ศึกแย่งตัว
ในช่วงที่ไช่จื้อเผิง เดินทางไปโปรโมท ละครเรื่อง Mars ที่ญี่ปุ่น เธอก็เห็นว่าซูโหย่วเผิงเป็นเสมือน เบยองจุนแห่งไต้หวันสามารถเจาะเข้าตลาดญี่ปุ่นได้อย่างสบาย หนุ่ม 30 กะรัตคนนี้มาแรง มีดีกรีดังระเบิด ในแดนปลาดิบถ้าตั้งใจดันให้เต็มที่ ในขณะที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ทั้งผู้จัดการส่วนตัวของซูโหย่วเผิงกับเจ้ไช่กำลังเจรจากันอยู่นั้น ได้ปฏิเสธหนังเรื่อง ไป่เซี่ยเหวย ตำนานฐานเจดีย์สีขาวของผู้กำกับ ไช่ซือซิ่น และเขายังได้ปฏิเสธ เซี่ยอี้ยุ่นผู้สร้าง ละครในชื่อเดียวกันนี้อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งก็ต้องการตัวอเล็คซ์ เช่นเดียวกัน พอรู้ข่าวว่าซูโหย่วเผิงกำลังกลับไต้หวันเขารีบจองโต๊ะคอยท่าไว้ในวันที่ 2 เดือนเมษายน สุดท้ายพวกเขาได้เจอกันหลังจากวันหมดสัญญาจากค่ายเก่าไป 2 วัน มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวที่อเล็คซ์จะเซ็นสัญญาด้วย และมีโอกาสเป็นศิษย์ผู้พี่ของเซียวเฉียงในทันทีถ้าเขาโอเค
เมื่อสองผู้จัดต่างก็ยื่นข้อเสนอที่ดีเลิศพร้อมกันเป็นที่น่าสนใจ ทั้งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนพี่โหย่วเผิง เพียงแค่เขาพยักหน้าก็เซ็นสัญญาได้ทันที ผู้จัดการซ่งพูดว่า “ ซูโหย่วเผิงมีนิสัยละเอียด รอบคอบ คงไม่ใช่หมดสัญญากับค่ายเก่าปุ๊บก็รีบเซ็นสัญญากับค่ายใหม่ทันที” เขาได้ขยายความว่า หลังจากข่าวหมดสัญญากระจายออกไป แค่ในเมืองจีน ก็มีผู้สร้างติดต่อเข้ามาถึง 20 ราย ฮ่องกง 4 ราย ไต้หวันอีก 6 ราย ขณะนี้ระอุไปด้วยทุกค่ายที่เร่งเร้าให้อเล็คซ์เซ็นสัญญาด้วย ค่ายใหญ่ทางฝั่งฮ่องกงเสนอค่าตัว 50 ล้านเหรียญฮ่องกง ประมาณ2000 ล้านหยวน ไต้หวันเพื่อแย่งตัวซูโหย่วเผิงมาให้ได้ ผู้จัดการซ่งยังบอกว่า เรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ประเด็นหลักอยู่ที่ว่า หลังจากเซ็นสัญญาไปแล้ว งานของเขาจะรุ่งพุ่งแรงกว่าเก่าหรือเปล่า โอกาสเป็นเรื่องสำคัญ เงินทองน่ะจิ๊บจ้อย โดยปกติแล้วซูโหย่วเผิง มีรายได้จากการเล่นละคร 1 แสน แต่เงิน 10,000 เหรียญดูเอส ปีที่แล้วเขาเล่นละครชุดยาว 2 ชุด ชุดละ 40 ตอน ขุนศึกตระกูลหยาง กับมหัศจรรย์มายากล บวกกับงานโฆษณาในเมื่องจีน แถมเดินสายออกงานอีก 10 แห่ง รายได้โดยรวมที่ได้จากมืองจีนตกในราว 50 ล้านหยวน (เกือบ 300 ล้านบาท) ซูโหย่วเผิงถือได้ว่าเป็นศิลปินระดับแม่เหล็กจากไต้หวันที่สามารถทำเงินในระยะ 5 ปี ที่ผ่านมามากติดอันดับ 1 ใน 5 ปีซ้อน ไม่แปลกใจเลยที่ผู้สร้าง 3 ประเทศใน 2 ฝั่งประเทศถึงอยากได้ตัวเขากันนัก