัวข้อเกี่ยวกับวัยรุ่นเหมือนๆกัน ได้ปรึกษาเรียนรู้จากเพื่อนซี้อย่างจ้าวเวยมั๊ย?
ซูโหย่วเผิง:ตอนที่อ่านนิยายโจ่วเอ่อจบ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันลึกซึ้งมาก มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเติบโตของเด็กสาวคนหนึ่ง มีทั้งส่วนที่ลึกซึ้ง และส่วนที่เจ็บปวดเช่น ความตาย การแก้ตัว การให้อภัย เรื่องวัยรุ่นทั่วไปไม่ค่อยมีที่เกี่ยวข้องกับด้านมืดของวัยรุ่น ผมได้เห็นความจริงข้อนี้ และบรรยากาศของเรื่อง ก่อนหน้านี้ตอนที่อัดรายการหนึ่งที่เซี่ยงไฮ้ ได้แนะนำนิยายเรื่องนี้ให้จ้าวเวย หลังจากที่เธออ่านจบ เธอคิดว่ามันยากที่จะเอามาทำเป็นภาพยนตร์  แต่เธอก็แนะนำทีมงานให้ผมอย่างใจกว้าง และก็เป็นนักร้องให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าว:คุณคิดว่าสิ่งที่แตกกันมากที่สุดระหว่างเป็นผู้กำกับกับเป็นนักแสดงคืออะไร คุณชอบเป็นอะไรมากกว่ากัน?
ซูโหย่วเผิง:จากนักแสดงสู่ผู้กำกับ สิ่งที่แตกต่างกันน่าจะเป็น ผมสามารถแสดงความคิดของตัวเองผ่านภาพยนตร์ ภาพยนตร์เป็นการสื่อสารกับผู้ชมประเภทหนึ่ง สามารถนำความคิด หรือว่าวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ถ่ายทอดให้แก่ผู้ชม แน่นอนว่า ความรับผิดชอบต้องมาพร้อมกับความท้าทายและความกดดัน ตอนที่เป็นนักแสดง เพียงแค่ทำส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ ตอนนี้เป็นผู้กำกับ ต้องคิดถึงทุกด้านอย่างละเอียด ยิ่งเป็นผลงานชิ้นแรก ผมยิ่งเข้มงวดกับการทำงาน  ปกติแล้วในกองถ่ายผมจะรู้สึกว่ากำลังแก้ไขอยู่ตลอด  อาชีพสองอาชีพนี้ ล้วนแต่มีเสน่ห์ในตัวของมันเอง ผมรู้สึกดีที่พวกมันทำให้ผมโตขึ้น
ผู้สื่อข่าว:หลังจากที่โจ่วเอ่อเข้าโรง ถึงแม้ว่ามียอดขายที่ดีมาก แต่ก็มีคำตำหนิเช่นกัน สำหรับคุณแล้ว มันทำให้เกิดความกดดันมั๊ย คุณคิดว่าการเป็นผู้กำกับต้องคอยเอาใจคนดู หรือว่ารอให้มีกระแสก็พอ?
ซูโหย่วเผิง:ผมพยายามทำให้หน้าของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ได้คิดไปขนาดนั้น เป็นผู้กำกับไม่มีข้อจำกัดที่แน่นอนว่าต้องคอยเอาใจคนดูหรือว่าอยู่เฉยๆ ให้มีกระแสมา สำหรับผมแล้วการถ่ายทำภาพยนตร์ก็คือการนำแนวคิดต่อเรื่องๆหนึ่งของตัวเอง มาถ่ายทอดสู่ผู้ชม ไม่เคยคิดว่าเพื่อเอาใจคนดู ตลาดภาพยนตร์หรือเพื่อสร้างผลงานภาพยนตร์ ในมุมมองของผมแล้ว การถ่ายทำภาพยนตร์ก็คือการสร้างผลงาน และสร้างผลงาน
คีย์เวิร์ด
วัยรุ่น
ผู้สื่อข่าว: โจ่วเอ่อเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับวัยรุ่น คุณตีความคำว่าวัยรุ่นอย่างไร
ซูโหย่วเผิง:ขณะที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ผมสามารถมองเห็นเงาของตัวเองตอนหนุ่มๆในตัวของโอวหาว เป็นความรู้สึกที่ประหลาด เหมือนกับว่าคนๆหนึ่งมานั่งมองอดีตของตัวเองผ่านตัวละครที่แสดงอยู่ ตอนที่เป็นวัยรุ่น มักจะคิดว่าอยากโตเร็วๆ คิดไปว่าจะมีอิสรเสรี เหมือนดักแด้ที่จะกลายเป็นผีเสื้อ ช่วงวัยรุ่นของทุกคน จะต้องมีทั้งความเจ็บปวดและความงดงามคลุกเคล้าไปด้วยกัน แต่ความเจ็บปวดนั้นจะเจ็บกว่าและหยั่งลึกอยู่ในใจมากกว่าความสุข
ผู้สื่อข่าว: หลังจากที่โตขึ้น ความเจ็บปวดแบบนี้มีคุณค่ามั๊ย
ซูโหย่วเผิง:ต้องมีอย่างมากแน่นอน เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตวัยรุ่นก็คือการเติบโต มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ คนเราต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดช่วงวัยรุ่น  ไม่ว่าจะเป็นความลังเล ความสับสน หรือความเจ็บปวด สิ่งพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น เมื่อช่วงวัยรุ่นผ่านไปแล้ว คุณมองย้อนไป คุณจะพบว่าที่แท้กาลเวลาคือพลังที่เราจับต้องไม่ได้ ความเจ็บปวดที่เคยมี ก็จะถูกเก็บไว้ในความทรงจำ ถึงตอนนี้ คุณจะมีอารมณ์ที่ไม่เหมือนเดิม ทั้งรัก เกลียด ก็จะถูกเก็บไว้ในความทรงจำ  เมื่อเติบโตเต็มที่ก็จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้เอง หันกลับไปมองสิ่งที่ตัวเองเคยผ่านมา คุณจะรู้สึกว่าตัวเองที่ยุ่งๆตอนนั้น ตัวเองที่เป็นวัยรุ่นไม่ประสีประสาคนนั้น ตัวเองที่กล้ารักกล้าเกลียดคนนั้น ช่างน่ารักเหลือเกิน ช่างเอาจริงเอาจังเหลือเกิน และจะไม่เสียดายเวลาช่วงนั้น
นักข่าว: คุณเคยเป็นไอดอลของ แฟนคลับและผู้ชมมาก่อน ตอนนี้กลายเป็น “คุณลุง” ไปแล้ว เพราะฉะนั้น ในการถ่ายภาพยนตร์โจ่วเอ่อครั้งนี้ คุณทำงานร่วมกับ หยางหยาง โอวหาว และคนอื่นๆ รู้สึกใจแป้วมั๊ย?
ซูโหย่วเผิง: ไม่นะ เป็นหนุ่มแล้ว เวลาผ่านไปก็ต้องเป็นคนแก่ นี่เป็นเรื่องธรรมดา  นักแสดงหนุ่มสาวเหล่านี้ ทำให้ภาพยนตร์มีกลิ่นอายวัยรุ่นมากขึ้น
คีย์เวิร์ด
ชีวิต
นักข่าว: ในภาพยนตร์โจ่วเอ่อ มีประโยคหนึ่งที่ตราตรึงใจผู้คน “ตะโกนออกมาบนถนนในปักกิ่ง ก็ไม่มีใครมองคุณ” ประโยคนี้ไม่ได้เพิ่มความโรแมนติกของคุณลงไปด้วยใช่มั๊ย
ซูโหย่วเผิง: มีครับ  ผมก็เคยไปปักกิ่งนะ ตอนปี 2542 มาถ่ายองค์หญิงกำมะลอที่ปักกิ่ง นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมไกลจากบ้าน ตอนนั้นเสี่ยวหู่ตุ้ยแยกวงแล้ว ผมก็มาเป็นนักร้องเดี่ยว ที่จริงก็เข้าวงการมาสิบปีแล้ว ผู้ชมก็ไม่มีความรู้สึกที่สดใหม่ พูดไม่เพราะก็เป็นนักร้องไร้มารยาท ไม่รู้จริงๆว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ประกอบกับตอนนั้นที่บ้านมีปัญหาด้านการเงิน บริษัทก็ช่วยเพิ่มละครให้ผม  หวังว่าจะช่วยได้อีกแรง องค์หญิงกำมะลอนับว่าเป็นละครโทรทัศน์เรื่องยาวเรื่องหนึ่ง ผมกับจื้อหมิง(志朋) ถูกส่งเข้าไปถ่ายในแผ่นดินใหญ่อย่างไม่รู้ตัว ตอนนั้น ทำให้ต้องคิดหนัก มีจุดหมายของชีวิตและความฝัน  แต่ว่าก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก ภายหลังถึงพบว่าที่แท้แล้วบทในภาพยนตร์โจ่วเอ่อที่ผมพูดนั้น ก็คือความรู้สึกในตอนนั้นของผม สำหรับจิตใจของคนๆหนึ่งท่ามกลางโลกอันกว้างใหญ่
นักข่าว: คุณอยู่ในวงการบันเทิง ก็ล้มลุกคลุกคลานมาแล้วหลายปี เส้นทางที่ผ่านมา ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคืออะไร?
ซูโหย่วเผิง: ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นการวางตนให้ถูกต้อง เพราะว่ามีชื่อเสียงตั้งแต่อายุน้อย ตอนที่ผมมีอายุน้อยมากก็ได้รับคำชมและเสียงปรบมือมากมาย เป็นศิลปินต้องรักษาจิตใจที่แน่วแน่ตั้งใจไว้ให้ได้ เป็นตัวของตัวเองก็พอแล้ว
นักข่าว: คุณเคยบอกว่าในบางครั้ง คุณต้องเตือนตัวเองไม่ให้พาตัวเองเข้าไปสู่วังวนใดๆ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
ซูโหย่วเผิง: ที่จริงแล้วไม่มีวังวนอะไรหรอกครับ นี่อาจจะเป็นภาพหลอนประเภทหนึ่ง โดยเฉพาะอยู่ในวงการบันเทิง คุณไม่สามารถที่จะถูกบทบาทตัวละครกำหนดคาแรกเตอร์ของคุณได้ เพราะฉะนั้นผมถึงต้องบังคับตัวเองให้คอยแก้ไขตัวเองตลอดเวลา ไม่ให้ไปหลงใหลกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากนัก คิดเล็กคิดน้อย หรือแก่งแย่งชิงดีกัน แทนที่จะตั้งใจทำงาน แบบนั้นไม่สู้อยู่ไปวันๆ ปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามโชคชะตาไม่ดีกว่าหรือ
ข้อมูลส่วนตัว
ผลงาน: ผลงานชิ้นแรก
กรุ๊ปเลือด: B
ส่วนสูง: 173cm
น้ำหนัก: 65kg
วันเกิด: 11 กันยายน 2516
อาชีพ: นักแสดง นักร้อง โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ
จบการศึกษา คณะวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยไต้หวัน (台湾大学)
ผลงาน โจ่วเอ่อ: (左耳) เฟยหยวนอู้หร่าว (非缘勿扰) ยอดขุนศึกวีรบุรษตระกูลหยาง (杨门虎将) ดาบมังกรหยก (倚天屠龙记) เถียนมี่ซาจี (甜蜜杀机) เฟิงเซิน (风声) องค์หญิงกำมะลอ (还珠格格) องค์หญิงแสนซน (刁蛮公主) คังติ้งฉิงเกอ (康定情歌)
รางวัล :รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในงานช่อดอกไม้ครั้งที่ สามสิบ รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในงานภาพยนตร์นานาชาติมาเก๊าครั้งที่ สอง


prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด