ซูโหย่วเผิง: วัยรุ่นของผมเต็มอิ่มเช่นนี้
ถามด่วนดารา
บทความ หม่าต๋า ภาพ CFP
หลังจากอายุ 40 ปี ซูโหย่วเผิงที่เคยเป็นนักร้องยอดนิยมเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ได้นำผลงานภาพยนตร์ชิ้นแรก “โจ่วเอ่อ” มาปรากฏสู่สายตาผู้ชมในฐานะผู้กำกับ ย้อนกลับไปตอนที่อายุยังน้อย เมื่อแจกแจงดูแล้ว เชื่อว่า: วัยรุ่นคือแม่น้ำสายหนึ่ง ที่ไหลตลอด แต่สามารถเห็นทิวทิศน์และสิ่งต่างๆที่ได้พัดผ่านไปนั้นได้อย่างชัดเจน
จากนักแสดงสู่ผู้กำกับ แสดงถึงความสุกงอมและตกผลึกที่แน่นอนของคุณแล้วใช่มั๊ย?
บทบาทนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าแสดงถึงอะไร มันเพียงแค่แสดงถึงศักยภาพด้านหนึ่งของผมเท่านั้น ไว้รอดูจากผลงานแล้วกันนะ! ตอนแรกที่บริษัทกวงเซี่ยนติดต่อให้ผมเป็นผู้กำกับ ผมได้ปฏิเสธไป ทุกคนมักจะคิดว่าเป็นผู้กำกับนั้นง่ายมาก แต่ผมกลับไปได้รู้สึกเช่นนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าต้องไปจัดการดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งยังมีความกดดันมากมายอยู่บนตัวคุณ แต่ว่าผมเป็นคนที่เวลาทำเรื่องอะไรแล้วค่อนข้างจะตั้งใจ โดยปกติแล้วในเวลาหนึ่งมักจะทำเรื่องๆเดียว ทำอย่างสุดความสามารถก็พอแล้ว เรื่องที่ดูแลอยู่ก็ทำไปด้วยดูไปด้วยก็โอเคแล้ว
เคยเป็นหนุ่มวัยขบเผาะมาก่อน คุณมีความรู้สึกเศร้าที่ “กาลเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว” บ้างมั๊ย?
คุณคิดว่าผมแก่มากเลยหรอ? ที่จริงแล้ว แต่ทุกๆช่วงของคนนั้นล้วนแต่มีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าภายนอกจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย แต่ว่าช่วงที่อายุยังน้อย จะต้องมีเรื่องที่ควรค่าแก่การจดจำมากมาย แต่ผมก็รักและหวงแหนสิ่งที่มีอยู่ปัจจุบันนี้เหมือนกัน
คุณบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์วัยรุ่นที่ให้อารมณ์เจ็บปวด ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวตอนวัยรุ่นของตัวเองด้วยใช่มั๊ย?
โจ่วเอ่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้เป็นตัวแทนของยุคสมัยไหนทั้งนั้น ผมแค่นำบทบรรยายอารมณ์มาเรียบเรียงอีกที ถึงแม้ว่าจะมีส่วนหนึ่งอยู่ที่ในรั้วโรงเรียน นักแสดงล้วนเป็นวัยรุ่น แต่ว่านอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เหมือนกับภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่องอื่นโดยสิ้นเชิง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ต้องมีการกระตุ้นความคิดในการรับชม
ตอนที่เสี่ยวหู่ตุ้ยเปิดตัวนั้น คุณเพิ่งอายุ 15 ปี สามารถพูดได้ว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของช่วงวัยรุ่นได้เลย คุณจะอธิบายช่วงวัยรุ่นของคุณว่าอย่างไร?
ตอนนั้นผมน่าสงสารนะ ค่อนข้างเหงา เพราะว่าที่โรงเรียน พอเลิกเรียนหรือสุดสัปดาห์ เพื่อนๆก็อาจจะไปเที่ยวเล่นด้วยกัน ไปทำกิจกรรมด้วยกัน แต่ผมไม่มีเวลา ผมต้องรีบไปซ้อมเต้น เมื่อพวกเราซ้อมเสร็จ เพื่อนๆที่บริษัทก็จะไปเที่ยวกันต่อ หรือพูดคุยกัน ผมก็ต้องกลับบ้านไปอ่านหนังสือ
จ้าวเวย สวยขึ้นทุกวัน แผ่รัศมีเจิดจ้า คุณคิดว่าอย่างไร?
ใช่ครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะยุ่งมาก แต่เธอก็จะทำเรื่องๆหนึ่งด้วยจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมในทุกๆวัน แผ่กระจายรัศมีพลังงานออกมาทั้งตัว นอกจากนี้แล้ว ผมคิดว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีมากและยุติธรรมที่สุดคนหนึ่ง
ถ้าสามารถเชิญคนๆหนึ่งไปไว้ในช่วงวัยรุ่นของคุณ จะเป็นจ้าวเวยหรืออู๋ฉีหลง吴奇隆?
ไม่แบ่งหนึ่งสองละกัน เพื่อนหลายคนล้วนแต่มีบทบาทที่สำคัญในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในช่วงวัยรุ่น อู๋ฉีหลง เฉินจื้อเผิง 陈志朋 อาจจะเป็นคนแรกๆที่ก้าวเข้ามาในช่วงวัยรุ่นของผม ตอนให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ผมยังเล่าเรื่องตลกอยู่เลย ตอนที่ผมอายุ 17ปี ผมรักแค่พวกเขาสองคน ส่วนจ้าวเวย นับว่าเป็นช่วงท้ายๆของช่วงวัยรุ่น แต่เรื่องราวช่วงวัยรุ่นของพวกเรามันต่อเนื่องกัน ขาดไปส่วนหนึ่ง ช่วงวัยรุ่นของพวกเราก็ไม่นับว่าสมบูรณ์
นาฬิกา รองเท้าหนัง เสื้อเชิ้ตสีขาว ถ้าเลือกได้หนึ่งอย่าง คุณจะเลือกอะไร?
นาฬิกาละกัน ออกบ้านไม่สวมนาฬิกา ก็จะรู้สึกว่าอะไรไปบางอย่าง
ชอบชอปปิ้งมั๊ย โดยเฉพาะสินค้าปลอดภาษียิ่งชอบเลยรึเปล่า?
แน่นอนครับ ผมชอบเดินเลือกซื้อสินค้าในร้านปลอดภาษีในสนามบิน เช่นซื้อสินค้าแบรมเนมอะไรประเภทนั้น