ผู้เขียน หัวข้อ: [2015.06.24] ซูโหย่วเผิงร้องเพลง "หุยอี้โหยวไช"  (อ่าน 5189 ครั้ง)

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด


[2015-06-23] http://sztqb.sznews.com/html/2015-06/23/content_3260411.htm#0-tsina-1-81538-397232819ff9a47a7b7e80a40613cfe1

ซูโหย่วเผิงร้องเพลง "หุยอี้โหยวไช" (回忆邮差 ความทรงจำของบุรุษไปรษณีย์) เพลงนี้ บุรุษไปรษณีย์ยุ่งมาก ให้บุรุษไปรษณีย์พักซักหน่อยได้มั๊ย?

หนังสือพิมพ์เสิ่นเจิ้น -------------------------------------

นักกีฬา NBA หลายคนล้วนมีฉายาของตัวเอง ผมชอบฉายาของ Karl Anthony Malone มากที่สุด—— "บุรุษไปรษณีย์" เขามั่นคงมาก แทบจะไม่เคยพลาดในการแข่งขัน เขามักจะนำลูกบาสส่งไปให้ผู้เล่นในทีมอย่างมั่นคง ดังนั้นก็เลยได้ฉายานี้มา ที่จริงแล้ว สิ่งแรกในอาชีพบุรุษไปรษณีย์ที่คนมักจะคิดถึงก็คือความรู้สึกที่มั่นคงและปลอดภัย

ไม่นานมานี้ ได้ฟังเพลงเก่า เพลงฉ่าวหยวนจือเย่ (草原之夜 ค่ำคืนที่ทุ่งหญ้า) ท่อน:อยากเขียนจดหมายถึงเธอที่อยู่แสนไกล ช่างน่าเสียดายที่ไม่มีบุรุษไปรษณีย์มาส่งความรู้สึกไปให้ได้

นี่ก็เหมือนกับเพลงฉงเฉียนม่าน (从前慢 เมื่อก่อนช้า) ของมู่ซิน (木心) ที่เขียนไว้ว่า:สีขาวเมื่อก่อนเปลี่ยนไปช้า ๆ รถม้า จดหมายก็ช้า ในชีวิตนี้สามารถรักใครคนหนึ่งได้ ที่กระแทกใจผมไม่ใช่เพียงแค่ความคิดถึงที่ฝ่ายชายมีต่อฝ่ายหญิงเท่านั้น แต่ในเพลงรักแบบนี้ ก็จะมีบุรุษไปรษณีย์ปรากฏตัว:ตอนที่เขาเดินทางไปส่งจดหมายคนเดียวนั้น สิ่งที่เขาทำไม่ใช่แค่ทำงานของตัวเองเท่านั้น เขายังได้เชื่อมต่อความรู้สึกของคนมากมายไปถึงกัน แค่เวลาสั้น ๆ ทำให้อาชีพที่ดูธรรมดากลายเป็นโรแมนติกขึ้นมาทันที หลังจากฟังเพลงนี้จบแล้ว ดูภาพยนตร์เรื่อง Postmen in the Mountains ต่อ บางทีอาจสามารถเข้าใจจิตใจของบุรุษไปรษณีย์ของหมู่บ้านนั้นในภาพยนตร์ก็ได้ รวมไปถึงการดูแลซึ่งกันและกันระหว่างเขาและผู้คนในที่นั้น

ซูโหย่วเผิงร้องเพลง "หุยอี้โหยวไช" (回忆邮差 ความทรงจำของบุรุษไปรษณีย์) เพลงนี้ บุรุษไปรษณีย์ยุ่งมาก เดี๋ยวก็ “ให้รุ่งอรุณเป็นบุรุษไปรษณีย์ ที่ปิดผนึกความทรงจำ เดี๋ยวก็ “ให้เวลากลางคืนเป็นบุรุษไปรษณีย์ ส่งความทรงจำกลับเข้ามา” เดี๋ยวก็ปิด เดี๋ยวก็ส่ง ให้บุรุษไปรษณีย์พักซักหน่อยได้มั๊ย? แน่นอน ถึงแม้ว่าบุรุษไปรษณีย์จะยุ่งมาก แต่ในบทเพลงนั้น ด้วยความสับสนและว้าวุ่นในใจของชายคนนั้นจึงเขียนเนื้อเพลงออกมาได้อย่างสดใสอย่างยิ่ง

 หวางเฟย (王菲) ก็มีเพลงชื่อโหยวไช (邮差 บุรุษไปรษณีย์) เนื้อเพลงเขียนโดยหลินซี (林夕) เพลงนี้เกี่ยวกับความรักที่สิ้นหวัง ภาพของบุรุษไปรษณีย์ก็ปรากฏตัวอีกครั้ง:คุณคือจดหมาย ฉันคือบุรุษไปรษณีย์ ท้ายที่สุดแล้ว เท้าคู่หนึ่ง เมื่อเดินอีกครั้งก็รู้ว่าเราไปกันไม่ได้ ไม่เหลือความทรงจำอันดีงามที่เคยผ่านไปด้วยกันอีกเลย ก็เหมือนกับเศษฝุ่นที่ไม่มีค่าอะไร รีบไปคุ้มกัน แต่ก็ไปเปิดโลกที่สวยงามไม่ทันอยู่ดี นี่เป็นการเปรียบเทียบที่สมบูรณ์แบบ นำความรู้สึกแบบรักกันแต่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้มาเขียนได้อย่างสวยงาม ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ภาพลักษณ์ของบุรุษไปรษณีย์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก ฟังเพลงนี้แล้ว พวกเราก็เหมือนกับเปลี่ยนมุมมองที่เคยมองบุรุษไปรษณีย์ไปเลย:บุรุษไปรษณีย์เปลี่ยนไปคล้ายกับผึ้งตัวหนึ่ง ที่ลำบากและหวานเพื่อใครบางคน มาถึงเพลง Please Mr. Postman ของ The Carpenters บุรุษไปรษณีย์กลายเป็นสิ่งที่เด็กสาวตำหนิ เพราะว่าบุรุษไปรษณีย์ผ่านเธอไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เอาจดหมายจากผู้ชายของเธอจากที่แสนไกลมาส่งให้เธอ แต่เหตุผลที่แท้จริงนั้นเดาได้ไม่ยาก ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เขียนจดหมายถึงเธอ ในเพลงฮิตของ The Carpenters ความรู้สึกโง่งมของหญิงสาวทำให้ผู้คนมีรอยยิ้ม เพลงจีนสมัยใหม่ก็มีเพลงหนึ่งที่เหมือนกับเพลงนี้มาก ๆ นั่นก็คือเพลงเติ่งโหยวไช (等邮差 รอบุรุษไปรษณีย์) ของหลงเพียวเพียว (龙飘飘) ทั้งสองเพลงมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก น่าสงสารบุรุษไปรษณีย์ที่วิ่งวุ่นอยู่ ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นเครื่องมือของผู้ชายที่หมดใจแล้ว

สำหรับความหมายแฝงของ “บุรุษไปรษณีย์” ที่ว่าเป็นการขุดค้นและการหล่อหลอม วรรณกรรมพัฒนาไปเร็วกว่าเนื้อเพลงสมัยใหม่เสียอีก ภาพยนตร์ที่ James Mallahan Cain เคยเขียนเรื่อง The Postman Always Rings Twice ถูกคนทั่วไปเชื่อว่าเป็นที่สุดของนิยายแข็งกร้าว ในขณะเดียวกัน ก็เป็นนิยายภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดในยุคสองพัน ในนิยายไม่มีการปรากฏตัวของบุรุษไปรษณีย์ ชื่อนี้ในความเป็นจริงแล้วมาจากประโยคหนึ่งของแฟรงค์พระเอก:เรื่องพวกนี้เหมือนกันหมด คุณกำลังรอคอยจดหมายฉบับหนึ่งอย่างร้อนรน รออยู่ที่หน้าประตูเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ยินเสียงกริ่ง แต่กลับคาดไม่ถึง บุรุษไปรษณีย์กดกริ่งแค่สองครั้ง ตอนนี้หนังสือที่ค่อนข้างจะเป็นที่รู้จักก็คือ บุรุษไปรษณีย์เป็นตัวแทนของโชคชะตาประเภทหนึ่ง กดกริ่งครั้งที่หนึ่ง บางทีคุณอาจไม่ได้ยินก็เลยพลาดไป แต่กดครั้งที่สอง คุณจะพลาดอีกไม่ได้แล้ว ดังนั้น เปรียบกับจดหมายที่ส่งถึงมือของคุณ ก็เหมือนกับโชคชะตา ที่ไม่สามารถทำนายได้ และก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน

คล้อยไปตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ปัจจุบันนี้สามารถพบบุรุษไปรษณีย์ได้ทุกที่ แต่หลายสิ่งก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว:เมื่อก่อนรอบุรุษไปรษณีย์ล้วนแต่รอจดหมาย ตอนนี้ล้วนแต่รอพัสดุ;คนอื่นส่งจดหมายมาให้ มักจะไม่รู้เนื้อหาเลย แต่พัสดุส่วนใหญ่แล้วก็เป็นสิ่งที่ตัวเองซื้อ ก็ทำให้ความน่าตื่นเต้นลดลงไปเยอะ บุรุษไปรษณีย์ยุ่งขึ้นทุกวัน บริการก็ดีขึ้นทุกวัน แต่ความโรแมนติก (แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่พวกเราคิดกันขึ้นมาและเพิ่มไปเอง) ในบทกวีบนตัวของบุรุษไปรษณีย์นั้น ก็น้อยลงทุกวัน นี่ก็เหมือนกับชีวิตของพวกเรา ที่สะดวกสบายขึ้นทุกวัน ง่ายดายขึ้นทุกวัน แต่ก็ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นและรอคอยอีกต่อไป แน่นอน ทั้งหมดนี้ไม่สามารถโทษบุรุษไปรษณีย์ และก็ไม่สามารถโทษตัวเราเอง ในความเป็นจริงแล้ว คุณเองยังไม่รู้เลยว่าต้องไปโทษใคร