หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
Alec Su Youpeng fanclub in Thailand
»
Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน
»
Interviews & Video Clips
»
2010 Five Star Night Talk
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
2
ผู้เขียน
หัวข้อ: 2010 Five Star Night Talk (อ่าน 19692 ครั้ง)
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
2010 Five Star Night Talk
«
เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 05:45:17 AM »
http://www.tudou.com/v/t08CtWDefLY/&resourceId=0_04_05_99/v.swf
รายการ Five Star Night Talk
บันทึกเทป : 17 มีนา 2010
ออกอากาศ ; 15 ก.ค.2010
สถานีโทรทัศน์ช่อง BTV 北京
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #1 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:10:05 AM »
บรรยาย : บทเพลงของพวกเขาได้ประทับอยู่ในจิตใจของคนนับแสนนับล้านอย่างไม่มีวันลืม และการมารวมตัวอีกครั้งของพวกเขานั้น ยิ่งเป็นที่เซอร์ไพรส์ของทุกคน วันนี้รายการ อู่ซิงแย่ฮั่ว ของเราได้มีแขกรับเชิญมาจากแดนไกล
ซูโหย่วเผิง
พิธีกร : ชีวิตที่เปี่ยมด้วยปัญญา ก็ย่อมรู้จักสิ่งที่ดี ยินดีต้อนรับทุกคนที่ติดตามชมรายการ อู่ซิงแย่ฮั่ว วัยแรกของหนุ่มสาวนั้นเป็นเรื่องราวที่พูดคุยไม่จบไม่สิ้น และมีหลายสิ่งหลายอย่างมากมายที่ได้เคียงข้างกับวัยหนุ่มสาวของเรา อาทิ หนังสือเล่มหนึ่ง ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เพลงไพเราะน่าฟังเพลงหนึ่ง หรือเสียงดนตรีที่ลืมไม่ลง สิ่งเหล่านี้อาจนำความทรงจำดีๆมากมายมาสู่พวกเรา เหมือนกับเพลงเพลงนี้ “ชิงผิงก่อเล่อเหยียน” โอ้ บทเพลงนี้นั้นนำพวกเรากลับไปสู่บรรยกาศอดีตที่โยกไปโยกมา ฉะนั้นรายการในวันนี้ของพวกเรานั้น คนที่โยกไปโยกมาหนึ่งในนั้นก็ได้มาที่นี่แล้ว ให้เราใช้เสียงปรบมือที่ดังมาต้อนรับ
ซูโหย่วเผิง
โหย่วเผิง : สวัสดีครับทุกๆ คน สวัสดีครับ
พิธีกร : โหย่วเผิง สวัสดีค่ะ
โหย่วเผิง : สวัสดีครับ
พิธีกร : เชิญนั่ง ๆ
โหย่วเผิง : สวัสดีครับทุกคน
พิธีกร : เพิ่งลงจากเครื่องใช่ไหม
โหย่วเผิง : ใช่ วันนี้เพิ่งถึงเอง
พิธีกร : แล้วยังโอเคไหม
โหย่วเผิง : ก็เหนื่อยนิดหน่อย แต่ว่าเห็นหน้าทุกคนกับเพลง MV ของ 20 ปีที่แล้ว เลยทำให้ตื่นขึ้นมาในทันทีเลย
พิธีกร: ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่า หากว่าคุณสังเกตดีๆ แล้ว ท่าทางของเขาที่อยู่ข้างๆ จะเป็นอย่างนี้ อารมณ์อย่างนี้ของคุณหมายความว่าอะไร
โหย่วเผิง : มันตลกดี เมื่อกี้ผมดูแล้วในเอ็มวีนั้น ก็คือในภาพของเอ็มวีนั้น มันเป็น 2 เอ็มวี
พิธีกร: พวกเราได้เอาเอ็มวี 20 ปีก่อน มาตัดต่อเพิ่มเข้าไป
โหย่วเผิง : ที่ตื่นเต้นน่าดู น่าจะเป็นภาพเอ็มวีตัดต่อของยี่สิบปีที่แล้ว
พิธีกร : แต่ฉันรู้สึกว่าดีมากๆนะ
โหย่วเผิง : ใช่ ในนั้นมีตอนหนึ่งที่มีภาพพวกเรา 3 คน ไ ม่รู้ว่าพวกเราจำได้ไหม คือ ภาพที่เราทั้ง 3 คนมีท่าที่ร่วมประสานกันขึ้นมา นี่เป็นภาพใน “ชิงผิงก่อเล่อเหยียน” ซึ่งเป็นภาพที่คลาสสิกมากๆ เลยทีเดียว แล้วตอนนั้นผมเองก็เก๊กท่าตรงนั้น ผมจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นผู้กำกับต้องการให้พวกเรามีหน้าที่เข้มขรึม แล้วหน้าของผมก็กลายเป็นแบบนี้ ดูแล้วเข้มขรึมมากๆเลย ผมคิดว่าตอนนั้นอายุผมยังน้อย เลยไม่รู้ว่าท่าไหนถึงจะออกมาหล่อ ออกมาเข้มขรึม ฉะนั้นแล้วผมกับพวกเรา 2 คน ผมดูแล้วน่าตลกน่ารักดี
พิธีกร: ใช่ๆๆ ฉันเองก็รู้สึกว่าตอนที่ได้สังเกตคุณนั้น เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่นั้นเหมือนกับเด็กใส่เสื้อของผู้ใหญ่อะไรอย่างนั้น
โหย่วเผิง : ใช่ ตอนนั้นเสียงยังไม่แตกหนุ่มเลย ใช่ๆ
พิธีกร : เสียงแหบๆ
โหย่วเผิง : ใช่เสียงแหบๆ เหมือนกับเสียงเป็ดเลย
พิธีกร : แต่ว่าเสียงอย่างนั้นทุกคนก็ล้วนชอบนะ แม้จะเป็นเสียงอย่างนั้น ใช่ไหมทุกคน
ทุกคน : ใช่ๆๆ
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #2 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:15:09 AM »
พิธีกร : ฉันเองก็เหมือนกับทุกคน ฉันเองก็ฟังเพลงของเขาแต่เด็กจนโตเลย จริงๆนะ จริงๆ เอาล่ะ ฉันอยากจะถามพวกคุณ ว่าพวกเราได้ตัดภาพเอ็มวีของเพลงเมื่อกี้ของทั้งเมื่อ 20 ปีที่แล้วกับของคืนตรุษจีนปีนี้มารวมกัน เราจะเป็นภาพที่ต่างกันแล้วเรานำมาตัดต่อเข้ากัน แล้วพวกคุณชอบภาพไหน
ทุกคน : ชอบทั้งสองเลย
พิธีกร : งั้นชอบทรงผมในวันนี้ของเขาด้วยหรือเปล่า
ทุกคน : ชอบ
พิธีกร : ถ้างั้นแสดงว่าฉันเองก็คงตกยุคไม่ทันพวกคุณแล้ว
โหย่วเผิง : จริงๆแล้วทรงนี้เป็นทรงแฟชั่นของปีนี้นะ จริงๆ
พิธีกร : คุณลองหัน 360 องศา โชว์หน่อยได้ไหม
โหย่วเผิง : เพราะว่าปีนี้ทรงนี้แฟชั่นมาก ฉะนั้นต่อแต่นี้ไปไม่กี่เดือน ก็จะเห็นว่าศิลปินทุกคนจะไว้ทรงนี้ ก็จะเห็นว่าจะยาวๆ ไม่ใช่ผมเป็นคนคิดขึ้นมานะ ไม่ใช่
พิธีกร : ไม่เพียงอย่างนี้ เหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะเป็นแฟชั่นตัวพ่อเลย วันนี้คนเหล่านี้ที่มาในรายการนั้นก็ล้วนเป็นแฟนเพลงของคุณ จริงๆแล้วพวกเขาล้วนแต่โตเติบมาด้วยกันกับคุณทั้งนั้น
โหย่วเผิง : ใช่ครับ ก็คงมีทั้งแฟนคลับใหม่และเก่า เพราะว่าตัวเองได้เข้าสู่วงการก็ถือว่านานพอสมควร ฉะนั้นเวลาของแต่ละคนที่รู้จักผมนั้นก็คงจะไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะหากว่าบางคนที่ยังวัยรุ่นอยู่นั้นก็คงจะไม่เคยได้ยินเพลง ชิงผิงก่อเล่อเหยียน
พิธีกร : งั้นฉันขอถามหน่อย
ทุกคน : เคยฟังแล้ว
โหย่วเผิง : อื่ม
พิธีกร : ที่คุณบอกว่าอายุยังวัยรุ่นนั้นหมายถึง
โหย่วเผิง : หากว่าเคยฟังแสดงว่าอายุเยอะแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ
พิธีกร : คนนั้นบอกว่าเขาได้ฟังตอนงาน คืนตรุษจีน ในเมื่อพวกเราสนใจกับงานคืนตรุษจีนแล้ว พวกเรามาคุยเรื่องนั้นกันเลย จริงๆ แล้วงานคืนตรุษจีนครั้งนี้นั้น ได้รวบรวมผู้คนมากมายมาอยู่ตรงหน้าเวที และมีการแสดงหลายอย่าง แต่ว่าสายตาทุกคู่นั้นกลับไปจ้องอยู่กับรายการของพวกคุณ คือได้จ้องโฟกัสไปที่ เสียวหู่ตุ้ย ตอนนั้นน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น เหลาหู่ตุ้ยแล้วมั้ง (เสือแก่) ฮ่าๆ โอ้ ยังมีคนบอกว่ายังคงเป็นเสี่ยวหู่ตุ้ย
โหย่วเผิง : พวกเราน่าจะเป็นเสียวหู่ตุ้ยที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ฮ่าๆๆ
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #3 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:23:01 AM »
พิธีกร : สำหรับการรวมตัวครั้งนี้ของพวกคุณนั้น ฉันเห็นขณะที่พวกคุณ 3 คนเจอกันนั้น ฉันรู้สึกว่าพวกคุณไม่ค่อยสนิทกันเหมือนกับที่ฉันได้คิดไว้ ไม่รู้ว่าการเงียบของพวกคุณนั้น เป็นการแกล้งทำเป็นเข้ม ดูจากผิวเผินข้างนอกนะ ไม่รู้ว่าข้างในจิตใจของพวกคุณเป็นอย่างนั้นกันหรือเปล่า?
โหย่วเผิง : จริงๆแล้วเรื่องอย่างนี้นะ ผมคิดว่ามันเป็น แน่นอน ผมคิดว่ามันคงไม่ได้อย่างที่ทุกคนคิดไว้อย่างนั้น เพราะผมคิดว่าชีวิตจริงนั้น เข้าใจไหม เพราะว่าทุกคนก็คงคิดไว้ว่า เมื่อพวกเรามาเจอกันแล้ว คงจะต้องกอดกันร้องไห้ อะไรประเภทนี้ แท้จริงแล้วความเป็นจริงของชีวิตนั้นเป็นการเผชิญกับความเป็นจริง ไม่มีอะไรที่ต้องมาแสแสร้งทำ สำหรับพวกเรานั้น มันคงเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่สับสน ก็คงเป็นอย่างสมัยตอนวัยรุ่นของพวกเรา เพราะว่าเราเคยผ่านร้อนผ่านหนาวกันมามากมาย แล้วยังมีเกียรติมากมายที่เราได้รับด้วยกัน แล้วมีความทุกข์มากมายที่ได้เจอ
จริงๆ แล้ว พวกเรามีช่วงเวลาหนึ่งที่ต่างคนต่างอยู่ ก็คือ ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง หรือว่าต่างคนต่างมีอาชีพหน้าที่การงานของตัวเอง แล้วจริงๆแล้ว นานแล้วที่พวกเราไม่เคยได้ออกมาโดยใช้รูปแบบของเสี่ยวหู่ตุ้ย หรือแสดงออกในแนวขวัญใจวัยรุ่น ฉะนั้น เริ่มแรกของเรานั้น ก็จะมีบรรยกาศการไม่สนิทบ้าง และเรื่องนี้นั้น ผมคิดว่ามันก็คงไม่เหมือนกับผู้ชมหน้าจอโทรทัศน์ ก็คือช่วงหนึ่งของวัยเด็ก เช่น ชิงผิงก่อเล่อเหยียน ก็คือหากว่าคุณไม่ฟังบ่อยๆ เวลาผ่านไปแล้วคุณก็อาจะลืมมัน แต่เมื่อได้ยินเพลงนี้ ความทรงจำเก่าๆ ก็เริ่มกลับมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ต่างกับพวกเรา 3 คน
พิธีกร : แล้วช่วงเวลาที่พวกคุณได้ซ้อมการแสดงนั้น ฉันเองก็ได้เห็นแล้วตอนนั้นพวกคุณซ้อมหลายวันเลย
โหย่วเผิง : พวกเราใช้เวลาซ้อมกัน 4-5 วัน
พิธีกร : 4-5 วัน
โหย่วเผิง : ก็คือเริ่มแรกๆนั้น ต้องคิดท่าเก่าๆ ออกมาก่อน
พิธีกร : ล้วนเป็นท่าเก่าๆ หรือ?
โหย่วเผิง : ส่วนมากก็เป็นท่าเก่า แต่มีบางจุดที่มีความสงสัยไม่ชัดเจน เพราะว่าอดีตพวกเรามีหลายอัลบั้ม บางท่านั้นใช้เต้นในงานคอนเสิร์ด แต่มาในช่วงถ่ายเอ็มวี ก็จะใช้อีกท่าหนึ่ง ฉะนั้นในตอนนั้น ในใจพวกเราต่างก็ลืมไปแล้วบ้าง จากนั้นพวกเราก็ได้มานั่งคุยกัน แล้ว จื้อเผิงเป็นคนที่จำได้ดีกว่าคนอื่น แล้วเขาก็วิ่งออกมาว่า เป็นอย่างนี้ เป็นอย่างนั้น แล้วพวกเราต่างก็จะบอกว่า ใช่ๆๆ อาจารย์
พิธีกร : แสดงว่าคุณเป็นคนที่ถูกสอนบ่อยๆ คนนั้นหรือเปล่า
โหย่วเผิง : ส่วนใหญ่ก็จะจำไม่ได้แล้ว ก็เลยไม่มีอะไรที่จะพูด เพราะลืมไปเกือบหมดแล้ว และภาษามือผมเองก็จำไม่ค่อยได้ เพราะว่าผมเป็นประเภทที่ว่าจำเร็วลืมเร็ว
พิธีกร : แต่ว่าฉันจำได้ว่า เมื่อก่อนที่คุณเรียนการเต้นนั้น เป็นคนที่ช้ากว่าคนอื่นครึ่งจังหวะ (ทุกคนหัวเราะ) เสียงหัวเราะของพวกเขาเห็นด้วยกับสิ่งที่ฉันพูด ใช่ไหม ทุกคนคงรู้เรื่องนี้ใช่ไหม แล้วตอนนี้ยังช้าอยู่หรือเปล่า?
ทุกคน : ช้าอยู่
พิธีกร : ยังช้าอยู่ แสดงว่าพวกคุณยังดูออกอยู่ แล้วคุณยอมรับไหม?
โหย่วเผิง : จริงๆแล้วเรื่องนี้พูดแล้วเรื่องยาว (ทุกคนหัวเราะ)
พิธีกร : มีคำที่จะอธิบายมากมายอย่างนั้นเลยหรือ
โหย่วเผิง : แน่นอน เริ่มแรกนั้น ตอนที่อยู่ในช่วง 10 กว่าปี ตอนที่พวกเราเริ่มรวมกลุ่มกันนั้น เพราะว่าผมเองจะเป็นประเภทที่ว่า เป็นเด็กเรียนมากกว่า ฉะนั้น ความชอบเรื่องการเต้นนั้น จริงๆ แล้วก่อนที่จะเข้าไปเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นแทบจะไม่มีพื้นฐานอะไรเลย
พิธีกร : คือ มีศูนย์
โหย่วเผิง : ใช่ๆ เป็นศูนย์ ยิ่งกว่านั้นอาจจะพูดได้ว่าติดลบก็ได้ มันแย่มากๆ จริงๆแล้ว ผมรู้สึกว่าตอนนั้นมันเวอร์มากๆ ก็คือ เช่น ยืนอยู่ในท่าของตัวเองอย่างนี้ ตามปกติแล้ว ตัวของคุณต้องเอียงนิดหนึ่ง แล้วท่าก็ต้องเป็นอย่างนี้ ใช่ไหม ขาข้างหนึ่งจะต้องเป็นอย่างนี้
พิธีกร: เหมือนท่าของฉันอย่างนี้ไหม
โหย่วเผิง : แต่ว่าตอนนั้นผมทำอย่างนี้
พิธีกร : เหมือนว่าคุณจะพูดกับฉัน
โหย่วเผิง : ใช่ๆๆ ผมนั้นเริ่มต้นไม่มีศิลป์ในตัวเลย คุณรู้ไหม ฉะนั้น อืม..ผมต้องใช้เวลาในการไปซ้อมเยอะกว่าพวกเขา บ่อยครั้งหลังจากที่พวกเราซ้อมเสร็จแล้ว พวกเขาก็โอเคแล้ว ตัวผมต้องไปอยู่ต่อหน้ากระจก แล้วทบทวนหลายๆ รอบถึงจะโอเค โดยเฉพาะตอนเริ่มแรกนั้น เรื่องการเต้นนั้นไม่มีความมั่นใจเลย ผมจำได้ว่าตอนที่ผมเริ่มแรกนั้น ผมไม่กล้าที่จะดูตัวเองในกระจกห้องซ้อมเลย
พิธีกร : เพราะอะไร
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #4 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:28:58 AM »
โหย่วเผิง : จริงๆ แล้วปกติ คือคุณจะต้องมองที่กระจก แล้วจะเห็นท่าของตัวเอง ถึงจะนำไปแก้ไขได้ ก็จะทำให้ดีขึ้น ฉะนั้นตอนนั้นผมไม่กล้ามองเลย คุณรู้ไหม ไม่กล้าเผชิญกับตัวเองที่อยู่ในกระจก
พิธีกร : จริงๆแล้ว กระจกนั้นเป็นกระจกที่ใหญ่มาก คุณไม่อยากมองก็เห็นได้
โหย่วเผิง : ใช่ ผมเองก็เป็นแบบว่า ช่างมัน มองไปที่อื่น เลยติดเป็นนิสัยไปเลย แล้วไปแอบมองพวกเขา 2 คน ก็เป็นอย่างนี้ ฉะนั้นตอนเริ่มแรกๆ จะเป็นอย่างนี้ แล้วเรื่องการช้าครึ่งจังหวะนั้น ได้ฉายานี้ตอนที่พวกเราเริ่มใหม่ๆ เป็นช่วงที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักพวกเรา แล้วเพลงแรกนั้น จริงๆ แล้ว เป็นการไปเต้นกับวงอีกวงหนึ่ง ได้ร้องเพลง “ซินเหนียนไคว้เล่อ” ผมเองก็จำได้ว่าวันนั้นมันไม่ดีมากๆ เลย
บรรยาย : โหย่วเผิงได้พูดถึงการเรียนการเต้นที่สนุก จนทำให้ทุกคนในรายการหัวเราะอย่างไม่หยุด
โหย่วเผิง
: มีเพียงผม ผมก็จะทำอย่างนี้ ทิ้งลงมา สำหรับผมที่แม้แต่กระจกก็ไม่กล้ามองนั้น มันโหดมากๆเลย
บรรยาย : ประสบการณ์ในคืนตรุษจีนเป็นอย่างไร ทำให้เขามีความทรงจำอย่างนี้
โหย่วเผิง
: ผู้ชมทั่วประเทศกำลังรับชมอยู่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าตอนอยู่ในเวทีความว่างเปล่าได้โผล่ขึ้นมาในทันที
บรรยาย : เสี่ยวหู่ตุ้ยได้รวมตัวอีกครั้ง เขามีความรู้สึกอย่างไร
โหย่วเผิง
: พวกเรา 3 คน ผมคิดว่าพวกเรา 3 คน จริงๆ แล้วภายในใจของพวกเราทุกคน ล้วนแต่ตื้นตันใจกันทั้งนั้น
โหย่วเผิง : ผมจำได้ว่าวันนั้น จริงๆ นะ ถ้าพูดไปแล้วมันน่าอายเหมือนกัน
พิธีกร : ไม่เป็นไร
โหย่วเผิง : ตอนนั้นพวกเรา 3 คน จริงๆแล้ว คนร้องหลักในตอนนั้นก็จะเป็นพี่ๆ แล้วพวกเราทั้ง 3 นั้น จะมีการแสดงท่าเต้นในช่วงร้องรับอะไรอย่างนั้น จำได้ว่าตอนนั้นก็จะมีท่าหนึ่งคือการก้าวกระโดดไปข้างหน้าอะไรอย่างนี้
พิธีกร : แล้ว 3 คนก็จะต้องก้าวกระโดดด้วยหรือ
โหย่วเผิง : ใช่ ก็คือทั้ง 3 คน จะต้องกระโดดไปพร้อมๆกัน จื้อเผิงนั้นจริงๆ แล้ว แต่เด็กเขาก็เรียนเต้นบาเล่มา ท่าอย่างนี้นั้นเขาทำได้สวยมากๆ ขาของเขานั้นยังสามารถที่จะกางได้ตรงๆเลย คุณรู้ไหม ต่อไป ฉีหลง ก็เป็นคนที่เรียนพละมา จากภาพในปีนี้ทุกคนก็สามารถที่จะเห็นได้ว่า จริงๆแล้ว เขาทำได้ดีมากๆเลย เขานั้นแน่นอนก็ไม่แพ้กัน เขาโดดอย่างสุดๆ แล้วลอยสูงมากๆ เลย คุณเข้าใจนะ มีแต่ผมนี่แหละ ผมก็กระโดดแบบนั้น แล้วตกลงมาแล้ว (หัวเราะ) ต่อจากนั้นผมจำได้ว่า
พิธีกร : ถ้าเป็นเช่นนี้คุณน่าจะเร็วกว่าพวกเขาครึ่งจังหวะถึงจะถูกนะ
โหย่วเผิง : ผมเองก็ลืมไปแล้วว่าเพราะอะไร ที่แน่ๆ ท่าต่อไปของผมนั้น คือพวกเราจะต้องนั่งลงบนพื้นแล้วหมุน 3 รอบ ประมาณอย่างนี้
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #5 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:34:00 AM »
พิธีกร : ว้าว ท่ามันยากมากๆเลยนะ
โหย่วเผิง : ใช่ ดูอายุผมแค่นี้เอง แม้แต่กระจกยังไม่กล้ามองเลย มันโหดมากๆ เลย ...จากนั้นผมจำได้ว่าผมหมุนบนพื้น ก็คือท่านั้นแหล่ะ จริงๆแล้ว เป็นท่าที่เท่มากๆ เลย แต่ผมทำแล้วรู้สึกว่ามันแย่มากๆ จากท่านั้นผมก็ช้าไปครึ่งจังหวะ หลังจากที่ช้าไปหนึ่งจังหวะ ผมเองก็เลยดูแต่ตัวเอง ท่าต่อจากนั้นก็ไม่สามารถที่จะไล่ครึ่งจังหวะนั้นทันเลย ฉะนั้นจากท่านั้นจนจบก็เลยช้าครึ่งจังหวะตลอดจนจบ แล้วจากรายการนั้นดันมีคนดูเยอะมาก
พิธีกร : คุณแย่งจอกล้องหรือเปล่า (แย่งซีน)
โหย่วเผิง : ตอนนั้นไม่รู้ว่าการแย่งซีนเป็นอย่างไรจริงๆ ยิ่งกว่านั้น เป็นเรื่องที่น่าอายขนาดนี้ ผมจะใช้ท่าอย่างนี้มาแย่งซีน มันแย่มากๆเลย รู้ไม๊ ตอนหลังเรื่องนี้ได้แพร่ออกไป ว่าไกวไกวหู่ช้าครึ่งจังหวะ คุณรู้ไหม จากนั้นมา ฉายาช้าครึ่งจังหวะก็ตกอยู่ที่ตัวผม ใช่ จากนั้น แน่นอน ปีนี้จริงๆ แล้ว เอาล่ะ ไหนๆ ก็พูดแล้ว การแสดงงานตรุษจีนของปีนี้นั้น พวกเราทุกคนล้วนโตกันแล้ว มีประสบการณ์การแสดงที่มากมายแล้ว ไม่มีใครอยากจะช้าครึ่งจังหวะหรอก ใช่ไหม ฉะนั้นเวลาที่ซ้อมนั้น
พิธีกร : แม้ความคิดจะไม่คิด แต่ดูภายนอกแล้วคุณยังซื่อ
โหย่วเผิง : แน่นอน ตลอดการซ้อมการแสดงนั้น ก็คิดว่าตัวเองนั้นชำนาญมากๆ แล้ว คุณรู้ไหม สุดท้ายตอนหลัง ก็จะพูดตรงๆว่า จริงๆแล้ว ในคืนวันนั้น มันแปลกจริงๆ ผมเองก็ไม่รู้ อาจเพราะมีคนจ้องสนใจการแสดงพวกเรามากเกินไปหรือเปล่า ความเป็นจริงก็จะมีความกดดันอยู่ เราหวังอยากจะทำให้ดีที่สุด คุณเข้าใจนะ ไม่อยากจะให้ผิดพลาดแม้แต่นิดเลย เป็นการแสดงสดด้วย มีแฟนคลับของเสี่ยวหู่มากมาย และผู้คนทั้งประเทศกำลังชมอยู่ ผมเองก็ไม่รู้ ตอนอยู่บนเวที ในทันใดนั้น สมองว่างเปล่าขึ้นมาในทันใด คุณรู้ไหม ใช่ ผมก็เหมือนกับในละครเลย ผมก็ตัดสินใจว่า อย่างแรก ต้องหันไปมองข้างๆ อู่ฉีหลงกำลังทำท่าไหน ผมรู้สึกว่านี่เป็นอะไรของผม มันเป็นนิสัยไปแล้วหรือ ทุกครั้งในเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้น ผมต้องช้ากว่าคนอื่นครึ่งจังหวะ โอ้พระเจ้า ผมก็จะรู้สึกว่า โอ้สวรรค์ ทำไมต้องมีอย่างนี้อีกครั้ง
พิธีกร : เป็นการช้าครึ่งจังหวะที่ไม่สามารถจะลบได้
โหย่วเผิง : ใช่ครับ
พิธีกร : ฉันดูพวกคุณแล้ว เพราะว่าในวันนั้นฉันเองก็ได้นั่งอยู่หน้าทีวีดู การแสดงของพวกคุณนั้นฉันเองก็รอคอยเหมือนกัน อื่ม ฉันไม่รู้ว่าตัวพวกคุณเองมีความรู้สึกอย่างไร แต่อย่างน้อยในมุมของผู้ชมสำหรับฉันแล้ว ขณะที่พวกคุณ 3 คน ได้ลอยขึ้นมาจากใต้เวทีนั้น วินาทีนั้นที่เห็นคุณ
โหย่วเผิง : ขณะที่ครั้งแรกที่พวกเราซ้อมการแสดงนั้น ครั้งแรกที่อยู่ ก็คือเวทีของคืนตรุษจีนแหล่ะ ครั้งแรกที่เข้าไปอัดนั้น เข้าไปซ้อมในสถานีจงยางครั้งแรก ใช่ ขณะที่เห็นเวทีนี้นั้น ครั้งแรกที่ลอยขึ้นมานั้น พวกเรา 3 คน ผมคิดว่าพวกเรา 3 คน คนอื่นจริงๆแล้ว ในจิตใจนั้นตื้นตันใจมากๆ การซ้อมวันนั้น เป็นครั้งแรกที่เปิดให้สื่อเข้ามาทำข่าว เอ้ วันแรกมีหรือเปล่า? วันแรกนั้นยังไม่มี ไม่มีนักข่าว ข้างล่างแทบจะไม่มีคนเลย มีเพียงข้างบน ก็คือทุกคนจะเห็นแสงเป็นไฟ 3 ดวงนั้น ก็คือสปอตไลต์ 3 ดวงส่องมาที่ตัวเรา จากนั้นก็ค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากข้างล่าง มันตื้นตันใจมาก สำหรับพวกเราแล้วมันคือ เพราะว่านานแล้วที่ไม่ได้ ต้องขอโทษนะ ผมขออนุญาตพูดโอ้อวดหน่อย นานแล้วที่ไม่มีความรู้สึกของซูเปอร์สตาร์อย่างนั้น ใช่ เพราะว่าผมเอง รวมทั้งเส้นทางการร้องเพลงของผมด้วย ล้วนเริ่มที่จะอิ่มตัวแล้ว ผมก็คงจะไม่เหมือนกับเมื่อก่อนอย่างนั้นในการร้อง หรือว่าท่าเต้นที่เท่ๆ ในอดีตมาเต้นอีก ใช่ไหม ฉะนั้นวินาทีที่ได้ลอยขึ้นมานั้น สำหรับผมแล้ว มันทั้งใหม่ทั้งสนุกทั้งประทับใจ เป็นอย่างนี้ เพราะว่านานแล้วที่ไม่ได้เป็นอย่างนี้ โดยเฉพาะทั้ง 3 คนได้มาอยู่ด้วยกัน
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #6 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:38:35 AM »
พิธีกร : วินาทีนั้น จริงๆ ยังทำให้พวกเราตื้นตันใจไปด้วย ตอนหลังมาถึงวันที่ 15 ของเดือนที่หนึ่ง ในที่สุดพวกเราก็ได้เห็น การแสดงของพวกคุณถูกเลือกเป็นการแสดงชื่นชอบที่สุดของค่ำคืนนั้น อันดับหนึ่งของการแสดงร้องเพลง คุณรู้ไหม การได้รับที่หนึ่งนั้น ยากขนาดไหน มีนักร้องมากมายตลอดชีวิตการร้องเพลงของพวกเขาได้มาร่วมแสดงในคืนตรุษจีนนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยได้รับรางวัลนี้เลย
โหย่วเผิง : ผมรู้
พิธีกร : แล้วเมื่อก่อน คุณเคยคิดไหม เคยคิดไหมว่า ฉันจะต้องได้รับ
โหย่วเผิง : ไม่เคยคิด ก็คือการร้องเพลงครั้งนี้ของพวกเรานั้น สามารถที่จะนำมาซึ่งความยิ่งใหญ่ ผมเองก็รู้ว่ารางวัลที่หนึ่ง ที่ได้รับนั้นมันไม่ง่ายเลย ฉะนั้นเมื่อผมกลับไปบ้านแล้ว ผมก็เอาไปตั้งไว้ห้องรับแขกของบ้านผม ผมรู้สึกว่า เมื่อเทียบกับรางวัลต่างๆที่ได้รับในอดีตนั้น ผมคิดว่าอันนี้น้ำหนักจะมากกว่าอย่างอื่นเป็นพิเศษ ผมคิดว่าสิ่งนี้จะถูกเก็บจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของคืนตรุษจีน แล้วเสี่ยวหู่ตุ้ยก็ได้สร้างความอลังการขึ้น ผมประทับใจมากๆ
พิธีกร : แล้วคุณรู้ไหมว่าการตัดสินรางวัลนั้นไม่ใช่ทางกรรมการ แต่เป็นการโหวดของผู้ชม
โหย่วเผิง : ทราบครับ ...ตอนหลัง ผมเองก็ได้เขียนลงในเว็ป ว่าเสี่ยวหู่ตุ้ยอัศจรรย์มากๆ เสี่ยวหู่ตุ้ย แน่นอน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นจะบอกว่าราบรื่นตลอดก็ไม่ได้ ตลอดที่ผ่านมาพวกเราก็มีรวมกัน,จากกัน แต่ว่าขอเพียง เสี่ยวหู่ตุ้ย อยู่ด้วยกัน ก็จะมีความยิ่งใหญ่ มันอัศจรรย์มากๆ เพราะว่า 10 กว่าปีแล้วที่พวกเราไม่ได้อยู่บนเวทีด้วยกัน แต่ว่า แค่เวลาอันสั้นนิดที่มาเจอกัน และทั้งยังสามารถสร้างสีสันที่ยิ่งใหญ่ได้ อัศจรรย์จริงๆ
พิธีกร : ใช่ๆ นี่เป็นความอัศจรรย์ และสิ่งนี้จะอยู่ในใจของพวกเรา ฉันอยากจะถามหน่อยนะ ว่าความอัศจรรย์อย่างนี้ได้ให้ความทรงจำอะไรกับพวกคุณบ้าง ฉันอยากจะฟังจากผู้ชมของเรา เป็นเด็กหนุ่มคนนั้น เอาไมค์ไปให้เขา
หนุ่ม : สวัสดีครับ ขวัญใจ
พิธีกร : เรียกขวัญใจเลยนะ เขาชื่อขวัญใจหรือ
หนุ่ม : เขาเป็นขวัญใจของพวกเราทุกคน ผมจำได้ว่าตอนนั้นที่ได้ยินเสียงเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้น รู้สึกได้เลยว่ามีเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ น่าจะเป็นเพราะวัยหนุ่ม เป็นเพราะการยืนหยัด อาจเป็นเพราะอารมณ์ที่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่ผมได้ฟังไปไม่กี่รอบ ก็แทบจะร้องได้ทุกเพลงเลย จากนั้นก็รู้สึกว่า นั่นเป็นวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โหย่วเผิงเป็นขวัญใจที่มีเสน่ห์จริงๆ สามารถที่จะนำความสนใจของคนมากมายมาอยู่ในจุดเดียวกัน
โหย่วเผิง : แล้วที่ช้าครึ่งจังหวะนั้นไม่ถือว่าแย่หรือ?
หนุ่ม : โดยเฉพาะตอนที่เข้าห้องนอนนั้น ก็รู้ว่ายังมีเพื่อนที่อยู่แดนไกลของผมนั้น เขาเองก็ชื่นชอบโหย่วเผิงด้วย และวันนี้เขาเองก็ได้มาที่นี่ด้วย เป็นเขา พวกเรา 2 คนนั้นอย่างเดียวกัน พวกเราทั้ง 2 ก็ชื่นชอบโหย่วเผิงเป็นอย่างมาก สนันสนุนเขา ผมคิดว่าเขาเป็นผู้ที่สร้างความอัศจรรย์ในยุค 08 - 09 - 00
พิธีกร : ดี หนุ่มคนนี้พูดได้ดีมาก แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่เห็นด้วย คุณบอกว่าปี 08 09 00 แล้วคนยุคปี 07 อย่างพวกฉันลบทิ้งไปที่ไหนแล้ว
หนุ่ม : ใช่ ไม่ว่าจะเป็นปี 07 06 ไม่ว่าจะเป็นปีไหนๆ กี่พันกี่หมื่นคน หากได้เห็นโหย่วเผิงแล้ว เสน่ห์ของเขาก็คงจะทำให้ทุกคนชื่นชอบเขา
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #7 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:43:49 AM »
พิธีกร : เมื่อเขาพูดถึง หลังปี 00 นะ ฉันเองก็คิดขึ้นได้ว่า มีผู้ชมมากมายอย่างนี้ ฉันจะลองมาถามอายุของพวกเราว่าห่างกันเท่าไหร่ ดีไหม อาวุโสที่สุด คือใคร เราช่วยกันดูหน่อย แล้วบอกหน่อย โอ้ คุณป้าน้าคนนั้น
โหย่วเผิง : คุณตัดผมสั้นแล้ว เปลี่ยนทรง นานแล้วที่ไม่เห็นเขาเปลี่ยนทรงผม
พิธีกร : คุณจำเขาได้หรือ
โหย่วเผิง : จำได้
พิธีกร : คุณน้า เหมือนกับว่าคุณน้าติดตามโหย่วเผิงได้เหนียวแน่นมาก ถึงไหนถึงกันเลย
น้า : ใช่
พิธีกร : แล้วคุณชอบเขาอะไร เขากับลูกชายคุณ
น้า : น่าจะเท่าๆกัน ชอบเลิศประเสร็ฐของเขา
โหย่วเผิง : ขอบคุณครับ
พิธีกร : โอ้ เป็นคำที่
โหย่วเผิง : ใช่
พิธีกร : หลังจากที่ได้ยินแล้วคงเหลิงได้ใจซินะ
โหย่วเผิง : ไม่นะ จะรู้สึกว่าเกรงใจ จริงๆแล้วผมไม่ได้ดีขนาดนั้น
พิธีกร : คุณน้า ฉันถามอายุของคุณน้าได้ไหม
น้า : ปีนี้ฉัน 56 ปี
โหย่วเผิง : น้อยกว่าคุณแม่นิดหนึ่ง
พิธีกร : น้อยกว่าคุณแม่คุณหน่อย อายุ 56 แล้วคุณเริ่มฟังเพลงของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
น้า : ฉันฟังตั้งแต่ปี 1989 ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันฟังเพลง “อ้าย” ของเสี่ยวหู่ตุ้ย เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้านฉัน เขาร้องไปด้วยเต้นไปด้วย ภาษามือ ทันใดนั้น ฉันบอกว่าไพเราะมากเลย ฉันถามว่านี่เป็นเพลงอะไร เขาบอกฉันว่าเป็นเพลง “อ้าย” ของเสี่ยวหู่ตุ้ย ฉันรีบบอกเขาว่ารีบเอาม้วนนั้นให้ฉันดูหน่อย ด้วยเหตุนี้ฉันนั้นยอมที่จะซื้อเครื่องเทปราคา 400 กว่าของสมัยนั้นเครื่องหนึ่ง ฉันได้เอาม้วนนั้นอัดเก็บไว้
โหย่วเผิง : สมัยนั้น 400 กว่า ก็ถือว่าแพงมากๆเลยนะ
น้า : แต่ก็คุ้มค่า
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #8 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 07:49:28 AM »
พิธีกร : นี่เป็นแฟนเพลงที่อายุเยอะที่สุด คือแฟนที่มาอยู่กับเราที่นั่น อายุมากที่สุด งั้นฉันจะถาม อายุที่น้อยที่สุด โอ้ คุณยกมือ หนุ่มน้อย
โหย่วเผิง : คุณเป็นแฟนคลับรุ่นใหม่
พิธีกร : คุณเป็นคนใหม่ เป็นคนที่เข้ามาใหม่ แล้วอายุคุณเท่าไหร่แล้ว
เด็กหนุ่ม : 14 ครับ
พิธีกร : 14 เอง ว้า... แล้วคุณเข้าสู่วงการบันเทิงกี่ปีแล้ว
โหย่วเผิง : เป็นเรื่องที่เขายังไม่เกิดเลย
พิธีกร : เอ้ ตอนที่เขาดังคุณยังไม่เกิดแล้ว แล้วคุณรู้จักเขาได้ไง
เด็กหนุ่ม : ตอนเด็ก ผมก็ดูเรื่อง “องค์หญิงกำมะลอ”
พิธีกร : เอ้ คุณดูท่าทางที่เขาได้ใจอย่างนั้นซิ
โหย่วเผิง : ดูออกหรือ
พิธีกร : ได้ใจจังเลยนะ เอ้ แฟนคลับท่ามกลางเราที่นี่ ฉันได้ข่าวว่ามีสมุดภาพเล่มหนึ่ง มาแล้ว พวกเรามาดูกันดีไหม
โหย่วเผิง : ตอนนั้นผมได้ทำการ์ดครั้งแรกที่เป็นภาษาจีน
พิธีกร : เป็นเล่นแรกเลย
โหย่วเผิง : ใช่ ตอนนั้นพวกเรา 3 คนยังเด็กมากๆเลย จริงๆแล้ว คืนตรุษจีนครั้งนี้ก็มีคนเอาเล่มนี้ให้พวกเราดู แล้วหน้าสุดท้าย คือตรงนี้ “หากว่ามีโอกาส เจอเสี่ยวหูตุ้ย อย่าลืมที่จะให้พวกเขาเซ็นตรงนี้”
พิธีกร : หากคุณไม่พูดพวกเราก็ลืมไปแล้ว
โหย่วเผิง : ใช่ ขณะที่พวกเขาเอาหน้านี้ให้เราเซ็นนั้น ผมคิดว่า ว้าว 20 ปีแล้ว คุณได้เจอเสี่ยวหุ่ตุ้ยจนได้ นั่นเป็นความรู้สึกที่ประทับใจมากๆ
พิธีกร : จริงๆ งั้นพวกเรามาดูซิว่าด้านหลังนี้ ผ่านไป 20 ปีแล้วก็ยังว่างอยู่เลย
โหย่วเผิง : เขาเพิ่งเจอเอง
พิธีกร : ด้านหลังนี้ฉันเองยังเห็นราคาอยู่เลย ซื้อมาเมื่อไหร่หรือ ปี 1990 ซื้อมาเมื่อปี 1990
โหย่วเผิง : ยังรักษาไว้ได้ดีอย่างนี้ด้วย
พิธีกร : ใช่ ใหม่มากๆ แล้วราคาในสมัยนั้นฉันจะบอกกับทุกคนว่า เหมือนกับด้านหลังที่เขียนไว้ 5.95 เอาล่ะ ตอนนี้ ทางทีมงานของเราดีมากๆเลย เอาปากกามาให้ทันทีเลย กลัวว่าเดี๋ยวจะหาคุณไม่เจอ เรามาเซ็นกันสดๆ ตรงนี้เลย แล้วช่องของคุณอยู่ตรงไหน
โหย่วเผิง : อยู่ตรงนี้
พิธีกร : ไกวไกวหู่ โอ้ อยู่อับดับแรกเลย ยังมีอีก มีอีกคนหนึ่งเขามีอัลบั้มของคุณทุกชุดเลยนะ
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #9 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 08:04:47 AM »
โหย่วเผิง : เป็นกลุ่มนำศึกษาที่ใหญ่มาก
พิธีกร : แน่นอน ถูกต้องไหม เอามาแล้ว โอ้ ยังมีโปสเตอร์ด้วย
โหย่วเผิง : ทั้งหมดแค่นี้เองหรือ นี่เป็นซีดี
พิธีกร : คุณคิดว่าน้อยหรือ
โหย่วเผิง : เป็นของส่วนตัว
พิธีกร : มี ที่นี่ยังมีของเสี่ยวหู่ตุ้ย นี่ทั้งหมดเป็นของคุณคนเดียว ก็มีก็มี
โหย่วเผิง : นี่เป็นของผมคนเดียวเลย อีก 3 ปี ผมคงสามารถเปิดคอนเสิร์ดกับไฉหลินแล้วล่ะ
พิธีกร : คุณดูซิ ดูท่าทางเหลิงของเขาซิ
โหย่วเผิง : ผมไม่ใช่เหลิง แต่ผมกำลังอายตัวเอง
พิธีกร : อันนี้ อันนี้ มันเยอะจริงๆ
โหย่วเผิง : นี่เป็นอัลบั้มแรกของผม เป็นอัลบั้มหลังจากที่เราแยกวงกัน มีลายเซ็นด้วย
พิธีกร : คุณลองดูอันนี้
โหย่วเผิง : นี่เป็นอัลบั้มแรก (เป็นโปสเตอร์)
พิธีกร : คุณยังเหมือนเดิมเลยนะ
โหย่วเผิง : ตอนนั้นโปรโมทเพลงก็จะต้องใช่ชุดของเพลงด้วย ทางค่ายซื้อให้ ผมจำได้ว่าตอนนั้นพวกเราล้วนใสชุดสูท แล้วมีประมาณ 4 สีมั้ง รายการทั้งหมดก็ล้วนใส่ชุดสูท 4 สีนี้
พิธีกร : ต้องเซ็นลายเซ็นลงไปหน่อย
บรรยาย : เสี่ยวหู่ตุ้ยได้สร้างความสนุกให้กับวงการภาษาจีน เป็นการอัศจรรย์เกินคำบรรยาย และแล้วการแยกกันของเสี่ยวหู่ตุ้ย โหย่วเผิงที่ได้บินอย่างโดดเดี่ยวนั้น แทบจะไม่มีความราบรื่นอย่างที่เคยมี จนถึงเขาสามารถที่จะเรียนรู้เรื่องต่างๆ เหตุเพราะความกดดันเรื่องการเรียนที่มหาลัย ทั้งเรื่องการงานก็พลอยตกต่ำไปด้วย แต่ด้วยการที่เขาได้ตั้งใจในการการแสดงอย่างไม่ย่อท้อ บวกกับทางแฟนเพลงที่ไม่เคยทอดทิ้งเขา แล้วโหย่วเผิงก็ได้ยืนหยัดอย่างกล้าหาญตลอดมา
โหย่วเผิง
: ขณะที่เจอกับปัญหาอุปสรรค์อยู่บ่อยๆนั้น ผมจะรู้สึกเสมือนว่าไม่มีทางออก อยากจะบ่อยมันทิ้งไป พวกท่านคงมองไม่เห็นอย่างแน่นอน เป็นพวกคุณจริงๆ ที่ให้กำลังใจกับผมและความรับผิดชอบ ด้วยเหตุนี้ผมจึงสามารถที่จะยื่นอยู่ตรงนี้ ยืนหยัดมาตลอด ยามที่เจอกับปัญหา อย่าสิ้นหวัง ผมจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพวกคุณตลอดไป ขอบคุณ
โหย่วเผิง : ตอนนั้น การเป็นขวัญใจนักร้องคนหนึ่งจริงๆ แล้วเข้าวงการมานานแล้ว จริงๆแล้วไม่ค่อยมีอะไรใหม่ๆแล้ว แล้วก็ยังมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเรื่อยๆ คนเก่าก็ต้องเดินไปข้างหน้าแล้ว แล้วพวกเราที่เป็นคนเข้าสู่วงการก่อนนั้น
ก็จะต้องหาสิ่งใหม่ๆ เอาสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในออกมา เอาสิ่งใหม่ๆ มามอบให้กับแฟนๆ
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #10 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 08:10:42 AM »
พิธีกร : ฉะนั้นคุณก็ได้ก้าวข้ามที่เดิม
โหย่วเผิง : ใช่ ตอนหลังได้มาเจออาจารย์ฉวงเหยา ท่านอยากจะทำหนังเรื่องใหม่ “องค์หญิงกำมะลอ”
พิธีกร : ฉันคิดว่ารูปหน้าตาคุณ ไปเล่นหนังประเภทนั้นเหมาะมาก ก็คือเป็นผู้ชายที่ซื่อๆ ใสๆ
โหย่วเผิง : พอดีได้เจอบทอย่างนี้พอดีเลย จริงๆแล้ว อู่อาเกอ นั้นเป็นองค์ชาย
พิธีกร : เป็นคนที่ซื่อๆ แล้วคนดีมีน้ำใจด้วย
โหย่วเผิง :ใช่ๆ ยังเป็นคนที่เที่ยงตรงด้วย แล้วยังมีดีกรีไฮโซด้วย ฉะนั้นจริงๆแล้ว ตอนนั้นผมเองก็ไม่มีฝีมือในการแสดงอะไรเลย แล้วเล่นไปมาก็ยังใช้ได้บ้าง
ตัวอย่างหนัง.
โหย่วเผิง - หย่งฉี
: ฉันจะหยุดเลือดให้นะ หลังจากที่กลับไปแล้ว เจ้าก็บอกว่าฝึกขี่ม้า แล้วตกม้า
เสี่ยวเยี่ยนจื่อ : ไม่รู้
โหย่วเผิง – หย่งฉี
: ข้าผิดเอง พอใจยัง อภัยให้ข้าเถิด นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเข้าใจความรักของชายหญิง การมีความรัก เสมือนทะเลปั่นปวนไม่สามารถจะบังคับอะไรได้เลย จนการกระทำของข้าหลายๆอย่างนั้นผิดปกติไป เจ้าน้อยใจข้า นั่นแสดงว่าในใจเจ้ามีข้า ข้าน่าจะดีใจ อย่างไรก็ไม่ควรที่จะโกรธเจ้า เจ้าพูดถูกแล้ว แต่เด็กข้าเป็นองค์ชาย ชินแล้ว หลายครั้งมากจะเอานิสัยขององค์ชายมาใช้บ่อยๆ ต่อไปไม่ทำแล้ว
พิธีกร : อู่อาเกอได้เปลี่ยนแปลงไปในทันใดเลยนะ หลังจากนั้นก็ได้เล่นละครอีกมากมายเลย มีอะไรบ้าง พวกคุณช่วยบอกฉันหน่อย “เราสองหัวใจเดียวกัน” ใช่เปล่า “เดชเซี่ยวฮื้อยี้-เจี๋ยไต้ซวงเจียว” ใช่นะ “ดาบมังกรหยก-อีเทียนสูหลงเตาจี้”แสดงเป็น จางอู่จี้ เรื่องอู่ตี่ซิ่งลิ่ง จากสิ่งเหล่านี้ได้เล่นบทต่างๆ มามากมายเลยทีเดียว จริงๆแล้วเขากำลังเสริมเทคนิคให้กับตัวเอง
โหย่วเผิง : แท้จริงผมเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา เช่น แต่ละบทนั้นล้วนไม่เหมือนกัน มีสิ่งใหม่ๆที่เรียนรู้ได้
พิธีกร : แต่สิ่งที่ทำให้พวกเราทึ่งที่สุด คือ ฉันคิดว่าก็เป็นสิ่งที่ทุกคนทึ่งเหมือนกัน เป็นบทนั้น เป็นใคร
ทุกคน : ไป๋เสี่ยวเหนียน
พิธีกร : ไป๋เสี่ยวเหนียน คุณดู ฉะนั้นทุกคนก็รู้สึกว่า ไป๋เสี่ยวเหนียน เธอก็ได้นำนิตยสารภาพยนตร์เรื่อง “เฟิงเซิง” มาด้วย เอ้...ฉันคิดว่าเสียงหัวเราะของคุณสามารถไปสมัครการอัดเสียงได้นะ
โหย่วเผิง : ไม่หรอก ผมไม่รู้ คุณก็รู้ว่าพวกเราที่เป็นนักแสดงนั้น หลายครั้งขณะที่ได้ดูงานของตัวเอง รวมทั้ง MV “ชิงผิงก่อเล่อเหยียน” หรือว่าผลงานที่ผ่านมา ก็จะรู้สึกเขินๆบ้าง
พิธีกร : พวกเราไปรื้อฟื้นกันหน่อย... ไป๋เสี่ยวเหนียน
(ดู วีทีอาร์)
โหย่วเผิง : แค่ร้องก็ได้แล้วนะ
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #11 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 08:15:22 AM »
พิธีกร : แน่นอน หากว่ามีท่าทางของคุณด้วยก็ยิ่งดี
โหย่วเผิง : แต่ว่าท่าของผมวันนี้ หากว่ามาเต้นแล้วจะดูแปลกๆเลยนะ
ทุกคน : ไม่เป็นไร
โหย่วเผิง : ไม่ล่ะ ไม่ล่ะ ไม่ทำลายภาพอย่างนั้นก็จะดีกว่า และยิ่งกว่านั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือต้องมีการแต่งกายที่ดี
พิธีกร : ท่าทางกิริยาทั้งหมด
โหย่วเผิง : ใช่ ร่วมทั้งที่คุณจะแสดงนั้น ก็คือเครื่องสำอางที่จะมาตกแต่งทั้งหมด ดูไปแล้วก็จะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ หากไม่ใช่อย่างนั้น ชายชาตรีไปทำท่าอย่างนั้น ก็จะไปทำลายศิลปะที่ดีของมัน ไม่ค่อยดี แต่ว่าผมสามารถที่จะร้องสักสองคำ
-ร้องละครเพลง-งิ้ว-
พิธีกร : ดี ว้าว ฟังเขาร้องเพลง แต่ว่าฟังเขาร้องงิ้วก็เป็นครั้งแรกเลยนะ
โหย่วเผิง : 2-3 วันนี้ผม
พิธีกร : ว้าว เสียงนั้นเอื้อนได้สุดยอดมากๆ ฟังแล้วรู้สึกว่าดีมากๆเลย
โหย่วเผิง : จริงๆแล้ว ผมเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่าหนังโบราณนั้นมันแปลกมากๆ 2-3 วันนี้ผมอยู่ที่ไต้หวัน ผมไปร้านแว่นตา ไปทำแว่น เถ้าแก่คนนั้นยังบอกกับผมว่า “เอ้ ผมได้ไปดูเรื่องเฟิงเซิงมาแล้วนะ เสียงของคุณร้องออกมาได้อย่างไร ร้องเสร็จแล้วจะเจ็บคอไหม”
ผมบอกกับเขาว่า ไม่หรอก จริงๆ แล้ว ถ้าได้ร้อง 2-3 คำแล้วแล้วมันกลับเปิดลำคอเลย ไม่มีเลยที่ว่าจะไม่สบาย จริงๆแล้ว หากว่าสำหรับคนที่ไม่เคยแล้วนั้น มันเป็นเหมือนสิ่งที่ทำไม่ได้เลยอะไรอย่างนั้น ทำไมมนุษย์ถึงได้มีเสียงอย่างนี้ออกมาได้
พิธีกร : อืม ฉะนั้นตัวฉันเองก็สงสัยตลอดมา คุณไม่เห็นฉันก็ได้เอื้อนไปกับคุณหรือ
โหย่วเผิง : ผมเองก็เคยผ่านความรู้สึกอย่างที่คุณเป็นอยู่ ผมเองก็แปลกเหมือนกัน
พิธีกร : คุณฝึกมาแล้ว 3-4 เดือน
โหย่วเผิง : การร้องของผมนั้นจะเรียนรู้เร็วหน่อย แต่ว่าการออกท่าทางร่างกายนั้น มันยากจริงๆ ต้องฝึกทักษะหลายๆอย่างเลย และยิ่งกว่านั้น การที่ผมอยู่ข้างในนั้นจริงๆแล้วต้องถือพัดอันหนึ่ง แล้ว อันนั้นคุณสามารถที่จะจิตนาการได้ว่า
คนโบราณนั้นจะคิดท่าทางมากมายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำท่าพายเรือ บ้างก็ถือพัดไว้ ทำท่าแจวเรือ แล้วหมุนไปหมุนมา สุดยอดจริงๆ
พิธีกร : สับสนน่าดูเลยนะ
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #12 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 08:26:02 AM »
โหย่วเผิง : ใช่ จากนั้นทุกครั้งที่ไปเรียนนั้น เรียนเสร็จเอวนั้นแทบจะก้มไม่ได้เลย อาจารย์ผมชื่อไป๋ชุนเซียง เรียกอาจารย์ไป๋ ทุกครั้งที่เรียนเสร็จท่านจะบอกว่า ดูคุณซิ นี่เหมือนกับคนแก่อายุร้อยปีเลย จะก้มก็ก้มไม่ได้ ทุกครั้งก็เรียนได้แค่ประโยคกว่าๆ เท่านั้นเอง แต่ท่าทางนั้น จริงๆแล้วจะต้องทำให้ได้มาตรฐานที่สุด เช่น เหมือนกับมือท่านี้ อยู่ตรงนี้ จะอยู่ตรงนี้หรือตรงนั้นไม่ได้เลย หากปวดเอวจะก้มลงหน่อยก็ไม่ได้ ไม่ได้อะไรทั้งนั้น
พิธีกร : ใช่ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ช้ากว่าคนอื่นครึ่งจังหวะนั้นความยากยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย
โหย่วเผิง : เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมคิดว่ายังจะต้องมีการเรียนรู้อารมณ์ด้วย ก็คือคุณจะต้องเอาตัวเองและอารมณ์เขาไปอิงกับเรื่องก่อน อิงกับท่าทางผู้หญิงอย่างนั้น ก็คือเข้าในสภาพความฝันอย่างนั้น เงียบสงบ คุณจะกลายเป็นองค์หญิง แล้วท่าทางที่จะแสดงออกมานั้น ถึงจะนิ่มนวลได้ หากว่าปกติแล้วคุณมีอะไรที่ฉุน หรือว่าอารมณ์ยังไม่สงบ แล้วคุณก็จะมือไม้แข็งทื่อเลย แล้วคุณจะกลายเป็นหญิงที่มีกำลังอย่างนั้นไปเลย ถ้าอย่างนั้นจะทำให้คนอื่นตกใจรู้ไหม
พิธีกร : แล้วเคยร้องแบบนี้ให้คุณแม่ฟังไหม?
โหย่วเผิง : ร้อง เพราะว่าช่วงนั้นคุณแม่มาอยู่ที่ปักกิ่ง มาเป็นเพื่อนกับผม ก็คือตอนที่เริ่มเรียน งิ้ว จนถึงเวลาที่จะถ่ายทำ คุณแม่ผม เพราะว่าจริงๆแล้วคุณแม่ไม่มี พูดจริงๆแล้ว ท่านไม่เคยสัมผัสเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้พวกเราเป็นคนสนใจอย่างอื่น ฉะนั้นผมก็เลยเปิดเพลงงิ้วในบ้านอย่างไม่หยุด เปิดจนตอนหลังคุณแม่ก็รู้สึกว่าเพลงงิ้วนี้ไม่เลวเลยนะ
พิธีกร : แล้วมาดูลูกชายว่า โอ้ลูกชายตอนนี้ไม่เลว เปลี่ยนเป็นอย่างนี้แล้ว
โหย่วเผิง :
ใช่ แท้จริงคุณแม่สนับสนุนมากๆเลย ผมยังรู้สึกว่าคุณแม่เป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะท่านได้มองสิ่งนี้เป็นศิลปะ
ไม่เหมือนก่อนนี้ที่ทุกคนคิดกันว่า ทำไมลูกที่โตและดีอย่างนี้แล้วไปทำอย่างนั้นล่ะ จริงๆ แล้วคุณแม่ผมนั้นไม่ว่าอะไร ยิ่งกว่านั้นท่านคิดว่า จริงๆ แล้วเป็นวิชา(ความรู้)อย่างหนึ่งที่ดีมาก
พิธีกร : ในตอนนั้นคุณไม่เพียงแต่กังวลกับคุณแม่ คุณยังกังวลถึงแฟนคลับคุณด้วยว่า จะยอมรับได้ไหม
โหย่วเผิง :
จริงๆ แล้วตัวผมเองก็หวังที่จะมีการทะลุทะลวง ตลอดเวลาผมไม่อยากจะให้ตัวเองเป็นเพียงแค่นักแสดงเท่านั้น
เพราะว่าผมไม่เคยที่จะสนใจว่าจะสวยหรือน่าเกลียด อะไรอย่างนั้น จริงๆแล้ว ในใจผมนั้นไม่เคยสนใจว่าบทจะเป็นอย่างไร ผมนั้นจริงๆไม่อยากจะให้ทุกคนคิดว่าผมแสดงได้แต่เพียงบทอย่างนี้อย่างเดียว หรือว่าจะแสดงบทที่ดีๆ สุภาพๆ หรือว่าในเรื่องมีแต่เรื่องราวความรักอะไรอย่างนั้น
พิธีกร : แล้วบทนี้จะถือว่าเป็นบทที่พวกเราเห็นคุณทะลุทะลวงได้เยอะที่สุดหรือเปล่า
โหย่วเผิง : ปัจจุบัน ใช่ แต่อนาคตจะมีบทที่ทะลุทะลวงมากกว่านี้อีกหรือเปล่านั้น ผมเองก็ยังไม่รู้ แต่ว่าผมเองก็หวังที่จะทะลุทะลวงตัวเอง เพราะว่าจะเป็นอย่างบทแบบนี้นั้นหาได้ยาก ยากจริงๆ
เหตุเพราะหน้าที่การงาน ทำให้คุณต้องไปสัมผัสกับสิ่งที่คุณไม่เคยทำมาก่อน ใช่ แล้วคุณก็สามารถที่จะไปเรียนรู้วิชาใหม่ๆเพิ่มอีกด้วย จริงๆแล้ว เรื่องนี้มันสนุกดีเหมือนกัน
พิธีกร : ถ้างั้นพวกเราลองถามทุกคนที่นี่ บท ไป๋เสี่ยวเหนียน นี้พวกคุณยอมรับได้ไหม
ทุกคน : รับได้
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #13 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 08:32:29 AM »
พิธีกร : ดูไปแล้วทุกคนก็ยอมรับได้ ทะลุทะลวงได้สำเร็จ และนี่ฉันเองก็รู้สึกว่า นี่ก็นับว่าเป็นความสำเร็จเล็กน้อยในชีวิตแห่งการแสดงของคุณ แต่ว่าพูดไปหลายอย่างแล้ว ตัวฉันเองก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ รู้ไหมว่าอะไรที่ทำให้ฉันไม่พอใจ คุณรู้ไหมหลายปีแล้ว อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีแล้ว ไม่ค่อยมีเรื่องข่าวลือให้มาเม้าท์กันเลย ด้วยเหตุนี้ ฉันเลยได้ไปทำการสำรวจ คุณรู้ไหม นั่งดีๆนะ
โหย่วเผิง : จากนี้จะมีสาวๆ ออกมายืนข้างหน้า ให้ผมเลือกเลยหรือ?
พิธีกร : คุณอย่าตกใจ เพราะว่าฉันได้ข่าวลือนิดหน่อยมาว่า เอาล่ะ พวกเรามาดูกัน มา ออกมาได้แล้ว นักข่าวของฉัน มาๆๆๆ น่ารักจริงๆเลย
โหย่วเผิง : นี่เป็นแฟนสาวน้อย 4 คนของผม
พิธีกร : เขามีความสัมพันธ์อะไรกับพวกคุณ พวกคุณเรียกเขาว่าอะไร มา หนึ่ง สอง สาม
สี่สาวน้อย : เปี่ยเปีย
พิธีกร : เปี่ยเปีย หมายถึงอะไร
สี่สาวน้อย : คุณพ่อ
พิธีกร : พวกคุณ 4 คนเรียกเขาว่า คุณพ่อ แล้วคุณยอมรับไหม
โหย่วเผิง : ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าผมมีลูกแต่เด็กละซิ
พิธีกร : พวกเขาเรียกคุณเป็นพ่อ แล้วคุณแยกแยะออกไหม คุณพ่อ คุณ แยกออกไหม พวกเขานั้นยืนกันเอง คุณลองมาดูซิ
โหย่วเผิง : นี่พี่ใหญ่ ผมๆๆ คุณรู้ไหมว่า เด็กผู้หญิงไม่เห็น 2-3 เดือนก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากเลย
พิธีกร : จริงๆหรือ โอ้ เขาปวดหัวแล้ว ให้เขาปวดหัวบ้าง
โหย่วเผิง : คุณเป็นน้องสามใช่ไหม ไม่ใช่หรือ ผมไม่ไหวจริงๆปวดหัวแล้ว อย่าทดสอบผมเลย
พิธีกร : หัวโตแล้ว
โหย่วเผิง : หัวโตแล้ว
พิธีกร : เอาล่ะ มา อย่างนี้ ฉันจะนับสาม สอง หนึ่ง แล้วพวกคุณเรียงกันเองนะ ดีไหม....เอาล่ะ หนึ่ง สอง สาม เริ่ม
โหย่วเผิง : เธอเป็นน้องเล็กนี่นา ยังมาหลอกเรา
พิธีกร : อย่างนี้ถึงถูกต้อง แล้วพวกคุณมีความสัมพันธ์อะไรกับเขา
น้องสอง : พวกเราคือตอนที่ถ่ายทำภาพยนตร์นั้น จึงมีความสัมพันธ์กับเขานิดหน่อย
พิธีกร : แล้วถ่ายภาพยนตร์เรื่องอะไร
น้องสอง : เล่นเรื่อง 4 กามเทพ
บรรยาย : พวกเขาเป็นเด็กน้อยที่น่ารักที่ได้ร่วมแสดง “4 กามเทพ” ต้าปิง เสี่ยวชิง เสี่ยวอี้ เสี่ยวเจี๋ย
พิธีกร : งั้นลองพูดซิ การที่พวกคุณเรียกเขาว่า พ่อ แล้วเขาเป็นพ่อที่ดีไหม
โหย่วเผิง : น่าจะไม่เลวนะ
พิธีกร : อย่าชี้นำ
โหย่วเผิง : แล้วทำไมต้องไม่
พิธีกร : ทำไมไม่ล่ะ ใช่ เขาอยากจะรู้ว่าทำไมไม่
น้องสาม : เขาลำเอียง
โหย่วเผิง : ผมจะรักแม่มากกว่า
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #14 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 08:42:07 AM »
ทุกคน : ไม่ใช่ คุณชอบต้าปิงที่สุด เขาชอบพี่ใหญ่
พิธีกร : พวกเขาอิจฉาเป็นนะ.......จริงๆ เขาบอกว่าชอบคุณ เป็นความจริงไหม
ต้าปิง : ใช่
พิธีกร : ตัวเขาเองก็ยังยอมรับเลย......คุณจริงๆไหม คุณลำเอียง
สี่สาวน้อย : ตัวเขาเองจะไม่รู้สึกอย่างนั้น
พิธีกร : แล้วทำไมพวกคุณถึงบอกว่าเขาลำเอียง
โหย่วเผิง : พวกเขารู้ดีกว่าผม
พิธีกร : แล้วทำไมพวกคุณบอกว่าเขาชอบพี่ใหญ่ เอาไมค์ด้วย
น้องสาม : มีครั้งหนึ่งในงานแถลงข่าว เขาบอกว่า หากจะหาแฟนต้องหาอย่าง ต้าปิง
พิธีกร : โอ้ เป็นความในใจเลยนะ แล้วต้าปิงเป็นคนอย่างไร บรรยายบอกให้กับเรารู้หน่อย
โหย่วเผิง : จริงๆแล้วเพราะว่าพวกเขา อายุก็ยังเด็กอยู่ เวลาเราถ่ายภาพยนตร์นั้นก็มักจะลำบาก เช่น ถ่ายทำจนถึงดึกๆ ไม่สามารถที่จะนอนได้ แล้วพวกเราก็อาจจะมีอารมณ์เสียบ้าง อะไรอย่างนั้น ต้าปิงเพราะว่าเป็นคนที่โตที่สุดของพวกเขา ฉะนั้นบางครั้งก็จะปลอบใจทุกคน ก็จะรู้ความมากกว่า แล้วเข้าใจคนอื่นมากกว่า
พิธีกร : อ้อ ฉันดูแล้วต้าปิงน่ารักมากๆ วันนี้ฉันเห็นทุกคนเข้ามาที่นี่ มือแต่ละคนก็ล้วนถือของอยู่ตลอดด้วย ทุกคนก็ถือหนึ่งอย่างเป็นอะไร คุณทำตกเป็นคนพูดก่อน นี่หมายความว่าอะไร ที่มือพวกคุณได้ถือมา
น้องเล็ก : นี่เป็นของขวัญที่จะมอบให้คุณพ่อโหย่วเผิง
โหย่วเผิง : นี่คืออะไร เป็นเสือใช่ไหม
น้องเล็ก : ใช่ เสือ สี่ปีเสือ สีเสือมีศรีสุข มีความสง่าดังเสือ
พิธีกร : โอ้ น่ารักมากๆ
โหย่วเผิง : ตอนนี้ผมรักคุณที่สุดแล้ว
พิธีกร : เปลี่ยนไปเร็วจังนะ คุณเปลี่ยนใจเก่งมาก..... เอาล่ะ ต้าปิง เขาชอบคุณที่สุด
ต้าปิง : สิ่งที่ฉันจะมอบให้โหย่วเผิงเป็นเสือตัวหนึ่งที่เล่นกีต้าร์ เพราะว่าเป็นไกวไกวหู่ เลยจะมอบเสือให้คุณ
โหย่วเผิง : ขอบใจคุณนะ
พิธีกร : ไกวไกวหู่ ดีขนาดไหน
โหย่วเผิง : เอาล่ะ ผมได้มาแล้ว 2 ตัว ถ้า 4 ตัวแล้วสามารถจะแลกอะไรบ้าง
พิธีกร : ถ้าได้ถึง 4 ตัว สามารถแลกคุณแม่
น้องสอง : สิ่งที่ฉันจะมอบให้กับคุณพ่อโหย่วเผิงเป็น หงอคง ตัวหนึ่ง หวังว่าคุณจะเป็นดังเทพผู้ยิ่งใหญ่ หนุ่มแน่นสดใส
โหย่วเผิง : ยังมีความคิดที่สร้างสรรค์มากเลย ขอบใจ
พิธีกร : ให้สดใสเหมือนกับเทพผู้ยิ่งใหญ่ แปลงร่างได้ 72 อย่าง
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #15 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 08:54:41 AM »
น้องสาม : นี่เป็นสิ่งที่ฉันจะมอบให้กับคุณพ่อโหย่วเผิง เป็นแค๊ดดี้ เพราะว่าฉันอยากจะให้คุณพ่อโหย่วเผิงหาแฟนที่น่ารักเหมือนกับแค๊ดดี้
โหย่วเผิง : แล้วคุณแม่ล่ะจะทำอย่างไร
พิธีกร . เข้าใจพูดจริงๆ
น้องเล็ก : ที่เขาพูดถึงก็คือ คุณแม่
พิธีกร : ให้รีบเชิญคุณแม่ของพวกหนูขึ้นมา
สี่สาวน้อย : เสี่ยวไป๋
พิธีกร : เรียกเสี่ยวไป๋ นี่ทำไมเหมือนกับอันนั้น ยินดีต้อนรับ พวกเรายังจะขอเรียนเชิญผู้กำกับ 4 กามเทพของเรา หวังไฉเทา เชิญค่ะ คุณสังเกตไหม ขณะที่เดินขึ้นมานั้น ทันใดคุณแม่ก็ไปยืนข้างๆ คุณพ่อเลย เด็กๆ ยังยืนอยู่ ลูกๆ ทุกคน พวกเราหลีกช่องว่างให้คุณพ่อกับคุณแม่กันดีไหม ต่อจากนี้เราจะพูดเรื่องผู้ใหญ่แล้ว ฉะนั้นพวกหนู พวกหนูไปอยู่กับผู้กำกับเทานะดีไหม (ดี) ดี ไปเลยนะ
โหย่วเผิง : ก็อยากจะแนะนำกับทุกคนหน่อยเลยนะ ในเรื่องนั้นเธอเป็น ตอนหลังพวกเราก็ได้เป็นครอบครัวเดียวกัน (ใช่ๆ ) ในเรื่องนั้นเธอชื่อ ไป๋เสี่ยวไป๋ - เหยียนตันเฉิน
ตันเฉิน : ฉะนั้นฉันเชื่อเสี่ยวเปีย
พิธีกร : เชิญนั่งๆ ทั้ง 2 คนเลย
บรรยาย : ภาพยนตร์ 4 กามเทพในเรื่อง จ้วนซือหวังเหล่าอู่ กับฉีปอหลินได้ร่วมงานกัน จนได้พบกับแม่ลูก 4 คน กับฉีปอหลินที่ไม่เคยเชื่อในความรัก สุดท้ายถูกความซื่อของเสี่ยวไป๋ทำให้เขาประทับใจ จนไปขอแต่งงานกับเธอ ในเรื่องนั้นจะสื่อถึงเรื่องราวความรักของชายหญิงในเวลานั้น แล้วกับโหย่วเผิงที่เป็นชายโสดจะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องราวความรักล่ะ แล้วในรายการก็มีแฟนเพลงได้มาบอกรักกับเขา แล้วเขาจะตอบสนองอย่างไร
โหย่วเผิง : ผมไม่ใช่ว่าไม่เชื่อมั่นในความรัก เรื่องชีวิตครอบครัวนั้นสำหรับเรื่องนี้แล้ว ผมเองคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องจริงๆ จังๆ ก็เลยไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงๆจังๆ อย่างหนึ่ง คือ ตอนนี้หน้าที่การงานยุ่งมาก บางครั้งผมจะรู้สึกว่า หลังจากที่แต่งงานไปแล้ว ก็คือเรื่องของการแต่งงานหรือครอบครัวนั้น สำหรับผมยังคิดว่าตัวเองยังไม่ค่อยเข้าใจมากพอ ผมมีเพื่อนนักเรียนหลายคน ตอนนี้พวกเขาก็แต่งงานไปแล้ว แน่นอนพวกเราไม่ได้ทำอาชีพนี้ ก็คือเป็นคนปกติทั่วไป เมื่อดูชีวิตคู่ของพวกเขาแล้ว ก็จะรู้สึกว่า เอ้ ยังพอไปได้ แต่สำหรับผมแล้ว ผมก็ยังคิดว่าจริงๆ แล้วก็เหมือนกับในเรื่อง ความรู้สึกอย่างของฉีปอหลิน ก็คือยังไม่มั่นใจว่า ผมสามารถที่จะทำเรื่องนี้ได้
พิธีกร : งั้นฉันมาถามเพื่อนที่อยู่ในรายการกับพวกเราที่นี่ อยากจะถามทุกคนว่า ตอนนี้ใครยังเป็นโสดอยู่ช่วยยกมือหน่อย นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องราวความรักของคนในยุคนี้ ได้สื่อถึงคุณค่าของความรักของวัยรุ่น ใช่ไหม แท้จริงแล้วคนที่มาถึงที่นี่ก็ล้วนเป็นวัยรุ่นกัน ฉันอยากจะฟังความคิดของพวกคุณ ทำไมถึงยังเป็นโสดอยู่ โอ้ คุณทำท่าแคะจมูกหรือเปล่า หรือว่า เอาคุณแหล่ะ
หนุ่ม : ก็คือ ที่คนอื่นมองผม รักผม ผมก็ไม่ค่อยชอบ แต่ที่ผมไปชอบนั้นดันเป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว
โหย่วเผิง : ปกติแล้วควรจะตาสูงแต่มือต่ำ
บันทึกการเข้า
Chomnath
Global Moderator
Hero Member
กระทู้: 1307
Re: 2010 รายการ Five Star Night Talk ; 15 July
«
ตอบกลับ #16 เมื่อ:
ธันวาคม 29, 2010, 09:04:30 AM »
พิธีกร : เอาล่ะ ต่อ ฉันจะถามผู้หญิงบ้าง ผู้หญิง คุณพ่อ คุณแม่ พวกคุณจะต้องไปดูแลลูกๆไหม
โหย่วเผิง : แม่ไป พวกเรามาฟังเด็กๆ เขาพูดอะไรดีไหม ลองดูว่าพวกสาวน้อยจะคิดอย่างไรกัน
สี่สาวน้อย : อย่ามีความรักก่อนวัยอันควร
พิธีกร : เอาล่ะฉันอยากจะฟังอีก เอาล่ะ ผู้หญิงคนนี้ เอาไมค์ให้เธอ
หญิง : จริงๆ แล้วกำลังรอคอยคนหนึ่งที่รู้ว่า เอื้อมไม่ถึง
พิธีกร : ฉันรู้ความหมายของเธอแล้ว
โหย่วเผิง : ผมเองก็เข้าใจ
พิธีกร : แล้วคุณมีอะไรจะตอบไหม
ตันเฉิน : ส่งแค๊ดดี้ให้เธอซิ น่ารักดี เร็วๆ
เด็กๆ : พวกเราจะโกรธนะ
พิธีกร : เขาโกรธนะ ยินยอมดีไหม
เด็กๆ : แม่ แม่ไม่ปวดใจหรือ
ตันเฉิน : ไม่มีปัญหา
พิธีกร : แม่ แม่ไม่โกรธหรือ เด็กได้พูดออกมาแล้ว
ตันเฉิน : สายเชือกที่เป็นของจริงนั้นอยู่กับฉันไม่เห็นหรือ
โหย่วเผิง : ดูซิ จะเดินไปก็เดินไม่ได้
พิธีกร : เมื่อกี้ทุกคนก็พูดแล้ว เป็นความคิดของพวกเขา บอกการที่พวกเขาอยู่โสดว่าเพราะอะไร แล้วคุณล่ะ การที่คุณอยู่โสดนั้น คุณกำลังรอคอยผู้หญิงแบบไหนกัน
โหย่วเผิง : พูดคำเดียวคงไม่จบ ก็ประมาณเสี่ยวไป๋อย่างนี้แหล่ะ
พิธีกร : งั้นพวกเราก็จะขอนัดพวกคุณไว้เจอกันในจอภาพยนตร์ก็แล้วกัน พวกเรามีร่วมยืนยันความรักที่สวยงามของพวกเขา 2 คน
โหย่วเผิง : นี่ป็นรูปครอบครัว
พิธีกร : นี่เป็นรูปครอบครัว น่ารักมากๆ มาๆๆ 4 สาวน้อยที่น่ารัก มาบนเวทีนี้ มา ให้เรามาเก็บรูปครอบครัวที่โรแมนติกกันดีไหมมาๆๆ
The End
บันทึกการเข้า
Alec Love Me
Administrator
Hero Member
กระทู้: 13954
Re: 2010 Five Star Night Talk
«
ตอบกลับ #17 เมื่อ:
มกราคม 30, 2016, 08:54:37 AM »
https://www.facebook.com/suyoupengthaisfanclub/media_set?set=a.907789056002868.1073741912.100003153463038&type=3
บันทึกการเข้า
Web Site
www.baansuyoupeng.com
FB
www.facebook.com/AlecfanclubinThailand
WB
http://www.weibo.com/AlecSuThaiFC
Alec Love Me
Administrator
Hero Member
กระทู้: 13954
Re: 2010 Five Star Night Talk
«
ตอบกลับ #18 เมื่อ:
มกราคม 30, 2016, 08:55:35 AM »
บันทึกการเข้า
Web Site
www.baansuyoupeng.com
FB
www.facebook.com/AlecfanclubinThailand
WB
http://www.weibo.com/AlecSuThaiFC
Alec Love Me
Administrator
Hero Member
กระทู้: 13954
Re: 2010 Five Star Night Talk
«
ตอบกลับ #19 เมื่อ:
มกราคม 30, 2016, 09:20:57 AM »
บันทึกการเข้า
Web Site
www.baansuyoupeng.com
FB
www.facebook.com/AlecfanclubinThailand
WB
http://www.weibo.com/AlecSuThaiFC
พิมพ์
หน้า: [
1
]
2
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
Alec Su Youpeng fanclub in Thailand
»
Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน
»
Interviews & Video Clips
»
2010 Five Star Night Talk