ผู้เขียน หัวข้อ: ซูโหย่วเผิง ยี่สิบปี่ที่ผ่านมาไม่สามารถลืมได้  (อ่าน 10393 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
ซูโหย่วเผิง ยี่สิบปี่ที่ผ่านมาไม่สามารถลืมได้


ชั่วชีวิตของคนหนึ่งคนจะมียี่สิบปีสักกี่ครั้ง ขณะที่ฉันยังเป็นเด็กอยู่นั้น ยี่สิบปีสำหรับฉันแล้วมันช่างยาวไกลต่อฉันเหลือเกิน แต่แค่พริบตาเดียว ยี่สิบปีก็ได้ไหลผ่านไปอย่างสายน้ำ ฉันคิดถึงคุณ (ยี่สิบปี) ฉันคิดถึงคุณในยี่สิบปีที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกยี่สิบปีข้างในใจนั้นจะแสดงออกมาอย่างไรดี ฉันรู้เพียงว่า เพราะคุณ จนถึงบัดนี้ฉันเองก็ยังมีสิ่งที่รักษาไว้ไม่เคยเปลี่ยนไป มันเป็นนิสัยไปเสียแล้ว

มาวันนี้ฉันสามารถที่จะเล่าถึงวันสำคัญพิเศษในรอบยี่สิบปีที่ผ่านไป ปี 1990 เป็นช่วงที่กระแสได้พัดคุณเข้ามาในตัวฉัน 22 ธ ค 1992 ครอบครัวหนึ่งที่ยากจนสามารถมีเครื่องโทรทัศน์เครื่องหนึ่งได้ ทั้งยังได้ติดตามเสียงเพลงของคุณ ฉันก็ไม่ต้องรอคุณปรากฏตรงอยู่หน้าทีวีทุกๆวันแล้ว

22 สิงหาคม ปี 1993 เป็นวันที่ซื้อ(เติ่งเต้อน่าอี้เทียน)

1 พฤษภาคม 1994 เป็นวันที่ซื้อ(เจินสีเตอเป้ยเปา)

1 มกราคม 1995 เป็นวันที่ซื้อ(ซันโข่ว)

25 พฤศจิกายน 1995 เป็นวันที่ซื้อ(โจ่ว)

26 สิงหาคม 1996 เป็นวันที่ซื้อ (เฟิงเซิงหยี่เซิงทิงซูเซิง)

สิ่งเหล่านี้ล้วนประทับอยู่ในใจฉันมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช้อะไรมาบ่งบอกทั้งสิ้น ก็สามารถที่จะเอ่ยขึ้นมาได้ เพื่อจะหาซื้ออัลบั้มของคุณให้ได้ ทุกวันต้องถีบจักรยานเที่ยวหาร้านขายเพลงทั่วเมือง เพื่อความอยากได้อัลบั้ม(หว่อไจ้เจี้ยนจงเตอยื่อจื่อ)ฉันวิ่งหาร้านทุกร้าน เปิดหาข้อมูลในหนังสือแทบทุกเล่ม เพื่ออยากจะรู้ข่าวคราวของคุณ พร้อมยอมเก็บสะสมนิตสารสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆเป็นสิบๆปี ทุกครั้งที่อ้างว้างก็จะหยิบอัลบั้มของคุณมาเปิดฟังปลอบใจตัวเอง ทุกครั้งที่มีความสุขก็มีเสียงเพลงของคุณเป็นเพื่อนเสมอ รูปถ่ายของคุณเสมือนสิ่งล้ำค่าติดตัวไม่ยอมห่าง เข้านอนโดยการร้องเพลงของคุณทุกค่ำคืน ทุกวันจะเขียนบันทึกประจำวันว่าใฝ่ฝันอยากจะได้รับรู้ข่าวของคุณ ขอพระเป็นเจ้าทรงคุ้มครองคุณ

ฉันอยากจะหวนกลับไปเดินอีกรอบหนึ่ง ไม่ใช่เป็นทางที่เดินผ่านมา แต่เป็นความรู้สึกที่รักที่จริงใจและไม่คิดอะไรมากมาย ก็คือชายคนหนึ่งที่ใสบริสุทธิ์อย่างนี้ ถึงแม้จะถีบจักรยานไปรอบเมืองอย่างน้อยในใจก็มีความสุข ในตอนนั้นแม้ความสุขเล็กน้อยของคุณก็เป็นความสุขที่ยาวนานของเราเรื่อยไป ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีสื่อที่วุ่นวาย ไม่มีการคมนาคมที่ทันสมัย เส้นทางที่สะดวกสบาย ทั้งหมดล้วนคือคนคนหนึ่งก่ำลังเดินต่อไปอย่างเงียบๆ จากวันนี้เป็นต้นไป ฉันมาหวนคิดในตรงนี้ หวนคิดในสิ่งที่มีคุณ เอาวันเวลาสิบกว่าปีของตัวเองออกมา เป็นการเริ่มต้นของการหวนคิด


Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิง ยี่สิบปี่ที่ผ่านมาไม่สามารถลืมได้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2010, 07:26:26 PM »

25 พฤศจิกายน 1995 เป็นวันที่ฉันเริ่มต้นเขียนบันทึกประจำวันอย่างจริงจัง และเหตุผลนั้นง่ายๆ คือวันนั้นซื้ออัลบั้ม(โจ่ว)

เนื้อความบันทึกประจำวัน

ฉันทำได้แล้ว ฉันคิดว่ามันจะเป็นของขวัญปีใหม่ของฉัน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ทำให้ฉันผิดหวัง ให้ฉันได้ฉลองปีใหม่ก่อนหนึ่งเดือน ใช่ มันคือ (โจ่ว) เดิมที่นั่นฉันก็รู้สึกว่าแทบจไม่มีความหวังแล้ว แต่ว่ายิ่งเป็นอย่างนี้ เรื่องมันก็ทำให้ยิ่งได้ สุดท้ายฉันหาซื้อได้แล้ว ฉันได้เจอมันในขณะที่ไม่ได้ตั้งใจ ใจฉันนั้นเต้นอย่างแรง ไม่ผิด ฉันสัมผัสได้แล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

ที่ไม่รีบซื้อมันไว้ แต่กลับเดินหน้าต่อไป ผ่านไปแล้วหลายๆร้าน ล้วนไม่มีเลย ฉันได้แต่หันหัวกลับไปที่เดิม ระยะทางแสนไกล ฉันได้แต่เร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด แต่ว่าหนทางก็ยาวไกลๆจริงๆ ฉันเดินตั้งนาน ใช้เวลาเดินกว่าสองศตวรรษ์ แล้วฉันก็หยิบมันไว้ ฉันหยิบมันลงไปที่กระเป๋า แล้วรีบเร่งเดินกลับ เหมือนหนทางสั้นมาก ไม่เพียงกี่วินาทีก็เดินถึงแล้ว ฉันอดกลั้นไว้ เหมือนกับคำพูดที่ฉันอยากพูดไป นอกจาก1 ม ค กับ 14 ต ค (หมายเหตุ. 14 ต ค เป็นวันที่ฉันได้ข่าวว่าอัลบั้มโจ่วของโหย่วเผิงวางขาย) มีเพียงฉันที่ซื้อได้และมีความสุขเหมือนกับสองวันนั้น ใช่ ฉันมีความสุขมาก ทุกอย่างมันล้วนเป็นความจริง ฉันแทบจะไม่รู้ว่าทำอะไรไป ใช พี่เซอพูดได้ถูกต้องมาก มนุษย์เป็นสัตว์ที่ไม่รู้จะว่าไง ฉันเข้าใจแล้ว ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว


ช่วงนี้ก็มีแต่ความรู้สึกหลายอย่าง แต่ก็ยากจะเขียนออกมา อยากถามโหย่วเผิงจังว่าที่ไหนขาย(หย่อไจ้เจี้ยนจงเตอยื่อจื่อ) แต่ก็ติดโน่นติดนี่ ฉันเป็นไรไป บ้าแล้ว?โง่ไปแล้ว?เซ่อร์ไปแล้ว?ไม่รู้อะไรบ้างเลย

ฉันเหนื่อยมาก ความทุกข์เดือนกับสิบวันได้ผ่านพ้นไป แม้ดูเหมือนเป็นวันที่มืดครึ้มแต่สำหรับฉันมันเป็นวันแห่งความหวัง เหลืออีกสามชั่วโมงกว่าก็จะจบแล้ว การเปลี่ยนแปลงของวันนี้นั้นใหญ่มากๆ ทางทีวีประกาศว่า เพราะจะมีสถานีอีกสี่แห่งจะทดลองออกอากาส ได้เปิดทีวีบ้านเราดูครึ่งวัน ในใจดีใจมาก ไม่ใช่เพราะเหตุอย่างอื่น แต่เป็นเพราะจะมีโอกาสได้เห็นเขา(เสี่ยวไกว)มากขึ้น

แต่ว่าอัลบั้ม(โจ่ว)ของเขานั้นมันทำให้ฉันแย่มาก ในเดือนกว่านี้ฉันได้ตามหาซื้อในตลาดแทบแย่ ขณะที่ฉันตั้งใจหามันนั้น มันกลับซ่อนตัวไม่ให้ฉันเจอ ขณะที่ฉันไม่อยากจะคิดหามันอีกแล้วนั้น มันกลับโผ่ให้เจอ

ทุกอย่างเปลี่ยนไป กลับบ้านแล้ว ฉันได้ตั้งใจฟังไปสองรอบ ไม่รู้เพราะอะไรความรู้สึกของ(ซังโข่ว)นั้นได้เก็บขึ้นมา อาจเป็นเพราะมีการอยากได้ของใหม่ ก็เลยไม่พูดถึงของเก่า นี่ก็คือมีใหม่ลืมเก่า แต่ฉันนั้นก็ยังชอบของเก่าอยู่ เพลงเพราะมาก ก็เหมือนฟังอัลบั้ม(ซังโข่ว) ต่างกันเพียงเล็กน้อย อัลบั้มนี้มันลึกซึ้งกว่า(ซังโข่ว) มีรสชาติกว่า ฉันติดตามอัลบั้มต่อไปอีก เชื่อว่าจะดีกว่าเก่า เพราะว่าฉันนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามเขา ไม่ผิด ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไง ฉันก็จะติดตามมันไป แม้อารมณ์ของฉันจะเปลี่ยนแปลงไปบ่อย แม้บุคลิกฉันจะเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันเชื่อคือการชื่นชอบในตัวของอัลบั้ม หรือผลงานอื่น นั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแน่


ได้เห็นตัวหนังสือที่เขียนในสมัยอายุสิบสาม มันรู้สึกว่าน่ารักมากๆ โดยเฉพาะคำพูดที่พูดอย่างมั่นใจเหล่านั้นทำให้ฉันในวันนี้ต้องถอนหายใจ ต่อไปคงจะไม่กำหนดวันอัพเดท จะเอาความทรงจำอดีตที่มีต่อโหย่วเผิงมาลงให้หมด

ตอนนี้อยากจะพูดอัลบั้ม(โจ่ว) ฉันก็รู้ว่าตัวเองก็เซ็งๆเหมือนกัน พูดแต่เขาคนเดียว ไม่คิดถึงเขาไม่ได้ เสี่ยวไกว ที่ผ่านมา(โจ่ว)เป็นเคียงข้างตลอด จะท่องหนังสือไม่มีปัญญา ถ้าจะจำเนื้อเพลงนั้นฉันอันดับหนึ่งเลย แต่วันครั้งนี้ไม่ค่อยเหมือนเดิม ฟังไปแล้วหลายรอบแต่ก็จำไม่ได้ เพราะการเรียนยุ่งมาก ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาไปฟัง แม้แต่เวลาเขียนบันทึกประจำวันก็ต้องหาแทบจะไม่เจอ เมื่อได้ฟังอย่างละเอียดหลายๆรอบแล้ว ทำให้รู้ว่าเสียงของเขาเปลี่ยนไป เปลี่ยนจนทำให้ฉันชอบยิ่งขึ้น ทั้งวันสมองก็คิดแต่เขา มีคนพูดว่าคนแบบฉันนี้เป็นพวกบ้าดารา (555 หุหุ เหมือนกันจ้า)

ใช่ เมื่อก่อนหน้านั้นฉันเคยปฏิเสธ แต่ตอนนี้ฉันไม่ยอมรับไม่ได้แล้ว ฉันเป็นคนบ้าดารา โดยเฉพาะขณะติดตามเสร็จแล้วนั้น ฉันเองก็ยังบ้าอยู่ ฉันไม่ทราบ ผลในการทำอย่างนี้จะเป็นอย่างไร แต่ฉันรู้ว่าภายในใจฉันนั้นมันว่างเปล่ามาก มันต้องให้บรรยากาสเพลงของเขามาเติมเต็มใจฉัน และเพลงของเขานั้นต้องเป็นการพูดที่เขาสร้างขึ้น


ก็คือ . ช้า สะอาด เรียบง่าย จริงๆแล้วตามความคิดของฉันนั้นเพลงของเขานั้นเป็นเพลงที่สวยงามที่สุดในโลก แม้ว่าวันหนึ่งฉันจะไม่บ้าดาราแล้ว หากว่าฉันได้อ่านการบันทึกของฉันในวันนี้นั้น ก็จะคิดว่าฉันในปีนั้นช่างสวยงามจริงหนอ แม้ว่าวันหนึ่งฉันจะไม่บ้าเขาแล้ว หากว่าฉันได้ยินเพลงของเขาแล้ว ฉันก็จะชื่นชอบเขาไม่เปลี่ยน เพราะเพลงของเขานั้นล้วนมีความหมายที่ลึกมาก จนบางครั้งฉันเองก็แทบจะไม่เข้าใจ เหมือนกับ (เป้ยเปา)

เดิมทีฉันคิดว่าเป็นเพลงที่ร้องใสๆสไตน์วัยรุ่น แต่ในเอ็มวีนั้นกลับเป็นเรื่องราวที่สวยงาม เรื่องราวของชายพเนจรกับหญิงตาบอกคนหนึ่ง มันให้อารมณ์มากๆ ฉันหวังตลอดว่าจะได้เห็นอีก แต่มันเกือบปีแล้ว ฉันเองก็ยังไม่สามารถทำตามความตั้งใจได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องรออีกครึ่งปี อย่างไรก็ตามฉันเองนั้นไม่เคยท้อใจ ฉันกำลังคิดว่า หากเอาความตั้งใจนี้มาตั้งใจในการเล่าเรียนแล้วก็คงจะได้ที่หนึ่งแน่นอน จะไม่มีคำบรรยายใดๆเลย

แต่ว่าฉันมันไม่เป็นอย่างนี้ ฉันเองก็น่าจะรู้ว่าไม่ควรจะคิดถึงแต่เขา แต่ไม่ให้คิดก็เป็นไปไม่ได้ ฉันยอมแพ้มันแล้ว ของฉันปล่อยวางหน่อยได้ไหม โหย่วเผิง นี่เป็นการบันทึกประจำวันขอวันนั้น ในเนื้อหานั้นจะเขียนถึงการติดตามส่วนที่จะไม่เสียใจของโหย่วเผิง แม้หากจะมองวันนี้ที่สิบกว่าที่แล้วมามองดู ก็ยังเห็นว่าฉันในเวลานั้นก็ยังสวยเหมือนเดิม ยังมีอีกคือตอนนั้นรอเอ็มวีของเขาก็เกือบครึ่งปี สำหรับตัวเองแล้วมันเป็นบททดสอบจริงๆ แต่ว่าเดี๋ยวนี้ทุกอย่างล้วนได้มาอย่างง่ายๆ ก็เลยทำให้รู้สึกว่าไม่น่าถนุถนอมเลย มันเป็นอะไรที่เสียดายมากๆ

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิง ยี่สิบปี่ที่ผ่านมาไม่สามารถลืมได้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2010, 07:28:07 PM »
<a href="http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2F4c1a1f94.pbw" target="_blank" class="new_win">http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2F4c1a1f94.pbw</a>

เดิมที่ก็อยากจะพูดอย่างอื่นหน่อย แต่ทันใดก็นึกถึงเรื่องที่จะคิดในช่วงบ่าย แทบจะทุกครั้งที่จะเขียนบันทึกประจำวันก็ต้องคิดถึงเขา(โหย่วเผิง) เพราะว่าสำหรับฉันแล้วเขาเป็นคนที่สำคัญมาก ฉันนั้นเป็นคนที่ตรงๆ หากชื่นชอบอะไรก็จะค่อยๆสะสมมันขึ้นมา ฉันเองไม่ได้เป็นคนที่ชอบอะไรบุ๊ปปั๊ป หากจะมีอย่างนี้ ก็จะชอบได้ไม่นาน แม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจตัวเอง แต่ก็เข้าใจตัวเองกว่าคนอื่นเยอะ

เช่นที่ฉันชื่นชอบเสี่ยวไกว ก็ไม่ได้ชอบเขาแบบปุ๊ปปั๊ป ฉันชอบฟังเพลงร่วมสมัย แต่ว่าฉันก็เห็นหลายๆคนเมื่อเห็นดารานักร้องดูแค่เรื่องเดียวหรือฟังแค่เพลงเดียวก็ชื่นชอบดาราคนนั้นแล้ว ทั้งยังบอกว่ารักเขาหัวปักหัวปำฉันรู้สึกว่าคนเหล่านี้น่าขำจริงๆ

แค่เพียงได้เห็นได้ดูนิดหน่อยก็ชื่นชอบอย่างนั้นเลย มันดูเหมือนไม่เป็นจริงเลย ฉันชอบเสี่ยวไกวได้อย่างไร ก็ต้องเล่าตั้งแต่ 7 ปีก่อน ฉันอายุพึ่ง 6 ขวบ แน่นอนคุณไม่รู้หรอกว่าการเป็นแฟนดาราคืออะไร ตอนนั้นเสี่ยวหูตุ้ยเพิ่มเข้าวงการ พวกเขาดูเด็กๆซึ่งเหมือนกับเด็กๆที่น่ารัก ตอนนั้นฉันเองไม่ได้ชื่นชอบพวกเขา แต่ก็ใช่ว่าจะเกลียด แต่ว่าทุกครั้งที่ได้เห็นเอ็มทีวีของเสี่ยวหู่ตุ้ยแล้ว ก็จะรู้สึกว่ากลุ่มนั้นเสี่ยวไกวน่ารักมากๆ ที่เหลือสองคนคือจื้อเผิงกับอีกคนนั้นฉันรู้สึกกลัวมาก สำหรับฉี่หลงนั้นหน้าตาก็เคร่งขลึม

ตอนหลังเหตุเพราะเสี่ยวหู่ตุ้ยดังระเบิดเทิดเทิงเลย และออกรายการทีวีบ่อยๆ โดยเฉพาะเอ็มวีทีของพวกเขานั้นน่าดูมากๆ และแล้วฉันก็ยอมที่จะสนในเอ็มวีทีของพวกเขา แต่ก็ไม่นับว่าชอบ แม้แต่รูปภาพของพวกเขานั้นก็เป็นพี่สาวที่ให้ฉันสองสามภาพ

เมื่อถึงประถมศึกษาปีที่ 3 ฉันถึงเริ่มชอบเสี่ยวหู่ตุ้ย แต่ก็ดูพวกเขาสามคนเหมือนกับคนคนเดียว เหมือนกับว่าพวกเขาน่าจะเกิดมาเพื่ออยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเป็นเทอมหนึ่งของป.3 ก่อนก็คือเดือน ธ ค ปี 1992 กับครึ่งปีหน้าของปี 1993 ตอนนั้นชอบเพียงเสี่ยวหู่ตุ้ย แต่พวกเขาได้แยกย้ายกันเรียบร้อยแล้ว

ม. ค ปี 1993 พี่สาวได้ซื้ออัลบั้มแรกของโหย่วเผิง(หว่อจื่อเย้าหนี่อ้ายหว่อ)ฉันต้องขอขอบคุณพี่สาวจริงๆ หากไม่ใช่เขาได้ซื้ออัลบั้มชุดแรกของโหย่วเผิงแล้ว ฉันก็คงยังไม่ชื่นชอบเขา ก็จะหาจุดเริ่มต้น เมื่อก่อนจะหาคนที่สนิทนั้น มันก็ไม่ใช่ง่าย ฉันเป็นคนที่ชอบความเพรอแฟค

ใช่ มาถึงตรงนี้จะขอเอ่ยเรื่องเครื่องเทปหน่อย หากไม่มีเครื่องเทปนี้ฉันก็คงไม่มีวันที่จะไปตะลอนๆเที่ยวหาซื้ออัลบั้มของโหย่วเผิงแน่นอน แต่มาถึงวันนี้ฉันเองก็ยังหาไม่ครบอัลบั้มเลย เพราะมีบางอัลบั้มที่จีนไม่มีขาย นอกประเด็นอีกแล้ว

ตอนที่ชอบโหย่วเผิงจริงๆนั่นเริ่มจากช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ปี 93 ที่ได้อัลบั้มที่สองของเขา (เติ่งเต้อน่าอี้เทียน) ก่อนหน้านี้นั้นในใจมีหลินจื้อชิงอยู่แล้ว และมาจนถึงวันนี้ การจะติดตามดารานั้นไม่เป็นเรื่องที่ง่ายๆ จากนั้นเป็นต้นมาฉันก็เปิดใจออก

เมื่อขึ้นป.4 ฉันก็เริ่มสะสมข่าวสารเรื่องราวของเขา อาจเป็นเพราะฉันได้ปลดปล่อยตัวเอง ว่าก็เพื่อจะเข้าใจรู้จักเขายิ่งขึ้น การเข้าใจรู้จักเขานั้นมันเหมาะสมกับฉันแล้วหรือ นี่ล้วนเป็นข้ออ้างทั้งนั้น เพราะว่าฉันคิดอยากจะแนะนำเรื่องราวของเขาให้มากๆ เริ่มจากอัลบั้นที่สามของเขา(เจินสีเตอเป้ยเปา)

ฉันเริ่มยุ่งจริงๆแล้ว แม้แต่อัลบั้นนี้ของเขานั้นฉันได้ซื้อมันโดยไม่ได้คิดไว้เลย ตอนนั้นพี่สาวให้ฉันไปซื้ออัลบั้มของ เติ้งจื้อฮั่ว แต่ว่าหาไม่เจอ แต่กลับไปเจอของโหย่วเผิง ฉันจำได้ว่าระยะห่างของฉันกับอัลบั้มเพลงนั้นหนึ่งเมตร รวมทั้งตัวหนังสือบนอัลบั้มนั้นก็เล็กมาก

โหย่วเผิงก็ได้เปลี่ยนทรงผมและเครื่องแต่งกายด้วย จนฉันแทบจะจำเขาไม่ได้ แต่ว่าซูโหย่วเผิง สามคำนี้ฉันจำอย่างแม่น ตอนหลังโดยได้รับอนุญาตจากพี่สาวฉันเลยซื้อเก็บมันไว้ หากว่าฉันมองไม่เห็น หากว่าฉันคิดว่านั่นเป็นซีดีผี หากว่าพี่สาวไม่อนุญาตให้ซื้อ หากว่า.....ทุกหากว่าก็สามารถที่จะทำให้ฉันไม่สามารถจะได้รับอัลบั้มชุดนี้ของเขาได้ อย่างไรก็ตามฉันทำได้แล้ว จำได้ว่าวันนั้นเป็น วันที่ 1 พ ค 1994 ทุกครั้งที่ฉันซื้ออัลบั้มของเขานั้นฉันจำวันที่ซื้อได้แม่นมาก และหลังจากนี้ มันทำให้ฉันวิ่งเต้นซื้อจนสมองเบรอเลย

ทาง “แย่ซินสือเจียน” ในปลายเดือน พ ค 1994 ฉันได้ข่าวว่าเขาออกอีกอัลบั้มหนึ่ง (ซังโข่ว) จนฉันแทบวิ่งไปหาที่ตรอกที่ซอยทุกวันอาทิตย์ หาไม่เจอ เพราะว่ารายการของไต้หวันที่ได้โฆษณาไปแล้วนั้นทางจีนจะซื้อก็ต้องรอประมาณหนึ่งเดือนถึงจะมา จากการซื้อครั้งนี้ก็ทำให้ฉันมีประสบการณ์อย่างหนึ่งขึ้นมา วันที่ 1 ม ค 1995 ฉันซื้ออัลบั้มนี้ได้ มาตอนนี้การชื่นชอบของฉันที่มีต่อเขานั้นมันกลายเป็นคลั่งไปแล้ว ขณะที่ซื้ออะไรของเขานั้นก็จะซื้อของเสี่ยวหู่ตุ้ยไปด้วย ไม่เพียงแต่สามารถได้ฟังเสียงประสานของพวกเขาสามคน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือในนั้นมีเพลงของเขาสองเพลง พูดไปแล้วฉันเองก็ชื่นชอบเสี่ยวหู่ตุ้ยด้วย เพียงแต่ตอนนี้จะไม่มองพวกเขาสามคนเป็นหนึ่งคนแล้ว อาจเป็นเพราะสาเหตุอย่างอื่นมั้ง

วันที่ 14 ก ย 1995 ฉันก็ได้ข่าวว่าโหย่วเผิงออกอัลบั้มใหม่อีกอัลบั้มหนึ่ง (โจ่ว) และแล้วก็เป็นเรื่องยุ่งๆที่จะต้องตามมาหนึ่งเดือน แม้ว่าคุณและฉันก็ทราบดีว่าไม่สามารถซื้อได้ในทันใด แต่ว่าฉันก็ไม่หยุดในการที่จะไปลองหาดูว่ามาหรือยัง มันลำบากยากเย็นมากๆ

วันที่ 25 พ ย 1995 ฉันซื้อมันได้แล้ว วันนั้นมันมีความสุขแทบขาดใจตายเลย ขนาดนอนยังมีความสุขอยู่เลย ฉันหลงเขาแล้ว หลงเขาจริงๆ

วันที่ 13 ม ค 1996 ฉันฟังรายการ แย่ซินสือเจียน ก็ได้ข่าวว่าโหย่วเผิงจะมีอัลบั้มใหม่ออกมาอีกแล้ว แต่ว่าอัลบั้มนี้นั้นฉันยังซื้อไม่ได้ ฉันรู้ดีว่าครั้งนี้ก็ต้องยุ่งอีกหนึ่งเดือน แต่ฉันก็เรียนรู้ว่าจะไม่เหมือนอย่างก่อนที่ตะลอนๆไปหาทั่งซอกทั่วซอย ตอนนี้เรียนรู้ที่จะรอ รอมันออกมาวางตลาด

ยังมีวันนี้ฉันอ่านหนังเจอว่าเสี่ยวหู่ตุ้ยมีอัลบั้มใหม่ออกมาอีก (ยงเหยินจื้อยิว) บวกกับอู่ฉี่หลง(กูซิง 119) ที่สำคัญที่สุดคือ(จุ้ยอ้ายเตอเผิงโหย่ว)ของโหย่วเผิง พรุ่งนี้ฉันจะต้องออกไปเดินดู แม้ว่าอาจจะไม่เจอ สิ่งที่ฉันเจ็บใจก็คือยังหาซื้อ(เจ้อปังฝาเซิง)กับ (อ้ายสร้างหนี่เตออี่แช่ซื่อฉิง)ที่ร้องภาษกวางตุ้งนั้นไม่ได้ ต่อจากนี้ก็ยิ่งหาซื้อลำบาก ยังได้ข่าวว่าการทำเพลงอัลบั้มที่ไต้หวันนั้นไม่ค่อยดี รวมทั้งซุปเปอร์สตาร์หลายคนจำต้องออกอัลบั้มเร็วมาก ฉันไม่รู้ว่าโหย่วเผิงจะเป็นหน้าม้าให้ทางบริษัทหรือเปล่า เพื่อจะมาให้เราติดตาม ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้น




Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: โหย่วเผิง ยี่สิบปี่ที่ผ่านมาไม่สามารถลืมได้
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2010, 07:29:13 PM »

ดึกแล้ว ตัวลำพัง นอนไม่หลับ ทันใดก็ได้หวนคิดเรื่องราวอดีตมากมาย จำได้ปี 1996 โหย่วเผิงบอกวาได้เล่นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เล่นเป็นคนเป็นโรคร้ายแรง ตอนนั้นฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าตอนหลังเขาเรียกกันว่า(ไป๋ไท้หยาง)

แต่ว่าตอนหลังก็ได้รู้ว่าเป็นเรืองที่ได้เปลี่ยนแปลงมาจาก(อู่เฟยหนันหนี่)ฉันพยายามไปหาหนังสือเรื่องนี้ มาจนถึงทุกวันนี้ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ก็ยังเป็นนักเขียนที่ฉันชื่นชอบ ในขณะเดียวกัน ตอนนั้นฉันก็ได้ลุ่มหลงในโลกของเหล่าอู่ในเรื่อง(อู่เฟยหนันหนี่)ชายที่สง่านั้นฉันคิดว่าเป็นโหย่วเผิง

แต่ว่าฉันได้เห็นจริงๆว่า (ไป๋ไท่หยาง)นั้นเป็นเรื่องราวที่หลังจากจบมหาลัยแล้ว แต่ว่าครั้กแรกที่ฉันเห็นนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่า นั่นเป็นเหล่าอู่ที่ฉันคิดไว้จริงๆ บทนี้ฉันเองก็คิดว่าเป็นบทที่โหย่วเผิงแสดงได้ดีกว่าคนอื่น แน่นอนในตอนนั้นเหตุที่โหย่วเผิงแสดงใน(ไป๋เหมี่ยนฮัว)ทำให้ฉันก็ต้องไปหาซื้อหนังสือนั้นมาอ่าน

อย่างไรก็ตามเหตุโหย่วเผิง ทำให้ฉันสามารถมีโอกาสเข้าใจถึงวรรณกรรม ได้รู้ถึงประวัติศาสตร์ จากเรืองนี้ได้เปลี่ยนทัศนะคติในชีวิตฉันไปหลายอย่าง และทั้งหมดนี้ล้วนมีแรงบันดาลมาจากโหย่วเผิง