ผู้เขียน หัวข้อ: [2016.03.26] สัมภาษณ์พิเศษ ผู้กำกับ ซูโหย่วเผิง กับหนังใหม่เรื่อง The Devotion o  (อ่าน 4286 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
专访《嫌疑人X的献身》导演苏有朋
"东野圭吾不会让我乱改故事的"
2016-03-26
http://news.mtime.com/2016/03/26/1553827-all.html

สัมภาษณ์พิเศษ ผู้กำกับ ซูโหย่วเผิง กับหนังใหม่เรื่อง การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X, The Devotion of Suspect X “ฮิงาชิโนะ เคโงะ ไม่ยอมให้ผมปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องมั่วๆหรอกครับ”

วันที่ 26 มีนาคม 2559 ระหว่างที่หน้าที่การงานของ ซูโหย่วเผิง ที่ได้ก้าวหน้าขึ้น ภาพภายนตร์เรื่องโจ่วเอ่อ ก็ทำให้เขาต้องพบกับข้อโต้แย้งมากมาย และเมื่อ ซูโหย่วได้ประกาศเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่องดังของฮิงาชิโนะ เคโงะ เรื่อง การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X ทำให้เขากลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งอย่างไม่มีข้อสงสัย

Mtime พูดถึง ซูโหย่วเผิง ว่า “คุณสามารถเชื่อมโยง ซูโหย่วเผิง กับ ตำแหน่งผู้กำกับ เข้าด้วยกันไหม ”

สำหรับ ซูโหย่วเผิง ในตอนนี้ เขาหวังว่าจะได้รับการยอมรับอย่างชัดเจน

การที่นักแสดงผันตัวเป็นผู้กำกับไม่ได้เป็นเรื่องแปลใหม่ในประเทศจีนแล้ว เพียงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้  ฉวี่เจิง จ้าวเว่ย เติ้นเฉา เฉินซือเฉิน เฉินเจี้ยนปิงและนักแสดงอีกหลายท่านต่างมีผลงานกำกับของตนออกมา หลายท่านที่ทำรายได้ได้อย่างมหาศาล และได้รับคำชื่นชมมากมาย

ซูโหย่วเผิง ก็เป็นหนึ่งในเหล่านักแสดงที่ผันตัวเป็นผู้กำกับ ผลงานชิ้นแรกของเขา “โจ่วเอ่อ” ทำยอดได้ถึง 485 ล้านหยวน และมีโอกาสเข้ารอบชิงรางวัลผู้กำกับใหม่ยอดเยี่ยม และรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลม้าทองคำอีกด้วย สำหรับผู้กำกับมือใหม่แล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว

การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X จะมีการเปิดกล้อง และเข้าฉายภายในปีนี้ ซูโหย่วเผิง เองได้เริ่มเตรียมงานตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา แต่ระหว่างนั้น เขาก็แอบแว๊บไปทำงานอื่นด้วย “หวังต้ามาบนถนนแห่งความสุข” หนังสั้นเรื่องนี้มีถูกถ่ายทำขึ้นตามคำเชิญของ “เหม่ยฮ่าวเห่อยี ปี 2559---หนังสั้นอาจารย์” ที่มีผู้กำกับอย่างคุณเจียจางเคอ คุณกวางจินเผิง และคุณฮิเดโอะ นากาตะ พร้อมทั้งซูโหย่วเผิง นำผลงานหนังสั้นของตนในชื่อ “อาจารย์”ทั้งสี่ท่าน

ณ ตอนนี้ ซูโหย่วเผิง ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Mtime พูดถึงเรื่องประเด็นร้อนเกี่ยวกับผลงาน โจ่วเอ่อ ก่อนหน้านี้ ผลงานหนังสั้นที่กำลังจะเข้าฉายของเขา “หวังต้ามาบนถนนแห่งความสุข” และผลงานใหม่ที่กำลังจะเปิดกล้องในเร็วๆนี้ “การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X ” เห็นได้ชัดว่า ซูโหย่วเผิง เองก็แฮปปี้กับงานผู้กำกับไม่น้อยเลยทีเดียว เขาเชื่อมั่นในผลงานของเขาและมีความคิดเป็นของตนเอง หลายต่อหลายครั้งที่เขาพูดถึงเรื่องอยากถ่ายทำผลงานที่มีคุณค่าทางด้านศิลปะและธุรกิจ สำหรับเรื่องผันตัวเป็นผู้กำกับเต็มตัวในครั้งนี้ เขาพูดอย่างมั่นใจว่า จะไม่หันหลังให้เส้นทางนี้เด็ดขาด

“การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X” จะเข้าฉายภายในปีนี้      ฮิงาชิโนะ เคโงะ มีเงื่อนไขค่อนข้างเข้มงวด

ไตรมาสแรกของปี 2559 กำลังจะจบลงแล้ว “การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X” ฉบับจีนมีแผนเปิดกล้องและเข้าฉายภายในปีนี้ สำหรับ ซูโหย่วเผิง ที่มีประสบการณ์การกำกับหนังมาเพียงเรื่องเดียวนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยทีเดียว ได้ยินเขาพูดบ่อยๆว่า “มีเวลาค่อนข้างน้อย ช่วงนี้ก็ยุ่งกันเอาเป็นเอาตายเลย”

ส่วนนักแสดงหลักของ “การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัยX” ได้กำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซูโหย่วเผิง ยังคงไม่ขอเปิดเผยตัวนักแสดง เขาให้สัญญาว่า แนวทางในการเลือกตัวนักแสดงให้เหมาะกับบทบาทตามต้นฉบับเป็นหลัก ไม่เหมือน “โจ่วเอ่อ” ที่เน้นไปเรื่องนักแสดงดังหน้าใหม่แน่นอน

ฮิงาชิโนะ เคโงะ เป็นหนึ่งในนักเขียนญี่ปุ่นที่นักอ่านชาวจีนชื่นชอบ ซูโหย่วเผิง ยอมรับว่า “การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X ” ไม่เพียงจะทำให้กลายเป็นประเด็นในกลุ่มนักอ่าน และการติดต่อกับคุณฮิงาชิโนะ เคโงะ ก็พบปัญหาหลายจุดเหมือนกัน เช่น ฮิงาชิโนะ เคโงะ ไม่อยากให้ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องมากเกินไป ทั้งยังอยากให้การถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ครั้งนี้แตกต่างจากการเวอร์ชั่นที่คนอื่นเคยทำมา “ผมควรทำอย่างไงดีนะ” ซูโหย่วเผิง หัวเราะ

Mtime:ทำไมถึงต้องเลือกถ่ายทำ “การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X”ที่แตกต่างจาก “โจ่วเอ่อ” มากถึงขนาดนี้ครับ

ซูโหย่วเผิง: การทำเรื่องเดิมซ้ำๆไม่ใช่แนวการทำงานของผม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม หากผมเริ่มคุ้นเคยแล้วจะรู้สึกเบื่อขึ้นมาเลย และผมก็ไม่อยากทำอีก ผมสนใจในงานที่ต้องใช้ความคิดมากกว่า ผมหวังเสมอว่าจะสามารถนำเสนอผลงานที่มีมูลค่าทั้งทางศิลปะและธุรกิจ

ผมรู้สึกว่าในนิยายของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ แท้จริงแล้วไม่ได้มีการจัดเนื้อเรื่องให้เป็นระบบที่ชัดเจน ตอนจบของเรื่องเหมือนเป็นการยื่นสรุปเนื้อเรื่องทั้งก้อนให้ผู้อ่าน ถ้าหากคุณไม่ไปคิดต่ออีกที คุณอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สนุก แต่ถ้าหากว่าลองคิดวิเคราะห์ต่อแล้ว มันมีเรื่องมากมายในนั้นที่น่าสนใจมากเหมือนกัน

Mtime: “การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X” ได้รับคะแนนโหวตไม่น้อยจากนักอ่าน การที่มาถ่ายหนังเรื่องนี้มีความกดดันไหมครับ

ซูโหย่วเผิง :กดดันเหมือนกันครับ แต่ต้องทำออกมาให้ดีที่สุด จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ

Mtime:  การถ่ายทำครั้งนี้จะอิงตามต้นฉบับเป็นหลักรึเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง :เรามีข้อกำหนดเกี่ยวกับการดัดแปลงที่ชัดเจนในสัญญาครับ ซึ่งต้องให้ คุณฮิงาชิโนะ เคโงะ เซ็นต์ยินยอมก่อนถึงจะปรับเปลี่ยนได้ เขาไม่ยอมให้เราปรับตัวเรื่องไปเรื่อยอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องคงแก่นหลักของตัวนิยายไว้เหมือนเดิมครับ ในสัญญามีข้อกำหนดข้อนึ่งพูดถึงว่า การปรับเปลี่ยนของเราในครั้งนี้ต้องมีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆก่อนหน้านี้ วันนี้เราประชุมกับทนายความของคุณฮิงาชิโนะ เคโงะ ผมก็เกือบโมโหเหมือนกัน ผมบอกเขาว่าต้องให้ช่องว่างเราบ้าง พวกคุณเคยอ่านมาหลากหลายเวอร์ชั่น แล้วบอกผมว่าห้ามซ้ำกับเวอร์ชั่นเก่า ผมต้องทำอย่างไรครับ(หัวเราะ)

Mtime:การเจรจากับคุณฮิงาชิโนะ เคโงะ ราบรื่นดีไหมครับ

ซูโหย่วเผิง: การคุยการแต่ละครั้งก็ใช้เวลาเหมือนกันครับ เราต้องแปลความคิดของเราเป็นภาษาญี่ปุ่น ส่วนคุณ ฮิงาชิโนะ เคโงะก็ค่อนข้างที่จะรักความสันโดษ คุณก็รู้ ศิลปินมักจะเป็นแบบนี้ เราส่งความคิดเห็นของเราไปให้เขา หลังจากนั้นสองอาทิตย์เขาถึงจะตอบเรา จากนั้นค่อยส่งกลับมาอีกที เราอาจจะรู้ผลอีกหนึ่งเดือนหลังจากนั้นว่า ความคิดนั้นใช้ไม่ได้ แล้วค่อยแก้ไขอีกที ซึ่งก็ลำบากอยู่เหมือนกันครับ

Mtime: ตอนนี้มีตัวบทที่ คุณฮิงาชิโนะ เคโงะยอมรับทั้งหมดหรือยังครับ

ซูโหย่วเผิง :ตัวบทได้ปรับเปลี่ยนและแก้ไขไปหลายรอบ จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังคงปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ

จะทำให้ผู้ชมรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในประเทศเป็นเรื่องที่ยากเอาการเหมือนกันครับ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างในเรื่องมีความเป็นญี่ปุ่นสูงมากที่ต้องปรับเปลี่ยน สิ่งที่ยากที่สุดของการถ่ายทำหนังเรื่องนี้คือตัวบท ส่วนเรื่องการดำเนินการในด้านอื่นๆ เนื่องจากเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ก็ถือว่าไม่ได้ยากมากครับ

Mtime:โจ่วเอ่อ ทำยอดขายได้สูงมากเลยทีเดียว คุณคิดว่ายอดขายของ การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X มีโอกาสสูงกว่า โจ่วเออ รึเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง:เรื่องยอดขายไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ครับ ปัจจัยที่มีผลกระทบมันค่อนข้างเยอะ ปัจจุบันนี้จำนวนโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หนังก็เช่นกัน การแข่งขันค่อนข้างสูง และยังมีกฎแปลกๆในเกมส์อีกมากมาย คุณไม่มีวันรู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น หน้าที่ของผมคือทำนำเสนอเรื่องราวออกมาให้ดีที่สุด

ถึงการถ่ายทำ การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย Xจะวุ่นจนไม่มีเวลา ซูโหย่วเผิง ก็แอบแว๊บไปถ่ายสารคดีเรื่องสั้น ขอกล่าวถึง ต้ามา(คุณป้า) หน่อยครับ

ถนนแห่งความสุขเป็นถนนที่มีอยู่จริงใน เป่ยจิงกว่างฉวี่เหมิน หวังต้ามา ที่อาศัยอยู่ในถนนแห่งความสุขเป็นตตัวแทนเอกลักษณ์ของ“ต้ามา(คุณป้า)ประเทศจีน”ที่รักการเต้นแอโรบิกในส่วนสาธารณะเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตแม่ม่ายยังคงมีร่องรอยของความเหงาให้เห็น。。。

“ต้ามา(คุณป้า)ประเทศจีน”-----เป็นศัพท์ฮิตทางอินเตอร์เน็ตที่มีมาหลายปี ในหนังสั้นของ ซูโหย่วเผิง “ต้ามาบนถนนแห่งความสุข” ซูโหย่วเผิง ได้เลือกพวกเขาเป็นตัวเอกของหนังสั้นเรื่อง เป็นประเด็นที่ทุกคนต้องพูดถึงอย่างไม่ต้องสงสัย ซูโหย่วเผิง เองก็ยอมรับว่า ในฐานะที่ตนเป็นคนไต้หวัน เหตุผลที่เลือกคุณป้าในแผนดินใหญ่เป็นตัวเอกนั้นเริ่มต้นมาจากความอยากรู้อยากเห็นของเขา แต่พอได้ถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้จนจบ เขากลับหวังว่าจะสามารถเป็นตัวแทนการส่งเสียงจากสังคมกลุ่มเล็กๆที่น่าสนใจกลุ่มนี้

Mtime:ทำไมถึงเลือกถ่ายทำ “ชีวิตคุณป้าที่อาศัยในปักกิ่ง”ละครับ

ซูโหย่วเผิง : ปีที่ผ่านเราต้องวุ่นกับการเตรียมตัวสำหรับเรื่อง การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปที่อื่น ก็เลยเลือกสถานที่ใกล้ๆด้วย จากมุมมองของคนต่างถิ่นอย่างผมแล้ว พวกเขาถือเป็นเอกลักษณ์ชนิดหนึ่งของแผ่นดินใหญ่เลย พวกเขามีบางสิ่งที่คนบางส่วนอาจจะไม่เข้าใจ แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ

ก่อนที่ผมจะได้รู้จักพวกเขา ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจพวกเขาเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะผมมองพวกเขาจากคำพูดและทัศนคติที่ผมเคยได้ยินมา ผมอยากช่วยให้พวกเขาได้ส่งเสียงของตัวเอง ทุกเรื่องราวมันมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเสมอ แก่นแท้ของการใช้ชีวิตของคนเราไม่ได้ต่างกันมากหรอกครับ ถ้าคุณได้เห็นได้เข้าไปทำความเข้าใจ เราอาจจะเลิกมองคนจากคำพูดของคนอื่นซักที

Mtime: การถ่ายสารคดีกับหนังต่างกันมากเหมือนกันนะครับ คุณเข้าใกล้กับตัวเอกได้อย่างไรครับ

ซูโหย่วเผิง : การถ่ายทำระยะแรก ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะคนยิ่งน้อยจะยิ่งดี พวกเขาจะได้ไม่เกร็ง

ทีมของผมบอกให้ผมอย่าเพิ่งไป ถ้าผมไปพวกเขาคงตื่นเต้น แต่ผมก็จะให้แนวทางกับทีม และพวกเขาเองก็จะรายงานกับผมด้วย หลังจากที่พวกเขาถ่ายได้ประมาณ 10 วัน ถึงจะยอมให้ผมได้ใกล้ชิดกับต้ามาและคนอื่นๆ

Mtime:คุณหา หวังต้ามาเจอได้อย่างไรครับ

ซูโหย่วเผิง :ที่จริงก็ลำบากอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับว่าตนเองเป็นต้ามา(คุณป้า) และไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมเปิดเผยชีวิตตนเองต่อหน้ากล้อง สุดท้ายเราก็หาต้ามาเจอโดยวิธีที่เป็นไปอย่างเป็นทางการ ผ่านทางคณะกรรมการที่อยู่อาศัย แล้วพวกเขาก็แนะนำหวังต้ามาให้ และมีเพื่อนสนิทของหวังต้ามาอีกสองคน

ผมอยากหาคนที่ค่อนข้างธรรมดา ไม่อยากคนที่ป่วยหนักหรือมีอะไรพิเศษ ที่สามารถสะท้อนชีวิตของคนส่วนมากได้ “ผมเสียใจที่เคยเป็นเสี่ยวหู่ตุ้ย แต่ทุกคนอย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดนะครับ”ไม่กี่วันที่ผ่านมา งานวิวาห์ของอู๋ฉีหลงและหลิวซือซือ ถูกจัดขึ้นที่เกาะบาหลี ในฐานะอดีตสมาชิก “เสี่ยวหู่ตุ้ย”ซูโหย่วและเจิงจื้อหมิง รับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานวิวาห์

เข้าวงการมา 24 ปี “สามเสือน้อย”ที่ดังไปทั่วประเทศจีนในสมัยนั้น ตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว และต่างคนต่างมีหน้าที่การงานที่ต่างกันไป “ไกวไกวหู่”อย่าง ซูโหย่วเผิง เริ่มในความสนใจด้านร้อง เต้น แสดงน้อยลง ตอนนี้เขาอยากเป็นผู้กำกับที่ดี และเน้นย้ำว่า เขาตั้งใจจะทำให้เส้นทางนี้ให้ดี

ก่อนหน้านี้มีประโยคหนึ่งจาก ซูโหย่วเผิง ที่กลายเป็นข่าวดังในอินเตอร์เน็ต “รู้สึกเสียใจที่เคยเป็นสมาชิกเสี่ยวหู่ตุ้ย” ซูโหย่วเผิง ยอมรับว่าเขาเป็นคนพูดจริง แต่หวังว่าทุกคนอย่าเพิ่งเข้าใจเขาผิด

Mtime:หลังจากที่ โจวเออ ได้เข้าฉายในปีที่ผ่านมา มีผู้ชมบางท่านให้ฟิตแบคในแง่ลบ ในฐานะที่เป็นผู้กำกับ คุณมองเรื่องนี้ยังไงครับ

ซูโหย่วเผิง:ตอนนั้นผมค่อนข้างหัวรั้น ปัจจุบันนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าหนังวัยรุ่นคืออะไร เพราะว่าหนังเข้าฉายตอนปลายเดือนเมษา ต้นเดือนพฤษภา ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา ตอนนั้นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ถ่าย โจ่วเออ ออกมาในแนวการยกโทษ กลุ่มผู้ชมที่ควรจะเป็นนักเรียนนักศึกษาในตอนแรก กลับนำเสนออกมาในรูปแบบที่หนักมากเกินไป ไม่ตรงตามสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายอยากได้ ยังไงก็ต้องเจอฟิตแบคที่ไม่ดีบ้าง

โจ่วเออ เป็นผลงานเรื่องแรก บอกได้เพียงแค่ว่า ผมตั้งใจทำให้ดีที่สุดแล้ว ที่จริงไม่ได้มีแต่ฟิตแบคด้านลบนะ หนังจะไม่ได้ออกมาดีที่สุด แต่ก็มีช่องว่างให้พัฒนาได้ดีกว่านี้

Mtime:การงานในอนาคตตั้งใจจะเน้นไปทางด้านผู้กำกับเลยใช่มั้ยครับ

ซูโหย่วเผิง :งานคงจะโฟกัสในเรื่องผู้กำกับ ผมแน่วแน่ทุกครั้งที่เปลี่ยนตัวเอง ไม่หันหลังกลับแน่นอน ตอนนี้ยังไม่ค่อยอยากเล่นหนัง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เล่นเลย แค่ตอนนี้ผมยังไม่สนใจด้านนั้น

Mitme:ได้ข่าวว่าคุณเพิ่งบินกลับจากงานวิวาห์ของ อู๋ฉีหลง รู้สึกอย่างไรบ้างครับ

ซูโหย่วเผิง:ได้เจอเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันมานาน งานวิวาห์ไม่ได้จัดใหญ่โตมาก แขกที่เชิญมาก็มีแต่ญาติๆและเพื่อนสนิท ตอนที่เพื่อนรวมกันเก่าได้ขึ้นไปกล่าวความรู้สึกบนเวที ทุกคนต่างร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง โดยรวมแล้วบรรกาศก็แฮ้ปปี้มากครับ

Mtime:ที่คุณเคยบอกว่าเสียใจที่เคยเป็นสมาชิกของเสี่ยวหู่ตุ้ย ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ

ซูโหย่วเผิง: ที่จริงมันเป็นคำพูดที่ถูกตัดออกมาจากการสัมภาษณ์ที่ยาวสองชั่วโมง

พี่เสี่ยวเยี่ยน (จางเสี่ยวเยี่ยน)ซึ่งเป็นบอสของเสี่ยวหู่ตุ้ยในตอนนั้น ในงานวิวาห์ (ของอู๋ฉีหลง) เธอได้กล่าวเรื่องราวของเราตั้งแต่ต้นจนจบ ผมรู้สึกซาบซึ้งมาก ตอนนั้นผมพึ่งจะอายุ 5 ขวบครึ่ง เหมือนรายการร้องเพลงในสมัยนี้ ที่ว่า “ผมชอบร้องเพลง ร้องเพลงคือความฝันของผม”อะไรประมาณนั้น ตอนนั้นผมยังเด็ก ยังไม่รู้เรื่อง ใครจะรู้ว่าพอได้เข้าไปแล้ว จะได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ ผมเลยถอยหลังกลับไม่ได้

ผมคิดมาตลอดว่า ผมปรับตัวไม่ได้ อย่าง อู๋ฉีหลง จื้อหมิง พวกเขาเคยลำบากมาก่อน บางครั้งที่ผมรู้สึกเหนื่อยและท้อ ผมคิดว่าถ้าตอนนั้นผมไม่เลือกเส้นทางนี้ อาจจะดีกว่าหรือเปล่า ก็ไม่แปลกที่จะมีความคิดแบบนี้บ้าง

จนถึงทุกวันนี้ ทุกคนต่างพยายามเพื่อให้ชีวิตของตนดีขึ้น ในงานวิวาห์มีคนบอกว่า “พวกคุณเข้าวงการมา 28 ปีแล้วนะ ” ผมยังรู้สึกตกใจเลย มันเป็นเส้นทางที่ไม่ง่ายเลยจริงๆครับ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด