2009 The Message [ไป๋เสี่ยวเหนียน]

[prattana]

more https://www.facebook.com/baansuyoupeng/media_set?set=a.899786526798859.1073741905.100003025613301&type=3&uploaded=73

http://tieba.baidu.com/photo/p?kw=%E8%8B%8F%E6%9C%89%E6%9C%8B&from=6&tid=2084264718#!/pid00dce71190ef76c695c7bb5e9d16fdfaaf5167ab/pn1

วันที่ฉาย 2009-09-29(中国大陆)
2009 The Message [ไป๋เสี่ยวเหนียน]

ซูโหย่วเผิงรับบท "ไป๋เสี่ยวเหนียน"
เรื่องย่อ : The Message ถอดรหัสล่า ฆ่าไม่เลี้ยง

ปี 1942 เมืองนานกิงและเมืองสำคัญๆ ของจีนถูกกองทัพญี่ปุ่นเข้ามายึดครองและญี่ปุ่นก็เข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศ โดยตั้งคณะปกครองหุ่นเชิดขึ้นมาปกครองจีนระหว่างนั้นเองที่กลุ่มเคลื่อนไหวใต้ดินพยายามจะเข้าสืบความลับและลอบสังหารนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นต้องจับผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นสายสืบให้ฝ่ายตรงข้ามไปสอบสวนไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้วญี่ปุ่นสอบสวนผู้ต้องหาเหล่านั้นด้วยวิธีการเช่นไร? เฉินกัวฝู่กล่าวมีแต่เพียงคำบอกเล่าจากผู้ที่รอดชีวิตมาได้เท่านั้น

เนื้อหาบางส่วนจึงเป็นการเสริมแต่งขึ้นมาเองและแม้จะถูกโจมตีอยู่บ้างว่าไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ แต่ผู้กำกับเฉินก็กล่าวว่าผมคิดว่าสิ่งที่เราจะได้เห็นในหนังนั้นยังไม่สาหัสเท่ากับกองทัพญี่ปุ่นทำกับคนจีนในนานกิง ความรุนแรงใน The Message ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรเลย โจวซุ่น และ หลี่ปิงปิง สองนักแสดงสาวชื่อดังจากแผ่นดินใหญ่มาประชันบทบาทกันอย่างเข้มข้นในบทสายลับที่ต้องปะทะกับนายทหารญี่ปุ่นและถูกจับไปสอบสวน The Message เป็นหนังที่ถูกจับตามองมากที่สุดของปีด้วยทีมผู้สร้างรุ่นใหม่ที่มีเครดิตยอมเยี่ยมและเนื้อหาที่แปลกใหม่และเร้าความสนใจต่อนักดูหนังทั่วเอเชีย


1. https://www.youtube.com/watch?v=UFZmAMKI-SM
3. https://www.youtube.com/watch?v=DzhkWLCtZuY
4. https://www.youtube.com/watch?v=lXLT-vtoXrM
5. https://www.youtube.com/watch?v=6lkvJB1Kufw

แนะนำตัวละคร



โจวซิ่น (กู้เสี่ยวม่ง) – ผู้รับส่งสารในกองปราบปรามโจร



หลี่ปิงปิง(หลี่หนิงอี้) – หัวหน้าฝ่ายแปลของกองปราบปรามโจร



จางหันหยี่(อู่จื้อกว่อ) – ผู้บัญชาการกองปราบปรามโจร



หวงเสี่ยวหมิง(อุ่เถียน) – หัวหน้าหน่วยพิเศษของญี่ปุ่น



โหย่วเผิง (ไป๋เสี่ยวเหนียน) – หัวหน้ากองปราบปราม



หวังจื้อเหวิน(หวังเถียนเซียง) หัวหน้าหน่วยพิเศษ

[prattana]

เรื่องย่อ



ชื่อเรื่อง เฟิงเซิง/The Message

ปี 1942 ช่วงหลังของการต่อสู้สงคราม เป่ยผิง

เพื่อต่อต้านทหารญี่ปุ่นการต่อสู้ของทางการก็ยังไม่หยุดไม่หย่อน จุดบัญชาการของทหารญี่ปุ่นนั้นได้รับความเสียหาย ผู้นำชั้นสูงถูกลอบฆ่า ชาวจีนเป็นสุนัขรับใช้ญี่ปุ่น และสถานการณ์ที่เป่ยผิงก็ตกอยู่ในยามคับขัน

ทหารญี่ปุ่นกล่าวว่าจะใช้เวลาอันสั้นกำจัดศัตรู ผู้นำหน่วยปฏิบัติการพิเศษของหัวเป่ยนั้นตกอยู่ในอันตราย ข่าวของข้างในของกองบัญชาการนั้นรั่วไหล ทำให้ผู้ร้ายถึงสามารถไปมาได้ สามารถเข้าไปที่ต่างๆได้ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ จากข่าวที่รายงานมาว่า น่าจะมีใส้ศึกอยู่ในกองบัญชาการ

การที่ศัตรูรู้ความลับ นั่นไม่ใช่การคุกคามที่หนัก แต่เป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวง จากการดูแลของหังเทียนเซียงในกองบัญชาการปราบโจรนั้น อู่เถียนได้ออกอุบายส่งการความลับออกไป เพื่อหลอกล่อพวกก่อการร้ายของ เหล่ากู่

[prattana]

เฟิงเซิง(The Message) เปิดเผยบทตำแหน่งต่างๆ

โจวซิ่น (กู้เสี่ยวม่ง) – ผู้รับส่งสารในกองปราบปรามโจร

หลี่ปิงปิง(หลี่หนิงอี้) – หัวหน้าฝ่ายแปลของกองปราบปรามโจร

จางหันหยี่(อู่จื้อกว่อ) – ผู้บัญชาการกองปราบปรามโจร

หวงเสี่ยวหมิง(อุ่เถียน) – หัวหน้าหน่วยพิเศษของญี่ปุ่น

โหย่วเผิง (ไป๋เสี่ยวเหนียน) – หัวหน้ากองปราบปราม

หวังจื้อเหวิน(หวังเถียนเซียง) หัวหน้าหน่วยพิเศษ

อิงต๋า (จิงเซิงห่อ) – หัวหน้าทหารกองปราบปรามโจร


กู้เสี่ยวม่ง. บุคลิกนิสัยของเขาแบบคุณนายคุณหญิงไม่เกรงกลัวในอำนาจ นิสัยแข็งกร้าว การที่ถูกกักขังในชิวจวงนั้น เธอจะขอมีชีวิตอยู่ต่อ เขาพยายามอย่างมากที่จะทำให้อยู่รอดอย่างไร

ผู้กำกับเกาเฉียนซู . โจวซินอยู่ใน เฟิงเซิงนั้นมันแปลกประลาดมากๆ มันเปลี่ยนไปแล้วแหลมมากๆ เสมือนมีดสั้นที่กริบคม นี่แหละเป็นสตรีที่ทำให้ใจผู้ชายหลายคนต้องลอยไปมา แต่ว่าใครก็ยากจะหยั่งรู้ถึงความในใจเขา ก็เหมือนมีด ด้านเดียวแต่คมกริบ

หลี่หนิงอี้ . ความลับสุดยอดแตก ถูกกังขังที่ชิวจวงแล้วถูกทรมานหลายต่อหลายวิธี ตกอยู่ในสภาพความอึดอัดใจตลอด

ผู้กำกับเกาฉินซู . ในเรื่องเฟิงเซิงนั้น หลี่ปิงปิง เสมือนสิ่งของที่ขาวสะอาดยอดเยี่ยมสิ่งหนึ่ง สว่างไสวและพริ้วงามอย่างยิ่ง หนี่อี้อี้เกิดมาก็ประสบกับสังคมที่ยุ่งเหยิง ไม่สามารถจะระมัดระวังได้ ยากจะเป็นผู้ดี

หลี่อี้อี้กับกู้เสี่ยวม่ง . คนหนึ่งลักษณะท่าทางองอาจห้าวหาญ อีกคนหนึ่งนั้นสวยหยาดเยิ้ม คนหนึ่งสุขุม อีกคนความคิดรอบคอบ คนหนึ่งมีวิจารณญาณแยกแย่ คนหนึ่งปลุกปั่นจิตใจประชาชน เมื่อสองคนได้มีอยู่ด้วยกันหรือความคิดได้ขัดแย้งกัน ต่างก็จะรักษาระยะห่างที่จะไม่ใกล้ชิดหรือห่างเกินไป รวมทั้งยังต้องรับศึกนอกอีกด้วย

อู๋จื้อกว่อ . ซื่อๆ หนึกแน่น ขณะที่ถูกขังอยู่ที่ฉิวจวง ก็จะถูกทรมานอย่างนับไม่ถ้วน ทรมานจนแทบทนไม่ได้ ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ทำอย่างนี้กับคนในฉิวจวงด้วย ไม่เคยยั้งมือเหมือนกัน

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . เขาเสมือนหินอุกกาบาต เขามีธาตุเหล็กถึงร้อยละแปดสิบ เคยฝึกฝนไฟสวรรค์ ใต้สถานการณ์บางอย่างนั้น สิ่งที่ต้องแข่งกันนั้นเป็นความอดทน หากใครยอมก่อน ก็คือเป็นผู้แพ้ เมื่อเขาจะลงมือนั้น คนจะตายแบบถูกทุบ ไม่ใช่เป็นการแทงตาย

อู่เถียน . ลี้ลับไม่เปิดเผย เป็นคนเจ้าเล่ห์ ขี้สงสัย โชกโชน เงียบ มีปัญญาเฉียบแหลม มีความคิด น้ำนิ่งไหลลึก

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . อู๋เถียนเป็นหนอนหนังสือที่ทุกข์ เป็นพวกจิตไม่ปกติ ประเด็นคือจิตผิดปกติ ผิดปกติทางจิตอย่างผู้ดี แค่อยากจะทำงานเล็กๆให้สำเร็จ จนไม่สนว่าจะพริกฟ้าคว่ำแผ่นดิน นี่เป็นความดื่อของเขา รวมทั้งยังเป็นจุดจบของเขาด้วย

ไป๋เสี่ยวเหนียน . เคยเป็นนักร้องละครเพลงมาก่อน เป็นเลขาของผู้บัญชาจาง เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาคนคนเดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น แต่ว่าโดยอำนาจเขาสามารถเลื่อนตำแหน่งให้สูงได้

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . เขานั้นเสมือนตัญหา เขาเป็นคนหนุ่มแน่น หน้าตาดี ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้อื่น เสียงเพลงเด่น ดีในการเป็นผู้ตาม ทั้งยังเป็นคนเจ้าสำอางค์

หวังเถียนเซียง . เหลี่ยมจัด เหี้ยม ปลิ้นปล้อนเก่งในทางเป็นไส้สืบ เพื่อที่จะจับ “เหลากุ่ย”ให้ได้ เพื่อจะบีบบังคับให้คนอื่นพูดความจริง ใช้วิธีการโหด สร้างความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . เขาเป็นคนที่เฉลียวฉลาดในด้านนี้ เป็นผู้ที่เปลี่ยนสิ่งที่หมดหวังเป็นปาฏิหาริย์ เป็นพวกรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นทาง จิตสำนึกจะชั่วดีอย่างไรก็ไม่สน

จิงเซิงห่อ . ฉลาดปราดเปรื่องแต่ดูคล้ายกับว่าโง่ เป็นคนที่ไม่มีความคิดของตัวเอง ใครว่าอะไรก็เออตาม

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . นี่เป็นคนหนึ่งที่ไม่นิ่ง ทึ่ม จิตใจเป็นทุกข์ ผู้ชายแม้ไม่มีความสามารถก็ยังนับว่ามีคุณธรรมได้

[prattana]

ในหนังเรื่องเฟิงเซิงนั้น (เหล่ากุ่ย ) ยังไม่ได้สิ้นสุด "ซูโหย่วเผิง" ได้รับบทรท้าทายทั้งสองด้าน ในช่วงนี้มีเว็ปไซด์บางเว็ปได้เปิดเผยถึงบทในเรื่องและสภาพสถานที่ถ่ายทำ ทำให้กระจ่างว่า "จางหันหยี" นั้นได้รับบทแสดงเป็น "อู่จื้อ" ก่อนั้นเป็น "เหล่ากุ่ย" จากการเปรียบเทียบฉากการแสดงระหว่าง "หลี่ปิงปิง" กับ "โจวซิ้น" นั้นมีความแตกต่างของฉากคือ 56 ฉากกับ 54 ฉาก ในจุดนี้ทางทีมงานได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่า “ข่าวที่ออกมาจากหนังเรื่องเฟิงเซินนั้นเป็นข่างจากภายในจริงๆ แต่ว่ามันมีมานานแล้ว ตัวเนื้อหาหรือบทกับการถ่ายทำนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน บางอย่างก็ไม่ใช่เป็นฉากที่พึ่งถ่ายไปในระยะนี้ ฉะนั้นข่าวที่รั่วไหลออกของครั้งนี้นั้นก็ไม่ค่อยกังวลเท่าไร”

การแยกออกอ่านบทของแต่ละตัว

ตัวบทละครที่สำคัญในเรื่องแม้ว่าสอดคล้องกับตัวละครในต้นฉบับเดิม แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนกันอย่างไม่ผิดเลยก็ไม่ใช่

สองนางเอกสาวอย่าง "หลี่ปิงปิง" และ "โจวซิ้น" นั้นได้รับบทเป็นหัวหน้าทหารหน่วยปราบโจรผู้ร้ายแสดงเป็น "หลี่หนิงอี้" และ "กู้เสียวม่ง" ซึ่งเป็นผู้ตรวจการพิเศษ ฐานะตำแหน่งทั้งสองเป็นหัวหน้ากับลูกน้อง นิสัยส่วนตัวนั้นคนหนึ่งเงียบและอดทน อีกคนดูผิวเผินเหมือนจะเซ่อแต่ข้างในลึกๆ ในเรื่องนั้นทั้งสองคนก็ได้มีการขัดแย้งต่อสู้กันไม่น้อยเลยทีเดียว

"จางหันหยี" รับบทเป็น "อู่จื้อก่อ" ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยปราบโจร บุคลิกลักษณะของเขาคือ ผู้ชอบใช้กำลังอย่างผู้ชาย เพราะในเรื่องนั้นเขาชอบใช้กำลังหรือใส่อารมณ์ต่อสตรีสาวสองคนอย่าง "หลี่ปิงปิง" กับ "โจวซิ้น" "หวงเสี่ยวหมิง" รับบทเป็น " อู่เถียน" ซึ่งเป็นหัวหน้าทหารปืนกลของญี่ปุ่ญ ตัวบทดั้งเดิมนั้นก็ถือว่ามีสีสันเหมือนกัน

จากการเปิดเผยของ "หวงเสี่ยวหมิง" เขาเป็นผู้วางแผนเกมส์การฆ่าคนในเรื่อง "หวังจื้อเหวิน" รับบทเป็นหัวหน้าหน่วยทหารซึ่งเป็น "หวังเถียนเซียง" เขาเป็นลูกน้องของ "อู่เถียน" เต็มใจที่จะเป็นไส้ศึก พวกเขาจะใช้เครื่องมือทรมานบีบบังคับให้สารภาพกับคนที่แอบแฝงเข้ามาในหน่วย วิธีการของพวกเขานั้นเฮี้ยมโหดมากๆ

"ซูโหย่วเผิง" ได้รับบทเป็น "ไป๋เสี่ยวเหนียน" ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยทหาร และบทบาทนี้นั้นได้แตกต่างจากบทดั้งเดิมอย่างมากมีเรื่องเกี่ยวกับนักโอเปร่าด้วย และโหย่วเผิงก็มีสองบุคลิกคือทั้งอ่อนน้อมและเข้มแข็ง

จากการเปิดเผยไปข้างต้นของเหล่านักแสดงอย่าง จางหันหยี , หวงเสี่ยวหมิง, หลี่ปิงปิง, โจงซิ้น, หวังจื้อเหวิน, และ ซูโหย่วเผิง แล้วหนังในเรื่องเฟิงเซินนี้ยังมีตัวละครอีกสามบทที่สำคัญนั้นก็ได้ลงตัวแล้ว ที่จัดออกมาคือ อิงต๋า หนี่ต้าหง กับ สือจ้าวฉี หนังเรื่องนี้นั้นก่อนหน้านี้ได้ปิดฉากในการถ่ายทำที่เทียนลี่ และช่วงนี้ได้เปลี่ยนฉากและสถานที่ถ่ายทำไปที่จ่อโจว และสำหรับเนื้อหาของเรื่องที่ได้หลุดออกไปเป็นข่าวนั้น ทางผู้รับผิดชอบนั้นก็ได้จัดการอย่างเรียบร้อยแล้ว “ฉากและเนื้อหาที่ได้หลุดออกไปเป็นข่าวนั้นเป็นเพียงแค่ฉากเก่าๆ ไม่ใช่ฉากที่พึ่งถ่ายทำ”

นักข่าวทราบข่าวว่า สุดท้ายนักแสดงเอกสามท่านก็ได้ลงมติกัน "อิงต๋า" เขาได้รับบทเป็น "จิงเซิงห่อ" เป็นหัวหน้าทหารผู้ปราบปราม ซึ่งมันเป็นหัวหน้าของหลี่หนิงยี่กับกู้เสี่ยวม่งผิวเผินนั้นดูเหมือนมุทะลุแต่จริงๆแล้วเก็บกด หนี่ต้าหงนั้นรับบทเป็นเหล่าแป่ซึ่งเป็นนักการของหน่วยปราบปราม แต่เนื้อบทดั้งเดิมนั้นเขาเป็นสายสืบของหน่วย บทพูดนั้นน้อยมาก ส่วนมากจะออกในแนวมีท่าทางบู้ๆ เป็นผู้กองในหน่วยอย่างจางอี้ถิงนั้นสือเจ่าฉีรับบทนี้ไป หน้าที่หลักของเขาคือในการเคลื่อนไหวต่อต้านทหารญี่ปุ่น 

[prattana]

เรื่อง เฟิงเซิงนั้นความสัมพันธ์บุคคลนั้นได้เป็นข่าวออกมา มีความสับสน

จากสำหนักข่าวซินลั้น ภาพยนตร์เฟิงเซิงนั้นเริ่มเปิดกล้องก็มีข่าวเป็นระลอกระลอกแล้ว โลกแห่งภาพยนตร์ของชาวจีนที่ได้มีขบวนการต่อสู้มาตลอดนั้นได้กลายเป็นที่สนใจของสื่อ พึ่งได้เปิดกล้องไปได้เดือน เนื้อหาละครก็สับสนเหมือนเดิม และตัวละครหน้าใหม่ที่ออกมาให้เห็นนั้นมีแปดคนแล้ว และจากตัวแสดงทั้งแปดคนนั้นก็มีข่าว สามารถที่จะเห็นได้ชัดกับการยุ่งเหยินของความสัมพันธ์ของนักแสดงในเรื่องเฟิงเซิง


3 . ซูโหย่วเผิงได้ทำลายภาพลักษณ์ของขวัญใจ ได้กลายเป็นคนที่มีบุคลิกทั้งอ่อนโยนทั้งเข้มแข็ง
"ไป๋เสี่ยวเหนียน" เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการกองปราบ (ซูโหย่วเผิง)ท้าทายบทบาทของละครอย่างมาก นับว่าเป็นอีกบทหนึ่ง ซึ่งฉีกออกไปจากบทเดิมๆที่เขาได้รับเลยทีเดียว

จะพูดถึงไป๋เสี่ยวเหนียนนั้น ก็ไม่อาจที่จะลืมพูดถึงจางอีถิงที่เป็นผู้กองจางนั้นมีหน้าที่หลักคือการโต้ตอบกับพวกทหารญี่ปุ่น ไป๋เสี่ยวเหนี่ยนเป็นเลขาของท่าน ตำแหน่งนั้นพูดได้ว่า อยู่ภายใต้บังคับบัญชาคนคนเดียวเท่านั้น แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น ตำแหน่งไม่สูง แต่ว่าสามารถที่จะเลื่อนยศสูงได้ จากการรายงานข่าวของสื่อแล้ว ไป๋เสี่ยวเหนียนในเรื่องนั้นเป็นนักโอเปร่า สามารถเห็นได้ว่านี่เป็นการคาดเดาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

สำหรับบทละครในเรื่องนี้นั้นเป็นที่พิเศษต่อโหย่วเผิง “ นักแสดงคนหนึ่งสามารถที่จะแสดงในบทที่ต่างจากตัวเองอย่างหน้ามือเป็นหลังมือนั้น เป็นการท้าทายอย่างหนึ่ง เป็นความสนุกน่าสนใจอย่างหนึ่ง และเป็นวาสนาอีกด้วย ตอนนี้ยังไม่รู้ถึงบททั้งหมดของเรื่องเลย และยังไม่ทราบว่าบทของตัวเองนั้นสุดท้ายจะจบลงอย่างไร มันรู้สึกตื่นเต้นมาก ในเรื่องนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัดและความระแวง ฉะนั้นขณะที่ถ่ายทำนั้นต่างคนก็ต่างมีความตื่นเต้นกดดัน มีโอกาสที่จะร่วมแสดงกับนักแสดงรุ่นพี่รุ่นน้องมากมายขนาดนี้นั้น และถือเป็นโอกาสที่หาได้

[prattana]

http://ent.sina.com.cn/m/c/2009-02-13/12592374592.shtml

(เฟิงเซิง) แสดงที่เทียนลี่นั้นทำลายสถานที่การแสดง

รายงานข่าวว่าถาพยนตร์ที่คุณหัวยี่ได้ลงทุนสร้างนั้น (เฟิงเซิง) ตอนนี้ได้เปิดกล้องไปแล้วในเทียนลี่ เฉินก่อฟู่และเกาฉินซูผู้กำกับสองท่านได้นำเหล่าศิลปินดาราและทีมงานมายังสถานที่ถ่ายทำ หลังจากที่มีพิธีเปิดกล้องอย่างเรียบง่ายไปแล้ว ก็เป็นเวลาของการถ่ายรูป

นักแสดงหลักที่ได้แจ้งไปล้วงหน้าอย่าง หวงเสี่ยวหมิง หลี่ปิงปิง โจวสิ่น จางเน้ยหยีและหวังจื้อเหวินก็ได้มาถึงเทียนลี่อย่างพร้อมเพรียงกัน แล้วซูโหย่วเผิงก็ได้บทแทนหยีเสี้ยวฉินที่รับบทเป็นไป๋เสี่ยวเหนียน ภาพยนตร์เรื่อง(เฟิงเซิง)ตามมติของผู้ดูแลเรื่องแล้วจะพิจารณาผู้ที่มีภาพพจน์ดีงามและกิริยาบุคลิกดีมารับบทของไป๋เสี่ยวเหนียน ในขณะนั้นภาพยนตร์เรื่อง(เหม่ยหลันฟาง)กำลังฮิตมาก และหยีเสี่ยวฉินซึ่งแสดงเรื่องนี้นั้นก็ได้รับการคัดเลือกมารับบทไป๋เสี่ยวเหนียนอย่างปริยาย แต่จากการเปิดเผยของทีมงานว่า บทของไป๋เสี่ยวเหนียนนั้นจะมาการเปลี่ยนแปลงไป และโหย่วเผิงก็ได้หาครูสอนละครโอเปราคนหนึ่งมาช่วยฝึกหัดเขาอีกด้วย เขาได้ทุ่มเทเอาจริงเอาจังกับการแสดงครั้นนี้เป็นอย่างมาก


แต่ว่าภาพยนตร์(เฟิงเซิง)ที่กำลังถ่ายทำอยู่ที่เทียนลี่นั้น กลับถูกต่อต้านจากประชาชนในเที่ยนลี่ ที่ถ่ายทำในเทียนลี่นั้นได้ก่อสร้างขึ้นในปี 1925 รูปทรงการสร้างนี้เป็นแบบสมัยศตวรรที่ 19 ที่มีรูปทรงแบบโบราณ ได้กลายเป็นอุทยานโบราณของเมืองเทียนลี่ แต่จากการเปิดเผยของประชาชนเทียนลี่ ภาพยนตร์(เฟิงเซิง)ที่ได้ใช้ตึกตอนใต้ของพวกเขานั้นได้ใช้ห้องหนึ่งที่เป็นฉากเรือนจำ และกำแพงห้องนั้นได้ทาสีฉากสีเข้าไปอย่างหนา จนทำให้เป็นขรุๆขระๆไม่งามตา จนยากที่จะให้มันกลายมาเป็นเหมือนเดิม


กับการที่ถูกสงสัยว่าเป็นผู้กระทำ ทางด้านผู้ถ่ายทำภาพยนตร์คือคุณหัวหยี่ได้กล่าวว่า การถ่ายหนังเรื่องนี้นั้นเราทำตามขั้นตอนอย่างถูกระเบียบ ก่อนจะลงสีนั้นพวกเราได้ใช้ไม้กระดานติดปิดกำแพงอย่างเรียบร้อย และสีต่างๆนั้นล้วนฉากทาที่กระดานไม้ การที่จะคืนให้เป็นสภาพเดิมนั้นก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยาก แต่สำหรับผู้รับผิดชอบผู้ดูแลมรดกเทียนลี่นั้นได้กล่าวว่า ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้การต่อไปได้หรือไม่สำหรับการถ่ายทำนี้ ยังจะต้องมีการพิจารณาตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ถึงจะสามารถประกาศออกไปได้

[prattana]

http://ent.sina.com.cn/m/c/2009-02-13/13432374614.shtml

ซูโหย่วเผิงเล่นมือหลันฮัวด้วย(มือที่หัวแม่มือและนิ้วกลางงอเข้าประกอบกันเหลืออีก) เข้าร่วมแสดงละคร

(เฟิงเซิง เสียงลม)โอเปร่าปักกิ่ง

ซูโหย่วเผิงกำลังแต่งตัว

สุดท้ายภาพยนตร์(เฟิงเซิง)เปิดกล้องมาแล้วสองสามวันที่เทียนลี่นี่เอง เฉินก่อฟู่และเกาฉินซูผู้กำกับสองท่านได้นำเหล่าศิลปินดาราและทีมงานมายังสถานที่ถ่ายทำ หลังจากที่มีพิธีเปิดกล้องอย่างเรียบง่ายไปแล้ว ก็เป็นเวลาของการถ่ายรูป

นักแสดงหลักที่ได้แจ้งไปล้วงหน้าอย่าง หวงเสี่ยวหมิง,หลี่ปิงปิง โจวสิ่น จางเน้ยหยีและหวังจื้อเหวินก็ได้มาถึงเทียนลี่อย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ว่าตัวแสดงหลักสำคัญอย่างหยีเสี้ยวฉินที่รับบทเป็นไป๋เสี่ยวเหนียนที่สื่อมวลชลคาดการณ์ว่าจะมานั้นแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา แต่คนที่สื่อมวลชลคิดไม่ถึงว่าจะมาอย่างโหย่วเผิงนั้นได้ปรากฏตัวที่นั้นด้วย ตามที่เข้าใจ บทที่ซูโหย่วเผิงได้รับเล่นคือไป๋เสี่ยวเหนียน ภาพยนตร์เรื่อง(เฟิงเซิง)ตามมติของผู้ดูแลเรื่องแล้วจะพิจารณาผู้ที่มีภาพพจน์ดีงามและกิริยาบุคลิกดีมารับบทของไป๋เสี่ยวเหนียน ในขณะนั้นภาพยนตร์เรื่อง(เหม่ยหลันฟาง)กำลังฮิตมาก และหยีเสี่ยวฉินซึ่งแสดงเรื่องนี้นั้นก็ได้รับการคัดเลือกมารับบทไป๋เสี่ยวเหนียนอย่างปริยาย ผู้กำกับเฉินก่อฟู่กับเกาฉินซูก็ได้ทำในสิ่งที่ผิดความคาดหมายต่อความคิดของผู้ชมเหล่านั้น แต่กลับให้โห่ยวเผิงที่ไม่มีชื่อในการเลือกครั้งนี้มารับหน้าที่รับบทนี้แทน

จากการเปิดเผยของทีมงาน(เฟิงเซิง) เรื่องในนิยายนั้นไป๋เสี่ยวเหนียนเป็นคนบอบบางอ่อนแอ แต่ว่าไป๋เสี่ยวเหนียนในภาพยนตร์ที่จะแสดงนั้นจะออกในสไตล์ที่กลับกัน บทบาทนั้นจะมีสีสันกว่าเดิม คุ้มค่าแก่การรอคอย นี่ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ก่อนจะเตรียมตัวรับบทในเรื่องนี้นั้นซูโหย่วเผิงรู้สึกสนใจในบทนี้เป็นอย่างมาก ซูโหย่วเผิงได้รับการยอมรับจากวงการภาพยนตร์ตลอดเวลานั้นก็ได้รับและตัดสินใจในการที่จะรับบทนี้แม้จะแตกต่างจากบทในอดีตแต่ก็เป็นสิ่งที่จะพิสูจน์ถึงผีไม้ลายมือในการเป็นนักแสดงของเขา และเขาก็ได้หาอาจารย์ที่สอนละครโอเปร่ามาสอนเขา ร้องเต้น ก่อนที่จะมีการโปรโมทเรื่องนี้นั้นมี มือหลันฮัวคู่หนึ่ง และมือที่ให้ทุกคนสงสัยนั้นแท้จริงเป็นมือของโหย่วเผิงเอง จากการที่ไม่เคยมีประสบการณ์แสดงด้านนี้เลยอย่างซูโหย่วเผิงนั้นจะสามารถแสดงเข้าตาแฟนๆได้หรือเปล่านั้น ก็ต้องรอคอยในการที่จะเปิดฉายแล้วถึงจะรู้ได้ (สุดที่รักหากรับเล่นแล้วพวกเราจะไม่ผิดหวัง)

[prattana]

นักแสดง ซูโหย่วเผิง,หวงเสี่ยวหมิง,หลี่ปิงปิง โจวสิ่น จางเน้ยหยีและหวังจื้อเหวิน ฯล





ซูโหย่วเผิงเล่นมือหลันฮัวด้วย(มือที่หัวแม่มือและนิ้วกลางงอเข้าประกอบกันเหลืออีก)

เรามาดูมือหลันฮัว ของสุดที่รักกันค๊ะ



หัวแม่มือ



และนิ้วกลาง



งอเข้าประกอบกัน

[prattana]

Thanks, http://yule.baidu.com/movie/2009-05-12/183053223408.html

เฟิงเซิง . บทนั้นเจาะถึงวิญญาณ โหย่วเผิง จื้อเหวิน อิงต๋าล้วนพริกเปลี่ยนตัวเอง

สำนักข่าวไป๋ตู้ เฟิงเซิง มีข่าวออกมาจากการได้เปิดกล้องไปนั้น ก็ได้มีการออกภาพโฆษณาตัวอย่างหนังเป็นรูปของโหย่วเผิง จื้อเหวิน และอิงต๋าสามคน จากรูปภาพเหล่านี้ให้รู้ว่า นักแสดงหนุ่มสามคนนี้ล้วนได้พริกเปลี่ยนภาพลักษณ์ภาพยนตร์อดีตของตัวเอง หวนคิดการเปลี่ยนแปลงในภาพยนตร์เฟิงเซิงของหลี่ปิงปิง โจวซิ้น หวงเสี่ยวหมิง จางหันหยี ทำให้ผู้ชมตกใจไปหมด เรื่องนี้นั้นทำให้นักแสดงแต่ละคนเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปหมด เหลือเพียงบทวิญญาณที่ยังเปล่งแสงแวววาวได้

โหย่วเผิง ในเฟิงเซิงนั้น ถอดคลาบเปลี่ยนหนัง

ได้ผูกเน็ตไทน์ จากรูปทั้งสามคนก็จะเห็นได้ชัดว่าโหย่วเผิงเป็นผู้ใส่เสื้อต้านลมที่เนียบในการแต่งตัว ในเรื่องนั้นเขาได้รับบทเป็นเลขาของผู้บัญชาจางคือไป๋เสี่ยวเหนียน อดีตเคยเป็นนักร้องละครเพลงมาก่อน รูปในเรื่องนั้นก็ยังคง คงสไตล์ของนักร้องละครเพลงอยู่ จากการแนะนำของทีมงาน เพื่อจะทำให้บทที่ตนแสดงนั้นดี เมื่อรับบทแล้วโหย่วเผิงลงทุนไปหาอาจารย์สอนละครเพลงแล้วฝึกฝน ทุกวันจะฝึกซ้อม ขณะจะเข้าถ่ายหรือตอนถ่ายนั้นก็ยังร้องเพลงตามซีดีด้วย ยิ่งกว่านั้นตัวเองยังหาเวลาไปซ้อมร้องในห้องซ้อมอีกด้วย ทั้งยังฟังเสียงร้องของอาจารย์แล้วมาพัฒนาการร้องของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ทีมงานยังเปิดเผิยให้เรารู้อีกว่า ในเรื่องนั้นไป๋เสี่ยวเหนียนมีฉากที่ต้องร้องละครเพลง

ทางทีมงานนั้นกังวลว่าพื้นฐานหรือความสามารถในการร้องละครเพลงของเขานั้นไม่ถึงมาตรฐาน ก็เลยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาช่วยประสานเสียงอีกแรง แต่ว่าทีมงานก็ยังคิดว่าถ้าอย่างนี้คงไม่เต็มที่ บังเอิญในวันหนึ่ง ผู้จัดการของโหย่วเผิงก็ได้เปิดซีดีเพลงละครเพลงฟัง ผู้กำกับเกาฉินซูได้ยินแล้วทึ่ง รีบไปถามว่าศิลปินคนไหนเป็นผู้ร้อง และผู้จัดการของเขาตอบว่า “นี่เป็นเสียงร้องของโหย่วเผิงเองแหล่ะ” พวกเราถึงรู้ว่าโหย่วเผิงไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ในด้านนี้ จริงๆแล้วเขามีมาตรฐานในการขับร้องนี้นานแล้ว

เมื่อเอ่ยถึงบทของไป๋เสี่ยวเหนียน ผู้กำกับเกาได้พูดว่า “เขานั้นสื่อถึงตัญหา หน้าตาดี ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้อื่น เสียงเพลงดึงดูด เป็นผู้ติดตามที่ดี รักความเนียบ การที่โหย่วเผิงรับบทนี้ได้ดีนั้นมันเป็นสิ่งที่เกินกว่าที่เราตั้งเป้าไว้

หวังจื้อเหวินทำให้ทุกคนตายทั้งเป็น

จากรูปถ่ายหมู่ของทีมงานนั้น จากสีหน้านัยตาของเขานั้นสื่อให้เห็นว่าเขาน่ากลัว ในเรื่องนั้นเป็นได้รับบทเป็นหวังเถียนเซียงซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษ สามารถพูดได้ว่าเป็นศูนย์เล่ห์เหลี่ยม โหดเหี้ยม ปฏิณานไว ปลาไหลและนับว่าเป็นพวกไส้สึกได้ ในเรื่องนั้นหวังเถียนเซียงจะคอยจับว่าใครคือ “เหลากุ่ย” การทรมานคนนั้นเขาใช้ทุกวิธี จะหาวิธีการทรมานที่เหี้ยมโหดทีสุด มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ภาพลักษณ์ที่เขาได้กับทุกคนนั้นล้วนด้านลบ ลึกลับ เขาในเรื่องนี้นั้นเสมือนวิญญาณสิ่งร่าง เป็นผู้ทรมานคนอื่นอย่างเลือดเย็น เป็นฝันร้ายของคนอื่น

เป็นบทที่แตกต่างจากภาพลักษณ์ของตัวเองมากมายอย่างนี้นั้น เป็นประสบบการณ์ใหม่ครั้งแรกสำหรับเขาในรอบสิบสองปีเลย แต่ว่าสำหรับเขานั้นบทที่ยิ่งท้าทายก็ยิ่งตื่นเต้น สำหรับเขาทั้งในและนอกจอนั้นจะเปลี่ยนบทง่ายมาก บ่อยครั้งที่ก่อนหนึ่งนาทียังพูดหัวเราะกับคนอื่นอยู่ดีๆ และแค่นาทีเดียวต่อมาก็ได้กลายเป็นอีกบทหนึ่งที่ไม่พูดไม่จา นักแสดงคนอื่นแสดงแล้วหัวเราะไปด้วย เขากับทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง ก่อนจะเปิดกล้องนั้น ทางผู้กำกับเกาก็กังวลใจเกี่ยวกับการจะร่วมงานกับเขา เพราะเขาจะเป็นนักแสดงที่มีนิสัยอย่างนี้ หลังจากได้เข้าฉากถ่ายทำแล้ว สิ่งกังวลต่างๆก็ได้หายไป ก็เพราะหวังจื้อเหวินนั้นเป็นมืออาชีพ การจะแสดงบทนั้นเขามั่นใจและทำได้ดีมาก ทำให้เขาและหวงเสี่ยวหมิงนั้นได้เป็นเสาหลักของกองถ่าย

ผู้กำกับเกาแถลงว่า “หวังเถียนเซียงนั้นเป็นผู้ทีมีความฉลาด เป็นผุ้ที่เปลี่ยนสิ่งที่หมดหวังเป็นปาฏิหาริย์ เป็นพวกรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นทาง จิตสำนึกจะชั่วดีอย่างไรก็ไม่สน จริงๆแล้วทุกคนล้วนมีจิตใจอย่างหวังเถียนเซียง หวังจื้อเหวินจะเหมาะกับบทบาทนี้ที่ไม่มีใครอีกแล้ว

อิงต๋าต้องควักกระเป๋าตัวเองหาเหาใส่หัว

ในเรื่องอิงต๋ารับบทเป็นจิงเซิงหัวหน้าหน้าหน่วยปราบปรามโจร เป็นคนที่ฉลาดแต่ดูเหมือนโง่ ใจปลาซิลไม่กล้าทำการใหญ่ ไม่มีจุดยืนความคิดของตัวเองเขาว่าไงก็ว่างั้น อิงต๋าเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดง เป็นพิธีกรมากมาย ระยะนี้นั้นภาพยนตร์ของเขาจะออกแนวตลก ดูโตขึ้นจากเด็กที่ชอบประชด คนมากมายจะให้ฉายาเขาว่าเป็นนักแสดงซี่จี้ แต่ในเรื่องเฟิงเซิงนั้น จิงเซิงห่อกับเหลากุ่ยคนอื่นั้นล้วนต้องถูกทรมานเหมือนกัน ในบทนั้นจะไม่มีภาพลักษณ์ที่ตลกออกมาให้เห็นเลย ในบทของจิงเซิงห่อนี้ ต้องการให้อิงต๋าเก็บบุคลิกเก่าๆที่แบบตลกให้เรียบร้อยเลย ต้องสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของตนขึ้นมาใหม่ ผู้กำกับเกาได้เห็นละครเรื่องแรกที่อิงต๋าแสดง ก็กล่าวว่า จิงเซินห่อในเฟิงเซิงจะแสดงให้เราเห็นว่า อิงต๋าไม่เพียงแต่เป็นผู้กำกับซี่จี้ที่ดีเท่านั้น ยังเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากๆอีกด้วย ไม่เพียงแต่บทที่เขารับไปนั้นที่มีความแตกต่างจากอดีตเดิมมาก ขั้นตอนเวลาในการถ่ายทำของเฟิงเซิงนั้นก็ทำให้เขาต้องลำบากไม่น้อยเลยที่เดียว อิงต๋าได้จองตั๋วไปทำงานที่อเมริกาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เนื้องด้วยการถ่ายทำปิดกล้องที่ล่าช้าไป แต่เขาก็ยินดีที่จะควักกระเป๋าในการซื้อตั๋วใหม่แล้วถ่ายทำต่อ การที่เขารับผิดชอบต่อหน้าที่ของเขานั้นเป็นที่นับถือของทีมงานเราเป็นอย่างมาก

ผู้กำกับเกาได้บรรยายถึงบทของจิงเซิงห่อว่า “ เขาเป็นผู้หนึ่งที่สงสัยตลอด ทึ่ม สงสัยไปทุกเรื่อง ผู้ชายไม่มีความสามารถก็ยังนับว่าเป็นผู้มีคุณธรรม

เมื่อพูดถึงการได้ร่วมงานกับนักแสดงเหล่านี้ ผู้กำกับเกากล่าว “เมื่อก่อนที่ผมถ่ายละครนั้นถ่ายไปถึงครึ่งก็รู้สึกเบื่อ แต่ว่าครั้งนี้ทุกวันก็ล้วนแต่สนุก ทุกวันนักแสดงจะให้สิ่งที่ตกใจตื่นเต้นกับคุณ เมื่อก่อนได้ร่วมงานกับต้าหวันนั้นกังวลมาก แต่เดี๋ยวนี้สบายมาก ขอบคุณพวกคุณมากๆ

สำหรับตัวแสดงสำคัญเจ็ดคนของเฟิงเซิงนั้นดังมาก ผู้กำกับเกาสรุปว่า “ ตัวละครทุกตัวอของเฟิงเซิงนั้น ก็สามารถสัมผัสถึงความเป็นกันเองได้ สมัยนั้นกับสมัยนี้แม้ห่างกันสิบปี แต่นิสัยส่วนตัวของเรา ล้วนยังไม่เป็นไม่แตกต่าง ทุกคนล้วนแข่งขันกัน ต่างก็ลองทำลองดู ก็ล้วนลงมือด้วยตัวเอง ในตอนนี้นั้น ในใจมีความพ่ายแพ้ที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ปัญญา ประสบการณ์ ความคิด วิธีการ รวมทั้งศีลธรรมตกต่ำ หลักความถูกต้องที่ตกต่ำ ก็จะเป็นจะตัดสินจุดจบของชีวิต

[prattana]

http://ent.163.com/09/0514/04/598DOOUJ0003rt.html

โหย่วเผิง ผมจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ล่มหรือเปล่า

เทียบกับการทุ่มเทแล้วเต็มไปด้วยรอยเหล้า รอยเลือด เสื้อผ้านั้นเปื้อนคนอื่นด้วย รูปแบบสร้างสรรค์ของโหย่วเผิงนั้นละเอียดอ่อนมาก เสื้อผ้าต้องเนียบ ไม่มีที่ติ ขนตาก็ยังต้องทำให้เรียบร้อยเลย ความอ่อนไหวของของนักร้องละครเพลงของไป๋เสี่ยวเหนี่ยนั้น มันมีบุคลิกที่หญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่ถูกอะไรอย่างนั้นซึ่งเป็นที่ลำบากของโหย่วเผิงเหมือนกัน

“ฉากครั้งแรกที่ผมได้ถ่ายไปนั้นไม่มีฉากไหนที่ใช้ได้เลย มันเล่นไม่ออกจริงๆ ผมอยากจะยอมแพ้ ผมจะเป็นคนที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องล้มเหลวหรือเปล่า?

หลังจากการถ่ายไปหลายวันแล้ว ถึงทำให้โหย่วเผิงค่อยๆจับจุดได้ จนจางหันจื้อเจอโหย่วเผิงต้องแกล้งจับคือแล้วล้อเสียง

“โอ เสี่ยวไป๋มาแล้วหรือ” โจงซินก็พูดว่าเรื่องนี้นั้นทำให้เขาตื่นเต้นเป็นพิเศษ ที่แตกต่างมากที่สุดจะเป็นบทของโหย่วเผิง เขาที่ซ้อมร้องละครเพลงอย่างหนักนั้นก็ได้ร้องโชว์ตอนหนึ่ง (อิ๋วเหยียน) เดิมที่คิดว่าฉากที่มีร้องละครเพลงจะมาผู้เชี่ยวชาญมาร้องด้วยนั้นตอนนี้โหย่วเผิงรับเหมาร้องคนเดียวจนจบ

[prattana]

(เฟิงเซิง) รูปโปรสเตอร์โฆษณาหนังตังอย่างแล้ว

ภาพยนตร์ (เฟิงเซิง)ได้ออกโปรสเตอร์โฆษณาหนังภาพแรกแล้ว
สำนักข่าวซินลั่น หลังจากการโฆษณษโปรเตอร์ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องเฟิงเซิงแล้ว คุณหัวอี้ทางผู้ผลิตได้มีการออกรูปโปรสเตอร์หนังตัวอย่างมาเป็นทางการของครั้งแรก ได้ตั้งชื่อว่า “รูปโปรสเตอร์โฆษณาตัวอย่างครั้งที่๑” เนื้องเรื่องย่อในตัวอย่างนั้น จากเรื่อง

เรื่องย่อ (เฟิงเซิง) ได้ทยอยออกรูปโปรสเตอร์ตัวอย่างโฆษณามาสิบตัวอย่าง แยกประเภทออกเป็นรูปแบบจากทิวทัศน์ของเรื่อง รูปแบบของตัวละคร รูปแบบจากเนื้อเรื่องมีออกมาสามรูปแบบ รูปแบบโปรสเตอร์ตัวอย่างโฆษณาแต่ละรูปแบบนั้นล้วนไม่มีโครงสร้างของหัวเรื่องที่ชัดเจน ได้ออกมาในแนวสไตล์รูปตัวอย่างและเนื้อหา และรูปแบบตัวอย่างโฆษณาชิ้นสุดท้ายนั้นได้เชิญผู้จัดทำจากฮอลลีวูดมาออกแบบ จะนำเสนอก่อนจะออกฉาย เรื่องเฟิงเซิงนั้นได้จัดถ่ายกันถือว่าสุดยอดตั้งแต่เริ่มถ่ายทำจนถึงถ่ายทำเสร็จ มันสท้อนให้เห็นถึงความใจเด็ดเดี่ยวของคุณหัวอี้

เลียนแบบฮอลลีวูด ถ่ายรูปโปรสเตอร์ภาพยนตร์ออกมาก่อน

มกราคม ๒๐๐๙ ภาพยนตร์(เฟิงเซิง)ที่ยังไม่เปิดกล้องถ่ายทำนั้นก็ได้มีการออกโปรสเตอร์ตัวอย่างภาพยนตร์ต่อสื่อมวลชน ก็ไม่ได้เป็นที่ตลกอะไร หลังจากการเปิดกล้องแล้ว ถ่ายการถ่ายทำก็ได้ทยอยหลุดออกมาอย่างติดต่อกัน และได้ถ่ายทำฉากวันชาติที่มีสีสันที่สวยงามเป็นอย่างมาก และเวลานี้ การถ่ายทำเรื่องเฟิงเซิงนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น และทางคุณหัวอี้ได้ออกเปิดโปรสเตอร์ภาพยนตร์ตัวอย่างไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องอื่น ขณะถ่ายทำนั้นเขาเองก็ได้มีการออกรูปโปรสเตอร์ภาพยนตร์รูปแรกออกมาแล้ว ในรูปโปรสเตอร์นั้นได้พิมพ์รูปแบบของตัวหนังสือของขณะถ่ายทำ รูปแบบวิธีการในการโปรโหมดโฆษณาของเขานั้นก็ใช้แบบฮอลลีวูด

ได้เบาะแสการหลุดออกมาของภาพถ่ายทำที่ฉิวจวง

การออกรูปภาพตัวอย่างหนังครั้งนี้นั้น รูปนั้นได้ออกมาในแนวลมพายุพัดกระพือและเมฆก็โผล่ทะลักอย่างนั้น มันถ่ายทอดสื่อถึงบรรยากาศแห่งความน่าตื่นเต้นของหนังเรื่องเฟิงเซิง มีความแตกต่างจากตำนานที่เขียนไว้ สถานที่ฉิงจวงที่สวยงามนั้นได้ย้านจากซีหูไปที่หน้าผาที่สูงชะโงกเงื้อม และสิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่านี้คือ ทางตะวันออก ตกของตึกสองตึกของฉิวจวงนั้นเป็นหน้าผาที่สูงชัน มีทะเลเป็นขวางกั้นระหว่างสองตึก มุมหนึ่งมืดมุมหนึ่งสว่าง มันส่องถึงความเป็นความตายของตัวละครนั้นยากจะปกป้องได้

ตามที่ทราบมา ฉิวจวงยังเป็นสถานถ่ายทำที่สำคัญและมีบทบาทสำคัญของภาพยนตร์เฟิงเซิงอีกด้วย สถานที่ถ่ายทำเทียนลี่ก่อนนี้นั้นได้ใช้ทรัพยากรทั้งกำลังคนและทรัพย์มากมาย รวมทั้งยังใช้การถ่ายทำมุมสูงโดยใช้เครื่องบินด้วย ฉากภาพการถ่ายทำทิศตะวันออก ตกที่ใช้เทคนิคคอมมาช่วยนั้นเป็นภาพที่น่าตื่นเต้นอันตรายมาก บ้านฉิวจวงในรูปตัวอย่างภาพยนตร์ที่ออกมานั้นมันเหมือนของจริงมากๆ บรรยากาศกว้างใหญ่แห่งอำนาจ เป็นการสร้างที่โอ่อ่ามาก สำหรับภาพยนตร์จีนนั้นเป็นการสร้างที่เพิ่มอุบัติขึ้นเป็นประวัติการณ์

เบื้อหลังที่พิศวงซ่อนแฝงด้วยการฆาตกรรม

ในรูปภาพตัวอย่างภาพยนตร์นั้น ท้องฟ้าบรรยากาศบนฉิงจวงนั้นครึ้มเมฆ เครื่องบินของญี่ปุ่นได้บินผ่านไปมา เป็นนัยให้รู้ว่าชีวิตของบุคคลสำคัญในฉิวจวนนั้นกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เห็นหลังที่สวมชุดทหารของชายนิรนามผู้หนึ่ง ได้มองสังเกตจ้องไปที่ตึกทางตะวันตกของฉิวจาว ได้กลายเป็นเรื่องของเรื่อง จับ “ เหลากุ่ย”(ผีแก่) รูปแบบภาพของตัวอย่างภาพยนตร์นั้นไม่ต่างจากภาพในฉากนี้เลย และคนในฉิวจวงหลายคนถูกกักขังเอาไว้ การปรากฏของเหลากุ่ยนั้นเหมือนภาพวาดจริงเลย

(เฟิงเซิง) ได้สร้างขึ้นโดยคุณหัวอี้กับคณะภาพยนตร์ และได้เป็นที่สนใจของเหล่านักแสดงจีนมากมายในการมาเข้าร่วม แต่ว่านักแสดงที่ทุกคนรอคอยอย่างโจวซิ่น หลี่ปิงปิง จางหันหยี หวงเสี่ยวหมิง หวังจื้อเหวิน ซูโหย่วเผิง และอิงต้าล้วนไม่มีรูปออกมาที่รูปภาพโฆษณาตัวอย่างภาพยนตร์ และนักแสดงสำคัญเหล่านี้จะออกมาให้เห็นในช่วงท้ายของภาพโฆษณาภาพยนตร์ และรูปภาพโฆษณาภาพยนตร์ของเฟิงเซิงนั้นเป็นสิ่งที่น่าติดตามรอคอย

[prattana]

[prattana]

http://yule.tom.com/zhuanti/movie/fengsheng.html
Feng Sheng web sites
http://ent.mop.com/topic/fengsheng/index.shtml

[prattana]

(เฟิงเซิง) ปรากฏรายการภาพยนตร์เซี่ยงไฮ้ หลี่ปิงปิง โจวซิ่น ถูกลงโทษจากภาพยนตร์

ยกมาเพียงส่วนของโหย่วเผิง

14 มิ ย 2009 พรุ่งนี้มีพิธีเปิดงานภาพยนตร์ระดับชาติครั้งที่ 12 ทางจีนได้จัดงานประกาศแถลงการเป็นทางการของ (เฟิงเซิง) คุณหัวอี้ ผู้กำกับเฉินก่อฟู่ เก่าฉินซู นักแสดงหลัก จางหันอี้ หลี่ปิงปิง โจวซิ่น หวังจื้อเหวิน โหย่วเผิง เป็นต้นที่ได้มาร่วมงานแถลงข่าวเพื่อนโปรโมทภาพยนตร์เรื่องนี้ พูดถึงประสบการณ์ที่โหดของการถ่ายทำ ในขณะเดียวกัน ครั้งแรกที่ออกมานั้นเป็น “มี่จื้อตี้ซันเห่า”ที่เป็นฉากหลังของเวที ได้สื่อถึงสภาพการณ์ของเรื่องและการสร้าง

โจวซิ่นในเรื่องนั้นได้มีภาพลักษณ์ที่เมาเหล้านิดๆให้เขาเห็น ในหัวจื่อนั้นมันได้เห็นถึงในเรื่องนั้นเขาได้เมาเหล้าแล้วได้เต้นรำตามอารมณ์อย่างนั้น มันแตกต่างจากภาพโปสเตอร์ครั้งแรกที่ออกมาเหมือนเป็นคนละคนเลย

หลี่ปิงปิงในขณะที่ถ่ายทำนั้น เพื่อจะให้ได้ถึงการพังทะลายต่อบทบาทของเธอ ในเรื่องนั้นแก้วเหล้าแทบจะไม่ห่างจากมือเธอเลย ต่อเองได้บีบตัวเองจนแทบจะเป็นบ้า

การร้องละครเพลงของโหย่วเผิงนั้นได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง รูปร่างสวยงาม การออกเสียงตัวหนังสือนั้นชัดเจน แต่กลับให้เราได้เห็นถึงอีกภาพลักษณ์มุมหนึ่งของบทเขา “ตัวกูจะขออยู่ต่อไป”

หวังจื่อเหวินนั้นในเรื่องได้รับบทที่แน่นอน สำหรับการลงโทษที่โหดของเขาต่อตัวละครอื่นนั้น บทที่เหี้ยมโหดของเขานั้นทำให้คนอื่นไม่หนาวแต่ตัวสั่น

จางหันอี้ทางในจอและนอกจอนั้นล้วนถูกทำลาย เพื่อเข้าฉากหนึ่งที่หลังถูกลงโทษแล้วเขาได้เข้ารับการแต่งหน้าถึงสี่ห้าชั่วโมงเลย ผลงานที่เห็นได้นั้นมันรู้สึกสยดสยอง มันทำให้สะเทือนใจ

[prattana]

พิธีกร . ฉากที่สนุกๆนั้นของนักแสดงแต่ละคนมาเม้าให้ฟังหน่อย เริ่มจากโหย่วเผิงก่อนเลย ในเรื่องนั้นคุณได้พูดประโยคหนึ่งที่เด่นมาก “กูจะขออยู่ต่อไป” เป็นอย่างนี้เลยหรือ?

โหย่วเผิง . ประโยคนี้ไม่ใช่ว่าจะสื่อถึงผม นอกจากจะเป็นครูโหดที่สอนทุกคนแล้วนั้น ล้วนเป็นเสียงในใจของแต่ละคน

พิธีกร . ในเรื่องนั้นคุณรับบทเป็นอะไร

โหย่วเผิง .กองบัญชาการของพวกเราเรียกว่ากองบัญชาการปราบปราม ผมเป็นเลขาของผู้บัญชาการ ตำแหน่งของท่านคือขั้นที่ 4 คนคนนี้ตอนหนุ่มนั้นเป็นนักร้องละครเพลง ตอนนี้เขาลามือไม่ทำแล้ว ตั้งใจในงานทหาร

พิธีกร. รูปถ่ายนี้เป็นรูปที่คุณกำลังโชว์หุ่น

โหย่วเผิง . ผมเองก็เป็นครั้งแรกที่ดู มี่จื้อตี้ซันเห้า คนที่ออกมาจากลี่เหยียนนั้นจะมีอุปนิสัยบุคลิกที่พิเศษ เพื่องานนี้นั้น ก่อนหน้านี้ผมได้ทุ่มเทเป็นอย่างมาก ในเรื่องนั้นผมเป็นหนันตัน(ไม่แน่ใจแปลว่ากระเทย) จะต้องไปเข้าใจถึงสภาพจิตใจของหนันตัน ผมกังวลใจอยู่ว่าหากไม่สามารถที่จะทำได้ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปอยู่ในนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ขอบคุณความไว้วางใจของทางค่ายที่มีต่อผม ให้บทที่ท้าทายและหินมากๆแก่ผม หวังว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ไม่ทำให้เฟิงเซิงผิดหวัง

 

[prattana]

http://ent.sina.com.cn/m/c/2009-06-15/04112564108.shtml

โหย่วเผิงเดินออกจากพรมที่ปู(เฟิงเซิง)ไม่แพ้ผู้กำกับทั้งสองที่เดินออกมาด้วยกัน

ฉินซู เฉินก่อฟู่ โหย่วเผิง

สำนักข่าวซินลั่น ค่ำ14  มิ ย งานภาพยนตร์เซี่ยงไฮ้นั้นได้มีการเปิดม่านใหญ่ ในพิธีเปิดนั้น ในงานนั้นมีเหล่าดาราออกงานมากมาย ในนั้น เรื่องเฟิงเซิงที่โหย่วเผิงรับบทเป็นไป๋เสี่ยวเหนียนได้เดินอออมากับผู้กำกับเฉินก่อฟู่ เก่าฉินซู การได้รับการตอบรับไม่แพ้กันเลย

โหย่วเผิงถูกทีมงานแย่งตัว

ในงานภาพยนตร์ที่พึ่งเสร็จสิ้นไปหมาดๆ โหย่วเผิงไม่ได้เดินร่วมกับทีมงานของเฟิงเซิง แต่ว่ากลับไปออกเดินคนเดียวกับภาพยนตร์(ตามหาหลิวซันแจ่) ได้รับการตอบรับคับคั่งเหมือนกัน ในคืนนั้น ปัญหาที่ว่าโหย่วเผิงนั้นเป็นทีมงานของภาพยนตร์เรื่องไหนกันแน่ ทีมงานทั้งสองเรื่องก็ไม่ยอมกัน ทีมงานก็ได้เครียดกับเรื่องนี้ด้วย
ได้ดูแลผู้กำกับทั้งสองอย่างเคร่งครัด

บนพรมปูพื้นนั้น โหย่วเผิงได้ออกมาในชุดสูทสีดำ kemzao เสื้อเชิ้ตสีเขี่ยวนั้นยิ่งเป็นกระแส มาร์ดที่เข้มและบุคลิกของเขานั้น ทำให้แฟนๆในงานกรี๊ดสะนั่นลั่นห้องเลย ภาพใต้การยืนอยู่เคียงข้างของสองผู้กำกับเฉินและเกา โหย่วเผิงก็โอ่อ่า ใบหน้านั้นล้วนเต็มไปด้วยความมั่นใจ การชูไม้ชูมือนั้นล้วนเต็มไปด้วยสปิริต ต่อเสียงเรียกร้องของแฟนๆแล้ว ก็ได้ขึ้นไปหน้าเวทีจับมือกันพวกเขา อย่างเป็นกันเองมากๆ

นอกจากนี้ โหย่วเผิงได้เข้าสู่ฮอลลีวูด ได้เล่นภาพยนตร์(อณาจักรปลาคน) และจะไปถ่ายทำเรื่องนี้ในช่วงปลายปี ให้ตัวเองได้สัมผัสถึงวงการฮอลลีวูด ครั้งนี้สามารถที่เข้าร่วมแสดงกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดนั้น การพูดภาษาอังกฤษที่คล่องนั้นก็น่าจะให้คะแนนเต็มกับเขา เชื่อว่าการเข้าสู่ภาพยนตร์สากลครั้งนั้นจะนำความสุขสนุกมาให้กับพวกเรา

[prattana]

2009-7-22 โหย่วเผิง หันอี๋(เฟิงเซิง)ไม่ค่อยสบายใจ ต่างมีบุคลิก ไม่เข้ากับคนอื่น

หันอี๋ โจวซิ้น โหย่วเผิงที่แสดงเรื่องเฟิงเซิงภาพยนตร์สงครามนั้นเห็นได้ว่าค่อยๆโผล่ออกมาจากน้ำ เรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องแรกของหนังสงครามที่เรื่องราวต่อเนื่องดังสายน้ำ เป็นที่รอคอยของคอหนัง โดยเฉพาะในเรื่องนั้น โหย่วเผิงกับหันอี๋นั้นไม่ลงตัวกัน ต่างคนต่างมีจุดยืนของตัวเอง บางครั้งก็หยิ่ง บางครั้งก็หยาบ ไม่เข้ากับตัวละครคนอื่นเลย

เรื่องนั้นเกิดขึ้นในรัฐบาลของวางหวุย เหล่ากุ่ย เป็นกองทัพต่อต้านทหารญี่ปุ่นได้แฝงตัวที่ที่กองบัญชาการถูกรู้ และทางกองบัญชาการได้จับผู้สงสัยทั้งห้าคนไปกักขังที่ฉิงจวง ผู้ถูกขังทั้งห้าคนได้หนีเพื่อความอยู่รอด ต่างคนก็ต่างคิดหาวิธี แต่ว่าผู้เป็นเหล่ากุ่ยตัวจริงได้ความจริงออกไป เพื่อไม่ต้องการให้ทหารญี่ปุ่นทำลายกลุ่มนี้ ทั้งยังมีการต่อสู้ทั้งทางกำลังและทางปัญญา

และจากข่าวใหม่ล่าสุดที่ออกมานั้น ทางภาพยนตร์ได้บอกว่า "ไป๋เสี่ยวเหนี่ยน" ที่โหย่วเผิงเล่นนั้นเป็นคนที่มีคุณธรรมสูง และผู้บัญชาการกองปราบอู๋จื้อก่อได้ใช้คำว่าคุณธรรมลึกลับมาบรรยายตัวเขา โหย่วเผิงเล่นเป็นไป๋เสี่ยวเหนียนนั้นอ่อนโยนมีจรรยา ไม่เพียงแต่ความบุคลิกที่อ่อนโยนแล้วยังเป็นคนที่ควบคุมตนเองได้ ยิ่งกว่านั้นจะไม่ถูกกับจิงเซิงห่อที่ตามกระแสอำนาจ แต่ว่าหันอี๋ที่รับลทเป็นอู๋จื้อก่อนั้นเป็นคนที่งบุ่มบาม ไม่เพียงแต่มีความขัดแย้งกับคนมากมาย รวมทั้งยังมีความขัดแย้งกับผู้ต้องสงสัยอีกด้วย และเขาเองก็เป็นผู้หนึ่งที่มีอำนาจสูงที่ยากจาต่อกอนได้ ในความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่นนั้น สายตาที่ลึกลับบวกกับกิริยาที่แสดงออกนั้นได้กลายเป็นผู้สงสัยคนหนึ่งของเหล่ากุ่ย อย่างไรก็ตาม จากบทของโหย่วเผิงและหันอี๋ที่เล่นนั้นเห็นได้ชัดว่าทั้งสองตามก็มีบุคลิกที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เป็นบุคลิกที่ยากจะทำงานด้วยกันได้

เฟิงเซิงบนพื้นฐานการเขียนของนักประพันม่ายแล้วได้มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายๆครั้ง รวมทั้งสไตล์และหลายๆอย่างนั้นทำให้การผลงานที่ทำออกมาของผู้กำกับทั้งสองคนแตกต่างกันออกไปและต่างก็มีความมั่นใจในผลงานของตน

[prattana]

[prattana]

[prattana]