ผู้เขียน หัวข้อ: 12-08-2009 สัมภาษณ์โหย่วเผิง ในงานพิธิเปิดเว็ปไซน์โซวหูกวน (ฟงเซิง)  (อ่าน 7434 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด

09-08-12 : สัมภาษณ์โหย่วเผิง ในงานพิธิเปิดเว็ปไซน์โซวหูกวน (ฟงเซิง)


เว็ปไซน์ ฟงเซิง ได้เปิดแล้ว

โหย่วเผิง :  ผมเองก็ยังดูไม่หมด มีอะไรบ้าง เพราะว่าเกี่ยวกับการรับเสียง มีส่วนหนึ่ง ของผมเองก็มีส่วนหนึ่งแล้วตอนหลังก็มีการอัดเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง ผมได้ดูที่เป็นส่วนของผมเท่านั้น

นักข่าว : แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?

โหย่วเผิง : ความรู้สึกเหรอ อืม พูดตรงๆนะ ตัวเองรู้สึกว่าการแสดงของตัวเองนั้นยังไม่เข้าเป้าก็คือยังไม่ถึงจุดที่ตัวเองคิดเอาไว้ พูดตรงๆ เพราะว่า "เสี่ยวเหนี่ยน" นั้นตัวเขาเองเป็นนักแสดง พูดตามตรงทางผู้กำกับและตัวบทของเขานั้นจริงๆแล้วเขาจะเป็นคนที่ไม่หญิงไม่ชาย ถ้าจะใช้ภาษาสมัยนี้ก็เรียกว่ากระเทย (หัวเราะ) สุดท้ายตัวเองดูแล้วก็.....

นักข่าว : การเรียนร้องเดิมทีก็เป็นอย่างนั้นเลยใช่ไหม?

โหย่วเผิง : ใช่ สุดท้ายเมื่อตัวเองมาแสดงแล้ว ตัวเองก็เริ่มรู้สึกว่าจะเป็นหญิงสาวไปแล้ว สุดท้ายเมื่อตัวเองมาเปิดดูแล้ว ก็ดีกว่าที่คิดไว้นิดหน่อย

นักข่าว :  หมายความว่าแสดงออกมาแล้วก็คือ ..ไม่ค่อยเป็นกระเทยเท่าไหร่

หวังจงเหล่ย :  ถอมตัวเกินไปแล้ว

นักข่าว :  บอกว่าถอมตัวเกินไป ความหมายของท่านก็คือเขาแสดงได้เหมือนผู้หญิงมากใช่ไหม?

หวังจงเหล่ย :  พวกเราทุกคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วก็รู้สึกว่า คุณนี่เป็นคนอีกคนจริงๆ เหมือนผู้หญิงมากๆ

โหย่วเผิง :  (หัวเราะดัง) ไอ้ที่ว่ามันเหมือนผู้หญิงขนาดไหนนั้น ทุกคนต้องเข้าไปชมในโรงภาพยนนตร์ถึงจะรู้ (หัวเราะต่อ)

นักข่าว:  แล้วต่อบทที่คุณแสดงไปนั้น ความรู้สึกในระหว่างการแสดงหรือหลังจากที่ได้ดูผ่านไปแล้ว ก็น่าจะมีความรู้สึกแตกต่างกัน ?

โหย่วเผิง :  พูดตามตรง จริงๆแล้วเริ่มต้นนั้น ผมรู้สึกว่าทั้งเรื่องนั้น ร่วมทั้งเวลาถ่ายทำด้วย จริงๆแล้วน้อยมากที่ผมจะไปดูที่ผมถ่ายไปแล้ว ตลอดเวลานั้นผมเองจะรู้สึกว่า ก็คือไม่กล้าเผชิญกับภาพของตัวเอง อะไรอย่างนั้น คุณก็น่าจะเข้าใจ ท่าทางอย่างนั้น ไหนไหนก็แสดงไปแล้ว จากนั้นผมก็ไว้ใจกับทางผู้กำกับ ทางผู้กำกับดูที่จอมอนิเตอร์บอกว่าโอเคผมก็โอเค บุคลิกของ "ไป๋เสี่ยวเหนียน" นั้นเป็นคนที่มีบุคลิกมาก ปากดี พูดก็ไม่เพราะ เป็นที่เกลียดชังของคนอื่น วันหนึ่งผมจำได้ว่าได้เข้าฉากกับปิงปิง เมื่อเราสองคนถ่ายเสร็จแล้ว เธอกล่าวกับผมว่า “โอ้ พวกเราสองคนเดินออกมาจากกล้องแล้ว พูดกับผมว่า .ในโลกนี้จะมีคนอย่างไป๋เสี่ยวเหนี่ยนอย่างนี้ได้เหรอ ? ฮ่าๆๆ  คนอย่างนี้ก็คือเขาเป็นอย่างนี้ๆ จะพูดไงดี คือมนุษย์สัมพันธ์ของเขาคงจะไม่ดี ฉะนั้นในเรื่องผมก็จะเป็นคนแรกที่ถูกจับไปทรมาน เป็นคนแรกที่ถูกจับไปทรมานเลย

นักข่าว :  คนแรกก็เป็นคุณที่ถูกจับไปทรมาน?

โหย่วเผิง : ใช่

นักข่าว :  พวกเขาล้วนมีประสบการณ์ไปเรียนต่างประเทศ แล้วคุณมีไหม?

โหย่วเผิง : พวกเขามีดีกรีขนาดนี้ เมื่อผมได้ฟังปุ๊บผมเองก็หน้าแดงไปเลย ผมอย่างดีก็ได้แค่ไปเรียนที่โรงละครโอเปร่าเท่านั้นเอง(หัวเราะ)

นักข่าว : ดูจากเรื่องของอาชีพแล้วมันคงต่างกัน แต่จริงๆแล้วก็น่าจะเหมือนกัน

โหย่วเผิง :  แต่ว่าหากพูดถึงเรื่องเมื่อกี้ เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ของพวกเรา แม้ว่าในเรื่องนั้นผมอาจมีตำแหน่งที่ต่ำสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ว่าตำแหน่งของผมนั้นก็เป็นตำแหน่งที่สำคัญในการอยู่เบื้องหลังนะ

นักข่าว : เบื้องหลังที่สำคัญ

โหย่วเผิง :  ใช่ ผมมีภูมิหลังที่สำคัญ แต่สำหลับภูมิหลังของผมเป็นมาอย่างไรนั้น นั่นก็เป็นเรื่องที่พิเศษเรื่องหนึ่งเหมือนกัน สำหรับเรื่องนี้นั้น ก็คงอีกหน่อยค่อยเปิดเผย หรือว่าพวกเราไปดูที่โรงเองก็ดี

นักข่าว : โอเค ใช่ ที่โรงภาพยนตร์ แต่ว่าสิ่งที่ผมอยากจะรู้ก็คือ โหย่วเผิง สำหรับบทบาทนี้แล้วมันเป็นอะไรที่คุณต้องเปลี่ยนไปเยอะมากๆ ก็เหมือนกันคุณหวังที่ได้พูดไปนั้นมันไม่เหมือนเป็นตัวคุณเลย แล้วผู้คิดว่าขณะที่คุณได้รับบทนี้บุ๊ปแล้วคุณก็คงไม่ใช่จะรับโดยไม่คิดปั๊บเลยใช่ไหม? ยังมีช่วงเวลาที่จะคิดไตรตรองไหม?

โหย่วเผิง : จริงๆแล้วมันก็ก้ำกึ่งนะ มันก้ำกึ่งจริงๆ ผมคิดว่าตัวละครบทนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นใครเมื่ออ่านแล้ว รวมทั้มผมเองด้วย ครั้งแรกที่ได้อ่านตัวบทของฟงเซิงเรื่องนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าเรื่องราวมันดึงดูดคนมาก รวมทั้งมันยังประทับใจด้วย ก็เหมือนกับที่ หันอี๋ ได้พูดไป เธอมีอารมณ์ร่วมมากๆ คุณทราบไหม? ทุกคนที่เป็นชาวจีน หากคุณอ่านเรื่องอย่างนี้จบแล้ว คือในสมัยที่เต็มไปด้วยสงคราม จากนั้น ในชนเผ่าของพวกเรานั้น ทุกคนก็รอคอยฮีโร่ คุณทราบไหม ต้องการมีคนที่มีจิตใจอย่างนี้เพื่อมารับหน้าที่ที่หนักใหญ่อย่างนี้ มาเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อย่างนี้ อย่างแรกคือ ประทับใจกับเรื่องราว อย่างที่สอง ไป๋เสี่ยวเหนียนพิเศษอย่างไรล่ะ (หัวเราะ)

นักข่าว :  แล้วพิเศษอย่างไร?

โหย่วเผิง : ใช่ ก็รู้สึกว่า มันภาคภูมิใจมากๆ ที่วันนี้มีโอกาสดีๆอย่างนี้ มีบทอย่างนี้มาให้ มีเนื้อเรื่องอย่างนี้มาอยู่ต่อหน้าผม ผมสามารถเลือกว่าจะรับหรือไม่รับ สำหรับบทของเขานั้นเป็นที่ดึงดูดของนักแสดงเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นสิ่งแรกที่ใจคิดก็คือ ผมสามารถรับแสดงบทอย่างนี้ได้ไหม เพราะภูมิหลังของเขานั้นพิเศษมาก ลักษณะพิเศษของเขานั้นก็เลียนแบบยากมากเหมือนกัน ใช่ จากนั้น ...



จางหันอี๋ : เดิมที่คือให้ผมแสดง

โหย่วเผิง:  ทุกคน. หา?

โหย่วเผิง : อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ

นักข่าว : ผมเองก็พึ่งได้ยินเป็นครั้งแรก จริงๆเหรอ?

หันอี๋ : นี่เป็นเรื่องใน จริงๆเป็นอย่างนั้น เดิมที่คือให้ผมแสดงบทนี้ ไป๋เสี่ยวเหนียน

โหย่วเผิง : ผมอยากดูจังเลย

หันอี๋ : คุณไม่รู้ล่ะสิ จริงๆแล้วผมเล่น แต่ผมคิดแล้วคิดอีก

โหย่วเผิง :  แล้วคุณมั่นใจหรือว่าสามารถจะเล่นเป็นกระเทยอย่างนั้นได

หันอี๋ : แน่นอน

โหย่วเผิง :  คุณสามารถตัดใจได้เลยหรอ เจ้าพระคุณ

หันอี๋ : อื่ม ผมดูแล้ว บทนี้นั้นโหย่วเผิงเล่นได้ถึงพริกถึงขิงมากๆ มันมีรสชาติจริงๆ ยอดเยี่ยมๆ

โหย่วเผิง : ชมเกินไปๆ

นักข่าว: การแสดงออกที่แปลกอย่างนี้ไม่กลัวแฟนๆจะรับไม่ได้หรอ

โหย่วเผิง : จะให้พูดตามตรง นี่ก็น่าจะเป็นการล้อเล่นครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งก็พูดจริงๆ ในเรื่องนี้นั้น หลังจากที่ได้ทุ่มเทในการแสดงอย่างนี้ไปแล้ว หากว่าบทบาทนี้ไม่เหมือนผู้หญิงเลยแล้ว ผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน ผมถูกรบกวนปานตาย จริงๆ หากมิใช่ที่มันแปลกอย่างนี้ แต่เรื่องนี้ก็เป็นการตลกครึ่งต่อครึ่ง สำหรับตัวเองแล้ว ผมรับทุกบทผมเองก็ต้องเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง ผมไม่อยากจะยืนอยู่กับที่ นักแสดงทุกคนเมื่อรับบทมาดูแล้วก็ต้องพิจารณาว่ามันท้าทายตัวเองหรือเปล่า สิ่งที่สองที่จะต้องพิจารณาคือ ผมทำได้หรือเปล่า และผมเองรู้สึกว่า สิ่งที่สามารถที่จะดึงดูดแฟนๆของตัวเองคือการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุด นี่ถึงจะเป็นวิธีการที่ยั่งยืน ไม่ใช่เป็นการยื่นอยู่กับที่และปิดกั้นตัวเอง






Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด

สัมภาษณ์โหย่วเผิง ในงานพิธิเปิดเว็ปไซน์โซวหูกวน (ฟงเซิง)

รายงานจากสถานีภาพยนตร์จีน

เรื่อง(เฟิงเซิง)ที่ได้ร่วมอยู่ถ่ายทำด้วยกันเป็นเวลายาวนาน ได้กำหนดเวลาฉายในวันที่ 1 ตุลาคม เมื่อวานภาพโปรเตอร์ของเรื่องนี้ได้เข้าสู่สถานี หลี่ปิงปิง จางหันอี๋ และโหย่วเผิงนักแสดงนำสามท่านได้มาถึงสถานี กิจกรรมการโฆษณาครั้งนี้จะต่างจากการโฆษณาหลายๆครั้งที่ผ่านมา และงานแถลงการครั้งนี้นั้นถือได้ว่ามีอะไรที่จะทำให้สื่อต้องถึงกับอึ้งทึ่งเลย นอกจากหลี่ปิงปิง จางหันอี๋ โหย่วเผิง เลขาธิการค่ายหัวอี้คุณหวังจงสือมาถึงในงานแถลงแล้ว ทางสื่อสังเกตุเห็นสีหน้าของนักแสดงนำทั้งสามท่านนั้นไม่เลวเลย จางหันอี๋ที่ใส่เสื้อทีเชิ๊ดเป็นที่ดึงดูดสายตา หากแต่จะเอ่ยถึงโปรสเตอร์แล้ว หน้าตาของพวกเขานั้นได้เปลี่ยนแปลงไป

(เฟิงเซิง) โฆษณาเป็นที่รู้จักกัน

หากจะอ่านเรื่องราวในโปสเตอร์เหล่านี้ เราจะต้องรู้เรื่องราวของเฟิงเซิงหน่อย เป็นยุคทำสงคราม ทางหน่วยปราบปรามได้ข่าวถึงมีไส้ศึกอยู่ข้างใน และได้เรียกผู้สงสัยมาสอบสวน และมีเครื่องทรมานมากมาย เป็นเครื่องทรมานในฉากหลี่ปิงปิงแสดงและได้นำมาใช้


กวนเจียนซือ :  เครื่องทรมานเหล่านี้เหมือนกับว่าเครื่องผ่าตัด

หลี่ปิงปิง :  ฉันไม่ทราบว่าเมื่อทุกคนเห็นมันแล้วจะรู้สึกสั่นๆไหม (ฉันดูเหมือนเครื่องผ่าตัด) เครื่องเหล่านี้ได้เตรียมไว้เพื่อฉันเลย (ทั้งหมดเลยหรือ)ใช่ แค่มันถูกเอามาวางไว้บนโต๊ะ ก็ทำให้ทุกคนในห้องตกใจกลัวกันหมด

ในเรื่องโหย่วเผิงรีบเอาเก้าอี้ไฟฟ้ามาให้ดูและเป็นที่หวาดกลัวของทุกคน

กวนเจี้ยนซือ :  เป็นเก้าอี้ที่ไม่มีที่ติ

โหย่วเผิง : โอ้แม่เจ้า ใครเป็นคนมาให้ผม ที่นั่งก็อยู่ตรงกลางและทั้งยาวด้วย ผมไม่กล้าคิดว่าหากคนธรรมดาคนหนึ่งนั่งลงไปแล้วจะแสดงอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ไหม หรือจะมีเสียงอะไรออกมา

แต่เครื่องทรมานของหันอี๋นั้นมันลึกลับมาก

หันอี๋ :  มีเข็มเข้ามาอย่างหาที่มาไม่ได้ เข็มแล้วขวดเล็กล้วนเป็นของผม เหล่านี้ล้วนเป็นน้ำหอม อามานีซีดี ยังมีขาวฟ้าบ้าง ทำไมถึงเป็นน้ำหอมล่ะ มันต้องไปหาคำตอบในโรงภาพยนต์เสียแล้ว

ภาพสองสามภาพนี้ก็นำความเสียวหวาดกลัวมาสู่พวกเราแล้ว หลี่ปิงปิงกับจางหันอี๋ก็ยังต้องประสบการณ์เอง

หันอี๋ :  นี่คือการทรมานไฟฟ้า เหมือนไหมที่เขากำลังถูกมัดแล้วโดนช็อด คุณลองทำท่าทรมานหน่อย

ในภาพยนตร์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษได้ใช้เครื่องทรมานมากมาย แต่ผมที่แฝงอยู่ในหมู่ผู้ถูกสงสัยก็ไม่ยอมที่จะเปิดเผยตัวเอง

หลี่ปิงปิง : ว่า เอาชิ้นนั้นก่อน

โหย่วเผิง : ผมยังเป็นกระเทยไม่เหมือนพอหรอ

หลังจากที่ได้ยินจากการเล่าในเรื่องเครื่องทรมานแล้ว สื่อได้สังเกตุเห็นทรงผมของโหย่วเผิง

โหย่วเผิง : (ทรงผมของโหย่วเผิงมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องไหม) คุณสังเกตุได้ละเอียดมากเลย ทรงผมในหนังนั้นมันจบไปแล้ว ผมดูแล้วมันน่าเกลียดมาก ผมเลยได้ไว้ทรงที่ตามใจตัวเอง

โหย่วเผิงเล่นเป็นนักร้องละครเพลง ไป๋เสี่ยวเหนียน บุคลิกอันอ่อนโยน แต่ตัวเขาเองกลับรู้สึกว่าตัวเองยังอ่อนโยนไม่พอ

โหย่วเผิง : ผมรู้สึกว่าตัวเองยังอ่อนโยนไม่สุดๆ เสี่ยวเหนียนนั้นจะไม่หญิงไม่ชาย ถ้าจะพูดภาษาเราคือเป็นพวกกระเทย แต่ว่าผมรู้สึกว่าผมยังอ่อนโยนไม่พอ

หวังจงสือ :  พวกเราทุกคนล้วนรู้สึกว่าคุณเป็นกระเทยได้ดี

โหย่วเผิงไม่กล้ารับคำชมเหล่านี้ แต่ทางด้านหันอี๋นั้นรู้สึกอิษฉา

หันอี๋ :  ในเรื่องนี้นั้น จริงๆแล้วไป๋เสี่ยวเหนียนนั้นผมเป็นคนแสดง แต่ผมก็คิดแล้วคิดอีกตั้งนาน

โหย่วเผิง :  แล้วคุณมั่นใจหรือว่าจะแสดงอาการกระเทยออกมาได้ แน่นอน ผมเองเหมือนกระเทยเป็น

หันอี๋ :  ผมเคยเรียนกับเขา เขาเรียกผมว่าเสี่ยวไป๋ตลอด เมื่อผมเรียก เขาก็ จากนั้นเขาเริ่มร้อง คุณลองร้องให้พวกเราฟังหน่อย

โหย่วเผิง : ฝึกร้อง

เรื่องเฟิงเซิง ทำให้นักแสดงได้เข้าถึงอารมณ์ ตุลาปีนี้ จะมีเรื่องเจี้ยนก่อต้าแย่ร่วมฉายกับเรื่องเฟิงเซิง ผู้สร้างภาพยนตร์เฟิงเซิงคือ หวังจงสือ (เจี้ยนห่อต้าแย่)เป็นหนังแนวประเพณีสืบทอดมา แต่ของพวกเราคือแนวใหม่ สองเรื่องนี้นั้นจะออกในแนวที่ต่างกัน

หันอี๋ : สายตาของคุณจะหยุดไม่ได้เลย หากคุณหยุดก็จะต่อไม่ติด (เฟิงเซิง)เป็นเรื่องที่พิเศษ หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว
 
โหย่วเผิง :  หากว่าไม่เล่นเป็น กระเทย ผมก็ไม่รับ


ขณะสัมภาษณ์ หันอี๋ได้ล้อโหย่วเผิงอย่างไม่หยุด พูดว่าเขากระเทยขนาดไหน ในเรื่องโหย่วเผิงรับบทเป็นนักร้องละครเพลง เป็นบทที่ท้าทาย เมื่อดูจากการถ่ายแล้วเขากล่าว่า จากการแสดงไปแล้วนั้นยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่อ่อนพอ “มีท่าทางกระเทยออกนิดๆเอง แต่ว่าผมนั้นทำอย่างสุดๆแล้ว แต่ว่าหลายคนก็มองว่าผมเป็นคนละคนไปเลย เหมือนกระเทยมากๆ เวลาพูดนั้นน่ากลียด เบื่อ เวลาถ่ายทำนั้นผมไม่ค่อยไปดูหลังการถ่าย

เขายอมรับ เริ่มแรกที่รับบทมาดูนั้นมันแปลกๆ “เมื่ออ่านตัวบทจบแล้วรู้สึกว่าประทับใจมาก ยังมีคนอย่างนี้อยู่ด้วยหรือ ทำไมมันวิเศษอย่างนี้ นัยหนึ่งผมรู้สึกตื่นเต้น อีกด้านหนึ่งก็กังวลว่าจะแสดงได้ดีหรือเปล่า” หันอี๋ได้ชมว่าโหย่วเผิงแสดงได้ดี กลัวว่าทางแฟนๆของเขายากที่จะรับได้

โหย่วเผิงก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ ตอนหลังก็คิดไปมากว่าครึ่งวัน ผมแสดงได้ดีชัวร์ จากประสบการณ์การแสดงมาหลายปี หากจะแสดงบทนี้ได้ไม่ดีนั้น ผมเองก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว” และเขาได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า “ จริงๆแล้วผมเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง ไม่อยากจะหยุดอยู่ที่เดิม แต่ละตัวบทนั้นล้วนต้องชนะมัน เรียบรู้สิ่งใหม่ๆ หากคุณอยากจะดึงแฟนๆติดคุณ คุณก็ต้องพัฒนาอย่างไม่หยุด อย่าปิดกั้นตัวเอง