จากไกวไกวหู่แห่งวงเสี่ยวหู่ตุ้ยจนถึงองค์ชายห้าแห่งองค์หญิงกำมะลอ เข้าวงการตั้งแต่ 15 ปี และโลดแล่นอยู่บนหน้าจอกว่า 27 ปีแล้ว ตอนนี้ เขากลายเป็นผู้กำกับคนใหม่ ผลงานชิ้นแรก โจ่วเอ่อเข้าฉายได้ 10 วัน กวาดรายได้ไปกว่า 400 ล้าน ตอนแรกซูโหย่วเผิงบอกว่า เดิมแล้ว เขาไม่เคยมีความคิดจะเป็นผู้กำกับเลย แต่ภายใต้การนำพาของโชคชะตา ก็เลยกลายเป็นผู้กำกับ
เซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 2556 ปี 2558 ภาพยนตร์เข้าฉาย ภายในสองปีนี้ ซูโหย่วเผิงให้ความสำคัญแต่การถ่ายภาพยนตร์โจ่วเอ่อ และได้รับฟีทแบคจากการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์โจ่วเอ่อทางอินเตอร์เน็ต ใช้เวลา 1 เดือนในการเดินสายโปรโมททั่วประเทศอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เมื่อถูกถามว่ายังมีอะไรที่เสียใจกับภาพยนตร์อีกมั๊ย ซูโหย่วเผิงตอบอย่างชัดเจนว่า ผมก็ช่างแม่งแล้ว ไม่เสียใจแน่นอน ผมทำสุดความสามารถแล้ว แล้วแต่คุณจะมองยังไง
ซูโหย่วเผิงให้ความสำคัญกับคำติชมของทุกคนที่มีต่อภาพยนตร์โจ่วเอ่อ เขาบอกว่าเขาดูทั้งคำตำหนิและติชม ช่วงที่พักเติมหน้าตอนสัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิงยังไม่ลืมที่จะถามทีมงานว่า ดูหนังรึยัง รู้สึกยังไงบ้าง มีตอนไหนมั๊ยที่รู้สึกว่าไม่ดี พูดออกมาเลย ผมรับได้ ไม่ต้องเกรงใจ สำหรับการให้คะแนนภาพยนตร์ ซูโหย่วเผิงบอกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องไม่ได้แค่ 1 ดาวแน่นอน คุณให้ 3 ดาว 3 ดาวครึ่ง ผมโอเค แต่มีคนกลุ่มหนึ่งให้ 1 ดาว ผมรับไม่ได้ มันไม่ได้ทำออกมาอย่างชุ่ยๆแน่นอน แบบนี้มันเกินไปหน่อยแล้ว
แต่ว่าสำหรับยอดรายได้นั้น ซูโหย่วเผิงไม่ได้เซ้นสิทีฟขนาดนั้น "ผมเพิ่งรู้วันนี้ว่ามีโปรแกรมหนึ่งสามารถเห็นยอดขายแบบเรียลทามได้ ครึ่งชั่วโมงรีเฟรชครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อน" หลังจากเรื่องโจ่วเอ่อ ซูโหย่วเผิงและบริษัทอำนวยการผลิตยังมีภาพยนตร์อีกเรื่องรอกำกับอยู่ เขาชอบภาพยนตร์แนวศิลปวรรณคดีเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว "ถ้าจะทำสิ่งที่แค่ตัวเองคิดว่าซาบซึ้ง คุณอาจจะถ่ายภาพยนตร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ ตัวคุณเอง จะทำให้ทีมงาน ผู้อำนวยการผลิด และทุกคนมีสีหน้าไม่ดีกันหมด แบบนี้ดีหรอ"
ซูโหย่วเผิง: โจ่วเอ่อ ไม่ใช่ภาพยนตร์ชุ่ยๆ
0.02 ตอนแรกจะบอกว่าอันนี้เกิดขึ้นข้างใน
0.04 แล้วก็ต่อมาถึงข้างนอก
0.05 ออกมาเจอจางย่าง 张漾 กับเจี่ยงเจียว 蒋皎
0.08 จากไกวไกหู่แห่งวงเสี่ยวหู่ตุ้ย
0.09 ถึงองค์ชายห้าแห่งองค์หญิงกำมะลอ
0.11 ซูโหย่วเผิงที่เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 15 ปี
0.13 โลดแล่นอยู่หน้าจอมาแล้ว 27 ปี
0.15 ตอนนี้เขาได้เป็นผู้กำกับคนใหม่
0.17 กับผลงานการกำกับครั้งแรก "โจ่วเอ่อ"
0.19 ที่เข้าฉาย 10 วัน กลับกวาดรายได้ไปกว่า 400 ล้าน
0.21 ตอนแรก
0.22 ซูโหย่วเผิงบอกว่าตอนเริ่มใหม่ๆ
0.24 เขาไม่อยากเป็นผู้กำกับเลย
0.29 ผมปฏิเสธไปทันทีโดยไม่ต้องหยุดคิดเลย
0.31 ผมบอกให้ผู้จัดการปฏิเสธไปเลย
0.33 ผมไม่เคยคิดมาก่อน
0.36 มันมึนไปหมด
0.36 แต่ไหนแต่ไรมา
0.39 ผมมีเพียงความคิดที่จะเป็นนักแสดงที่ดีมาตลอด
0.42 พัฒนาฝีมือการแสดงไปเรื่อยๆ
0.44 ผมคิดว่า
0.45 ผมเป็นคนที่ละเอียดอ่อนคนหนึ่ง
0.47 แต่ว่าเกี่ยวกับความรู้เฉพาะทางด้านภาพยนตร์นั้น
0.50 ผมไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
0.52 ผมคิดว่าผมรับผิดชอบไม่ไหว
0.53 แล้วผู้จัดการของผมก็บอกว่า
0.56 ถ้าหากว่าคุณจะปฏิเสธ
0.57 คุณก็ต้องไปบอกคุณจ้าว 赵 ด้วยตัวคุณเอง
0.59 มันเป็นมารยาท
1.00 ผมเห็นด้วย
1.02 หลังจากที่ได้เจอกัน
1.04 ก็ได้พูดคุยกัน
1.08 ผมรู้สึกว่า ถ้าหากยังปฏิเสธต่อไป
1.09 ผมก็แล้งน้ำใจเกินไปแล้ว
1.11 ผมเลยบอกว่างั้นผมขอกลับไปอ่านนิยายก่อน
1.15 ทำไมถึงต้องเอานักแสดงมาเป็นผู้กำกับ
1.17 ซูโหย่วเผิงบอกว่า
1.18 ตนไม่เคยถามผู้อำนวยการผลิตอย่างจริงจัง
1.20 อย่างน้อยต้องมีสองประเด็น
1.22 ที่ดูเหมือนจะเป็น
1.23 เรื่องราวเกี่ยวกับไกวไกวหู่
1.27 พฤษภาคม 2557 เริ่มคัดเลือกนักแสดง
1.30 ผมไม่เคยถามคำถามนี้อย่างจริงจัง
1.33 แต่ตอนที่เขาพูดเล่น
1.34 มันดูเหมือนจะมีสองข้อ
1.36 ข้อที่หนึ่งคือ คนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้มีไม่มาก
1.40 หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่ง ชื่อ เสี่ยวผิง 小平
1.42 พี่เสี่ยวผิงคนนั้น
1.44 เป็นผู้หญิงที่ผมนับถือมาก
1.48 ตอนที่เธอพูดเล่นกับผม เธอบอกว่า
1.50 เพราะว่าตอนเด็กๆ ในวงเสี่ยวหู่ตุ้ย
1.52 ฉันชอบไกวไกวหู่
1.55 ผมไม่รู้ว่าจริงจังหรือหลอก
1.56 เธอเป็นคนที่มีอารมณ์ขันมาก
1.57 คนที่ทำงาน
1.58 ฝั่งนั้นก็มีอีกความคิดเห็น
2.00 คือว่าพี่ผิง 平 บอกกับพวกเขาว่า
2.01 ฉันจะเลือกซูโหย่วเผิง
2.02 เพราะซูโหย่วเผิงเป็นคนมีความรู้
2.04 แบบนี้
2.06 ผมไม่รู้ว่าอันไหนคือเรื่องจริง
2.08 แต่ในใจของผม
2.09 ผมว่าอาจเพราะคนใหม่ค่าจ้างถูกกว่าล่ะมั๊ง
2.12 ทั้งถูกทั้งทุ่มเท
2.15 ปี 2556 ตอบรับเซ็นสัญญา
2.17 ปี 2558 ภาพยนตร์เข้าฉาย
2.19 ช่วง 2 ปีมานี้
2.20 ซูโหย่วเผิงโยนทุกอย่างทิ้ง
2.21 ให้ความสำคัญแต่การถ่ายภาพยนตร์โจ่วเอ่อ
2.23 เขาบอกว่าตัวเองได้ทำสุดความสามารถแล้ว
2.25 ไม่เสียใจแน่นอน
2.28 ผมคิดว่ายังดี
2.29 สำหรับเรื่องๆหนึ่ง แต่ไหนแต่ไรมา
2.33 ผมว่าผมทำอย่างสุดความสามารถ
2.36 ผมก็ช่างแม่ง ไม่เสียใจแน่นอน
2.38 ผมทำอย่างสุดความสามารถแล้ว
2.40 แล้วแต่คุณจะมอง
2.41 ที่จริงแล้ว ถ้าหากว่า
2.42 ใช้เกณฑ์ส่วนตัวของผม
2.43 ผมว่าการทำครั้งแรก
2.46 ก็ถือว่าไม่เลว
2.47 ผมว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่เลวนะ
2.50 ผมไม่ได้คาดการณ์อะไรเป็นพิเศษ
2.52 รวมไปถึงเรื่องการเป็นผู้กำกับด้วย
2.54 ต่อจากนี้ มันจะเปลี่ยนชีวิตผมอย่างไร
2.58 ผมไม่รู้เลย
2.59 และผมก็ฝึกตัวเองไม่ให้วางแผนล่วงหน้า
3.02 แม้กระทั่งเรื่องงานแสดง
3.05 ตอนนี้ผมยังไม่มี
3.09 ความต้องการอะไรเป็นพิเศษ
3.11 ที่อยากจะทำอะไร
3.14 ดังนั้น
3.15 ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เคยคิด
3.16 ว่าจะกลับไปร้องเพลง
3.17 หรือว่าต้องเตรียมตัว
3.18 สำหรับบทบาทต่อไป
3.20 ไม่มีครับ
3.21 หมอเฉพาะทางบอกว่า
3.22 หูซ้ายอยู่ใกล้หัวใจ
3.24 คำพูดที่ไพเราะ ต้องพูดให้หูซ้ายฟัง
3.28 ฉันรอคอยคนๆนั้นมาตลอด
3.31 หลังจากภาพยนตร์เข้าฉาย
3.32 ซูโหย่วเผิงได้นำแหล่านักแสดง
3.34 เดินสายประชาสัมพันธ์ทุกที่
3.38 และยังให้ความสำคัญกับ
3.36 ทุกความคิดเห็นที่ทุกคนมีต่อโจ่วเอ่อ
3.39 เขาบอกว่าเขาดูทั้งข้อตำหนิและข้อติชม
3.41 และก็ได้พบกับเรื่องที่น่าประหลาดใจ
3.45 เพราะว่าเมื่อก่อนตอนเป็นนักแสดง
3.46 ก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
3.48 ไม่นานมานี้ มีคนกลุ่มหนึ่ง
3.50 สามารถรับรู้ใน
3.51 สิ่งที่ผมต้องการสื่อออกมา
3.53 คนพวกนั้นทำให้ผมซาบซึ้ง
3.55 ผมจะขอบคุณพวกเขาทางอินเตอร์เน็ตแน่นอน
3.57 บางคำตำหนิ
3.58 ผมก็ดู
3.59 ว่ามันสมเหตุสมผลไหม
4.07 มันมีเหตุผลที่น่าประหลาดอยู่อันหนึ่ง
4.09 ผมไปเจอมาในอินเตอร์เน็ต
4.10 บางอัน
4.12 มีเนื้อหาที่เหมือนกันเป๊ะ
4.14 ภายในเวลาไม่กี่วัน มีเนื้อหาที่เหมือนกัน
4.16 พอคลิกเข้าไปดู
4.17 ก็ไม่ใช่คนเดิมเขียน
4.21 ผมคิดว่ามันออกจะน่าประหลาด
4.22 เนื้อหา
4.23 แม้กระทั่งเครื่องหมายวรรคตอนยังเหมือนกัน
4.25 ไม่รู้เหมือนกัน
4.26 จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม ก็ยังนับว่าแปลกใหม่อยู่
4.29 เพราะว่าบางที
4.30 ก็เห็นได้ว่ามีคนประเภทที่คอยตำหนิดาราอยู่
4.32 ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้
4.33 ต้องพูดถึงคนที่เป็นผู้กำกับครั้งแรกแน่นอน
4.36 แต่ที่ผมทำอย่างสุดความสามารถแบบนี้
4.38 ก็ต้องพูดถึงนะ
4.39 ว่าเขาระดับ 5 ดาวหรือมากกว่า
4.40 ผมว่ามันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
4.42 และผมยังรู้สึกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้
4.43 ไม่ควรได้รับเพียง 1 ดาวเท่านั้น
4.44 ผมคิดว่ายังไงแล้ว มันก็ต้องมีคุณค่าในตัวเอง
4.46 หรือมีความงดงามในตัวเอง
4.47 คุณให้ 3 ดาว หรือ 3 ดาวครึ่ง
4.50 โอเค ผมก็จะเปิดใจยอมรับมัน
4.52 โอเค แต่ว่ามีบางคนให้ 1 ดาว
4.54 ผมจะรู้สึกว่า
4.55 ผมรับไม่ได้
4.57 ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไมีควรได้รับแค่ 1 ดาว
4.58 มันไม่ได้ทำออกมาอย่างชุ่ยๆแน่นอน
4.59 แบบนี้มันก็เกินไปหน่อย
5.00 หลังจากเรื่องโจ่วเอ่อ
5.01 ซูโหย่วเผิงและบริษัทอำนวยการผลิต
5.02 ยังมีภาพยนตร์อีกเรื่อง รอกำกับอยู่
5.04 เขาชอบหนังแนวศิลปวรรณคดีอยู่แล้ว
5.06 และก็เข้าใจแนวโน้มของตลาด
5.08 เกี่ยวกับผลงานชิ้นต่อไป
5.09 ยังไม่มีแนวทางและแผนการที่ชัดเจน
5.15 โดยส่วนตัวแล้ว
5.16 ผมคิดว่าความชอบส่วนตัวของผม
5.18 อาจจะออกแนวอาร์ทนิดๆ
5.20 แต่ว่าผมเพิ่งพบว่า
5.22 ที่แท้ในตลาด
5.23 เพราะว่ามีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์
5.24 จากต่างประเทศเข้ามา
5.26 มากขึ้นเรื่อยๆ
5.27 แล้วพื้นที่ของภาพยนตร์ในประเทศ
5.28 ก็มีน้อยขึ้นเรื่อยๆ
5.31 ถ้าจะทำ
5.32 สิ่งที่ตัวเองคิดว่าซาบซึ้ง
5.36 คุณอาจจะถ่ายภาพยนตร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ
5.39 ตัวคุณเอง
5.40 ทำให้ทีมงานของคุณ
5.41 ตลอดจนผู้อำนวยการผลิตมีสีหน้าไม่ดีกันหมด
5.42 แบบนี้ดีหรอ
5.44 โจ่วเอ่อเป็นครั้งแรกของผม
5.46 ผมไม่รู้มาก่อนว่า
5.47 ต้องมีเรื่องให้คิดมากมายขนาดนี้
5.49 ผลที่ได้รับตอนนี้ถือว่าฟลุ้คนิดหน่อย
5.52 ผมคิดว่าถ้าผมไม่มีเหตุผล
5.54 ผมก็กลายเป็นคนแก่แล้วล่ะ
5.55 ผมไม่สามารถพูดว่าขอโทษ
5.56 ผมไม่รู้ ผมแค่รับผิดชอบ
5.57 ผมแค่จะทำสิ่งๆนี้ออกมาให้เสร็จ
5.59 แบบนั้นไม่ได้
6.00 เพราะฉะนั้นตอนนี้ผม
6.01 เรื่องนี้เรื่องใหญ่
6.03 ผมยังไม่ได้คิดอะไรมาก