เมื่อดูเวลาแล้วก็ลงตัวพอดี
เรื่องนี้ก็เลยกำหนดไว้เลย
พวกเราแทบจะถ่ายครั้งเดียวได้รวมตัวกัน
ตอนนั้นก็เพราะได้ดู เพลงประกอบหนัง
ฉะนั้นก็เลยมีละครพูด หอมกลิ่นเบญจมาศ (ให้ดูคอลัมน์ก่อนหน้านี้ ละครหอมกลิ่นเบญจมาศ)
ตอนนี้เหตุที่การตอบรับของหอมดอกเบญจมาศนั้นดีมาก
เพลงประกอบหนัง ก็เลยหาผมเป็นผู้เข้าแจมอีกคน
สุดท้าย
ผมก็ยังต้องขึ้นเวทีกับละคร
มีการถูกชะตาอะไรบางอย่างที่สุดที่จะบรรยายให้ทราบด้วยคำพูดได้
จะพูดแต่ต้นเลย
ปีที่แล้วเป็นปีแห่งการครบรอบร้อยปีของวงการหนังของประเทศจีนเรา
สถานี cctv ได้ผลิตงานที่แบ่งยุคใหม่
สื่อต่างๆและดนตรีทั้งหมดนั้นล้วนเป็นการสร้างของชาวจีนล้วนๆ
ทั้งฉากหน้าฉากหลังและอาณาเขตต่างๆนั้นล้วนเยี่ยมยอด
ผู้กำกับ จางหวั่นถิง บรรณาธิการโดย หลอฉี่ยุ่ย เลขาธิการฝ่ายเทคนิค แย่จิงเทียน ผู้จัดการเทคนิคเสียง หลี่จงเฉิง....
ดารา หยี่เฉิงฉิง เหยียนเฉียน จางซิ่นเจ๋อ จางจิ้งเฉียน หลู่อี้ เป็นต้น
เหล่าดาราศิลปินก็ได้สลับกันขึ้นเวที
กับเวทีอย่างนี้
ไม่ใช่ว่าจะได้เห็นกันง่าย
ปลายปีที่แล้วผมได้ดูที่ปักกิ่ง
เป็นโรงละครเป่าลี่ที่แสดงในเรื่องสุดท้าย “เพลงประกอบหนัง”
เหล่าดารานั้นได้มาอย่างพร้อมเพียงกัน
ท้ายสุดยังเชิญคุณไฉ่หลินร้องเพลงในหัวของครั้งนั้นให้กับเหล่าแฟนและดารารับเชิญ
เป็นผู้ได้ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน
ทำให้ผู้คนประทับใจกันอย่างมาก
ความรู้สึกสุดซึ้งที่ผมไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้คือ
ได้รู้จักคุณไฉ่หลินนั้นเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง
ฮ่าๆ
จากนั้นก็ได้ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ที่นั่น
ได้ชื่นชมยินดี ประทับใจ และหาเหล่าดารามาถ่ายรูปคู่กัน
คนแก่ในเรื่องนั้น
ชื่อว่าจิ่งเซิง
ที่จริงแล้ว
ในหนัง
ก็เป็นเรื่องของกวางเหอจิ่ง
ผ่านทางกวางเหอจิ่ง
ได้สะท้อนถึงลักษณะร้อยแปดพันเก้าของมนุษย์
ชื่อว่าจิ่งเซิง
ความจริงแล้วมีความหมายในตัว
แต่ครั้งนี้ที่ผมได้ทำนั้น
เป็นจิ่งเซิงที่หนุ่มๆ
นี่เป็นการทำที่ใช้เวลาสั้นและจำกัดที่สุด
เป็นบทที่ยอดเยี่ยมที่สุด
รอบแรกที่แสดงนั้นเป็นบทของการเป็นพ่อบ้าน
เขาเป็นสุภาพบุรุษที่นิสัยน่ารัก
อยู่เวทีแสดงได้เป็นธรรมชาติมาก
ทั้งแสดงทั้งร้องก็เจ๋งจริงๆ
ทั้งยังได้ร้องเพลงที่ตัวเองเขียนเพลงในละคร “เฟิงแสเส้าเหนียนลู่”
แสดงได้ครบเครื่องจริงๆ
(แน่นอนผมก็จะร้องเพลงนี้ในเซี่ยงไฮ้ด้วย)
พูดถึงจิ่งเซิงนั้น
ที่จริงแล้วเขาเป็นเด็กทีดื้อ
เกิดในตระกูลโอเปร่าของปักกิ่ง
ในช่วงวัยรุ่นของเขานั้น
หนังใหญ่นั้นได้เข้ามาจากตะวันตก
และก่อนการแสดงจะเริ่มแล้วไม่กี่นาที
เขาได้ทิ้งบทบาทละครที่เป็นพระเอกเรื่อง “ฉีเทียนต้าเซิ้ง”
ไม่สนใจการรอคอยของผู้ชมที่อยู่ข้างหน้าเวที
ท่าที่ที่พ่อมีต่อเขาคือเป็นเสาหลักตระกูลที่ไร้น้ำยา(พึ่งไม่ได้)
รวมทั้งจิตใจที่เป็นห่วงและเร่าร้อนของน้องสาว(ลูกพี่ลูกน้อง)
เขาได้จากบ้านไปโดยไม่สนใจใยดี
กับตัวเปล่ามุ่งไปที่เซี่ยงไฮ้เพื่อไปไขว่คว้าความฝันของตัวเองคือการแสดงหนังใหญ่
เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งแล้วไปอยู่เซี่ยงไฮ้
เหลี่ยงหลีไม่ได้ที่จะต้องเจอความยากลำบาก
ทั้งยังเจอความรักของตัวเอง
ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย
จากหนุ่มถึงชรา