ผู้เขียน หัวข้อ: 2010 Men's Uno  (อ่าน 9793 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
2010 Men's Uno
« เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 07:17:47 AM »
บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จาก นิตยสาร Men's Uno พฤษภาคม 2010

http://tieba.baidu.com/f?kz=764803729
http://tieba.baidu.com/f?kz=766074047
http://hi.baidu.com/alecsulingling/album/Alecsu


7 พฤษภาคม 2010  โหย่วเผิงยังมีฝันอีกมากมายที่จะไปไขว่คว้า


ก่อนที่จะไปสัมภาษณ์โหย่วเผิงนั้น จิตใจไม่นิ่งเลย เพราะคิดถึงตอนที่จะเผชิญกับหน้าเขา เสมือนได้เผชิญกับวัยหนุ่มสาวของตัวเอง ความทรงจำก็จะหวนกลับไปถึงสมัยปี 80 90 (ปีของไต้หวัน ปัจจุบัน 99) สมัยนั้นยังอยู่ในวัยรุ่น ไร้ความเครียดความกังวน และหลายปีที่ผ่านมานี้ สำหรับหลายคนแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย และสำหรับโหย่วเผิงแล้ว วันเวลาได้พริกผันชีวิตของไปไม่น้อย

เหตุเพราะซื่อใส จึงกลายเป็นความคลากสิก

เมื่อเอ่ยถึงเสี่ยวหู่ตุ้ย โหย่วเผิงที่นั่งในกองถ่ายได้ถอนหายใจ บริษัทที่ได้ปั้นพวกเขาขึ้นมานั้นเป็นบริษัทมืออาชีพมากๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของเสี่ยวหู่ตุ้ย จะตอนเริ่มต้น หรือตอนต่างคนต่างบิน หรือแม้แต่การมารวมตัวใหม่และเพลงต่างๆที่ได้ร้องก็ล้วนได้สานสร้างความผูกพันระหว่างพวกเขากับแฟนๆอย่างลึกซึ้ง และด้วยเหตุนี้เอง คนในปี 70 80  ต่างก็ล้วนได้ร้องเพลงและจดจำเพลงของพวกเขาได้อย่างไม่ลืม แล้วเมื่อมาจนถึงวันนี้ ถึงจะเริ่มมาใคร่ครวญความหมายของเนื้อเพลงและเข้าใจว่ากำลังสื่ออะไร จึงทำให้รู้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วตอนนั้นพวกเขาร้องเพลงเหล่านี้นั้นได้สื่อไรบ้าง

ฉะนั้น ก่อนที่จะมีการวางแผนเชิญพวกเขาสามคนมารวมตัวกันในคือตรุษจีนนั้น ทางทีมงานก็ได้ไปทำการบ้านโดยการเอาเพลงของพวกเขามาเปิดฟัง ทำให้หลายคนกลั้นน้ำไม่ไม่อยู่ และมาถึงคืนวันงาน ก็ยิ่งมีบรรยากาศอย่างนั้นหลายเท่า

“ตอนนั้น พวกเราต่างก็มีหลักการของตัวเอง มีเงินมากมายสามารถไปหาได้แต่ก็ไม่ทำ ตอนนั้นอยู่ที่ไต้หวัน จริงๆแล้วแฟชั่นมากๆคือการแต่งตัวขึ้นเวที ทั้งนักร้องศิลปินต่างก็ล้วนใส่ชุดของตัวเองแวววาวจนแสบตามาก ช่วงที่ดังมากๆคือตอนอยู่ภาคกลางและใต้ แค่ศิลปินคนเดียวคือเดียวสามารถออกหลายๆรายการ ได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลย แต่ว่าเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นไม่ได้ไปทำในลักษณะอย่างนี้เลย ทางบริษัทนั้นอยากจะให้เรารักษาภาพลักษณ์ที่ดีไว้ เสี่ยวหู่ตุ้ยเลยกลายเป็นอย่างนี้คือ ร้องเพลงจะดังมากๆ ต่อมาก็แยกทางกันไป ไม่เคยมีประสบการณ์ที่ตกต่ำ ด้วยเหตุนี้เอง สงสัยทำให้เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นคลาสสิก


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Men's Uno
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 07:21:09 AM »


ความดื้นที่ซ่อนอยู่ของไกวๆหู่


ในกองถ่าย ในที่สุดโหย่วเผิงก็ได้เข้าฉากจนเรียบร้อย พนักงานก็กำลังเก็บข้าวของ เขาเองก็ได้นั่งบนโซฟาอย่างสบายๆ แล้วได้พูดคุยเรื่องอดีตกับพวกเราด้วยกัน “ผมคิดว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเราทุกคนต่างก็มีความดื้ออยู่ มันอาจมากน้อยต่างกันไป สำหรับอาชีพอย่างเราแล้ว การไปสร้างฟ้าใหม่ก็ดีกว่าการไปติดตามผู้อื่น ก็คือหลุดพ้นจากเรื่องเก่าๆ นี่เป็นความคิดของผม นักแสดงทุกคนล้วนอยากจะมีเอกลักษณ์ในบทบาทของตัวเอง ก็หมือนกับไป๋เสี่ยวเหนียนในเรื่องเฟิงเซิง สามารถที่จะเซอร์ไพรส์ทุกคนได้ ทั้งยังได้รับการยอมรับจากทุกคนด้วย ผมคิดว่านั่นเป็นความฝันที่สูงสุดของผม นี่มันก็ต้องพึ่งวาสนาบ้าง บวกกับความขยันของตัวเองด้วย”

“ไม่มีใครเกิดมาก็เป็นนักแสดงมืออาชีพเลย หลายสิ่งหลายอย่างนั้นจำต้องไปเรียนรู้ หลายๆครั้งผมเองก็รู้สึกไม่มั่นใจเหมือนกัน มันเหมือนกับนั่งอยู่ในความว่างเปล่าแล้วจับต้นชนปลายไม่ถูก หลายปีมานี้ ผมได้พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปกติก็จะทำการบ้านบ้าง ดูนิตยาสารบ้าง ก็จะมีไอเดียใหม่ๆผุขึ้นมา ก็จะค่อยๆเรียนรู้ว่า ควรจะมีท่าทีในใจแบบไหนถึงสามารถที่จะอยู่และใช้ชีวิตรอดได้ แล้วแต่งตัวแบบไหนถึงจะโอเค การสังเกตเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การทันสมัยนั้นจำเป็นต้องค่อยๆก้าวไป ขณะที่ถ่ายรูปนั้นตัวเองก็ยังรู้สึกเหมือนมีกำแพง เหมือนกับได้กั้นโลกรอบข้างไว้ มีเพียงผมกับกล้อง เหมือนกับตอนนี้ จนงานทุกอย่างเสร็จแล้วอารมณ์ผมถึงจะเปลี่ยนมาพูดคุยกับคุณได้”

“เรื่องแฟชั่นนั้นเป็นอะไรที่สนุก มันมีเสน่ห์ของมัน หากเสื้อตัวเดียวกัน แต่คนใส่ไม่เหมือนกัน มันก็จะมีเสน่ห์ที่ออกมาไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นคนคนเดียวใส่ หากวันนี้กับพรุ่งนี้มาเทียบกันแล้วก็จะไม่เหมือนกันด้วย ชอบกับการไม่เหมือนกับนี้มาก

จริงๆแล้ว ทุกคนที่ชอบแฟชั่น ก็คงจะเข้าใจถึงความหมายของโหย่วเผิง คนเรานั้นกลัวสิ่งเดิมๆ เลยต้องตามแฟชั่น และสำหรับโหย่วเผิงแล้ว นอกจากเสื้อผ้า ภาพบนตร์ เขาเองก็ยังมีการสร้างอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Men's Uno
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 07:29:08 AM »


เกี่ยวกับ somebodyและnobody

ขอเพียงแสงไฟยังส่องและไฟยังกระพริบอยู่ สีหน้าของโหย่วเผิงนั้นดูออกเลยว่าไม่มีความอ่อนเพลียเลย ทั้งคนที่อยู่ในงานก็รู้ดี หลังจากคืนตรุษจีนแล้ว เขาไม่หยุดที่จะมีงานเลย วันหนึ่งเขานอนไม่กี่ชั่วโมงเอง

ฉะนั้น บางครั้งเขาก็คิดจะหนี “ ช่วงนี้ผมมักจะหวนคิดอดีต คิดถึงเมื่อก่อนที่ไร้ความทุกข์โศก คิดถึงชีวิตช่วงนั้นมากๆ และช่วงนี้ผมมักจะพูดกับทีมงานเสมอว่า อยากจะเป็นเด็กๆอย่างสมัยนั้นมากๆเลย ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ พวกเรายิ่งนานวันก็ยิ่งแป็นผู้ใหญ่ ต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ พวกเรามีเรื่องอีกมากมายที่จะต้องทำ”

“แท้จริงแล้ว ผมยุ่งจนแค่เหลือเวลาฟังเพลงเท่านั้นเองแล้ว และนานๆครั้งที่จะมีเวลาว่างเล่นเกมในไอโฟน เล่นเกมเหล่านั้นเพื่อพักผ่อน ก็สนุกเหมือนกัน และสำหรับการเล่นเน็ตนั้น นอกจากจะดูข่าวแล้ว แทบจะไม่ได้ไปทำอะไรเลย และเวลาส่วนมากก็จะใช้กับการติดต่องานในบริษัท คงจะบอกว่ารักการเล่นเน็ตก็ไม่เชิง มีหลายสิ่งหลายอย่างนั้น เหตุเพราะพวกเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้ลืมสิ่งเหล่านั้นไปหมดแล้ว บางครั้งผมก็ไปฟิตเนส เพราะการออกกำลังกายอย่างนี้ช่วยทำให้ผมผ่อนคลาย มันทำให้ผมมีความสุข บางครั้งหากคุณไปออกกำลังกายบ้าง ก็จะรู้ว่ามันไม่เลวนะ”

นอกแสงไฟแล้ว โหย่วเผิงเองก็ก็งมีหลายอย่างที่ทำให้คลายเครียดได้ เขาจะพูดเรื่องตลกให้ฟัง และยังมีการบ่นอะไรเล็กน้อย บอกว่าโลกนี้หาความยุติธรรมไม่ได้ “และตัวเองก็ไม่ใช่สุเปอร์แมน หรือประธานธิบดี ฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่ยุติธรรมได้ สิ่งที่ทำได้ก็จะพยายามทำให้สุดกำลังเช่นงานการกุศล ผมเป็นคนที่แล้วแต่วาสนา และผมเองก็คิดว่าจะไม่หยุดอยู่ในวงการนี้ไปตลอดชาติ พูดตรงๆผมเองก็เข้าวงการมานานแล้ว มีเรื่องราวหลายอย่างที่เกิดกับชีวิตผม บางอย่างไม่ตั้งใจแต่กลับได้มา เช่นการดังในชั่วพริบตา เริ่มแรกอาจจะสนุกกับงาน เพราะคนเราก็ชอบเกียรติจอมปลอกกันอยู่แล้ว ตอนแรกเดินไปตามถนนไม่มีใครรู้จัก แต่พริบตาเดียวไม่มีใครไม่รู้จักเราเลย แต่ว่าเวลาผ่านไปสองสามปี สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถที่จะทำให้คุณมีความสุขต่อไปได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง คือจะมีความเครียดเรื่องการไม่มีความอิสระมาทับถมคุณ เป็นอะไรที่เหนื่อยมากและเบื่อมาก จนบางครั้งก็ระเบิดออกมา สิ่งดีงานนั้นแน่นอนมันไม่คงอยู่ตลอดไป คุณอยากจะรักษามันเอาไว้ ก็ได้แต่หยุดอยู่กับที่ตรงนั้น ผมคิดว่าผมจะพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและเป็นที่สวยงามของตัวเอง ในตอนนั้นผมก็จะบอกว่า byebye กว่าคริ่งชีวิตผมนั้นกำลังทำ somebody และเวลาที่ยังเหลืออยู่นั้นผมเองก็จะทำnobody”

โหย่วเผิงมีคุณสมบัติพอที่จะพูดคำนี้ เขาใช้เวลากว่าสิบปีที่เข้าสู่วงการในการทีจะสร้างความสำเร็จในการเป็นนักร้องเสี่ยวหู่ตุ้ย และต่อมา อีกสิบปีเขาก็ได้สร้างความสำเร็จในวงการละครทีวี เขาได้เดินออกจากเสี่ยวหู่ตุ้ย วันนี้ เป็นสิบที่สามของเขา เขาจะสร้างอะไรภาพบนตร์ หรือแฟชั่น เขาสามารถทำได้ทั้งสองทาง

เขามีความมั่นใจพอที่จะทำให้ดีกว่าอดีต ผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการทั้งประสบการณ์และปัญญา ถึงจะสู่ความสำเร็จ โหย่วเผิงในเวลานี้นั้น สามารถที่จะบอกว่าเป็นยุคทอง เหมาะมากๆ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Men's Uno
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 07:34:41 AM »


ช่วงสัมภาษณ์


Mu .หากว่าตอนนี้ทุกคนพูดถึงเสี่ยวหู่ตุ้ยต่อหน้าคุณ อะไรเป็นสิ่งแรกทีคุณคิด คุณคิดอย่างไร?

โหย่วเผิง . หวนอดีตนะ สำหรับผมแล้ว นั่นเป็นผม เป็นอดีตของผม

Mu .ใช้เนื้อเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยสักท่อนหนึ่งมาบรรยายถึงชีวิตคุณในวันนี้

โหย่วเผิง . ร้องรับเพลง หงชิงถิง “พวกเราล้วนโตกันแล้ว มีความฝันมากมายที่จะไปทำให้จริง เสมือนแมลงปอสีแดงที่พวกเราไล่จับในวัยเด็ก พวกเราล้วนโตแล้ว มีความฝันมากมายที่จะไปทำให้จริง เสมือนแมลงปอสีแดงที่พวกเราไล่จับในวัยเด็ก” จริงๆแล้ว อีกด้านนั้นพวกเราหวนคิดถึงอดีตมาก อีกด้านนั้น อนาคตนั้นพวกเราจะบินให้ดีที่สุด

Mu .คนอายุสามสิบแล้ว ทำอย่างไรจะเป็นที่ยอมรับ

โหย่วเผิง . ผมคิดว่าจะต้องมีความจริงใจ และยังต้องมีสติปัญญาประกอบด้วย

Mu .คุณกลัวแก่ไหม

โหย่วเผิง . มีอะไรให้น่ากลัว ถ้าถึงเวลาก็จะมาเอง ทุกช่วงวัยของคนเราก็จะมีสิ่งที่พิเศษ

Mu .หากว่าคุณอำลาวงการบันเทิง คุณจะไปทำธุรกิจไหม?

โหย่วเผิง . ผมคิดว่าเรื่องที่เราไม่เป็นอย่าไปทำดีกว่า เพราะผมเคยขาดทุนมาแล้ว สวรรค์นั้นเป็นผู้ยุติธรรม คนเราต่างคนต่างมีความสามารถของตนที่ไม่เหมือนกัน คุณอย่างคิดว่าใครก็ได้เมื่อซื้อหุ้นแล้วสามารถรวยได้ ผมจะบอกว่าไม่เลย สิ่งที่คุณไม่รู้นั้นคุณไปทำก็ขาดทุนเปล่าๆ สิ่งที่ไม่ใช่ของคุณ มันก็คงไม่ได้มาหาคุณ คนเราต้องรู้จักตัวเอง ผมเองรู้ตัวดี เรื่องธุรกิจนั้นผมเองไม่มีวาสนาตรงนี้ แล้วผมเองก็ไม่สนุกกับเรื่องเลขด้วยี

Mu .การเป็นศิลปิน คุณคิดอย่างไรกับเรื่องงานการกุศล แล้วคุณใช้วิธีรูปแบบไหนในการแสดงความรัก

โหย่วเผิง . งานการกุศลนั้นเป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งของคนในยุคนี้ที่จะต้องทำ สำหรับศิลปินแล้วก็ยิ่งเลย ตัวเองก็ได้ตั้งองค์มูลนิธิช่วยเหลือเด็กด้วย ทั้งยังได้สร้างโรงเรียนซีวั่ง ขอเพียงตัวเองมีกำลังพอ เรื่องนี้จะต้องยึดและจะทำตลอดไป แน่นอนได้ร่วมมือกับทางบริษัทต่างๆก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ดีมาก

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Men's Uno
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 07:38:02 AM »

Mu . ช่วงนี้คุณเข้าร่วมงานการกุศล coach star totes เป็นครั้งแรกของคุณหรือเปล่า อะไรเป็นแรงดึงดูดให้คุณไปร่วมงานนี้

โหย่วเผิง . ทาง coach ได้หาสมาชิกห้าสิบคนจากทั้งโลก แล้วทุกคนต้องส่งข้อมูลของตัวเองไปสมัคร และผมเองก็ได้รับการตอบรับจากอเมริกา และสามารถที่จะดำเนินการกิจการเลย รายได้ทั้งหมดจะเข้ามูลนิธิ งานอย่างนี้นั้นถือว่าเป็นครั้งแรกที่จได้ทำ น่าสนใจมาก

Mu .แล้วคุณวางแผนไว้อย่างไร

โหย่วเผิง . สิ่งที่ผมได้วาดคือหัวใจแต่ละดวง ผมจะสื่อถึงความรักความห่วงใยของทุกคนแล้วเด็กที่ด้อยโอกาสนั้นจะได้รับความรักเหล่านี้แล้วจะบินสูงขึ้นเหมือนนก จะเห็นสีสันของโลกที่กว้าง กางปีกแล้วบินไปให้สูง

Mu .สำหรับแฟชั่นของผู้ชายนั้น คุณคิดว่าคุณสมบัติอะไรที่สำคัญมากๆ แล้ววันนี้คุณได้เลือกสินค้าของคุณอย่างไร

โหย่วเผิง . นี่เป็นประสบการณ์ที่จะต้องใช้เวลานานเหมือนกัน คุณจะต้องเข้าใจตัวเองก่อน แฟชั่นนั้นเป็นได้ทั้งของเล่นและเกม สำหรับผมแล้ว เป็นยาอย่างหนึ่งของชีวิต หรือจะบอกว่าเป็นท่าทีของชีวิต คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณสนใจ สามารถที่จะทำให้ชีวิตคุณมีสีสันขึ้น คุณก็ไปทำมัน แต่อย่าไปหลงจนเงยหน้าไม่ขึ้น จนนำความทุกข์มาสู่คุณ ต้องประมาณตัวเองด้วย ใช่ว่าขาดมันไม่ได้อย่างนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ผิดแล้ว สำหรับแฟชั่นผู้ชายนั้นต้องดูว่าเข้ากับตัวเองไหม สิ่งที่คุณเลือกนั้นมันเหมาะกับบุคลิกคุณไหม และใส่แล้วต้องสบายตัวเอง

Mu .คิดว่าผู้ชายที่ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรแล้วเกรดล่ะอย่างไร?

โหย่วเผิง . ต้องมั่นใจตัวเองและต้องมีความรับผิดชอบ และเกรดของผู้ชายนั้นต้องดูจากหน้าที่การงาน


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13954
    • ดูรายละเอียด
Re: 2010 Men's Uno
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2016, 12:05:37 PM »