ผู้เขียน หัวข้อ: [27-ก.พ.-2003] บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จากรายการ "มีนัดกับผู้มีชื่อเสียง"  (อ่าน 10124 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จากรายการ "มีนัดกับผู้มีชื่อเสียง" 27 กุมภาพันธ์ 2003



พิธีกร : สวัสดีตอนเย็นแฟนอินเตอร์เนตทุกท่าน ยินดีต้อนรับการตรงต่อเวลาของผู้ชมเข้าร่วม "มีนัดกับผู้มีชื่อเสียง"  กับทางรายการแพร่สื่ออินเตอร์เน็ต คืนนี้แขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่งเป็นบุคคลที่มีเชื่อเสียงมาก ชื่อของเขาคือ "ซูโหย่วเผิง" ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขา ขณะนี้เขาได้นั่งอยู่ข้างๆตัวผม และได้สร้างสิ่งอัศจรรย์ค้นหาตัวคนเดียวทางอินเตอร์แล้ว การสัมภาษณ์ยังไม่ทันเริ่มต้น นำเอากลิ่นไอยอดมนุษย์ที่ทำให้เครื่องบริการเผชิญหน้ากับการทดสอบอันยิ่งใหญ่แก่พวกเรา ก่อนอื่นขอเชิญ ซูโหย่วเผิง แนะนำตัวกับการมากรุงปักกิ่งครั้งนี้เพื่ออะไร

โหย่วเผิง : ครั้งนี้คือเพื่อมาโปรโมทอัลบั้ม Best Love 1992-2002 รวบรวมคัดเลือกเพลงที่ดีที่สุดของเพลง ในอัลบั้มว่า "จุ้ยอ้าย-รักที่สุด"

พิธีกร : อัลบั้มชุดใหม่นี้มีอะไรเป็นจุดพิเศษใหม

โหย่วเผิง : นี่คืออัลบั้มรวบรวมคัดเลือกดีเลิศ อัลบั้มอยู่ที่ไต้หวันมีเพลงใหม่ 2 เพลง  When the Snow Comes (disc1) กับเพลง Prisoner of Love (disc2) เพลงนี้เรียกว่าความรักอันบริสุทธิ์เป็นแผ่นอวยพร หลังจากนั้นเว็บไซด์ส่วนตัวผมมีแฟนๆทางอินเตอร์เน็ตหลายคนรู้เรื่องนี้เข้าในเวลาต่อมา ก็วิ่งไปที่ศูนย์คังฝู (คืนสู่สุขภาพ) เพื่อไปช่วยแรงกายและบริจาคเงินด้วย ครั้งนี้พวกเราได้ร้องแผ่นเสียงอวยพรที่ทำการร้องใหม่อีกครั้ง เก็บรวมแผ่นเสียงนี้รวบรวมเป็นพิเศษ สภาพภาษีแผ่นเสียงส่วนบุคคลแผ่นนี้ทั้งหมดได้ถูกแพร่ออกไป และเป็นเป้าหมายหลักอันสำคัญในการรวบรวมพิเศษของอัลบั้มเพื่อทำการกุศลสาธารณะประโยชน์ต่อเรื่องหนึ่ง

พิธีกร : มีหลายๆคนต่างก็ไม่ทราบว่า โหย่วเผิง เคยถูกทางองค์กรอุตสาหกรรมหัตถกรรมเขตฉาวหยางกรุงปักกิ่งให้ไปทำธุรกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ รบกวนโหย่วเผิงบอกรายละเอียดต่อทางผู้ชมด้วย

โหย่วเผิง : ผมเคยพูดกับทางบริษัทมาตลอด ผมพูดว่าถ้ามีโอกาสสามารถทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ผมจะเข้าร่วมทำอย่างเต็มที่ ผมยังคงรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ยังเอาใจใส่ห่วงใยผมมาก หวังว่ามีโอกาสสามารถตอบแทนคืนแก่สังคมเล็กน้อยนี้ได้ เวลานั้นไม่มีใครคาดคิดมาก่อนและหวนคิดถึงอันใหญ่หลวงนี้ หลังจากนั้นก็หาเงินได้ถึงสี่หมื่นกว่าหยวน ช่วงเวลาอันสั้นๆนี้ ได้แจ้งผ่านทางเว็บไซด์ของผมแจ้งข่าวเล็กน้อยแก่ทุกคน ดูเหมือนทุกคนยังคงมีใจต่อการกุศลเป็นอย่างยิ่ง

พิธีกร : พวกเราจำเป็นต้องขอขอบคุณโหย่วเผิงที่ทำกิจกรรมการกุศลครั้งนี้ด้วย

โหย่วเผิง : นี่ไม่ใช่ตัวผมทำคนเดียวนะครับ มีอีกหลายๆคนช่วยๆกันทำครับ

แฟนอินเตอร์เนต : ทราบว่าคุณป่วยไม่สบายผมรู้สึกกระวนกระวายใจมาก ผมคิดอยากจะส่งยาให้คุณทานครับ แล้วคุณป่วยจริงใช่ไหมครับ

โหย่วเผิง : ผมเป็นตั้งหลายโรค ผมเป็นทั้งไข้หวัดตั้งแต่ตรุษจีนจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่หายดีขึ้น หลายวันก่อนไปที่เมืองเซี่ยงไฮ้เกิดกระเพาะลำไส้อักเสบ ไม่มีเรี่ยวแรง ตั้งหลายวันแล้วก็ไม่ได้รับประทานอาหารลงท้อง แต่ว่าได้ไปหาหมอจีนแล้ว ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงมาก เปลี่ยนแง่อีกมุมหนึ่ง กล่าวลักษณะเช่นนี้เปรียบเหมือนลดความอ้วน (หัวเราะ)

FC : ผมเห็นว่าคุณเป็นบุคคลที่เท่ห์สง่าคนหนึ่ง และเป็นนักแสดงที่เด่นสง่างามคนหนึ่งด้วย ผมเคยเห็นในหนังละครของคุณในลักษณะท่าทางโกรธ ผมอยากจะทราบว่าการดำรงชีวิตปกติของคุณมีโกรธบ้างไหม แล้วเวลาโกรธจะมีลักษณะแบบไหน

โหย่วเผิง : อย่ามองผมในขณะโมโหนะครับ ผมโมโหหน้าตาน่าเกลียดมากๆ เวลาผมนอนหลับไม่พออารมณ์ก็แปรปรวนได้ง่าย

FC : อยากทราบว่าโหย่วเผิงชอบนักแสดงหญิงประเภทไหน ตอนนี้อยู่ในวงการบันเทิงมีหญิงสาวคนไหนที่คุณชื่นชมาก

โหย่วเผิง : มาตรฐานการเลือกคู่ครองของผมรู้สึกโบราณนิดๆ ขอให้พูดจานุ่มนวลเอาอกเอาใจหน่อยๆ แต่ว่าเธอต้องมีความคิดของตัวเองบ้าง คนในวงการบันเทิงมีแต่ไม่ยอมใครทั้งนั้น เมื่อได้พูดคำเหล่านี้ออกมาแล้วทุกคนต่างก็รู้สึกว่าผมเป็นคนชอบออกลายมาก อย่าให้ผมพูดต่อไปอีกเลยครับ

FC : คุณมีความประทับใจต่อเจ้าเหว่ยดีเป็นพิเศษใช่หรือไม่

โหย่วเผิง : ผมรุ้จักเจ้าเหว่ยมานานแล้ว จะพูดว่าอย่างไรพวกเราก็มีความรู้สึกชอบพอรักใคร่กันอยู่ส่วนหนึ่ง(รักชอบคล้ายพี่น้อง)  แต่ว่าผมกับเธอไม่เคยเจอหน้ากันมานานหลายปีแล้ว

FC : แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นโหย่วเผิงจริงๆ ในชีวิตของผมคุ้นเคยกับช่วงเวลาเจ็ดโมงเช้าในแต่ละวันของคุณ ไม่มีอะไรดีเลิศเท่าคุณแล้ว คุณทราบบ้างไหน ไม่ว่าอะไรก็ตามผมเชื่อว่าเส้นทางวัยหนุ่มที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามา จะสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ มีทั้งหัวเราะและน้ำตา แต่ว่าคุณแล้วเป็นสิ่งที่ดีเลิศที่สุด

โหย่วเผิง : ดีแล้ว

FC : โหย่วเผิงฉันกับคุณอายุไล่เลี่ยกัน สมัยฉันเรียนหนังสือ วงเสี่ยวหุ่ยตุ้ยของพวกคุณกำลังโด่งดังมาก เวลานั้นฉันชอบคุณมาก เดี๋ยวนี้ฉันได้เป็นแม่คนแล้ว คุณก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดอยู่เลย เมื่อกล่าวถึงทางนี้แล้วคุณมีการวางแผนอะไรบ้างไหม

โหย่วเผิง : ไม่มีการวางแผนอะไรเลย ผมรู้สึกว่าคนวงการนักแสดงทั่วไปต่างก็มีการแต่งงานล่าช้ากันทุกคน ผมหวังว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ขอทำธุรกิจให้มากๆก่อน

พิธีกร : คุณได้เก็บเงินเยอะแล้วจะทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร

โหย่วเผิง : สามารถทำได้หลายเรื่องเช่นเรียนหนังสือต่อ ทำการท่องเที่ยว

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด

พิธีกร : ผมทราบว่าคุณไปศึกษาต่อที่ไต้หวันเป็นวิชาเฉพาะแผนกวิทยาศาสตร์ เป็นวิชาเฉพาะแขนงใด

โหย่วเผิง : ผมเรียนวิศวกรรมเครื่องกลครับ


พิธีกร : ถ้าในอนาคตคุณมีโอกาสไปศึกษาต่อคุณจะเรียนอะไร

โหย่วเผิง : ผมจะไปเรียนการท่องเที่ยว ต้องการเรียนภาษาอังกฤษเก่งๆ ถึงจะพูดอย่างไรผมหวังว่าตัวเองก็ยังเป็นบุคคลหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิง

พิธีกร : เป็นไปได้ เพียงแต่ปัญหาของคุณตามมาได้หรือไม่ ที่เป็นปัญหาก็คือจะเป็นผู้นำทุกคนได้อย่างไร

FC : ผมเป็นแฟนเพลงเมืองนานกิง(หนานจิง) ที่นี่ได้ฉายหนังของคุณที่แสดงเรื่องกระบี่อิงฟ้าดาบมังกรหยก(อี่เทียนถูหลงจี้) หรือมังกรหยกภาค 2 พวกเรารู้สึกว่าคุณแสดงใช้ได้ แล้วคุณว่าตัวคุณเองแสดงอย่างไรบ้าง

ซูโหย่วเผิง : แน่ละต้องยอมรับว่ามีส่วนการแสดงไม่ดีบ้าง อีกทั้งถ่ายเรื่องหนังที่มีชื่อเสียงนี้ทุกคนต่างโดนกดดันมากเป็นพิเศษ ส่วนฝ่ายนักลงทุนของเราก็ไม่ยอมสละทุนทรัพย์มาก หวังว่าสามารถได้รับคำยกย่อง ยอมรับ และทุกๆคนสามารถให้อภัยที่ขาดตกบกพร่องแก่พวกเราได้ ให้ดูจุดเด่นของพวกเราด้วย

FC : ผมเข้ามาในห้องนั่งคุยไม่ได้ ผมอยากทราบว่าในที่สุดคุณมาแล้วหรือยัง

โหย่วเผิง : ผมกำลังมาแล้ว

พิธีกร : คุณซูกาวทราบว่าโหย่วเผิงได้มาที่นี่ เขาแจ้งให้พวกเราทราบก่อนล่วงหน้าแล้ว นี่มันเป็นเครื่องบริการที่ทำให้พวกเราได้รับการกระแทกอย่างแรง

โหย่วเผิง : แฟนๆสามารถไปดูเว็บไซด์ส่วนตัวของผมได้ ที่อยู่ su you peng. com

FC : ผมกับคุณถึงแม้อายุจะห่างกันมาก แต่ว่าพวกเราได้ยินเพลงของวงเสี่ยวหุ่ยตุ่ยจนเติบใหญ่ ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมวงเสี่ยวหุ่ยตุ่ยจึงได้แยกวง ผมขอตั้งความหวังว่าพวกคุณจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง

โหย่วเผิง : วงเสี่ยวหุ่ยตุ่ยไม่ได้แยกวงอย่างเป็นทางการ เริ่มแรกเพราะ "จื้อเผิง" ไปเกณฑ์ทหาร พวกเราจึงรวบรวมเฉพาะคนเดียวบินเดี่ยว เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้แยกวงอย่างเป็นทางการ แต่พวกเราก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่ อย่าห่วงมากไปเลยครับ

พิธีกร : ขณะนั้นพวกคุณทั้งสามคนกำลังโด่งดัง "จื้อเผิง" ก็ไปเกณฑ์ทหารแล้ว หลังจากสองปีต่อมาเกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น ธุรกิจของ "ฉีหลง" นับวันมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น "จื้อผิง" รู้สึกย่ำแย่ลงบ้าง คุณรู้สึกนี่คือเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารของเขาใช่หรือไม่

โหย่วเผิง : อันนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ภายหลัง "ฉีหลง" ก็ถูกไปเกณฑ์ทหาร ระหว่างการเกณฑ์ทหารสองปีของเขานั้น พูดขึ้นมาแล้ววงการแสดงมีท่าทีต่อการทำงานของพวกเรายังรู้สึกให้อภัยอยู่บ้าง หากหยุดกลางคันต้องมีการกระทบกระเทือนอย่างแน่นอน

พิธกร : ผมได้ยินนักแสดงหญิงหลายคนชมว่าคุณช่างมีเสน่ห์ชวนให้คนหลงไหลบ่อยๆ

FC : โหย่วเผิงช่างดีอกดีใจกับคุณเป็นแขกค้นหาอินเตอร์เนตตามลำพัง ฉันอยากทราบว่าธุรกิจของคุณมีช่วงเวลาตกต่ำหรือไม่ ณ เวลานั้นคุณจะผ่านพ้นชีวิตได้อย่างไร

โหย่วเผิง : มี ตกต่ำมากที่สุดก็คือหลังจากจบการศึกษามหาวิทยาลัยปีที่ 3 เนื่องจากสิ่งที่เรียนมาไม่ใช่ตัวเองชอบ เวลานั้นคิดว่าอยากเปลี่ยนแขนงวิชาอื่นก็ไม่สำเร็จ และคิดอยากไปจากโรงเรียนอย่างเดียว ไม่คิดอยากเป็นบุคคลที่คาดหวังของทุกคุน หลังจากนั้นผมจึงตัดสินใจหยุดเรียน อย่าทำอย่างนี้อีก ไม่มีวิธีอื่นทำได้แล้ว เวลานั้นก็เริ่มลองไปเป็นนักแสดง ผมรู้สึกว่าช่วงเวลานั้นคือธุรกิจตกต่ำที่สุดของผม เพิ่งออกจากโรงเรียนมาก็ไม่มีอะไรเก่งสักอย่าง เป็นเหมือนหุ่นเชิดผมรู้สึกว่าไม่มีอารมณ์ที่สดใส เพราะฉะนั้นในเวลานั้นมีความลังเลใจต่ออนาคต

พิธีกร : ล่าสุดทำไมจึงผ่านพ้นไปได้

โหย่วเผิง : ผมรู้สึกว่ายังโชคดีหน่อย หนังเรื่องแรกก็เจอหนังเรื่ององค์หญิงกำมะลอ อีกอย่างตัวเองยังต้องขยันขันแข็งมากๆ ดูวิธีการแสดงของนักแสดงผู้อาวุโสหลังจากนั้นตัวเองก็ฝึกหัดตาม

FC : คุณมีวิธีใดมองดูเรื่องการแต่งกายเครื่องแบบทหารของ "จ้าวเว่ย" นี่คือสาเหตุการห่างเหินระหว่างพวกคุณใช่หรือไม่

โหย่วเผิง : ผมรู้สึกว่าคนเราก็ต้องมีเวลาเลือเล่อบ้าง ผมรู้สึกว่าขอเพียงรู้ว่าผิดก็สามารถแก้ไขได้ ทุกคนจำต้องมีการให้โอกาสของแต่ละคน

FC : อาศัยที่ผมทราบมา โหย่วเผิง ได้เป็นโสดมา 15 ปีแล้ว แต่ว่าก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดอยู่ คุณมีเคล็ดลับอะไรสามารถรักษาพลังวัยหนุ่มโสดไว้ได้

โหย่วเผิง : ผมไม่รู้สึกผมหนุ่มเป็นพิเศษ ไม่ว่าสภาพจิตใจหรือวิธีคิดก็ตาม แต่ว่าเป็นไปได้ผมดูจริงๆแล้วภาพที่จารึกอยู่ในสมองที่มีอายุน้อยกว่าหลายปีก่อนสร้างขึ้นมา ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนไม่มีอะไรที่น่ากลุ้มใจ ไม่ใช่เพราะเหตุเรื่องอะไรผมจึงผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น เพราะว่าเรื่องอะไรผมมองโลกในแง่ดี เมื่อนอนหลับทุกสิ่งทุกอย่างก็ลืมหมดแล้ว  เรื่องไหนปล่อยวางก็ต้องปล่อยวาง ผมรู้สึกว่าชีวิตบางครั้งอย่าไปยึดติดมากเกินไป หรือถือสาบางเรื่อง

FC : ตอนคุณอายุ 20 ปีผมได้บอกกับตัวเองว่าหลังจากผมโตขึ้นจะไปหาคุณ ถึงเวลานั้นไว่คุณจะชราลงหรือไม่ หรือยังโด่งดังอยู่ ผมอยากทราบว่าคนที่ผมชื่นชมอยู่นั้นจะเป็นบุคคลลักษณะอย่างไร หากผมไปหาคุณ คุณจะพบผมไหม

โหย่วเผิง : แน่นอนสามารถพบได้ครับ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
พิธีกร : คุณมีแฟนเพลงของคุณหรือยัง ซึ่งมีโอกาสเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว

โหย่วเผิง : ตัวต่อตัวยังไม่มี

FC : ผมชอบคุณมากที่บทละครของคุณได้แต่งตัวในละครซีรีย์เรื่ององค์หญิงกำมะลอ(หวนจูเก๋อๆ) กับนายอำเภอยผู้ไร้เทียมทาน (นายอำเภอถานเทียนเซิง) ผมอยากทราบว่าคุณยังหวังว่าตัวเองแต่งตัวบทละครที่เป็นบทอารมณ์พวกนั้นไหม

โหย่วเผิง : ที่จริงพื้นฐานของผมไม่มีการตั้งค่ากำหนดอะไร แต่ว่าผมกับนักแสดงทั้งหลายเช่นเดียวกันต้องไปสัมผัสชีวิตที่แตกต่างกัน จากด้านในผมชอบไปใกล้ชิดกับบทละครบทนั้น ผมรู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่สะใจมาก ส่วนด้านหนึ่งสามารถปรากฏพบอีกด้านหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยดั้งเดิมของคุณ อันดับที่สองแสดงบทคนอื่นซึ่งยังคงเล่นได้ดีมาก เพราะฉะนั้นผมหวังว่าการรับหนังหรือละครจะต้องเหมือนตัวผมที่มีด้านแตกต่างกลับกันบ้าง

FC : ทำไมถึงต้องไว้ผมยาวเนอ ผมรู้สึกว่าคุณไว้ผมสั้นจะเท่กว่า

โหย่วเผิง : ผมชอบไว้ผมยาวมาก ผมรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ชอบไว้ผมสั้น ผมรู้สึกว่าการไว้ผมยาวจะเปลี่ยนความรู้สึกที่ดีกว่า อันดับสองการไว้ผมยาวจะรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไว้ผมสั้นจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเป็นเด็กไม่ยอมโต ผมหวังว่าพวกเขาจะมองผมเป็นผู้ชายอายุ 30 ปี

พิธีกร :  คุณควรทราบว่ามีคนมากมายที่เหมือนผม ไม่มีวิธีที่จะให้คุณเกิดภาพที่จารึกอยู่ในสมองเป็นผู้ชายอายุ 30 ปี นี่มิใช่เป็นเรื่องเลว หากเป็นผู้หญิงย่อมดีใจจนแทบบ้า

FC : ผมคือแฟนเพลงเมืองเสิ่นหยาง ผมอยากเชิญคุณช่วยแนะนำหน่อยว่ามีแผนการมาเสิ่นหยานหรือไม่

โหย่วเผิง : พอดีมีแผนการไปเมืองเสิ่นหยาง ปลายเดือนมีนาคมที่เมืองเสิ่นหยางมีพิธีแจกรางวัลดนตรี เป็นไปได้ที่จะไปเข้าร่วม ปลายเดือนเมษายนเป็นไปได้จะมีกิจกรรมการแสดง

FC : ขอถามคุณ "เสี่ยวหุ่ยตุ้ย" ยังคงติดต่อไปมาหาสู่กันบ่อยไหม่

โหย่วเผิง : ปกติพวกเราไม่ค่อยเจอหน้ากัน มีแต่โทรคุยกัน เพื่อเข้าใจสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้าม

FC : ฉันเพิ่มจบการศึกษาได้ทำงานด้านออกแบบเครื่องแต่งกายชายหญิง ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสได้ออกแบบรูปลักษณะเพื่อคุณ คุณจะยอมไหม

โหย่วเผิง : ก่อนอื่นให้ติดผลิตภัณฑ์บางส่วนที่ เว็บไซด์ซูโหย่วเผิงของผม ผมขอดูก่อน

FC : โหย่วเผิงตัวคุณเองเห็นว่าช่วงเวลาไหนจึงจะสามารถออกจากวงการบันเทิงได้

โหย่วเผิง : จำเป็นก็ไม่ออกจากวงการทีเดียว นอกจากวันไหนทุกคนจะไม่ดูผมอีกแล้ว

FC : คุณชอบให้คนอื่นเรียกคุณว่า นักร้องชาย หรือ นักแสดงชาย ตามสายตาของคุณตำแหน่งไหนสำคัญกว่า

โหย่วเผิง : สองตำแหน่งสำคัญหมด

FC : ผมประพันธ์เพลงเพื่อคุณ ผมไม่ทราบว่าจะให้คุณได้อย่างไร ผมก็ไม่ทราบว่าคุณชอบทำนองเพลงอะไร

โหย่วเผิง : ส่งไปทางไปษณณีมายังบริษัท ที่อยู่คือบริษัท วัฒนธรรมเทียนจงปังกิ่งบ้านเลขที่ 1 ถนนอันติ้ง เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง

FC : ผมอยากจะทราบว่าแฟนเพลงได้เขียนจดหมายให้คุณ คุณเองได้อ่านดูจดหมายจริงๆใช่ไหม

โหย่วเผิง : ได้อ่าน

FC : ปกติคุณขึ้นหน้าอินเตอร์เนตหรือไม่ ใช่ QQ หรือไม่

โหย่วเผิง : ไม่ใช่ QQ แต่ว่าผมได้ไปขึ้นอยู่ที่ เว็บไซด์ส่วนตัวของผม Suyoupeng .com ของผมเกือบทุกวัน

FC : ผมอยากทราบว่าโหย่วเผิงชื่นชมนักร้องต่างประเทศมากที่สุดคือใคร

โหย่วเผิง : มาดอนนา

พิธีกร : ทำไมจึงเป็นเธอ

โหย่วเผิง : เพราะว่าเธอคือคนรักคนแรกของผม เธอคือผมที่ได้สัมผัสคนแรกที่เป็นนักร้องบนเวทีฝรั่ง ตอนนั้นชอบเธอมาก จนถึงทุกวันนี้ ผมรู้สึกว่ามาตรฐานหุ่นของเธอยิ่งสูงเด่ง ทุกครั้งเธอไม่ได้ทำให้ผมผิดหวัง บทประพันธ์ของเธอทุกครั้งดีเยี่ยม

พิธีกร : มาดอนน่า เพิ่งประพันธ์บททำนองเพลงต่อต้านสงครามหนึ่งเพลง เธอถือหลักสภาพต่อต้านสงคราม ยังงั้นคุณละ

โหย่วเผิง : ผมรู้สึกว่าสงครามคือสิ่งที่ไม่ดีใช้วิธีแก้ปัญหาอย่าง ผมรู้สึกว่านั่นคือนโยบายแย่ๆ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด

FC : ได้ข่าวว่าคุณนับถือศาสนา พุทธ จริงไหม

โหย่วเผิง : ผมนับถือศาสนาพุทธครับ

พิธีกร : บวชพระแล้วใช่ว่าจะต้องทานอาหารเจตลอดชีวิตหรือห้ามแต่งงานถูกต้องไหม

โหย่วเผิง : ผมรู้สึกว่าผมได้ทำกุศลอยู่บ่อยๆ

FC : สักวันหนึ่งหากคุณมีลูกขึ้นมาคุณหวังว่ามีลูกกี่คน ผู้ชายหรือผู้หญิง

โหย่วเผิง : ยังไม่เคยคิดเลย ไม่ใช่ผมคิดอยากมีลูกเต็มที

FC : มีหลายคนที่ชอบคุณมาก ชอบทำนองเพลงของคุณ รูปลักษณะภายนอก การแสดงหนังของคุณด้วย เป็นต้น ถ้าเช่นนั้นตัวคุณเองชอบอะไรเกี่ยวกับตัวของคุณ

โหย่วเผิง : พูดถึงเรื่องโดยรวมยังไม่เลว ผมรู้สึกว่าผมยังมองโลกแง่ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามไม่ไปถือสามากอย่างจริงจัง ผมรู้สึกเสมอว่าทัศนะสิ่งนี้ของผมจำต้องไปแบ่งความสุขแก่คนทั้งหลาย เพื่อให้ทุกคนอย่าไปถือสาเรื่องไม่เป็นเรื่องต่างๆ อันมากมาย ผมรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มันน่าเกลียดมาก ผมไม่ชอบเรื่องเหล่านี้เลย

พิธีกร : คุณจำต้องเอาด้านหนึ่งไปโชว์แสดงให้แก่บุคคลอื่นเยอะๆ รวมทั้งคุณให้บริจาคแก่คนพิการ ด้วยเป็นต้น

โหย่วเผิง : เว็บไซด์ของผมเผยแพร่ศาสนาอยู่เสมอ ทุกคนที่นี่สามารถมารับการอมรมเรื่องศาสนา

FC : อยากให้คุณเปรียบเทียบความแตกต่างของแฟนเพลงระหว่างฮ่องกง และไต้หวันหน่อย คุณชอบแฟนเพลงลักษณะแบบไหนที่สุด

โหย่วเผิง : ผมชอบแฟนเพลงเหมือนเป็นสหายเดียวกัน ผมรู้สึกว่าสถานที่แห่งไหนแตกต่างกันเกินไป เช่นที่ไต้หวันมีแฟนเพลงเยอะแยะเพราะรู้จักกันมาหลายปีแล้ว ทุกคนต่างก็คุ้นเคยกันมากกว่า อีกทั้งเพราะรู้จักกันมานานพวกเขาต่างเข้าใจอารมณ์ของผม หน้าดำเมื่อไรก็พูดคุยกับผม เมื่อไรต้องการพวกเขาทำอะไร ผมรู้สึกทุกคนต่างสนิทสนมกันแบบเงียบๆมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน

ผมอยู่ทางฮ่องกงมีวัฒนธรรมด้านมาตรฐานสูงกว่าผู้เป็นแม่หน่อน นั่นเป็นเพราะเกี่ยวกับหนังละครผมมีแม่หลายคนคุณแม่เหล่านี้ก็มีความแตกต่างกัน ผมมีความเครารพพวกเธอมาก และผมเป็นบุคคลหนึ่งให้ความสำคัญแก่เรื่องจริยธรรม ผมรู้สึกพวกเธอนั้นมีอายุมากกว่าผม พวกเธอสามารถให้ข้อวิจารณ์แบบกลางๆอยู่บ้าง พวกเธอให้ข้อแนะนำหลากหลายเป็นพิเศษ 

พวกเธอรู้ว่าพวกเรานักแสดงต้องการการสนับสนุนอะไร เพราะในท้องถิ่นเป็นแหล่งสถานที่กว้างใหญ่มาก แฟนๆ หลายคนก็หาวิธีไม่ออก ต้องอาศัยความคุ้นเคยอยู่เสมอจึงกลายเป็นมิตรสหาย โอกาสเจอหน้ากันน้อยมาก เพราะฉะนั้นทุกคนเมื่อพบหน้ากันจะรู้สึกปลุกเร้าใจและเร่าร้อนใจมาก

ผมรู้สึกว่าแฟนๆหลายคนต่างก็เคยผ่านมาทาง เว็บไซด์ ของผม จึงรู้จักกับตัวผม ดูๆ คำพูดของผมบ่อยๆจึงรู้จักวิธีคิดของผม เช่นนี้ทุกคนจึงรู้จักลึกซึ้งมากขึ้น


FC : ทราบว่าคุณชอบการท่องเที่ยว สถานที่แหล่งที่คุณเคยไปแห่งไหนซึ่งคุณชอบมากที่สุด

โหย่วเผิง : ผมชอบการท่องเที่ยวมาก แต่ว่าผมก็ไม่มีเวลาไป พูดถึงเรื่องชอบก็คือประเทศอเมริกา ประเทศอังกฤษก็ไม่เลว อยู่สถานที่เหล่านี้ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมีอิสระเสรี ไปที่ไหนก็มีแต่คนจึนทั้งนั้น บางเวลาไปท่องเที่ยวมักจะเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติบ่อยๆ ไปอเมริกายุโรปสภาพแวดล้อมก็มีแต่อิสระเสรีทีเดียว

พิธีกร : ผมอยากทราบว่าคุณได้รับความสนใจกับทุกคนอย่างสนิทสนมมาหลายปีแล้ว นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายสักนิดเดียว ผมรู้สึกว่าคุณมีความอดทนดีเยี่ยม ไปที่ไหนทุกคนต่างก็รู้จักคุณ นี่คือเรื่องยุ่งยากมากเรื่องหนึ่ง

โหย่วเผิง : ผมมีโอกาสน้อยมากที่จะไปสถานที่สาธารณะกับแฟนๆ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเขาคือส่วนหนึ่งชีวิตของผม

FC : ตามคำพูดคุณได้ออกพิมพ์หนังสือเล่มใหม่ (ซิงซุนเตอฉางสั่ว ปี 2003) คุณสามารถแนะนำหน่อยได้ไหมเมื่อไรสามารถให้พวกเราดูบ้าง

โหย่วเผิง : ความจริงไม่ใช่หนังสือเล่มใหม่ ตอนผมอยู่ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4- ม.6) ได้เป็นสมาชิกวงเสี่ยวหู่ตุ้ย เวลานั้นถูกกดดันมาก ผมเขียนหนังสือเล่มหนึ่งได้บันทึกการมีชีวิตตอนอยู่มัธยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6)  ถึงการเผชิญหน้าต่อแรงกดดันอย่างไร หนังสือเล่นนี้ตั้งชื่อว่า "บอกกล่าวใจความอันยาวตอนวัยหนุ่ม" (หรือ สถานที่ของวัยรุ่น)   มีการเพิ่มเติมภาพถ่ายหลากหลาย หลังจากนั้นก็เขียนคำนำหนึ่งหน้า ที่จริงเนื้อความก็เหมือนกัน (วันเวลาของผมที่เจี้ยนจง : MY DAYS IN JIAN ZHONG)

FC : ผมหวังมาตลอดว่าคุณสามารถอยู่บนเส้นทางดนตรีมีการทำลายสถิติอีกครั้ง คุณเองมีการตัดสินใจทางด้านนี้หรือไม่

โหย่วเผิง : เป็นไปได้ครับ ระยะนี้ได้ติดสินใจจริงๆ รวบรวมผู้แต่งเพลงเฉพาะหนึ่งอัลบั้ม ผมรู้สึกเพลงรวบรวมเฉพาะก่อนช่วงหน้าสองอัลบั้มเป็นครั้งแรกบริษัทฯให้ตอนช่วงเวลาผมว่าง ผมคิดอยากทำดนตรีบริษัทจึงปล่อยให้ผมทำ เพราะฉะนั้นผมเองได้รีบเร่งนำเอาสิ่งที่ใจรักออกมาใช้ รวมทั้งโยกย้าง ทำนองเพลงเต้นอีเล็คตรอน ตอนนี้ผมรู้สึกเล่นจนเบื่อแล้ว แผ่นต่อไปอยากใช้วิธีคิดของตัวเองเข้าไปอัลบั้มเพลงบ้าง

FC : อยากทราบว่าคติพจน์ของคุณคืออะไร

โหย่วเผิง : ลิขิตสวรรค์เป็นคนดี ผมรู้สึกไม่ว่าเรื่องอะไรต้องพยายามไปแย่งชิงมา หลังจากนั้นก็ใช้สิทธิของตัวเองทำให้ดีที่สุด แต่ว่าเรื่องสมหวังผิดหวังอย่าได้เอามาใส่ใจ

FC : ผมเคยไปตีกอล์ฟพร้อมกับคุณที่เมืองเจี้ยนจง และเมืองไถต้า คุณยังจำพวกผมได้ไหม

โหย่วเผิง : พวกเราต่างก็มีอายุที่ไล่เลี่ยกัน

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด

FC: ฉันอยากทราบว่าปกติเวลา คุณว่างจากการแสดง คุณชอบอะไร

โหย่วเผิง: แต่ละวันก็มีงานทำ  อย่างน้อยกลับมาถึงบ้านต้องเปิดอินเตอร์เน็ต เหมือนเมื่อกี้นี้ที่พูดถึงผมจะเปิดไปที่เว็บไวด์ดูมีสิ่งใหม่ๆอะไรบ้าง ด้านบน เว็บมีแฟนคลับแต่ละแห่งทั่วโลก ระยะนี้ผมไปที่ไต้หวันประชาสัมพันธ์ FC ไต้หวันชอบถ่ายรูปมากๆ หลังจากนั้นนำเอาเหตุการณ์สภาพสดๆไว้บนเว็บไซด์ ตัวผมเองรู้สึกอบอุ่นสนุกมาก นอกจากเปิดเว็บไซด์แล้ว ผมและบรรดาเพื่อนๆก็ไปดื่มน้ำชาพร้อมกัน คุยเล่นบ้าง ร้องเพลงบ้าง

พิธีกร:  คุณรู้สึกแฟนเพลงของคุณติดตามรูปลักษณ์เด่นกับตัวคุณเอง เป็นคนละเรื่องกันบ้างไหม

โหย่วเผิง: ที่จริงมองดูพวกเขาติดตามรูปลักษณ์สวยเด่นส่วนไหน หากรู้สึกซูโหย่วเผิงในส่วนนี้สามารถช่วยคุณได้ ผมยินดีอย่างยิ่งยวดแบ่งปันใจให้ ผ่านหน้าจอโทรทัศน์อย่างบริสุทธิ์สดใสในการแสดงบทละครบางบทของผม คุณอยากเข้าใจซูโหย่วเผิงผมรู้สึกว่านั่นเป็นไปไม่ได้ อันดับแรกผมมีแต่แต่งกายแสดงบทบุคคลอื่น อันดับสองเพียงแต่เขาคืออุปนิสัยส่วนในอีกด้านหนึ่งคือตัวผม ผมคิดว่าไม่มีวิธีไหนจะเข้าใจซูโหย่วเผิงได้ทีเดียว

FC: ผมใกล้จะผ่านการสอบชั้น ม.ปลาย สามารถได้ยินคุณส่งเสริมบ้างไหมหนอ หากมีคุณส่งเสริมผมก็สามารถสอบได้ที่หนึ่งอย่างแน่นอน

โหย่วเผิง: ขอสนับสนุนส่งเสริมคุณ หวังว่าคุณสอบได้ที่หนึ่ง

FC: โหย่วเผิงเห็นว่าตัวเองนอกจากสามารถเป็นนักแสดงแล้วยังสามารถเป็นอะไรอีก

โหย่วเผิง: ถามอย่างไม่มีที่จะยืน เปิดร้านค้าที่มีรสชาติเล็กๆหนึ่งร้าน ชงกาแฟทุกวันให้ลูกค้าดื่มนับว่าไม่เลว

FC: โหย่วเผิงมีส่วนคล้าย F4 ของคนรุ่นใหม่ แบบนี้รวมกันจัดตั้งขึ้นคุณช่วยวิจารณ์คุณค่าของพวกนี้มีอะไรบ้าง

โหย่วเผิง: ผมรู้สึกว่าผมคือบุคคลที่ผ่านมาแล้ว ที่จริงเวทีร้องเพลงตอนนี้ยังมีตัวแทนนักร้องใหม่ๆอยู่บ้าง มีคนหนุ่มสาวทันสมัยมากมาย  มาเป็นตัวแทนยุคนี้ในวิธีคิดบางอย่างของพวกเขา  พวกเขาได้นำเอาแบบอย่างการแสดงไว้ในเพลงของพวกเขาหรือบนเวทีการแสดง ตัวแทนคนหนุ่มสาวเป็นเรื่องสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ให้ผมพูดผมรู้สึกได้ผ่านขั้นตอนอันนี้มาแล้ว  ผมรู้สึกว่าคนหนุ่มสาวไม่ว่าทำอะไรก็สามารถให้อภัยได้  ผมรู้สึกว่าวัยหนุ่มสาวก็เป็นเช่นนี้ ให้สังคมนี้เพิ่มความกระตุ้นบ้าง


FC: ตอนนี้คนใหม่ๆที่มีระเบิดไฟหลากหลายปรากฎ พวกเขาจะทำให้คุณเกิดขึ้นต่อความรู้สึกอันตรายบางอย่างใช่หรือไม่

ซูโหย่วเผิง:  ผมรู้สึกสภาพจิตใจของทุกคนไม่เหมือนกัน ผมรู้สึกภายในวงการบันเทิงเรื่องที่ควรทำยังมีให้ความรู้สึกแก่คนที่ไม่เหมือนกัน ผมควรทำสิ่งที่ตัวเองให้ดี

พิธีกร:  สมมติในปีนั้นบุคคลที่มีชื่อเสียงพร้อมคุณก็มีมากทีเดียว เหมือนหลายปีมานี้ทุกคนต่างรักลำเอียงต่อคุณมากเป็นพิเศษ และก็มิใช่หลายปีมานี้เพียงแต่ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาของวงเสี่ยวหุ่ยตุ้ย ทุกคนต่างมีความลำเอียงต่อเขามากขึ้น

โหย่วเผิง: ผมรู้สึกว่าผมโชคดีหน่อย วงเสี่ยวหู่ตุ่ยทุกคนต่างเติบโตขึ้นมา 10 ปี ผมรู้สึกว่าผมมีความโชคดีมากผมได้พบเจอละครองค์หญิงกำมะลอ (หวนจูเก๋อๆ) อีก

FC: ผมอยากทราบว่าคุณชอบเครื่องดนตรีอะไร

โหย่วเผิง: ตอนเด็กผมเคยเรียนพิณอีเล็คตรอน(กีต้าไฟฟ้า) หลายปี แต่ว่าต่อมาได้เรียนชั้นมัธยมก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่ว่าอย่างไร ผมรู้สึกว่าเมื่อก่อนผมเก่งจริงๆ ฟังเพลงครั้งเดียวก็สามารถดีได้ทันที ตอนนี้ไม่ได้แล้ว

FC: โหย่วเผิงคุณเป็นชาวไต้หวัน คุณจะปฏิบัติอย่างไรต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่

โหย่วเผิง: ผมรู้สึกเรื่องเล็กน้อยนี้บางครั้งไม่มีปัญญาไปกล่าวถึงจริงๆ ผมรู้สึกว่าทุกคนก็เป็นสายเลือดเดียวกัน ผมรู้สึกของบางอย่างไม่สะดวกพูด ผมหวังว่าจะลงเอยได้ดีจริงๆ ผมรู้สึกว่าทั้งสองฝั่งต่างไปมาหาสู่กันหลายปีแล้ว  ไม่ว่าความรักใคร่ต่อกันหรือความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ ผมหวังว่าทุกคนต่างต่อใจในผลลัพธ์ที่ออกมา

พิธีกร: โหย่วเผิงไปแสดงที่จีนบ่อยๆ รวมทั้งนั่งที่นี่พร้อมกับแฟนๆทางอินเตอร์เนตทุกท่านได้แลกเปลี่ยนความคิดกันในวันนี้ การกระทำของเขาได้ชนะทุกสิ่งแล้ว

FC: เชิญแนะนำหน่อยปี 2003 งานสำคัญของคุณคืออะไร

โหย่วเผิง: ปีนี้เดือนกันยายนอายุของผมครบ 30 ปี และก็ออกมาทำงานได้ 15 ปีแล้ว  หวังว่าได้มีกิจกรรมครั้งใหญ่ ถึงตอนนั้นยังจะออกอัลบั้มเพลงใหม่รวบรวมเฉพาะกิจ มาพูดแผนการระยะสั้นผมได้สรุปการเผยแพร่อัลบั้มครั้งนี้ ผมจะถ่ายละครหนังยุคโบราณ

พิธีกร: คนจีนโบราณพูดไว้ว่าอายุ 30 ปีตั้งตัวได้ ไม่ใช่คนทั่วไปที่ฉลองวันเกิดอายุ 30 ปี แล้วคุณเตรียมการฉลองวันเกิดอย่างไร

โหย่วเผิง: ผมไม่เคยคิดว่าตัวคนเดียวฉลองวันเกิด

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด


FC: ผมอยากทราบว่าคุณชอบชนบทของเมืองไหนมากกว่า

โหย่วเผิง : พูดความเป็นจริงเมืองหลายแห่งไม่มีปัญญาที่จะไปรับรองบ่อยๆ โดยทั่วไปเวลาไปแสดงก็คือสองสามวันยากที่จะเข้าใจเมืองหนึ่งอย่างถ่องแท้ ผมชอบบรรยากาศอิสระของกรุงปักกิ่ง ผมรู้สึกอยู่ปักกิ่งช่วงตอนเย็นหิวก็ออกไปซื้อของกิน ยังไม่เคยได้ยินอดจนตายก็ยังหาซื้อของกินไม่ได้

FC: เคยไตร่ตรองอนาคตบ้างไหมว่าตัวเองอยากจะเป็นผู้กำกับ

โหย่วเผิง: ตอนนี้ไม่มีใจชอบด้านนี้ ผมรู้สึกว่าเป็นนักแสดงยังแสดงไม่ดี เวลานี้ผมไม่มีใจมักใหญ่ใฝ่สูง

FC: ตามที่คุณพูดมาเคยไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษช่วยแนะนำหน่อย

โหย่วเผิง: ไม่ใช่ไปศึกษาต่อที่เมืองนอกแต่ไปเรียนการท่องเที่ยว ตอนนั้นผมเพิ่งหยุดการเรียนหลังจากได้เรียนจบจึงถูกกดดันอย่างมาก อารมณ์ช่วงนั้นตกต่ำมาก เพราะไปประเทศอังกฤษพักอยู่หลายเดือน ด้านหนึ่งเรียนภาษา ส่วนอีกด้านหนึ่งโดดออกไปสู่ช่องว่างจุดเดิมเพื่อไปตรึกตรองอีกที ในช่วงเวลานั้นยังเป็นเอกเทศมากกว่า เป็นครั้งแรกผมไปสถานที่ที่ไม่มีผู้คนรู้จักทีเดียว ตอนนั้นได้ไตร่ตรองเรื่องราวที่เป็นทรรศนะแขกอยู่บ้าง กล่าวโดยสรุปนั่นคือโอกาสการท่องเที่ยวช่วยตัวเองอันหนึ่ง

พิธีกร: ทันทีไปสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักมีอารมณ์หล่นหายหรือไม่

โหย่วเผิง : ไม่เป็น ตอนนั้นผมเพิ่งหยุดเรียน ช่วงนั้นถูกกดดันมาก ทันทีได้ไปสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักช่างเบิกบานใจมาก

FC: โหย่วเผิงบอกแบบจริงใจแก่พวกเราว่าปีนี้วันวาเลนไทร์คุณจะฉลองอย่างไร

โหย่วเผิง : วันนั้นผมไปที่ไต้หวันประกาศโฆษณา อยู่ในร้านเหล้าบาร์จองที่นั่งชั้นบ๊อกนัดเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ฉลองดื่มด้วยกัน

FC: ในการดำรงชีพของคุณคนที่แสนรักคือใคร

โหย่วเผิง: ตัวผมเองครับ

FC: ต่อไปดนตรีของคุณจะปรากฎตัวเองประพันธ์กลอน ทำนองเพลงไหม

โหย่วเผิง : ถ้าอย่างงั้นทุกคนอยากเห็นผมแสดงหน้าแตก ผมก็ขอเพียรพยายามสุดกำลัง

FC: ระยะนี้มีการตัดสินใจเปิดชมรมการแสดงร้องเพลงหรือไม่

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
โหย่วเผิง: อยู่ในแผนการ คงมีในปีนี้

FC: คุณเข้าวงการบันเทิงมานานแล้วช่วยบอกพวกเราว่าสิ่งที่ทำให้คุณลืมเรื่องราวที่ยากเย็นคืออะไร

โหย่วเผิง: มีมาก ตั้งแต่ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็รู้สึกว่าฟ้าจะถล่มลงมาแล้ว เวลาเพิ่งสอบเข้าก็ได้ตระเวนออกงานแสดง จึงได้ออกอัลบั้มรวมโดยเฉพาะตั้งชื่อว่า "อ้าย-รัก" ต่อมาเวลาอยู่ในมหาวิทยาลัยปี 3 ก็หยุดเรียนอีก เดี๋ยวเดียวเรื่องวงการบันเทิงมากมายมาเป็นแรงกดดัน หลังจากนั้นเริ่มมีการถ่ายหนัง ต่อมางานแสดงก็วูบลง

FC: ฉันอยากทราบว่าเหลือเกินว่าคุณชอบทานขนมอะไร ฉันหวังว่าถ้ามีโอกาสจะซื้อขนมมาฝาก

โหย่วเผิง: ผมรู้สึกว่ากรุงปักกิ่งของกินเยอะแยะ ผมชอบทานเนื้อแพะทางเหนือเป็นพิเศษ ผมไม่กล้าทานเผ็ด ผมทานเผ็ดแล้วท้องเสีย ผมชอบทานดอกไม้พริก ทานแล้วรู้สึกชาๆดี

โหย่วเผิง: ผมอยากพูดกับคนในเว็บไซด์ของผมว่า Hai(สวัสดี) พวกเขาขอรวมเป็นกลุ่มขบวนขึ้นมาที่นี่

FC: คุณจะยืนยันว่าคุณค้นหาเพียงคนเดียวได้อย่างไร

โหย่วเผิง: ถ่ายรูปสองใบไว้ในอินเตอร์เน็ต

FC: คืนนี้ความประทับใจค้นหาตัวคนเดียวจะเป็นอย่างไรบ้าง ความประทับใจเกี่ยวกับหมาป่าเผือกนั้นเป็นอย่างไร และความประทับใจแฟนๆทางอินเตอร์เน็ตของพวกเราเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง

โหย่วเผิง: ผมรู้สึกว่าค้นหาคนเดียวเก่งมาก มันสามารถอัดใส่ได้แปดพันคน ความประทับใจอันนี้รู้สึกลึกซึ้งมาก สักวันหนึ่งหวังว่า เว็บไซด์ในได้ร่วมมือกับผู้ค้นหาแบบคนเดียว โยกย้ายผู้ค้นหาแบบคนเดียวไปข้างล่าง เกี่ยวกับผู้ดำเนินรายการของพวกเราผมรู้สึกสนิทสนมกันมาก พวกเรานั่งคุยเล่นอย่างนี้ช่างดีเหลือเกิน ผมไม่ชอบมากที่ทุกคนมีความห่างเหินกัน เช่นเดียวกับการทำงาน

พิธีกร: ดื่มรากไม้สีน้ำเงินของคุณ

โหย่วเผิง: ไม่เป็นไรยังมีอีก

โหย่วเผิง: ช่วงเวลาของทุกคนมีไม่มากแวบเดียวผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้สึกว่าทุกคนต่างมีความเร่งรีบมาก

พิธีกร: ขอบคุณการแลกเปลี่ยนทัศนะแบบญาติสนิทกับทุกคนและแฟนๆทางอินเตอร์เนต